มาเรียนรู้การยิงกันเถอะ ปล่อยทริกเกอร์ (39572)
การเหนี่ยวไกปืนเนื่องจากน้ำหนักเฉพาะในการสร้างช็อตที่เล็งได้ดี มีความสำคัญอย่างยิ่งและเป็นตัวบ่งชี้ระดับความพร้อมของผู้ยิง ข้อผิดพลาดในการถ่ายภาพทั้งหมดเกิดขึ้นเนื่องจากการจัดการปล่อยไกปืนที่ไม่เหมาะสมเท่านั้น ข้อผิดพลาดในการเล็งและการสั่นของอาวุธช่วยให้คุณแสดงผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดี แต่ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นย่อมนำไปสู่การกระจายและพลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การเรียนรู้เทคนิคไกปืนที่เหมาะสมเป็นรากฐานสำคัญของศิลปะการยิงที่แม่นยำด้วยปืนพกทุกชนิด เฉพาะผู้ที่เข้าใจสิ่งนี้และเชี่ยวชาญเทคนิคการเหนี่ยวไกอย่างมีสติเท่านั้นที่จะโจมตีเป้าหมายใด ๆ ได้อย่างมั่นใจในทุกสภาวะจะสามารถแสดงผลลัพธ์ที่สูงและตระหนักถึงคุณสมบัติการต่อสู้ของอาวุธส่วนบุคคลอย่างเต็มที่
การเหนี่ยวไกปืนเป็นองค์ประกอบที่ยากที่สุดในการควบคุม ซึ่งต้องใช้ความพยายามยาวนานและต้องใช้ความอุตสาหะมากที่สุด
ให้เราระลึกว่าเมื่อพิจารณาปรากฏการณ์การหดตัวในหัวข้อ 2.2 พบว่าเมื่อกระสุนออกจากกระบอกปืน โบลต์จะเคลื่อนไปด้านหลัง 2 มม. และไม่มีผลกระทบต่อมือในขณะนี้ กระสุนจะบินไปยังตำแหน่งที่อาวุธถูกชี้ทันทีที่ออกจากกระบอกปืน ดังนั้นการเหนี่ยวไกอย่างถูกต้องหมายถึงการกระทำโดยที่อาวุธไม่เปลี่ยนตำแหน่งการเล็งในช่วงเวลาตั้งแต่การเหนี่ยวไกจนกระทั่งกระสุนออกจากกระบอกปืน
เวลาตั้งแต่ปล่อยไกจนถึงปล่อยกระสุนนั้นสั้นมากและมีค่าประมาณ 0.0045 วินาที โดย 0.0038 วินาทีคือเวลาการหมุนของไกปืน และ 0.00053-0.00061 วินาทีคือเวลาที่กระสุนเคลื่อนที่ลงไปตามลำกล้อง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาสั้นๆ ดังกล่าว หากมีข้อผิดพลาดในการประมวลผลไกปืน อาวุธก็จะเบี่ยงเบนไปจากตำแหน่งการเล็ง
ข้อผิดพลาดเหล่านี้คืออะไรและอะไรคือสาเหตุของการปรากฏตัวของพวกเขา? เพื่อชี้แจงปัญหานี้จำเป็นต้องพิจารณาระบบตามหลักสรีรศาสตร์: อาวุธยิงปืนและควรแยกแยะระหว่างสาเหตุของข้อผิดพลาดสองกลุ่ม
1. เหตุผลทางเทคนิค - ข้อผิดพลาดที่เกิดจากความไม่สมบูรณ์ของอาวุธต่อเนื่อง (ช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว, พื้นผิวที่ไม่ดี, การอุดตันของกลไก, การสึกหรอของลำกล้อง, ความไม่สมบูรณ์และการดีบักกลไกทริกเกอร์ที่ไม่ดี ฯลฯ )
2. สาเหตุของปัจจัยมนุษย์คือความผิดพลาดของมนุษย์ซึ่งเกิดขึ้นโดยตรงจากลักษณะทางสรีรวิทยาและจิตอารมณ์ต่างๆ ของร่างกายของแต่ละคน
สาเหตุของข้อผิดพลาดทั้งสองกลุ่มมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด แสดงออกอย่างซับซ้อนและเชื่อมโยงถึงกัน ในบรรดาข้อผิดพลาดทางเทคนิคกลุ่มแรก บทบาทที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดซึ่งส่งผลเสียต่อผลลัพธ์นั้นเกิดจากความไม่สมบูรณ์ของกลไกทริกเกอร์ ซึ่งมีข้อเสียดังนี้:
เพิ่มแรงกดไกปืน (มากกว่า 2.5 กก.) ซึ่งทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนมากเกินไปโดยเฉพาะในนักกีฬาที่ได้รับการฝึกฝนมาไม่ดี
การเคลื่อนตัวของตัวเหนี่ยวไกเป็นขั้นตอนเนื่องจากการประมวลผลพื้นผิวถูที่ไม่ดีซึ่งเกี่ยวข้องกับการปล่อยตัวเหนี่ยวไก
ความล้มเหลวของทริกเกอร์เมื่อเหนี่ยวไกซึ่งนำไปสู่การหดตัวของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการถืออาวุธและผลที่ตามมาคือการเบี่ยงเบนเชิงมุม
เหตุผลทางเทคนิคสามารถกำจัดได้อย่างง่ายดายเมื่อกลไกไกปืนถูกแก้ไขโดยช่างปืนผู้มีประสบการณ์ เห็นได้ชัดว่าการแสดงผลลัพธ์ที่ดีจากอาวุธที่ใช้งานได้ดีนั้นง่ายกว่าการแสดงปืนพกธรรมดาที่มีไกปืนที่ปรับไม่ดี
ความผิดพลาดของนักกีฬาถูกกำหนดโดยคุณลักษณะของระบบสรีรวิทยาของเขา ความรู้เกี่ยวกับหลักการทางทฤษฎีและทักษะการปฏิบัติ ความถี่ของข้อผิดพลาดและขนาดขึ้นอยู่กับระดับความพร้อมของนักกีฬาและประสบการณ์ของเขา
เราสามารถระบุข้อผิดพลาดลักษณะเฉพาะจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับนักกีฬาที่มีคุณสมบัติหลากหลาย:
1. ทิศทางแรงที่เหนี่ยวไกไม่ถูกต้อง
5. จับ “หลักสิบ”
ข้าว. 14. ทิศทางการเหนี่ยวไก
1. ทิศทางแรงของนิ้วชี้บนไกปืนไม่ถูกต้อง
