ทำไมฤดูร้อนของอินเดียจึงเรียกว่าฤดูร้อนของอินเดีย ฤดูร้อนของอินเดีย: ความลึกลับของชื่อ สัญลักษณ์ และประเพณี
ไม่มีความลับที่นักเรียนยุคใหม่ชอบรับข้อมูลในรูปแบบที่ง่ายกว่าและเข้าถึงได้ง่ายกว่าการบรรยายและการสัมมนา เทคโนโลยีการศึกษาข้อมูลใหม่ๆ เป็นกระบวนการในการแสวงหาความรู้ ซึ่งไม่ได้สร้างขึ้นจากการสื่อสารกับครู แต่เกิดจากการใช้วิธีการและเทคนิคล่าสุดจากการใช้โปรแกรมเสียงและวิดีโอของคอมพิวเตอร์ หนึ่งในเทคนิคเหล่านี้คือการใช้หนังสือเสียงซึ่งช่วยให้คุณปรับปรุงกระบวนการเรียนรู้ โดยเฉพาะการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
มีหนังสือเสียงอยู่ ชนิดพิเศษวรรณกรรมที่เจ้าของภาษาอ่านข้อความของงาน เช่น ผู้ประกาศวิทยุหรือโทรทัศน์ของอังกฤษหรืออเมริกัน หรือนักแสดงสวมบทบาท โดยใช้ดนตรีและเสียงเอฟเฟกต์พิเศษ ตามกฎแล้ว หนังสือเสียงดังกล่าวจะถูกบันทึกโดยใช้อุปกรณ์ระดับมืออาชีพในสตูดิโอ นี่คือที่สุด ตัวเลือกที่ดีที่สุดเพื่อการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศโดยใช้เทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน มีตัวเลือกเมื่อผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาอ่านข้อความของหนังสือเล่มนี้ เช่น นักภาษาศาสตร์หรือครูสอนภาษาต่างประเทศ ตัวเลือกนี้แทบจะไม่ด้อยไปกว่าตัวเลือกก่อนหน้าเลยยกเว้นว่าเมื่อฟังหนังสือเสียงดังกล่าวทักษะการรับรู้คำพูดจะไม่พัฒนาอย่างแข็งขัน หนังสือเสียงสำหรับการเรียนรู้เวอร์ชันที่เหมาะสมที่สุดคือหนังสือที่สร้างขึ้นโดยใช้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์- โปรแกรมดังกล่าวแปลงข้อความเป็นรูปแบบเสียง แต่ไม่สามารถสร้างน้ำเสียงและออกเสียงคำได้อย่างราบรื่น ดังนั้นหนังสือเสียงดังกล่าวจึงไม่เหมาะกับการพัฒนาทักษะทางภาษามากนัก
ประโยชน์ของการใช้หนังสือเสียงเมื่อเรียนภาษาต่างประเทศนั้นชัดเจน ประการแรก คุณสามารถฟังได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ในรถยนต์ ระหว่างพักระหว่างคาบเรียน ประการที่สองสิ่งนี้ วิธีที่ดีฝึกทักษะการฟัง กิจกรรมประเภทนี้มักจะข่มขู่นักเรียนเนื่องจากไม่แน่ใจระดับความสามารถของตนเอง ภาษาต่างประเทศจะช่วยให้พวกเขาเข้าใจข้อความได้ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม หนังสือเสียงถูกสร้างขึ้นในลักษณะที่นักเรียนสามารถเลือกระดับความซับซ้อนที่จะเริ่มต้นการเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น ด้วยการฟังข้อมูลที่ทำซ้ำ ผู้ฟังจึงฝึกหูทางภาษาของเขา ประการที่สามด้วยความช่วยเหลือของหนังสือเสียงในภาษาต่างประเทศจะมีการเติมคำศัพท์ หนังสือหรือเรื่องราวใดก็ตาม ประการแรกคือความสนใจในเหตุการณ์ที่หนังสือเล่าถึง และเมื่อบุคคลสนใจเขาจะใช้พจนานุกรมเพื่อค้นหาความหมายของคำที่ไม่คุ้นเคยเพื่อไม่ให้พลาดหัวข้อของเรื่องจึงเป็นการขยายคำศัพท์ของเขา
หนังสือเสียงมักจะมาพร้อมกับข้อความพูดฉบับพิมพ์ ซึ่งช่วยให้คุณติดตามข้อความบนหน้าจอไปพร้อมๆ กันและฟังผู้บรรยายอ่านข้อความได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณการรับรู้ความรู้และทำหน้าที่เป็นเทคนิคเสริมในการฝึกความจำคำพูด นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ดีในการฝึกฝนทักษะไวยากรณ์ของคุณ ด้วยการฝึกอบรมประเภทนี้ คุณจะเห็นและได้ยินตัวอย่างการใช้งานจริงต่างๆ โครงสร้างทางไวยากรณ์.
ดังนั้นหนังสือเสียงจึงมีความเป็นไปได้ที่จะขยายออกไป คำศัพท์ผู้ฟังอำนวยความสะดวกในการทำความเข้าใจทั้งคำพูดและการเขียน สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการบรรลุความก้าวหน้าในด้านของการออกเสียงและการใช้ถ้อยคำ หนังสือเสียงเป็นระบบที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น ซึ่งมีโครงสร้างที่ส่งเสริมความเข้าใจและการดูดซึมข้อมูลอย่างรวดเร็ว ทุกวันนี้ ครูจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ตระหนักถึงคุณค่าของการนำหนังสือเสียงมาใช้ในกระบวนการสอน
ไปยังห้องสมุดสื่อ ห้องสมุดวิทยาศาสตร์หนังสือเสียงชุดแรกของ TOGU มาถึงในปี 2549 กองทุนของพวกเขายังมีขนาดเล็กและประกอบด้วยผลงานวรรณกรรมคลาสสิก กวีนิพนธ์ นิยายวิทยาศาสตร์ต่างประเทศ และหนังสือขายดีสมัยใหม่ในภาษาต้นฉบับทั้งในและต่างประเทศ
เมื่อเรียนภาษาต่างประเทศและภาษาอังกฤษเป็นหลัก จำเป็นต้องสังเกตหนังสือเสียงหลายเล่มที่แสดงถึงวรรณกรรมคลาสสิกอังกฤษและอเมริกันที่เป็นอมตะ หนึ่งในนั้นคือ “นิทานภาษาอังกฤษคลาสสิก” [ ทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์] / อ่านโดย บี. ซาร์เจนท์ และ ซี. แมคโดนัลด์ - มอสโก: สตูดิโอ ARDIS, 2549) คอลเลกชันนี้นำเสนอผลงานวรรณกรรมคลาสสิกทั้ง 5 ฉบับของอังกฤษและไอริช ได้แก่ George Bernard Shaw, Virginia Woolf, James Joyce, Rudyard Kipling, Charles Dickens