การกดจะต้องดำเนินการในลักษณะที่เมื่อเหนี่ยวไกเคลื่อนที่ ภาพด้านหน้าจะยังคงอยู่ในแนวระดับในช่องมองด้านหลัง และเมื่อปล่อยไกปืน อาวุธจะไม่ทำการเบี่ยงเบนเชิงมุม ในการทำเช่นนี้จำเป็นต้องแยกผลกระทบจากช่วงเวลาที่รบกวนอาวุธออก สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อแนวการออกแรงบนไกปืนผ่านจุดศูนย์กลางการถืออาวุธซึ่งอยู่ในบริเวณ "เครื่องหมายดอกจัน" (หรือใต้เล็บของนิ้วกลาง) นี่เป็นเรื่องจริงจากมุมมองทางกล เพื่อให้แนวการออกแรงเคลื่อนผ่านจุดศูนย์กลางของการยึด จำเป็นต้องรู้สึกว่านิ้วชี้พัฒนาแรงที่วางอยู่ในระนาบแนวตั้งของอาวุธในทิศทางของการพับด้านหลังของฝ่ามืออย่างไร ( มะเดื่อ 14. จุด “A”)
โดยทั่วไป คู่มือการยิงทั้งหมดบอกว่าแนวการออกแรงควรขนานกับแกนของกระบอกปืน อย่างไรก็ตาม เห็นได้ง่ายว่าในกรณีนี้ ช่วงเวลาหนึ่งเกิดขึ้น ซึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกดอย่างรวดเร็ว จะทำให้สายตาด้านหน้าหันเหไปทางด้านบน ซึ่งอาจนำไปสู่การแยกตัวระหว่างการถ่ายภาพด้วยความเร็วสูง
หากแรงไม่ได้รับการพัฒนาในระนาบของอาวุธ การเบี่ยงเบนด้านข้างของรูจะปรากฏขึ้นในทิศทางที่สอดคล้องกัน
ควรสังเกตว่าทุกคนควรลองใช้วิธีต่างๆ ในการกดไกปืน และกำหนดทิศทางของแรงที่สายตาด้านหน้าจะยังคงอยู่ในช่องด้วยตนเอง แม้ว่าจะมีการประมวลผลจังหวะการทำงานอย่างเข้มข้นก็ตาม
ข้อผิดพลาดในทิศทางของแรงจะถูกกำจัดโดยการฝึกระยะยาวเมื่อทักษะการกดไกปืนได้รับการพัฒนาพร้อมกับความรู้สึกของการพัฒนากำลังในระนาบของอาวุธผ่านจุดศูนย์กลางการยึด แต่เพื่อที่จะแสดงผลลัพธ์ที่สูงอย่างมั่นคงเมื่อทำแบบฝึกหัดใด ๆ จะต้องดำเนินการควบคุมการกดและการพัฒนาแรงบนทริกเกอร์ในระหว่างการประมวลผลแต่ละครั้งของทริกเกอร์ แม้ว่าจะนำไปสู่ระดับการดำเนินการอัตโนมัติก็ตาม
2. ดึงไกปืนอย่างไม่ราบรื่น
นักยิงมือใหม่หลายคนมักเข้าใจผิดเมื่อพวกเขาถือเอาแนวคิดของการกดที่ราบรื่นและช้า การกดอย่างนุ่มนวลหมายถึงการประมวลผลไกปืนซึ่งอาวุธไม่เปลี่ยนตำแหน่งการเล็ง
นักกีฬาแต่ละคนทำการสืบเชื้อสายที่แตกต่างกัน มันอาจจะเร็วหรือช้าก็ได้ ด้วยการกดอย่างรวดเร็วที่จุดเริ่มต้นของจังหวะการทำงาน และการชะลอตัวที่จุดสิ้นสุดและในทางกลับกัน ก้าวหรือเป็นจังหวะ (รูปที่ 15) การเลือกตัวเลือกการกดขึ้นอยู่กับสภาพการยิง การฝึกที่ทำ ประเภทของอาวุธ และประสบการณ์ของผู้ยิง
มะเดื่อ 15. ตัวเลือกการดึงทริกเกอร์
ในช่วงบทเรียนแรก ขอแนะนำให้เริ่มเรียนรู้วิธีปล่อยไกปืนโดยการกดอย่างสม่ำเสมอด้วยความเร็วคงที่ประมาณ 0.5 มม. ต่อวินาที หลังจากชี้อาวุธไปยังพื้นที่เล็ง ยึดมือและเลือกไม่ได้ใช้งาน ความสนใจทั้งหมดจะมุ่งเน้นไปที่การกดไกปืนด้วยนิ้วชี้โดยไม่หยุด โดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งของสายตาบนเป้าหมาย ควรสังเกตการเคลื่อนไหวของนิ้วชี้ราวกับมาจากด้านข้าง หากผู้ยิงรู้สึกว่านิ้วหยุดแล้ว จำเป็นต้องเลื่อนการยิงออกไป โดยที่คุณปล่อยไกปืนและลดมือลง หลังจากหยุดชั่วคราวคุณจะต้องดำเนินการประมวลผลไกต่อ การพยายามกดหลายครั้งด้วยการยกมือขึ้นหนึ่งครั้งจะทำให้การยิงล่าช้าและท้ายที่สุดจะเกิดข้อผิดพลาดร้ายแรงมากกว่าการกระจัดของสายตาจากพื้นที่เล็ง
3. การหน่วงเวลาการยิงเมื่อเวลาผ่านไป
แอมพลิจูดการสั่นสะเทือนของมือและอาวุธเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พวกมันอาจจางหายไปหายไปโดยสิ้นเชิงและปรากฏขึ้นอีกครั้งหรืออาจระเบิดออกมา แต่จากการสังเกตและประสบการณ์แสดงให้เห็น มีช่วงเวลาที่ความผันผวนน้อยมาก แน่นอนว่าการยิงที่แม่นยำที่สุดคือการยิงในช่วงเวลาที่มีความผันผวนน้อยที่สุด
หลังจากยกมือขึ้นและชี้อาวุธ การสั่นสะเทือนจะเริ่มจางลงและยังคงไม่มีนัยสำคัญต่อไปอีกระยะหนึ่ง จากนั้นจะเพิ่มขึ้นและการระเบิดแต่ละครั้งจะปรากฏขึ้น นอกจากนี้เมื่อเวลาผ่านไปดวงตาจะเหนื่อยล้าและอุปกรณ์การมองเห็นจะพร่ามัวซึ่งทำให้ยากต่อการควบคุมตำแหน่งของสายตาด้านหน้าในช่อง การควบคุมการมองเห็นที่อ่อนแอโดยมีฉากหลังของความผันผวนและไฟกระชากที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดช่องว่างและการพลาดที่ยาว
หนึ่งในตัวเลือกสำหรับการสั่นของอาวุธจะแสดงในรูปที่ 16 ซึ่งแสดงระยะเวลาของแอมพลิจูดขั้นต่ำที่ดีที่สุดสำหรับการยิงที่มีการเล็งเป้าอย่างดี บ่อยครั้งที่ช่วงเวลานี้กินเวลาตั้งแต่ 5 ถึง 20 วินาที