J.B. Shaw (1856 - 1950) - นักเขียนบทละครชาวอังกฤษ - ไอริช, นักปรัชญาและนักเขียนร้อยแก้ว, นักวิจารณ์ดีเด่น, ผู้ได้รับรางวัล รางวัลโนเบลในวรรณคดี 2468 เวอร์จิเนียวูล์ฟ (พ.ศ. 2425 - 2484) - นักเขียนภาษาอังกฤษและนักวิจารณ์ด้วยจิตวิญญาณแห่งความทันสมัย ในฐานะนักเขียนแนวทดลอง เธอจำกัดงานของเธอไว้ที่การถ่ายทอดความรู้สึกและความรู้สึก โดยตีความโลกของพวกเขาว่าเป็นความจริงอย่างแท้จริง James Joyce (1882 - 1941) - นักเขียนนักจิตวิเคราะห์ชาวอังกฤษ - ไอริชซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของวรรณกรรมโลกแห่งศตวรรษที่ 20 รัดยาร์ด คิปลิง (1865 - 1936) - นักเขียนภาษาอังกฤษผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในปี พ.ศ. 2450 ผลงานของเขาที่มีความหลากหลายประเภทต่าง ๆ โดดเด่นด้วยสไตล์ที่ประณีต ความเรียบง่าย ความแข็งแกร่งของจินตภาพทางศิลปะ และที่สำคัญที่สุดคือความปรารถนาของผู้เขียนที่จะทำหน้าที่เป็นคำพูด” ถึงคนทั่วไป"ช่วยให้เขาเอาชนะความทุกข์และความเหงา สอนให้เขามีความกล้าหาญและความเพียร Charles Dickens (1812 - 1870) - นักประพันธ์ภาษาอังกฤษ ผู้สร้างตัวละครการ์ตูนที่สดใสและมีชื่อเสียง นักวิจารณ์สังคม- วาดภาพเป็นละคร ชีวิตแบบอังกฤษเขาแนะนำเฉดสีที่อ่อนหวานราวกับเทพนิยายและซาบซึ้งเข้าไป
ผลงานทั้งหมดได้อ่านอย่างถูกต้อง ภาษาวรรณกรรมและเป็นตัวอย่างแห่งความคลาสสิก เรื่องราวภาษาอังกฤษ- ข้อความนี้อ่านโดย Benjamin Sargent และ Cora MacDonald ระยะเวลาเล่น 3 ชั่วโมง 12 นาที
ในคอลเลกชันต่อไป "รายการโปรด" (ไบรอน จอร์จ กอร์ดอน- บทกวีที่เลือก [ทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์] / ไบรอน จอร์จกอร์ดอน; อ่านโดยเอ็ม. ไวตัน - มอสโก: สตูดิโอ ARDIS, 2550)นำเสนอบทกวี บทกวี โคลงสั้น ๆ โดยกวีชาวอังกฤษผู้ยิ่งใหญ่ George Noel Gordon Byron ในภาษาอังกฤษ ไบรอนเป็นตำนานในสมัยของเขาและยังคงเป็นเช่นนี้มาจนถึงทุกวันนี้ บทกวีของเขาสะท้อนชีวิตทั้งชีวิตของกวีที่เต็มไปด้วยความคิดและความรู้สึก:
กวีนิพนธ์ไม่มีความรู้ตรงกลาง
นี่คืออันที่อยู่ล่างสุดที่ยังไปไม่ถึงบนสุด
ทุกคนดูหมิ่นกวีสีเทาตัวน้อย
จากพระเจ้า จากผู้คน และจากหนังสือพิมพ์...
(แปลโดย N. Volpin)
พุชกินเรียกไบรอนว่าเป็นอัจฉริยะ กวีชาวรัสเซียผู้ยิ่งใหญ่เปรียบเทียบบุคลิกภาพและอุปนิสัยของไบรอนกับองค์ประกอบของทะเล หนังสือเสียงเล่มนี้จะน่าสนใจสำหรับทุกคนที่รู้พื้นฐานภาษาอังกฤษและกำลังพัฒนาทักษะในนั้น ข้อความนี้อ่านโดย Yuri Zaborovsky และ Vyacheslav Gerasimov ระยะเวลาเล่น 10 ชม.
คอลเลกชันอื่น: “ ความรักแห่งชีวิต” (London Jack Love Life [แหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์] / London Jack อ่านโดย C. McDonald - มอสโก: ARDIS Studio, 2005)เป็นเวอร์ชันเสียงเรื่องราวของแจ็ค ลอนดอน นักเขียนชาวอเมริกัน วรรณกรรมคลาสสิกระดับโลกแห่งศตวรรษที่ 20 ในเวลาไม่ถึง 20 ปี กิจกรรมวรรณกรรมแจ็ค ลอนดอน สร้างสรรค์เรื่องราวมากกว่า 200 เรื่อง นวนิยาย 20 เรื่อง และบทละคร 3 เรื่อง แก่นของผลงานของเขามีความหลากหลายไม่น้อยไปกว่าชีวิตของเขา เมื่อลอนดอนเริ่มเขียน เขาได้ลองทำอาชีพมาแล้วหลายสิบอาชีพ เขาเป็นคนจรจัด เขาเป็นนักเรียน เขาล่องเรือเป็นกะลาสี เขาเป็นสมาชิกของ พรรคสังคมนิยมร่วมเดินขบวนคนว่างงานตามหาทองคำในคลอนไดค์ ความประทับใจทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นในงานของเขา คอลเลกชันที่นำเสนอ เรื่องราวที่ดีที่สุดจากวัฏจักรภาคเหนือ: "ความรักแห่งชีวิต", "เรื่องราวของคีช", "ความเงียบสีขาว", "ความกล้าหาญของผู้หญิง", "การแต่งงานของแสงสว่าง", "วิถีของคนผิวขาว", "เรื่องราวของ เจส” อ๊าก” อ่านโดยคอรา แมคโดนัลด์ส ระยะเวลาเล่น 4 ชั่วโมง 58 นาที
หลักสูตรภาษาอังกฤษต้นฉบับอีกหลักสูตรหนึ่งที่อิงจากหนังสือของนักเขียนชาวต่างประเทศที่มีชื่อเสียงคือ “English Reading Club” นี่คือห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ตัวจริงที่ออกแบบมาเพื่อ ระดับที่แตกต่างกันทักษะภาษาต่างประเทศ - ระดับเริ่มต้น ระดับประถมศึกษา และระดับกลาง ในชุดประกอบด้วยหนังสือภาษาอังกฤษ 12 เล่ม รวมถึงผลงานของ Oscar Wilde, Arthur Conan Doyle, Bram Stoker และคนอื่นๆ งานแต่ละชิ้นได้รับการออกแบบเพื่อให้ผู้ที่ต้องการฝึกภาษาอังกฤษสามารถทำได้ ประการแรกคุณสามารถอ่านข้อความ ประการที่สอง ฟัง (ข้อความทั้งหมดพากย์เสียงโดยเจ้าของภาษา) ประการที่สาม แก้ไขการออกเสียงโดยใช้เทคนิค Re-Wise ที่รู้จักกันดีในตัว หลังจากแต่ละบท คุณจะพบกับแบบฝึกหัดพิเศษที่มุ่งพัฒนาทักษะการพูดขั้นพื้นฐาน เช่น ทดสอบความเข้าใจในการอ่าน การรวมโครงสร้างไวยากรณ์ การเปิดใช้งานคำศัพท์ใหม่ การทำนายเนื้อเรื่อง ฯลฯ โดยพื้นฐานแล้วโปรแกรมนี้ไม่ได้เป็นเพียงห้องสมุด แต่เป็นหลักสูตรการฝึกอบรมทั้งหมดที่คุณสามารถพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณได้อย่างง่ายดายและไม่เป็นการรบกวน
คอลเลกชันห้องสมุดของเราประกอบด้วยสองระดับ - ระดับเริ่มต้นและระดับกลาง (ชมรมการอ่านภาษาอังกฤษ [แหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์]: ระดับเริ่มต้น - วิลมิงตัน: Macmillan Heinemann, [B.g.], ชมรมการอ่านภาษาอังกฤษ [แหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์]: ระดับกลาง - Wilmington: Macmillan Heinemann , [B.g.] ).