ในช่วงเวลานี้เองที่การเหนี่ยวไกแบบ "หนา" ควรเกิดขึ้นพร้อมกับการควบคุมการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของนิ้วชี้ด้วยตำแหน่งที่คงที่ของกล้ามเนื้อมือโดยไม่ต้องใส่ใจกับตำแหน่งของอาวุธบนเป้าหมาย การยิงจะต้องสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ยิงอย่างแน่นอน
เพื่อให้เข้าใจแนวคิดของช็อตที่ไม่คาดคิดได้ดีขึ้น คุณสามารถแนะนำแนวคิดเกี่ยวกับองค์ประกอบของความประหลาดใจได้ (รูปที่ 17)
มะเดื่อ 16. แผนภาพการผลิตช็อต
มะเดื่อ 17. องค์ประกอบของความประหลาดใจในการยิง
ผู้ยิงรู้ว่าการยิงจะเกิดขึ้นในระยะเวลาประมาณ 5 ถึง 20 วินาที แต่ไม่รู้ว่าวินาทีไหน เมื่อคุณกดไกปืนเท่าๆ กันโดยไม่บีบหรือระเบิด เวลาปล่อยไกสำหรับชุดช็อตใดๆ จะมีค่าที่แตกต่างกัน แต่จะต้องอยู่ภายในช่วงเวลาที่กำหนด
หากไม่มีแรงกดดันตามเป้าหมาย เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยไกปืนซ้ำในเวลาเดียวกันทุกประการ (แต่ละครั้งในช่วงเวลาเดียวกันตั้งแต่เริ่มกดไกปืน) และลักษณะเวลาสำหรับการปล่อยไกปืนแต่ละครั้งในช่วงเวลาหนึ่งคือองค์ประกอบของความประหลาดใจของการยิงหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือความน่าจะเป็นที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นของการปล่อยไกปืน เหล่านั้น. ช่วงเวลาของการสืบเชื้อสายเป็นเหตุการณ์สุ่มในช่วงเวลาตั้งแต่ 5 ถึง 20 วินาที
ในระหว่างการถ่ายภาพช้า องค์ประกอบแห่งความประหลาดใจอาจเกิดขึ้นได้หลายวินาที และในระหว่างการถ่ายภาพด้วยความเร็วสูง อาจสูงถึงหนึ่งในร้อยวินาที แต่ไม่ว่าในกรณีใด ช็อตนั้นจะต้องไม่คาดฝัน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นในการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดร้ายแรงที่เกิดจากการรอช็อต
4. ปฏิกิริยาของร่างกายต่อช็อตที่คาดหวัง
ข้อผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุด ซึ่งมักนำไปสู่การเว้นระยะห่างและการพลาด เกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายต่อช็อตที่คาดหวัง
การหดตัวและเสียงดังที่มาพร้อมกับปรากฏการณ์การยิงทำให้เกิดความกลัวในตัวผู้ยิงซึ่งเป็นผลมาจากการหดตัวของกล้ามเนื้อกลุ่มต่าง ๆ เกิดขึ้นซึ่งนำไปสู่การเบี่ยงเบนเชิงมุมที่สำคัญของอาวุธจากตำแหน่งการเล็งจนกระทั่งกระสุนออกจาก บาร์เรล บ่อยครั้งที่การโก่งตัวของอาวุธเริ่มต้นก่อนที่ไกปืนจะถูกปล่อยออกจากตำแหน่งง้างหรือประมาณที่จุดเริ่มต้นของความล้มเหลว
เวลาตั้งแต่การเหนี่ยวไกจนถึงการดีดกระสุนออกนั้นสั้นมาก ตัวอย่างเช่น สำหรับปืนพก IZH-71 นั้นใช้เวลาเพียง 0.0046 วินาที ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับนักกีฬาที่ไม่มีประสบการณ์ที่จะเห็นความผิดพลาดของเขา แม้ว่าจะเป็นไปได้หากคุณมุ่งความสนใจไปที่ด้านบนของภาพด้านหน้าและสังเกต "การพยักหน้า" ก่อนที่จะเกิดการหดตัว จากเครื่องหมายการกระจัดของเลนส์ด้านหน้า มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะกำหนดค่าของรูก่อนที่จะตรวจพบด้วยสายตาบนชิ้นงานด้วยซ้ำ
หากคุณสังเกตจากด้านข้าง คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอาวุธของมือปืนที่พลาดเป้าหมายนั้นพยักหน้าอย่างมีนัยสำคัญทันทีก่อนจะยิง โดยส่วนใหญ่อยู่ด้านล่าง การเบี่ยงเบนเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากมือที่คาดว่าจะยิง "คว้า" ปืนเมื่อบีบไกปืนและพยายามต้านทานการหดตัวที่จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เป็นผลให้อาวุธหมุนโดยที่ปากกระบอกปืนลดลงนอกจากนี้ไหล่ก็เคลื่อนไปข้างหน้าและลดแขนลงอีก (รูปที่ 18) โดยส่วนใหญ่แล้วในกรณีเช่นนี้ กระสุนจะโดนด้านล่างเป้าหมาย และบางครั้งก็ตกลงไปที่พื้นด้านหน้าเป้าหมาย แม้ว่าจะมีการเบี่ยงเบนไปในทิศทางอื่นก็ตาม
นอกจากนี้ ช็อตที่คาดหวังจะมาพร้อมกับการพริบตา และจากนั้นก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นข้อผิดพลาดของคุณ
การทดลองที่เปิดเผยมากคือเมื่อผู้ฝึกหัดผสมกับกระสุนจริงในนิตยสารอย่างเงียบๆ ในกรณีนี้ปฏิกิริยาของร่างกายต่อไกปืนที่ไม่ได้ใช้งานจะต้องเหมือนกับการยิงจริงและ "การกระตุก" ของอาวุธนั้นมองเห็นได้ชัดเจนและโดยการโก่งตัวของสายตาด้านหน้าเราสามารถจินตนาการถึงการโก่งตัวที่เป็นไปได้โดยประมาณ ของหลุม โดยใช้การคำนวณที่ให้ไว้ในหัวข้อ “3.1. เล็ง".