นิยายวิทยาศาสตร์ต่างประเทศนำเสนอเรื่องราวของผู้ก่อตั้งชาวอเมริกันคลาสสิก นิยายวิทยาศาสตร์: Frederik Pohl - "The Middle of Nowhere", Isaac Asintov - "Take a Match", Murray Leinster - "Keyhole" คอลเลกชันนี้มีชื่อว่า "ยุคทองของนิยายวิทยาศาสตร์อเมริกัน" (ยุคทองของนิยายวิทยาศาสตร์อเมริกัน [แหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์] / อ่านโดย M. Wightion - มอสโก: ARDIS Studio, 2007)- อ่านโดย ไมเคิล ไวตัน ระยะเวลาเล่น 2 ชั่วโมง 23 นาที
จาก วรรณกรรมสมัยใหม่คอลเลกชันเรื่องสั้นตลกขบขันสมควรได้รับความสนใจ เรื่องตลกและบทสนทนา เรื่องตลกขบขัน และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย คำพังเพย สุภาษิต และคำพูด “เรื่องขำขันและอารมณ์ขัน” ( เรื่องตลกและเรื่องตลก [แหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์]: รวบรวมนักอารมณ์ขัน เรื่องราว: ทรานส์ จากภาษาอังกฤษ / โกง V. Samoilov - มอสโก: สตูดิโอ ARDIS, 2550) ข้อความนี้อ่านเป็นภาษาอังกฤษและรัสเซียและจะเป็นที่สนใจของผู้ที่ชื่นชอบอารมณ์ขันที่ละเอียดอ่อนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษ ระยะเวลาเล่น 2 ชั่วโมง 25 นาที
ฉันอยากจะทราบผลิตภัณฑ์ใหม่จากมูลนิธิของเรา - หนังสือจากซีรีส์ "Domonoes" ชุดนี้เป็นหนังสือภาพปรับระดับโดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด หนังสือแต่ละเล่มมักจะมาพร้อมกับเวอร์ชันเสียงในรูปแบบแผ่นดิสก์แบบโต้ตอบ และแบบฝึกหัดจะรวมอยู่ในข้อความด้วย ภาษาที่ยอดเยี่ยมที่ปรับให้เข้ากับ ระดับที่แตกต่างกัน, เนื้อหาที่น่าสนใจแบบฝึกหัดต่างๆ - ทั้งหมดนี้ช่วยกระตุ้นและจดจำเนื้อหาภาษาได้ดีขึ้น หนังสือเหล่านี้สามารถใช้ได้ทั้งในห้องเรียนและ การศึกษาด้วยตนเอง- เนื้อหาของหนังสือจะสนองความสนใจของทุกคน
สำหรับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการพัฒนาความรู้ภาษารัสเซีย คุณสามารถเสนอหนังสือเสียงเกี่ยวกับภาษารัสเซียคลาสสิกได้หลายเล่ม
ตัวอย่างเช่นผลงานของ Mikhail Yuryevich Lermontov "Hero of Our Time" และ "Masquerade" (Lermontov Mikhail Yuryevich ฮีโร่ในยุคของเรา Masquerade [ทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์]: เล่น 10 ชั่วโมง / Lermontov Mikhail Yuryevich อ่านโดย: Yu. Zaborsky ; V. Gerasimov. - อิเล็กตรอน . ข้อมูลข้อความ- และโปรแกรม (698 เมกะไบต์) - [ม.]: ARDIS-CONSULTING, 2003) ในช่วงอายุไม่ถึง 27 ปี มิคาอิล เลอร์มอนตอฟได้สร้างผลงานมากมายที่กลายเป็นวรรณกรรมรัสเซียคลาสสิก นวนิยายเรื่อง "A Hero of Our Time" เป็นหนึ่งในหน้าที่สว่างที่สุดในผลงานของเขา ประกอบด้วยเรื่องราวห้าเรื่องแยกกัน ("Bela", "Maksim Maksimych", "Taman", "Princess Mary", "Fatalist") ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยภาพของตัวละครหลัก - Grigory Pechorin
ละครในกลอน “Masquerade” เต็มไปด้วยเนื้อร้องและความโรแมนติก ความเบา และความดังของพยางค์ นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับการที่โชคชะตาพังทลายและชีวิตถูกทำลาย เรื่องราวของความรักและความริษยา เกมและความเลวทราม ความเหงา และคุณค่าของชีวิต
รายชื่อหนังสือเสียงมีอยู่ในแคตตาล็อกอิเล็กทรอนิกส์ของห้องสมุด TSU คุณสามารถรับหนังสือเสียงทั้งหมดเพื่อนำไปใช้งานได้ที่ศูนย์ศึกษาภาษาศาสตร์และภูมิภาค (218pa) ที่นั่น เมื่อใช้เวิร์กสเตชันอัตโนมัติสำหรับผู้ใช้ คุณสามารถฟังส่วนต่างๆ ของหนังสือเสียงบางเล่มหรือทั้งเล่มได้ หากผู้อ่านไม่มีเวลาฟังหนังสือในห้องข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ก็มีโอกาสนำหนังสือกลับบ้านได้
อ็อกซานา สเตปาโนวา,
รองผู้อำนวยการหอสมุดแห่งชาติ Tomsk State University
ภาพถ่าย
พ่อแม่รู้สึกลำบากใจอย่างมากเมื่อลูกปฏิเสธที่จะอ่านหนังสือด้วยตัวเอง โดยมองว่าการอ่านเป็นงานบ้านที่ไม่พึงประสงค์ อย่างไรก็ตาม เขาพร้อมจะฟังคุณอ่านเป็นชั่วโมง ทุกครั้งที่คุณอ่านนิทานให้จบ น่าเสียดายที่ภาระงานหนักและความเหนื่อยล้าของพ่อแม่ทำให้พ่อแม่ไม่มีเวลาอ่านหนังสือมากนัก เทพนิยายที่น่าสนใจที่สุดและผลงานคลาสสิก ทางเลือกอื่นที่เป็นไปได้สำหรับการอ่านคือนิทานเสียงสำหรับเด็ก