หากทำการยิงอย่างถูกต้อง อาวุธจะกลับสู่ตำแหน่งเล็งอย่างแน่นอนหลังจากหดตัวและเสร็จสิ้นรอบการบรรจุ เนื่องจากการทำงานของหน่วยความจำของกล้ามเนื้อ สายตาสำหรับนักกีฬา สายตาด้านหน้าจะกลับไปที่ช่อง และสายตาจะกลับไปยังเป้าหมาย นี่เป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมการรับรู้ความรู้สึกของช็อตที่ไม่คาดคิด และจำเป็นอย่างยิ่งเมื่อทำแบบฝึกหัดความเร็วสูงด้วยช็อตต่อเนื่อง
หากหลังจากการยิงอาวุธไม่กลับไปยังตำแหน่งการเล็ง นี่บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในความพยายามของกล้ามเนื้อที่ถืออาวุธ และจำเป็นต้องระบุสาเหตุของข้อผิดพลาดเหล่านี้ สำหรับนักยิงปืนที่ส่งกระสุนเข้าใต้เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ชัดเจนมากว่าลำกล้องปืนลดลงอย่างไรหลังการยิง
มะเดื่อ 18. ปฏิกิริยาของร่างกายต่อช็อตที่คาดหวัง
5. จับ “หลักสิบ”
บุคคลใดก็ตามโดยไม่คำนึงถึงคุณสมบัติเมื่อเขายืนอยู่ที่แนวยิงมีความปรารถนาที่จะทำให้การยิงครั้งต่อไปแม่นยำที่สุดในชีวิตโดยไม่รู้ตัว ฉันอยากจะติดสิบอันดับแรกอย่างแน่นอน และยิ่งไปกว่านั้นคือเข้าไปอยู่ตรงกลาง สภาวะทางอารมณ์นี้นำไปสู่ความจริงที่ว่าแทนที่จะประมวลผลทริกเกอร์และควบคุมการกระทำของตนอย่างถูกต้องทางเทคนิค เราเริ่มที่จะชี้แจงตำแหน่งของอาวุธบนเป้าหมายและมีความปรารถนาที่ไม่อาจต้านทานได้เกิดขึ้นเพื่อเหนี่ยวไกอย่างรวดเร็วเมื่อสายตาด้านหน้าสมบูรณ์แบบ สอดคล้องกับจุดเล็ง หากสายตาเคลื่อนไปด้านข้างเพียงเล็กน้อย นิ้วชี้จะหยุดกดโดยอัตโนมัติและเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะเหนี่ยวไกอีกครั้ง แต่อุปกรณ์ขนถ่ายของมนุษย์ได้รับการออกแบบในลักษณะที่สมองไม่สามารถออกคำสั่งให้เกร็งกล้ามเนื้อเพียงมัดเดียวได้ ด้วยเหตุนี้ทั้งกล้ามเนื้อบริเวณใกล้เคียงและกล้ามเนื้อที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมดจึงจำเป็นต้องหดตัว เป็นผลให้การเบี่ยงเบนเชิงมุมของอาวุธเกิดขึ้นเมื่อมีการแยกแม้ว่าผู้ยิงจะเห็นว่าอาวุธนั้นเล็งไปที่เป้าหมายอย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นไม่ว่าในกรณีใดคุณควรชี้แจงตำแหน่งของสายตาบนเป้าหมายและจับ "สิบ" ที่ต้องการมาก
ข้อผิดพลาดในการเล็งที่ร้ายแรงที่สุดมักจะทำให้เกิดการเบี่ยงเบนของรูเล็กกว่าข้อผิดพลาดเล็กน้อยที่สุดในการปล่อยไกปืน! ต้องจดจำสัจพจน์นี้ก่อนการยิงทุกครั้ง เล็งผิดแล้วเหนี่ยวไกอย่างถูกต้อง ดีกว่าเล็ง "สิบ" แล้วเหนี่ยวไก นักกีฬาที่มีคุณสมบัติสูงกว่านั้นมีความโดดเด่นด้วยความจริงที่ว่าการยิงของเขาอาจมีความแออัดน้อยกว่า แต่จะมีเสถียรภาพและไม่มีการแยกจากกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอ แต่ละช็อตจะต้องดำเนินการอย่างกล้าหาญด้วยการเคลื่อนไหวของผู้ยิงอย่างมั่นใจและแม่นยำ ความกลัวว่าจะถูกยิงไม่ดีและล่าช้าจะทำให้มือที่ถืออาวุธสั่นไหวจะนำไปสู่การเร่งรีบในการยิงและเป็นผลให้ต้องเหนี่ยวไกปืน และในกรณีนี้ความผิดพลาดจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพื่อจุดประสงค์ในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจการกระทำที่เกิดขึ้นระหว่างการยิงให้ดีขึ้น เทคนิคการยิงกระสุนถูกตรวจสอบโดยแต่ละองค์ประกอบ แต่ค่อนข้างชัดเจนว่ากระบวนการสร้างช็อตที่มีการเล็งเป้าที่ดีนั้นเป็นชุดของส่วนประกอบต่าง ๆ ที่แยกไม่ออกซึ่งดำเนินการแบบคู่ขนานและเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดในการดำเนินการที่ถูกต้องของแต่ละส่วนซึ่งท้ายที่สุดจะขึ้นอยู่กับความแม่นยำของกระสุนและการรับประกันการตีของ เป้าหมาย
โครงสร้างทั่วไปและการทำงานของชิ้นส่วนและกลไกปืนพกมีการออกแบบและการจัดการที่เรียบง่าย ขนาดเล็ก พกพาสะดวก และพร้อมเสมอสำหรับการดำเนินการ ปืนพกเป็นอาวุธที่บรรจุกระสุนได้เอง เนื่องจากมันถูกบรรจุใหม่โดยอัตโนมัติระหว่างการยิง การทำงานอัตโนมัติของปืนพกนั้นขึ้นอยู่กับหลักการใช้การหดตัวของชัตเตอร์อิสระ - สลักเกลียวและกระบอกไม่มีคลัตช์ ความน่าเชื่อถือของการล็อคกระบอกสูบเมื่อยิงทำได้โดยมวลโบลต์ขนาดใหญ่และแรงของสปริงกลับ ด้วยการมีกลไกไกปืนแบบค้อนในปืนพกคุณจึงสามารถเปิดไฟได้อย่างรวดเร็วโดยการกดที่หางของไกปืนโดยตรงโดยไม่ต้องตอกค้อนก่อน
การจัดการปืนพกอย่างปลอดภัยนั้นมั่นใจได้ด้วยระบบล็อคเพื่อความปลอดภัยที่ทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือ ปืนพกมีความปลอดภัยอยู่ทางด้านซ้ายของสไลด์ นอกจากนี้ ไกปืนจะถูกง้างโดยอัตโนมัติภายใต้การทำงานของเมนสปริงหลังจากที่ปล่อยไกปืน (“ปล่อย” ของไกปืน) และเมื่อปล่อยไกปืน
หลังจากที่ปล่อยไกปืนแล้ว แกนไกปืนจะเคลื่อนไปยังตำแหน่งสุดขั้วด้านหลังภายใต้การกระทำของขนนกแคบๆ ของเมนสปริง คันโยกและเหี่ยวจะลงไป เหี่ยวภายใต้การกระทำของสปริงจะกดเข้ากับไกปืน และไกปืนจะเข้าที่ไก่นิรภัยโดยอัตโนมัติ
หากต้องการยิงปืน คุณต้องกดไกปืนด้วยนิ้วชี้ ในเวลาเดียวกัน ไกปืนจะกระทบเข็มยิง ซึ่งจะทำให้ไพรเมอร์คาร์ทริดจ์แตก เป็นผลให้ประจุผงลุกไหม้และเกิดก๊าซผงจำนวนมาก กระสุนถูกดีดออกจากลำกล้องด้วยแรงดันของผงก๊าซ สลักเกลียวภายใต้แรงดันของก๊าซที่ส่งผ่านด้านล่างของปลอกจะเคลื่อนไปด้านหลังโดยจับปลอกด้วยตัวดีดออกและบีบอัดสปริงส่งคืน เมื่อคาร์ทริดจ์พบกับตัวสะท้อนแสง คาร์ทริดจ์จะถูกโยนออกไปทางหน้าต่างชัตเตอร์และไกปืนจะถูกง้าง
เมื่อเคลื่อนกลับไปสู่ความล้มเหลว โบลต์จะกลับไปข้างหน้าภายใต้การกระทำของสปริงส่งคืน เมื่อเคลื่อนที่ไปข้างหน้าโบลต์จะส่งคาร์ทริดจ์จากนิตยสารเข้าไปในห้อง เจาะถูกล็อคด้วยโบลต์แบบโบลแบ็ค ปืนพร้อมที่จะยิงอีกครั้ง
หากต้องการยิงนัดถัดไป คุณต้องปล่อยไกปืนแล้วกดอีกครั้ง ดังนั้นการยิงจะดำเนินต่อไปจนกว่าตลับหมึกในแม็กกาซีนจะหมด
เมื่อใช้คาร์ทริดจ์ทั้งหมดจากแม็กกาซีนหมดแล้ว โบลต์จะล็อคเข้าที่ตัวหยุดสไลด์และยังคงอยู่ในตำแหน่งด้านหลัง
ส่วนหลักของ PM และวัตถุประสงค์
PM ประกอบด้วยส่วนและกลไกหลักๆ ดังต่อไปนี้:
- โครงพร้อมกระบอกปืนและไกปืน
- สลักเกลียวพร้อมหมุดยิง ตัวดีดและความปลอดภัย
- สปริงกลับ;
- กลไกทริกเกอร์ (ทริกเกอร์, เหี่ยวเฉาด้วยสปริง, ทริกเกอร์, ก้านทริกเกอร์พร้อมคันโยก, สปริงหลักและสไลด์หลัก);
- จัดการด้วยสกรู
- หยุดชัตเตอร์;
- ร้านค้า.
กรอบ ทำหน้าที่เชื่อมต่อทุกส่วนของปืน
กระโปรงหลังรถ ทำหน้าที่ควบคุมการบินของกระสุน
ทริกเกอร์ยาม ทำหน้าที่ปกป้องหางของไกปืนจากการกดโดยไม่ตั้งใจ
มือกลอง ทำหน้าที่ทำลายแคปซูล
ฟิวส์ทำหน้าที่รับประกันการจัดการปืนพกอย่างปลอดภัย
ทางร้านให้บริการถือแปดรอบ
ทางร้านประกอบด้วย:
- เก็บศพ (เชื่อมต่อทุกส่วนของร้าน)
- เครื่องป้อน (ใช้เพื่อจัดหาตลับหมึก)
- สปริงตัวป้อน (ทำหน้าที่ป้อนขึ้นตัวป้อนด้วยตลับหมึก)
- ปกนิตยสาร (ปิดเนื้อหานิตยสาร)
คันโยกพร้อมคันโยก ทำหน้าที่ปลดค้อนจากการง้างและง้างค้อนเมื่อกดหางของไกปืน
สปริงแอ็คชั่น ทำหน้าที่กระตุ้นค้อน คันโยก และแกนไกปืน
การถอดและประกอบอาวุธขนาดเล็กและเครื่องยิงลูกระเบิด
การถอดประกอบอาจไม่สมบูรณ์หรือสมบูรณ์ ทำการถอดชิ้นส่วนบางส่วน เพื่อทำความสะอาด หล่อลื่น และตรวจสอบอาวุธ เต็ม - สำหรับทำความสะอาดเมื่ออาวุธสกปรกมาก หลังจากโดนฝนหรือหิมะ เมื่อเปลี่ยนสารหล่อลื่นใหม่ และระหว่างการซ่อมแซมไม่อนุญาตให้ถอดแยกชิ้นส่วนอาวุธโดยสมบูรณ์บ่อยครั้งเนื่องจากจะเร่งการสึกหรอของชิ้นส่วนและกลไก
เมื่อทำการแยกส่วนและประกอบอาวุธต้องปฏิบัติตามกฎต่อไปนี้:
- ควรถอดและประกอบบนโต๊ะหรือม้านั่งและในสนาม - บนเสื่อที่สะอาด
- วางชิ้นส่วนและกลไกตามลำดับการถอดประกอบ จัดการอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงแรงที่ไม่จำเป็นและการกระแทกที่แหลมคม
- เมื่อประกอบควรคำนึงถึงจำนวนชิ้นส่วนเพื่อไม่ให้สับสนกับชิ้นส่วนของอาวุธอื่น
ขั้นตอนการถอดชิ้นส่วน PM บางส่วน:
- นำนิตยสารออกจากฐานของที่จับ