นิทานเสียงสำหรับเด็กนั้นไม่มีความรู้เลย มีมานานแล้ว มีเพียงรูปแบบที่แตกต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น จำไว้ว่าพ่อแม่ของคุณเล่นแผ่นเสียงด้วยเครื่องเล่นเพลงอย่างไร ในความเป็นจริงแล้ว เทพนิยายเหล่านั้นแทบไม่ต่างจากนิทานเสียงสมัยใหม่ เพียงแต่วิธีการสืบพันธุ์และคุณภาพของสื่อเท่านั้นที่เปลี่ยนไป เครื่องเล่นที่ยุ่งยากถูกแทนที่ด้วยไฟล์เสียงสำหรับคอมพิวเตอร์และเครื่องเล่น MP3 ขณะนี้มีโอกาสที่จะฟังนิทานเด็กออนไลน์บนอินเทอร์เน็ต
ประโยชน์ของการฟังหนังสือเสียงสำหรับเด็ก
หนังสือเสียงสะดวกมากไม่เพียงแต่สำหรับเด็กเท่านั้น แต่ยังสำหรับผู้ปกครองด้วย ขณะที่ลูกของคุณฟังนิทานออนไลน์ คุณสามารถทำสิ่งที่จำเป็นได้ และลูกจะใช้เวลานี้อย่างมีประโยชน์
2. เทพนิยายสำหรับเด็กพากย์เสียงโดยนักแสดงมืออาชีพดังนั้นจึงมีส่วนช่วยในการพัฒนาคำพูดและเพิ่มคำศัพท์ ด้วยการเลียนแบบคำพูดที่มีความสามารถ การใช้คำพูดและการกระทำที่ดี เด็กจะเริ่มพูดได้อย่างถูกต้องและแสดงออกมา ความสามารถทางศิลปะ- นิทานเสียงบางเรื่องมีข้อความที่ตัดตอนมาจากผลงานดนตรีคลาสสิกซึ่งพัฒนาดนตรีในเด็ก รสชาติดีและรักในเสียงดนตรี
3. หนังสือเสียงสำหรับเด็กช่วยปกป้องดวงตาของเด็ก ทุกปีภาระงานที่โรงเรียนเพิ่มขึ้น และเด็กมักจะไม่มีเวลาอ่านหนังสือ นิยายสำหรับ การพัฒนาทั่วไป- นอกจากนี้ใน โลกสมัยใหม่เด็กๆ ใช้เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์และทีวีเป็นจำนวนมากซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพดวงตา ต้องขอบคุณหนังสือเสียงที่ทำให้เด็ก ๆ ทำความคุ้นเคย วรรณกรรมคลาสสิกโดยยังคงรักษาการมองเห็นที่ชัดเจนและแม่นยำ
4. คุณสามารถดาวน์โหลดนิทานก่อนนอนได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ นิทานเสียงสำหรับเด็กยังช่วยให้ลูกของคุณไม่ว่างบนท้องถนนหรืออยู่ในคิวอีกด้วย การถือหนังสือระหว่างเดินทางนั้นไม่สะดวกอย่างยิ่งและเป็นอันตรายด้วยซ้ำ แต่การฟังเครื่องเล่นนั้นสามารถทำได้สำหรับทุกคนภายใต้สถานการณ์ที่แตกต่างกัน คุณเพียงแค่ต้องซื้อหูฟังเพื่อไม่ให้รบกวนผู้อื่นและลูกน้อยของคุณจะใช้เวลาที่ได้รับอย่างเป็นประโยชน์โดยไม่มีน้ำตาและเสียงกรีดร้อง
ข้อเสียของการฟังหนังสือเสียงสำหรับเด็ก
1. หนังสือเสียงสำหรับเด็กสามารถกีดกันการอ่านหนังสือได้ เมื่อเด็กคุ้นเคยกับการฟังแล้ว พวกเขาแทบจะหยุดอ่านเลย ความสามารถในการรับรู้ข้อมูลด้วยหูจะได้รับการพัฒนาอย่างดีและด้วย การรับรู้ทางสายตาปัญหาอาจเกิดขึ้น
2. ผู้ปกครองบางคนเข้าใจผิดว่าหนังสือเสียงสำหรับเด็กสามารถชดเชยการขาดความสนใจจากผู้ปกครอง เบี่ยงเบนความสนใจและครอบงำเด็กได้ แน่นอนว่าการทำงานต้องใช้ความพยายามและเวลาอย่างมาก แต่เป็นเรื่องยากจริงหรือที่จะแบ่งเวลาครึ่งชั่วโมงต่อวันและอ่านออกเสียงให้ลูกฟังก่อนนอน? หากลูกต้องเลือกระหว่างเสียงผู้ประกาศกับเสียงแม่มั่นใจได้เลยว่าเขาจะเลือกแม่
3. การฟังมากเกินไปผ่านหูฟังอาจทำให้การได้ยินบกพร่องได้ ตัวเลือกที่ดีที่สุด- ส่งเสียงออกทางลำโพง แต่คนรอบข้างจะต้องฟังหนังสือเสียงกับเด็ก ในเวลาเดียวกันเมื่อใช้หูฟังในระดับปานกลางก็ไม่มีอันตรายใด ๆ แต่หากคุณใช้หูฟังบ่อยเกินไปในระดับเสียงที่สูงก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการไปพบแพทย์โสตศอนาสิกได้
คุณสามารถรวมการฟังหนังสือเสียงกับการอ่านหนังสือทั่วไปได้ ด้วยวิธีนี้เด็กจะรับรู้ข้อมูลทั้งทางหูและทางสายตา สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งหากเด็กมีปัญหากับการรับรู้ข้อมูลประเภทใดประเภทหนึ่ง - ประเภทที่สองจะเป็น "อยู่ในปีก" เหมือนเดิม
หนังสือเสียงสำหรับเด็กไม่ควรแทนที่การอ่าน (ทั้งโดยผู้ปกครองและตัวเด็กเอง) แต่ควรเสริมด้วย อย่าใช้หนังสือเสียงเพื่อกำจัดลูกของคุณ และถ้าเป็นไปได้ ให้ลูกของคุณฟังหนังสือเสียงไม่ผ่านหูฟัง แต่ฟังผ่านลำโพง หากคุณใช้หูฟังก็ควรมีคุณภาพสูง
เหมาะกับผู้หญิงวัย 30 ขึ้นไป อายุฤดูร้อน, ฉันอยู่ในชมรมหนังสือ ครั้งหนึ่งในการประชุมกลุ่มของเรา สตรีคนหนึ่งบอกว่าเธอไม่ได้อ่านหนังสือที่จะอภิปรายในเดือนนั้น แต่ได้ฟังหนังสือเหล่านั้น กลุ่มของเรามีมติเป็นเอกฉันท์ว่าพฤติกรรมนี้เป็นกลโกงทั่วไป ไม่สำคัญว่าเราทั้งสองคนจะพูดได้อย่างชัดเจนว่าจุดตัดนั้นคืออะไร เราแค่รู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งนั้น
อย่างไรก็ตาม คำถามยังคงอยู่ในอากาศ:
- “อ่านหนังสือให้ฟัง” ถือเป็นการโกงหรือเปล่า?