- วางสลักเกลียวบนตัวหยุดแบบสไลด์แล้วตรวจสอบคาร์ทริดจ์ในห้องเพาะเลี้ยง
- แยกชัตเตอร์ออกจากเฟรม
- ถอดสปริงคืนออกจากกระบอกสูบ
ประกอบปืนพกกลับเข้าไปใหม่หลังจากการถอดชิ้นส่วนบางส่วนในลำดับย้อนกลับ
ตรวจสอบว่าประกอบปืนอย่างถูกต้องหลังจากการถอดชิ้นส่วนบางส่วน
ปิดฟิวส์ (เลื่อนธงลง) เลื่อนชัตเตอร์ไปที่ตำแหน่งด้านหลังแล้วปล่อย ชัตเตอร์เคลื่อนไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อหยุดการเลื่อนและยังคงอยู่ในตำแหน่งด้านหลัง กดชัตเตอร์ด้วยนิ้วหัวแม่มือขวาแล้วลั่นชัตเตอร์ สลักเกลียวภายใต้การกระทำของสปริงส่งคืนจะต้องกลับไปยังตำแหน่งไปข้างหน้าอย่างแรงและจะต้องเหนี่ยวไก เปิดฟิวส์ (ยกธงขึ้น) จะต้องปล่อยไกปืนจากการง้างและล็อค
ขั้นตอนการถอดประกอบเสร็จสมบูรณ์:
- ดำเนินการถอดชิ้นส่วนบางส่วน
- ถอดแยกชิ้นส่วนเฟรม:
- แยกตัวหยุดไหม้และตัวหยุดโบลต์ออกจากเฟรม
- แยกด้ามจับออกจากฐานของด้ามจับและสปริงหลักออกจากเฟรม
- แยกทริกเกอร์ออกจากเฟรม
- แยกก้านไกปืนด้วยคันโยกง้างออกจากเฟรม
- แยกทริกเกอร์ออกจากเฟรม
- ถอดประกอบชัตเตอร์:
- แยกฟิวส์ออกจากสลักเกลียว
- แยกหมุดยิงออกจากสลักเกลียว
- แยกอีเจ็คเตอร์ออกจากสลักเกลียว
- ถอดแยกชิ้นส่วนร้านค้า:
- ถอดปกนิตยสารออก
- ถอดสปริงตัวป้อน
- ถอดตัวป้อนออก
การประกอบจะดำเนินการในลำดับย้อนกลับ
ตรวจสอบการทำงานที่ถูกต้องของชิ้นส่วนและกลไกหลังการประกอบ
ความล่าช้าในการยิงจาก PM
ความล่าช้า | สาเหตุของความล่าช้า | วิธีขจัดความล่าช้า |
1. ความผิดพลาด ชัตเตอร์อยู่ในตำแหน่งไปข้างหน้า เหนี่ยวไกปืนถูกดึง แต่ยิงไม่ออก |
|
|
2. ไม่ปิดตลับหมึกด้วยชัตเตอร์ ชัตเตอร์หยุดก่อนที่จะถึงตำแหน่งไปข้างหน้าสุด ไม่สามารถลั่นไกได้ |
|
|
3. ความล้มเหลวในการป้อนหรือส่งเสริมตลับหมึกจากร้านค้าไปยังห้องเพาะเลี้ยง โบลต์อยู่ในตำแหน่งไปข้างหน้าสุดขั้ว แต่ไม่มีคาร์ทริดจ์อยู่ในห้อง โบลต์หยุดที่ตำแหน่งกลางพร้อมกับคาร์ทริดจ์ โดยไม่ส่งเข้าไปในห้อง |
|
|
4. การตั้งค่า (การละเมิด) ของกรณีโดยชัตเตอร์ กล่องคาร์ทริดจ์ไม่ได้ถูกโยนออกไปทางหน้าต่างด้วยสลักเกลียวและติดอยู่ระหว่างสลักเกลียวและปลายก้นของกระบอกปืน |
|
|
5. ไฟอัตโนมัติ |
|
|
มีคนบอกผมว่าในปืนพก ส่วนที่ต้องกดเพื่อยิงนั้นไม่ใช่ "ไก่" แต่เป็น "ไกปืน" ความแตกต่างคืออะไร?
คำตอบ
นี่เป็นข้อผิดพลาดทั่วไปมาก หลายคนมั่นใจว่าไกปืน (ปืนพก ปืนพก ปืนลูกซอง ปืนกล) เรียกว่า "ค้อน" และความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นไม่เพียงแต่ในการสนทนาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในโทรทัศน์ ในภาพยนตร์ หนังสือพิมพ์ หนังสือ และแม้แต่ในเพลงด้วย
แน่นอนว่านี่ไม่เป็นความจริง! สิ่งที่ถูกกดเมื่อยิงไม่ใช่ "ไก่" แต่เป็น "ทริกเกอร์" นั่นคือสิ่งที่ควรจะเรียกว่า
แล้ว “ตัวกระตุ้น” คืออะไร? ไกปืนเป็นส่วนหนึ่งของกลไกการยิงของอาวุธที่ออกแบบมาเพื่อทำลายไพรเมอร์คาร์ทริดจ์ชื่อ "ทริกเกอร์" มาจากความคล้ายคลึงภายนอกของการเคลื่อนไหวกับการเคลื่อนไหวของหัวนก (ภาษาสลาฟ "คูร์" แปลว่าไก่ตัวผู้)
คุณคงเคยเห็นค้อนกับปืนพกวินเทจมาหลายครั้งแล้ว ที่นั่นก่อนทำการยิงพวกมันจะ "ง้าง" - ดึงกลับ และเมื่อกดไกปืนก็จะ "ปล่อย" อาจเป็นสำนวนภาษาอังกฤษ "pull the trigger" ทำให้เกิดความเชื่อที่ผิดว่าตัวกระตุ้นคือตัวกระตุ้น
สิ่งที่น่าสนใจคือไกปืนเรียกอีกอย่างว่าคันโยกที่มีรูปทรงคล้ายกันในกลไกอื่น ๆ เช่นคันโยกในกล้องฟิล์ม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังใช้สำหรับการ "ลั่นชัตเตอร์" เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อการถ่ายภาพตัวมันเอง
KUROK ทริกเกอร์สามี (ลดลงจากไก่). ส่วนที่โดดเด่นของกลไกในอาวุธปืน เหนี่ยวไก เหนี่ยวไกปืน พจนานุกรมอธิบายของ Ushakov ดี.เอ็น. อูชาคอฟ พ.ศ. 2478 พ.ศ. 2483 ... พจนานุกรมอธิบายของ Ushakov
สามี. ในวลาด บางครั้งไก่, ส่วนหนึ่งของล็อคลูกศร, cochet, ด้ามจับที่ใช้ล็อคล็อค; ก่อนหน้านี้มีการใส่หินเหล็กไฟเข้าไปในไกปืน ตอนนี้มันทำหน้าที่เป็นค้อนและทำให้หมวกแตกเมื่อทำการยิง - ตเวียร์., ตะวันออก, ซิบ. หมุด, แกน, หมุด, บน... ... พจนานุกรมอธิบายของดาห์ล
พัฟ, ทริกเกอร์, การแบ่งควัน, คลิตอริสพจนานุกรมคำพ้องความหมายภาษารัสเซีย คำนามทริกเกอร์จำนวนคำพ้องความหมาย: 6 ทริกเกอร์ (2) สำหรับ ... พจนานุกรมคำพ้องความหมาย
ดูพจนานุกรมคำศัพท์ทางธุรกิจของทริกเกอร์ Akademik.ru. 2544 ... พจนานุกรมคำศัพท์ทางธุรกิจ
คุโรก, rka, สามี ส่วนหนึ่งของกลไกการยิงในปืนพก คลิกที่ k ดึงลง k คำคุณศัพท์ ทริกเกอร์โอ้โอ้ พจนานุกรมอธิบายของ Ozhegov เอสไอ Ozhegov, N.Y. ชเวโดวา พ.ศ. 2492 พ.ศ. 2535 … พจนานุกรมอธิบายของ Ozhegov
ส่วนหนึ่งของกลไกการยิงของอาวุธปืนที่ออกแบบมาเพื่อโจมตีไพรเมอร์ของคาร์ทริดจ์หรือกองหน้าเพื่อจุดชนวนประจุผงเมื่อยิง เอ็ดเวิร์ด. พจนานุกรมกองทัพเรืออธิบาย พ.ศ. 2553 ... พจนานุกรมนาวิกโยธิน
ดูพจนานุกรมคำศัพท์ทางธุรกิจของ TRIGGER CREDIT Akademik.ru. 2544 ... พจนานุกรมคำศัพท์ทางธุรกิจ
สิ่งกระตุ้น- ส่วนหนึ่งของล็อค (ดู (2)) หรือกลไกการยิงของสลักเกลียว (ดู (3)) ของอาวุธปืนที่ออกแบบมาเพื่อจุดชนวนประจุจรวดเมื่อทำการยิง ... สารานุกรมโพลีเทคนิคขนาดใหญ่
สิ่งกระตุ้น- ยืมมาจากภาษาโปแลนด์ โดยที่ kurek - trigger ถูกสร้างขึ้นตามวิธีการสืบค้นจากภาษาเยอรมัน โดยที่ Hahn - rooster ถูกใช้ในความหมายของไกปืน ดังนั้น ไกปืน (ปืนไรเฟิล) จึงมาจากคำว่า hen... พจนานุกรมนิรุกติศาสตร์ของภาษารัสเซียโดย Krylov
สิ่งกระตุ้น- การยืม. ในศตวรรษที่ 16 จากโปแลนด์ ภาษา โดยที่ kurek (คำย่อที่รักใคร่ suf. อนุพันธ์ของ kur “ไก่ตัวผู้”) ในความหมาย “ทริกเกอร์” เป็นกระดาษลอกความหมายของภาษาเยอรมัน ฮาน "ไก่" "ไก่" ... พจนานุกรมนิรุกติศาสตร์ของภาษารัสเซีย
หนังสือ
- ค้อนหงอน, วิคเตอร์ เบอร์คูตอฟ ในนวนิยายเรื่อง Cocked ผู้อ่านจะได้พบกับ Kurk อีกครั้ง - Sergei Kvyatkovich อดีตชาวอัฟกัน...
- ฉันเหนี่ยวไก... บทกวีที่เลือกสรร Egor Rybakov คอลเลกชั่นใหม่ของฉันอุทิศให้กับผู้คนที่เปลี่ยนชีวิตฉันครั้งแล้วครั้งเล่า คนเหล่านี้เท่านั้น...
เราจะพูดถึงแนวคิดเช่น "ไก่" และ "ทริกเกอร์"
เหตุผลที่กระตุ้นให้ฉันสร้างโพสต์นี้ก็คือการที่ประชาชนส่วนใหญ่ที่โง่เขลาทำผิดซ้ำซากซ้ำซาก
มันเกิดขึ้นจนหลายๆ คนมั่นใจว่าหากคุณเหนี่ยวไกปืน ไม่ว่าจะเป็นปืนพกลูกโม่ ปืนพก ปืนลูกซอง หรืออย่างอื่น มันจะยิงออกมา ความเข้าใจผิดซึ่งมีความดื้อรั้นที่คู่ควรกับการใช้งานที่ดีกว่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกทุกที่ แต่ไม่เพียง แต่ในระดับรายวัน - ในการสนทนาของคนธรรมดา แต่ยังรวมถึงสิ่งที่แย่ที่สุดทางโทรทัศน์ - โดยผู้ประกาศและผู้นำเสนอในภาพยนตร์ - โดย นักแปลและบนเวที - โดยนักแสดง
กี่ครั้งแล้วที่คุณได้ยิน "คนเลว" พูดจากหน้าจอ: "คุณขยับแล้วฉันจะเหนี่ยวไก" หรือ "ตอนนี้ฉันจะเหนี่ยวไกแล้วหัวของคุณจะแตกเป็นชิ้น ๆ" หลายร้อยหรือหลายพันครั้ง ผลลัพธ์คืออะไร? เป็นผลให้ทุกคนมั่นใจได้ว่าเมื่อกดไกปืนจะมีการยิงเกิดขึ้น (มองไปข้างหน้าฉันจะบอกว่าไม่เป็นเช่นนั้น) ขอบคุณใคร? สตูดิโอแปลสำหรับช่องโทรทัศน์ (ซึ่งโดยวิธีนี้นักแปลและบรรณาธิการครึ่งหนึ่งควรถูกไล่ออกเนื่องจากการแปลที่ปานกลางและการไร้ความสามารถ)
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าภาพยนตร์ทุกเรื่องจะได้รับการแปลโดย Channel One ยังมีสตูดิโอดีๆ อีกห้าสิบแห่งที่มีส่วนร่วมในการแปลภาพยนตร์เหล่านั้นจนเต็มชั้นวางของร้านวิดีโอ ร้านเช่า และชั้นวางแผ่นดิสก์และกิกะไบต์บน HDD ของเรา อนิจจาไม่มีความจริงที่นี่เช่นกัน จากนั้นจากหน้าจอพวกเขาก็ทำให้เรากลัวอย่างต่อเนื่องด้วยการยิงเมื่อกดไกปืน แม้แต่สตูดิโอที่ประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าพวกเขาทำการแปลที่ "ถูกต้อง" ก็ยังทำผิดพลาดซ้ำอีก!
หนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวเต็มไปด้วยวลีที่น่าตื่นเต้นเช่น “สุนัขเหนี่ยวไกปืนและทำให้เจ้าของได้รับบาดเจ็บ พวกเขากำลังต่อสู้เพื่อของที่ริบมา” “ใครเป็นคนเหนี่ยวไกปืน” หรือ “เชนีย์ในกรณีฉุกเฉินในการล่าสัตว์: “ฉันเป็นคนเหนี่ยวไกปืนเอง”
http://www.randevucity.net/news/main.php?id=81&id_rub=3
http://www.ng.ru/events/2006-11-10/8_kurok.html
http://www.polit.ru/news/2006/02/15/4eyni.html
http://www.1obl.ru/news/proisshestviya/hry...u/?sphrase_id.. .
มีตัวอย่างมากมายเกินพอ
ในที่สุดเรามาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณ "เหนี่ยวไก"
เมื่อดูการออกแบบปืนพก S&W ทั่วไปแล้ว หลายคนคงเข้าใจแล้วว่าเรื่องนี้คืออะไร “ตัวกระตุ้น” ที่ใครๆ ก็ดึงออกมาอย่างดื้อรั้น กลับกลายเป็นตัวกระตุ้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วไม่เคยเป็นความลับมาก่อน
การออกแบบปืนพก S&W สิ่งกระตุ้น. สิ่งกระตุ้น
มาดูกันสั้นๆ ว่าช็อตนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และทริกเกอร์มีบทบาทอย่างไร
ปืนพกลูกโม่แบบซิงเกิลแอ็กชั่นอนุญาตให้ยิงแต่ละนัดได้หลังจากที่ค้อนถูกง้างไว้ล่วงหน้าแล้วเท่านั้น ผู้ยิงจะต้องเหนี่ยวไกกลับ (ใช้ค้อนทุบ) ทุกครั้งด้วยนิ้ว ในกรณีนี้ไกปืนจะถูกง้างและดรัมจะหมุนโดยอัตโนมัติโดยจัดแนวห้องให้ตรงกับคาร์ทริดจ์ถัดไปกับกระบอกปืน การเหนี่ยวไกจะปล่อยค้อนและยิงอาวุธ ช็อตต่อไปต้องตอกค้อนใหม่ ปืนพกแบบดับเบิ้ลแอคชั่นนั้นพบได้ทั่วไปมากกว่ากลไกที่นอกเหนือจากวิธีการยิงที่อธิบายไว้ข้างต้นยังอนุญาตให้ทำการยิงแบบง้างตัวเองได้
การยิงแบบง้างตัวเองทำได้โดยการกดไกปืนโดยไม่ต้องตอกค้อนก่อน ในกรณีนี้ ไกปืนจะเคลื่อนไปด้านหลัง และดรัมจะหมุนจนกว่าจะอยู่ในแนวเดียวกับกระบอกปืนของห้องถัดไป เมื่อไปถึงตำแหน่งด้านหลังสุดแล้วไกปืนจะถูกปล่อยโดยไม่ถูกง้างและรีบไปข้างหน้าทำลายไพรเมอร์และยิงกระสุน สำหรับช็อตถัดไป คุณต้องหยุดกดไกปืน ให้โอกาสมันเข้าตำแหน่งเดิม จากนั้นจึงกดซ้ำ
ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับด้านเทคนิคของปัญหาสามารถพบได้ในบทความเกี่ยวกับอาวุธขนาดเล็ก http://www.krugosvet.ru/articles/11/1001140/print.htm
ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ ปืนแห่งศตวรรษที่ 15 ไม่มีค้อนหรือไกปืนเช่นนี้ บทบาทของกลไกทริกเกอร์นั้นดำเนินการโดยแถบโลหะบาง ๆ ที่มีรูปร่างเป็นตัวอักษรละติน S เรียกว่า "คดเคี้ยว" มีการติดตั้ง Serpentine ไว้บนแกนในช่องของเตียง เมื่อผู้ยิงกดปลายล่างของคดเคี้ยว ปลายด้านบนด้วยปากกาจับที่ติดไส้ตะเกียงที่คุกรุ่นอยู่ก็หล่นลงมาสัมผัสกับผงจุดระเบิด
บางคนอาจบอกว่าหนังสือเกี่ยวกับอาวุธเป็นวรรณกรรมเฉพาะเจาะจงและเข้าถึงยาก เรามาเปิด "พจนานุกรมภาษารัสเซีย" ที่พบบ่อยที่สุดกัน โอเจโกวา:
“Trigger, -rka, m. ส่วนหนึ่งของกลไกการกระทบในอาวุธปืน ลงไปที่ || คำคุณศัพท์ ทริกเกอร์โอ้โอ้”
นั่นคือแม้แต่พจนานุกรมของ Ozhegov ก็แนะนำให้ "ดึง" ตัวเหนี่ยวไก (โดยที่เราพบคือการกดตัวเหนี่ยวไก) และไม่กดมัน
มาดูอภิธานศัพท์ไปพร้อมๆ กัน:
“ทริกเกอร์เป็นส่วนหนึ่งของกลไกการยิงของอาวุธปืนที่ออกแบบมาเพื่อโจมตีไพรเมอร์ของคาร์ทริดจ์หรือกองหน้าเพื่อจุดชนวนประจุผงเมื่อยิง”
“ไกปืนเป็นส่วนหนึ่งของกลไกไกปืนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากผู้ยิงเพื่อเปิดหรือหยุดการยิง”
ทั้งหมด
เห็นได้ชัดว่ากระบวนการ "เหนี่ยวไก" (หากวลีนี้มีสิทธิ์ที่จะมีอยู่เลย) สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์เดียวเท่านั้น - การเหนี่ยวไกเหนี่ยวไกนี้ซึ่งในทางกลับกันจะนำไปสู่ความพยายามที่ลดลงเท่านั้น ที่ต้องใช้ในการดึงขอเกี่ยวไกปืนให้ดึงไกปืน (อัตโนมัติ) แล้วจึงเกิดกระสุนขึ้น หากไม่กดไกก็จะไม่มีการยิง! สำหรับทริกเกอร์ในอาวุธสมัยใหม่ผู้ยิงไม่ได้โต้ตอบกับมันเลย
ยิ่งไปกว่านั้น เป็นที่ชัดเจนว่า (ฉันหวังว่า) การพูด/การเขียน “เหนี่ยวไก” ในความหมายของ “เหนี่ยวไก” นั้นไม่มีการศึกษา และการใช้วลี “ดึงเหนี่ยวไก” ในความหมายของ “ไก่เหนี่ยวไก” อยู่ที่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ถูกต้องทั้งหมด กล่าวคือ เนื่องจากกระบวนการตอกค้อนไม่ใช่กระบวนการกดทับ - เป็นการดึงกลับมากกว่า