เราได้ตอบคำถามนี้กับศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ปริญญาเอกสาขาจิตวิทยา Daniel Willingham เลี้ยงลูก
ใครอ่าน
แดเนียล วิลลิงแฮม
นักวิจัยยอดนิยมผู้แต่งหนังสือขายดีประจำปี 2558 เรื่อง "The Science of Reading"
ปรากฏว่า ดร. วิลลิงแฮมเหนื่อยมากกับการตอบคำถามนี้และคำถามที่คล้ายกัน แต่เขาได้ยกเว้นสำหรับการตีพิมพ์ของเรา:
- จากมุมมองของจิตวิทยาความรู้ความเข้าใจ กระบวนการทางจิตที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลที่ได้รับเมื่อฟังเสียงหรืออ่านหนังสือที่พิมพ์จะเหมือนกันทุกประการ
- ไม่ หนังสือเสียงไม่ใช่วิธีหลอกลวงในการทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นขณะอ่านหนังสือ
การใช้เหตุผลในเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยปราศจาก รายละเอียดที่น่าสนใจในเรื่องความสามารถของสมองในการรับรู้ภาษาไม่ว่าจะเขียนหรือพูด
ขั้นแรก ให้พิจารณาคำกล่าวอ้างที่ว่าการฟังหนังสือเสียงเป็นการโกง สมมติฐานนี้แสดงถึงการได้รับรางวัลบางประเภทตามผลงานที่ทำเสร็จ ข้อโต้แย้งที่ค่อนข้างปกติซึ่ง Willingham ตอบกลับดังนี้:
ประเด็นไม่ใช่ว่าคุณกำลังสูญเสียบางสิ่งบางอย่าง ไม่ใช่ว่าประสบการณ์สมมุติบางอย่างของการ "อ่าน" นั้นมีประจุบวกในการพัฒนาและการเติบโตส่วนบุคคล แต่แน่นอนว่าการหลีกเลี่ยงการอ่านหนังสือ จะช่วยปกปิดสิ่งที่ซ่อนเร้นเอาไว้ ทรัพยากรภายใน- สมองของคุณน่าจะทำงานน้อยลง และคุณรู้ไหมว่ามันเป็นเช่นนั้น!โดยรวมแล้ว จิตสำนึกมีสองขั้นตอนหลักที่เกี่ยวข้องกับการอ่านหรือการฟังหนังสือเสียง
แม้ว่าเมื่อถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผลกระทบก็ยุติลง
- ขั้นตอนแรกคือการสร้างโซ่ คำที่มีความหมายจากชุดตัวอักษรและสัญลักษณ์
- ประการที่สอง - การรับรู้ถึงรูปแบบความหมายที่อยู่เบื้องหลังบล็อกวากยสัมพันธ์
นักวิจัยที่ศึกษาความเข้าใจในการอ่านมานานหลายทศวรรษให้เหตุผลว่าอย่างน้อยก็มีความสัมพันธ์ที่สำคัญมากระหว่างกระบวนการอ่านและการฟังหนังสือ
ดังนั้น โอลก้า คาซานในงานปี 2554 เขาเขียนว่า:
จากการศึกษากรณีปี 1985 และการเปรียบเทียบประสบการณ์ในการทำความเข้าใจและการดูดซึมข้อความ เราสามารถยืนยันได้อย่างมั่นใจว่าทุกคนที่สามารถรับรู้ข้อความที่พิมพ์ออกมาได้อย่างง่ายดายจะสามารถรับรู้เนื้อหานี้ในรูปแบบเสียงได้ในทำนองเดียวกัน การศึกษาในมหาวิทยาลัยเมื่อปี 1977 เกี่ยวกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่างจำนวนมากที่ถูกขอให้อ่านหรือฟังหลายคน เรื่องสั้นแล้ววางมันออกไป สรุปแสดงให้เห็นว่า ความแตกต่างพื้นฐานไม่มีข้อมูลในการทำความเข้าใจและการตีความ
การถอดรหัสข้อมูลที่พิมพ์ออกมาเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน
โดย โดยมากเขาคือผู้ที่หายไประหว่างกระบวนการฟัง แต่ควรจำไว้ว่า นี่คือการกระทำในกระบวนการเรียนรู้ กลายเป็นทักษะอัตโนมัติและไม่ต้องการทรัพยากรความรู้ความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับจิตสำนึก
ตามรูปแบบการอ่านแบบง่ายของเรา เราไม่สามารถอ้างได้ว่าการอ่านนั้นยากกว่าการฟังในทางใดทางหนึ่ง นอกจากการประมวลผลแล้ว ยังมีความแตกต่างในด้านการรับรู้อีกด้วย พวกเขาสังเกตว่าในระหว่างกระบวนการฟัง สมองสามารถรับรู้ได้อย่างง่ายดายมาก” ก้าวออกไป“พูดง่ายๆ ก็คือหันเหความสนใจของคุณจากเนื้อเรื่อง โดยผ่านเสียงของคำ ประโยค และข้อความความหมายทั้งหมด อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่าสิ่งนี้เคยเกิดขึ้นในการฝึกอ่านของคุณเมื่อคุณอ่านผ่านข้อความทั้งหมดที่ไม่มากนักหรือไม่ เรื่องราวสนุกสนานโดยไม่ข้ามย่อหน้า แต่อ่านต่ออย่างเป็นทางการโดยไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่อ่าน?
การทดสอบพฤติกรรมผู้อ่านนี้เชิงประจักษ์ค่อนข้างยาก แดเนียล วิลลิงแฮม
ปริญญาเอกมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย
แต่มีตัวบ่งชี้เชิงปริมาณที่สมบูรณ์ว่าทรัพยากรของร่างกายถูกใช้ไปในทางกลไกอย่างไรในกระบวนการส่งกลับผ่านข้อความไปยังข้อความที่ถูกอ่านแล้วแต่สูญเสียสติไป
การเคลื่อนไหวของรูม่านตาร้อยละ 10 ถึง 20 ในระหว่างกระบวนการอ่านนั้นแท้จริงแล้วเป็นการถดถอย กล่าวคือ เคลื่อนถอยหลังไปตามตัวอักษรที่ปกคลุมไว้แล้ว สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อคุณคิดว่าคุณเข้าใจสาระสำคัญของคำโดยไม่ได้อ่านจริงๆ แต่เดา แต่ในขณะเดียวกันคุณก็รู้ว่าคุณเข้าใจผิดและถูกบังคับให้กลับไป และเหตุการณ์ต่างๆ จะพัฒนาในลักษณะเดียวกันเมื่อคุณสับสนกับโครงสร้างทางวากยสัมพันธ์ที่ซับซ้อน
สิ่งที่คล้ายกันเกิดขึ้นในระบบการได้ยินของสมอง นี่หมายถึงปรากฏการณ์ที่เรียกว่า หน่วยความจำสร้างคำหรือ เสียงสะท้อนของความทรงจำแน่นอนว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับคุณมีคนพูดบางอย่างกับคุณและคุณไม่ฟังคู่สนทนาเลย แต่คุณจับน้ำเสียงคำถามที่ท้ายประโยคแล้วคิดกับตัวเองทันที:“ นรกใช่ฉันเป็น
สลบไปโดยสิ้นเชิง“แล้วคุณก็ทำหน้าสำนึกผิดแล้วพูดว่า:
- - ขออภัยฉันไม่ได้ยินสิ่งที่คุณพูด?
- คุณไม่ฟัง แต่คุณได้ยิน
ขั้นตอนทั้งหมดนี้เทียบได้กับการฝึกการเคลื่อนไหวของดวงตาแบบถดถอยในระหว่างกระบวนการอ่าน และทั้งสองอย่างก็ให้ภาระแก่สมองของคุณเกือบเท่ากัน
กลับมาที่รูปแบบการประมวลผลการอ่านทางจิตอย่างง่ายของเราอีกครั้ง
ดังที่เราทราบกันดีอยู่แล้ว กระบวนการถอดรหัสจะกลายเป็นอัตโนมัติอย่างรวดเร็ว โดยไม่ขึ้นอยู่กับสติ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อมีการบรรลุทักษะการอ่านบางอย่าง เมื่อคุณเข้าสู่วัยส่วนใหญ่แล้ว คุณก็เป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงในกระบวนการประยุกต์อัตโนมัติของกระบวนการรับรู้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณสามารถพัฒนาความสามารถนี้เพิ่มเติม เร่งกระบวนการประมวลผลข้อมูล และเพิ่มความเร็วในการอ่านโดยไม่กระทบต่อความเข้าใจ สิ่งนี้สามารถทำได้โดยการฝึกฝนเท่านั้น
ในระหว่างการฟัง เครื่องมือที่คล้ายกันในการปรับปรุงการรับรู้คือการเร่งการเล่น ซึ่งให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกับทักษะ อ่านอย่างรวดเร็ว. ในกระบวนการนี้ “หน่วยความจำเสียงสะท้อน” ของคุณจะพัฒนา คุณจะหันไปใช้เครื่องเล่นย้อนกลับสั้น ๆ สิบห้าวินาทีน้อยลงเรื่อยๆ คุณไม่จำเป็นต้องใช้มัน เพราะคุณควรคิดสักเสี้ยววินาทีเกี่ยวกับวิธีการเล่นของคุณ เสียงในหัวของคุณอีกครั้ง
แน่นอนว่ายังมีแง่มุมเพิ่มเติม:
- คุณตีความหนังสือตรงตามที่ผู้เขียนตั้งใจหรือไม่?
(และมันสำคัญขนาดไหน)
อย่างไรก็ตาม การฟังหนังสือประเภทต่างๆ เป็นค่าเริ่มต้นถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากเมื่อเทียบกับการอ่านแบบเดิมๆ เพราะนักแสดงมืออาชีพจะสามารถแสดงได้
ละครชั้นสูงหรือคอเมดี้ประกายที่มีศิลปะและระดับการดื่มด่ำกับบรรยากาศของเรื่องมากกว่าที่จะเป็นไปได้” เฉลี่ย"ถึงผู้อ่าน
- ข้อได้เปรียบทางวรรณกรรมของหนังสือเสียงมากกว่าหนังสือที่ตีพิมพ์นั้นมาจากการตีความที่หลากหลาย
กลับมาที่คำถามเรื่อง “การเล่นอย่างยุติธรรม” ในกระบวนการอ่านซึ่งบางคนบอกว่าไม่ได้สังเกตเมื่อใด เรากำลังพูดถึงโอ สิ่งพิมพ์พูดคุยความแตกต่างที่ชัดเจนในการประเมินซึ่งไม่ได้เสริมกับออร์โธดอกซ์ของคำที่พิมพ์ทั้งหมดคือ:
- บางคนมีความเชื่อว่าการอ่านเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้น มันเกือบจะเป็นความสำเร็จแล้ว อย่างน้อยที่สุด นี่คือความสำเร็จที่สำคัญและเป็นเหตุผลของความภาคภูมิใจ
ฉันอ่านหนังสือแล้ว - ทำได้ดีมาก! ฉันทำงานแล้ว ฉันมีความสำเร็จครั้งใหม่รออยู่ ซึ่งฉันสามารถอวดอ้างได้ในบางโอกาส
มีรายการเรื่องรออ่านบางรายการซึ่งจำเป็นและอีกรายการเพิ่มเติมที่ครูคุ้นเคยและให้เครดิตกับนักเรียน
เมลิสซา ดาห์ล
การแปล:
ยูดัชกาบ่อยครั้ง สำหรับหนังสือ “ทางเลือก” แต่ละเล่ม คุณสามารถได้รับรางวัลอย่างเป็นทางการ เช่น เครื่องหมายดอกจันในไดอารี่ของคุณ เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีการใช้ระบบที่คล้ายกันแม้ในการขายปลีกในร้านขายของชำ โปรดจำไว้ว่าโปรแกรม Pizza Hut ซึ่งสัญญาว่าจะให้พิซซ่าฟรีแก่ผู้อ่านที่ดีที่สุด
มันคุ้มค่าที่จะวิจารณ์ลักษณะที่น่าสงสัยดังกล่าวในพลวัตย้อนหลังอย่างจริงจังหรือไม่?
แม้แต่ผู้ที่รักการอ่านอย่างกระตือรือร้น การหาเวลาและโอกาสสำหรับงานอดิเรกที่ชื่นชอบอาจเป็นเรื่องยาก ในสถานการณ์เช่นนี้ หลายคนพึ่งพาหนังสือเสียง ซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกแทนการอ่านแบบเดิมๆ คุณสามารถฟังหนังสือขายดีล่าสุดได้อย่างง่ายดายขณะเดินทางหรือทำความสะอาดบ้าน
แต่การฟังหนังสือเสียงเหมือนกับการอ่านล่ะ?
“ฉันเป็นแฟนหนังสือเสียง แต่ฉันกลับมองว่าหนังสือเหล่านั้นเป็นการโกง” เบธ โรโกวสกี ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยบลูมส์เบิร์ก ในรัฐเพนซิลเวเนียกล่าว
ในปี 2559 Rogowski เสนอการศึกษา ปัญหานี้- ในการศึกษา กลุ่มหนึ่งฟังบางส่วนของ Irresistible ซึ่งเป็นหนังสือสารคดีเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สองโดย Laura Hillenbrand ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งอ่านส่วนเดียวกันโดยใช้ e-reader กลุ่มที่สามอ่านและฟังพร้อมกัน ต่อจากนั้น ทุกวิชาจะตอบชุดคำถามในแบบสอบถามที่ออกแบบมาเพื่อพิจารณาว่าพวกเขาเรียนรู้เนื้อหาได้ดีเพียงใด “เราไม่พบความแตกต่างที่มีนัยสำคัญในการรับรู้ระหว่างการอ่าน การฟัง หรือการอ่านและการฟังในเวลาเดียวกัน” Rogowski กล่าว
รวมถึงหนังสือเสียงด้วยเหรอ? อาจจะ. แต่การศึกษาของ Rogowski ใช้ e-book มากกว่าสิ่งพิมพ์แบบดั้งเดิม และหลักฐานบางอย่างชี้ให้เห็นว่าการอ่านบนหน้าจอลดความเข้าใจและความเข้าใจเมื่อเทียบกับการอ่านข้อความที่พิมพ์ออกมา ดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นไปได้ว่าหากศึกษามาเกี่ยวข้อง หนังสือแบบดั้งเดิมแล้วพวกอนุรักษ์นิยมก็นำหน้าได้
หากคุณสงสัยว่าทำไมหนังสือที่พิมพ์ออกมาถึงดีกว่า e-book ก็คุ้มค่าที่จะลองดู คุณสมบัติที่น่าสนใจ: เป็นเรื่องยากสำหรับคนๆ หนึ่งที่จะประเมินว่าเขาอยู่ที่ไหน e-book- “เมื่อคุณอ่านเรื่องราว ลำดับของเหตุการณ์เป็นสิ่งสำคัญ และการรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนในหนังสือจะช่วยให้คุณจัดเรียงมันได้” Daniel Willingham ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียและผู้เขียน Growing Up Kids กล่าว ใครอ่าน. ในขณะที่ผู้อ่าน วรรณกรรมอิเล็กทรอนิกส์มุ่งเน้นไปที่เปอร์เซ็นต์ของปริมาณที่อ่าน ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีผลในการเล่าเรื่องเช่นเดียวกับการอ่านหนังสือแบบดั้งเดิม
ความจริงที่ว่าข้อความที่พิมพ์นั้นเชื่อมโยงกับ สถานที่เฉพาะบนหน้าเว็บยังปรากฏว่าช่วยให้ผู้คนจดจำได้ดีกว่าข้อความบนหน้าจอ ตามการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณลักษณะเชิงพื้นที่ของแบบดั้งเดิม สื่อสิ่งพิมพ์- ทั้งหมดนี้อาจเกี่ยวข้องกับการอภิปรายเกี่ยวกับหนังสือเสียงและหนังสือโดยทั่วไป เนื่องจากเช่นเดียวกับหน้าจอดิจิทัล หนังสือเสียงจะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ใช้ตัวชี้นำเชิงพื้นที่ที่พวกเขาใช้ในการอ่านข้อความที่พิมพ์
จังหวะการกำกับตนเองที่เกี่ยวข้องกับการอ่านยังทำให้หนังสือแบบดั้งเดิมแตกต่างจากหนังสือเสียงอีกด้วย
“จริงๆ แล้วประมาณ 10 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ของการเคลื่อนไหวของดวงตาในระหว่างการอ่านนั้นเป็นการถดถอย ซึ่งหมายความว่า [ดวงตา] จะกลับไปสแกนข้อความอีกครั้ง” วิลลิงแฮมอธิบาย "มันเกิดขึ้นเร็วมาก" เขาบอกว่านิสัยการอ่านแบบนี้เกือบจะส่งเสริมความเข้าใจ ในทางเปรียบเทียบ การฟังเสียงก็เหมือนกับการฟังอาจารย์แล้วถามเขาเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง “เมื่อคุณถาม คุณจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษกับสิ่งที่ผู้พูดเพิ่งพูด” เขากล่าว ตามทฤษฎี คุณสามารถหยุดชั่วคราวหรือย้อนกลับขณะฟังไฟล์เสียงได้ “แต่มันค่อนข้างลำบาก” เขากล่าวเสริม
ข้อควรพิจารณาอีกประการหนึ่งก็คือ บางครั้งความคิดของเราก็ล่องลอยไปทั้งขณะอ่านและฟัง ตามที่ David Daniel ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่ James Madison University และสมาชิกของโครงการการเรียนรู้ของ National Academy of Sciences กล่าว อาจใช้เวลาไม่กี่วินาที (หรือนาที) ก่อนที่เราจะหลุดออกจากจินตนาการและมุ่งความสนใจไปที่เดิมอีกครั้ง
หากคุณกำลังอ่านอยู่ ค่อนข้างง่ายที่จะย้อนกลับไปหาจุดที่ทำให้คุณเสียความคิดไป แดเนียลชี้ให้เห็นว่ามันไม่ง่ายเลยถ้าคุณกำลังฟังการบันทึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข้อความที่ซับซ้อน ความสามารถในการถอยกลับและแก้ไขเนื้อหาอย่างรวดเร็วสามารถช่วยการเรียนรู้ได้ และนี่อาจจะทำได้ง่ายกว่าในขณะที่อ่านมากกว่าในขณะที่ฟัง “การพลิกหน้าหนังสือช่วยให้คุณได้พักบ้าง” เขากล่าว การหยุดชั่วคราวสั้นๆ นี้สามารถสร้างพื้นที่ให้สมองของคุณจัดเก็บหรือวิเคราะห์ข้อมูลที่คุณกำลังดูดซับได้
Daniel เป็นผู้ร่วมเขียนการศึกษาในปี 2010 โดยพิจารณานักเรียนที่ฟังบทเรียนเป็นพอดแคสต์และจบลงด้วยการเรียนรู้ที่แย่กว่านักเรียนที่เรียนบทเรียนบนกระดาษ “และกลุ่มผู้ฟังพอดแคสต์ทำผลงานได้แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด” เขาชี้ให้เห็น เมื่อเทียบกับผู้อ่าน ผู้ฟังทำคะแนนได้แย่กว่าถึง 28% ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างคะแนนสูงสุดและต่ำสุด
ที่น่าสนใจคือ ในช่วงเริ่มต้นของการทดลอง นักเรียนเกือบทุกคนต้องการเข้าร่วมกลุ่มพอดแคสต์ “แต่ก่อนที่จะทำการทดสอบครั้งสุดท้าย พวกเขาส่วนใหญ่เปลี่ยนใจ - พวกเขาสังเกตว่าเลือกอ่านหนังสือจะดีกว่า” แดเนียลกล่าว “พวกเขาตระหนักว่าพวกเขาไม่สามารถเรียนรู้ได้มากนัก”
เขาบอกว่าเป็นไปได้ว่าด้วยการฝึกฝน ผู้ฟังสามารถแข่งขันกับผู้อ่านได้ “เราเก่งในสิ่งที่ทำ และเป็นไปได้ที่เราจะกลายเป็นผู้ฟังที่ดีขึ้นโดยการเรียนรู้ที่จะฟังอย่างมีวิจารณญาณมากขึ้น” เขากล่าว (สิ่งเดียวกันอาจกล่าวได้สำหรับการอ่านหน้าจอ การศึกษาบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ฝึกอีเลิร์นนิงจะซึมซับข้อมูลดังกล่าวได้ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป)
แต่อาจมี “อุปสรรคทางโครงสร้าง” บางอย่างที่ขัดขวางการเรียนรู้จากสื่อเสียง Daniels กล่าว ประการแรก คุณไม่สามารถเน้นหรือเน้นสิ่งที่คุณได้ยินได้ และหลายๆ จุดสำคัญที่ปรากฏในหนังสือเรียน เช่น คำที่เป็นตัวหนาหรือข้อมูลสำคัญจะเน้นได้ยากกว่าเมื่อฟังเสียง
แต่หนังสือเสียงก็มีเป็นของตัวเองเช่นกัน จุดแข็ง- วิลลิงแฮมกล่าวว่ามนุษย์ส่งข้อมูลด้วยวาจามาเป็นเวลานับหมื่นปีแล้ว ในขณะที่คำที่เป็นลายลักษณ์อักษรเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ล่าสุด “เมื่อเราอ่าน เราใช้ส่วนของสมองที่พัฒนาขึ้นเพื่อจุดประสงค์อื่น” เขาอธิบาย ในทางกลับกัน ผู้ฟังสามารถได้รับข้อมูลส่วนใหญ่จากเสียงพูดหรือน้ำเสียงของผู้พูด การเสียดสีนั้นสามารถถ่ายทอดผ่านเสียงได้ง่ายกว่าข้อความที่พิมพ์ออกมามาก และคนที่ได้ยินคำพูดของเชคสเปียร์พูดออกมาดังๆ มักจะเข้าใจความหมายเพิ่มเติมจากการแสดงของนักแสดง
อย่างไรก็ตาม มีอีกปัจจัยหนึ่งที่เอื้อต่อการอ่าน และนั่นก็คือการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน “หากคุณพยายามเรียนรู้ด้วยการทำสองสิ่ง คุณจะไม่มีทางประสบความสำเร็จ” วิลลิงแฮมกล่าว แม้แต่กิจกรรมที่คุณสามารถทำได้ไม่มากก็น้อยในระบบอัตโนมัติ เช่น ขับรถหรือทำอาหาร ก็ยังให้ความสนใจมากพอที่จะขัดขวางการเรียนรู้ “ฉันฟังหนังสือเสียงตลอดเวลาขณะขับรถ แต่ฉันจะไม่ฟังสิ่งที่สำคัญต่องานของฉันเลย” เขากล่าว
แต่ถ้าเราพูดถึงวรรณกรรมเบาและบันเทิง ความแตกต่างในการอ่านและการฟังหนังสือเสียงก็ไม่มีนัยสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวเสริม “ฉันคิดว่ามีการทับซ้อนกันอย่างมากในการทำความเข้าใจข้อความเสียงกับการทำความเข้าใจข้อความที่พิมพ์”
ดังนั้นในกรณีนี้ คุณยังคงถูก "หลอก" ต่อไปได้ เพื่อนชมรมหนังสือของคุณจะไม่มีวันรู้ถึงความแตกต่าง
การอ่านหนังสือและการฟังหนังสือเสียงเป็นกระบวนการที่แตกต่างกันมาก
เมื่อคุณอ่านหนังสือ คุณเองเป็นผู้ให้กำเนิดโลกแห่งหนังสือตามสิ่งที่คุณอ่าน รูปภาพผู้คน การตีความเหตุการณ์ ทุกอย่างเป็นของคุณ ดังนั้นการรับรู้หนังสือเล่มเดียวกันที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงโดยคนต่างกัน
ฉันเพิ่งพบภาพประกอบต้นฉบับเก่าๆ สำหรับ "หนึ่งร้อยปีข้างหน้า" บนอินเทอร์เน็ต (คุณใช้ Google เป็นภาพขาวดำ คุณสามารถจดจำได้โดยใช้คุณลักษณะนี้) นี่คือเรื่องราวที่กลายมาเป็นภาพยนตร์เรื่อง "Guest from the Future" ฉันลืมพวกเขาไปหมดแล้ว แต่เมื่อฉันเห็นพวกเขา ฉันรู้สึกได้ทันทีว่าพวกเขามีอิทธิพลต่อการรับรู้และความทรงจำของงานโดยรวมมากแค่ไหน
และฉันมักจะเชื่อมโยงโทลคีนกับภาพประกอบจากหนังสือเล่มแรกของฉันที่มีลักษณะเป็นภาพแกะสลักในยุคกลาง หนังสือหรือภาพยนตร์ที่ตามมาไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งนี้
Anna Karenina คุณคิดว่าเธอเป็นผมสีน้ำตาลหรือสีบลอนด์? ไม่สำคัญเหรอ?) เธอควรจะเป็นผมสีน้ำตาล แต่ฉันเปลี่ยนเธอเป็นสีบลอนด์ ฉันมอบเสียงที่ฉันต้องการให้เธอ สิ่งนี้ใช้ไม่ได้กับหนังสือเสียง
หนังสือเสียงถ้าไม่ใช่การอ่านของ Sexton แต่เป็นการแสดงเสียงจริง ๆ ก็ยอดเยี่ยมได้ ฉันจำได้มาก หนังสือที่น่าสนใจซึ่งฉันได้ยินทางวิทยุครั้งแรกเมื่ออายุแปดสิบ
แต่นี่เป็นมุมมองของผู้กำกับและนักแสดงเสมอซึ่งแตกต่างออกไป ไม่แย่ลงและไม่ดีขึ้นแตกต่าง
ง่ายขึ้นด้วยตัวอย่างบทกวีและเพลง คุณเคยได้ยินไหมว่านักแสดงเก่งสามารถท่องบทกวีได้อย่างไร? บทกวีหนึ่งเล่มสามารถเปิดเผยสิ่งใหม่ๆ ได้กี่สิ่ง?
เช่น มีรายการเกี่ยวกับคริสต์มาสโดยเฉพาะ
ฉันไม่ค่อยเข้าใจว่าคุณจะเข้าใจสีผมของแอนนาจากหนังสือเสียงได้อย่างไร
หากคุณใช้ช่องเสียงเพื่อรับข้อมูล จินตนาการของคุณจะถูกปิดหรือไม่?
ในความคิดของฉันปัญหาเดียวคือความเร็วในการรับข้อมูลเมื่ออ่านอย่างอิสระ คุณมีโอกาสที่จะปรับความเร็วและในกรณีของหนังสือเสียงความเร็วจะถูกกำหนดโดยผู้อ่านโดยเจตนา
ในทางกลับกัน ระยะเวลาของการบันทึกเสียงทำให้คุณสามารถคาดเดาและกระจายเวลาได้สะดวกยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การเดินทางกลับบ้านและไปทำงานคือ 2 ชั่วโมง และหนังสือเล่มนี้ประกอบด้วย 32 ชั่วโมง ซึ่งก็คือ 16 วันทำการหรือ 3 สัปดาห์
คุณสามารถทำเช่นเดียวกันกับหนังสือได้ แต่จะต้องมีการสะสมสถิติการอ่านบางอย่าง
โดยทั่วไปมีปัญหาอีกประการหนึ่งในหนังสือเสียง - ความเห็นอกเห็นใจต่อเสียงของผู้อ่าน แต่ทุกวันนี้ผู้อ่านหนังสือเสียงเป็นเลิศ (พวกเขามีการออกเสียงที่ดีเยี่ยม คำพูดที่ชัดเจน และการออกเสียงที่ดี)
คำตอบ
ความคิดเห็น
- ชีวประวัติสั้น ๆ ของ Ferdinand Foch
- Isaev I.F., Mishchenko A.I., Shiyanov E.N. การสอน - ไฟล์ n1.doc สลาสเทนิน วี.เอ. วิธีการทำงานด้านการศึกษา - ไฟล์ n1.doc Slastenin ในสถาบันการศึกษา m การสอน
- การบัญชีภาษีของสถาบันของรัฐ ขั้นตอนการคำนวณภาษีและการชำระล่วงหน้า
- การกลับเข้าทำงานตามคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงาน