ชื่อนักร้อง รีด. ความลับสุดท้าย
เข้าโรงเรียนนายร้อยแล้ว ฉันเรียนที่นั่นหนึ่งปี
พ่อซื้อม้า Blondie ให้กับ Dean ในราคา 150 ดอลลาร์
เพื่อเป็นเกียรติแก่แฟนสาวของเขา Dean เขียนเพลงแรกของเขาชื่อ "อย่าปล่อยให้เธอไป" ("อย่าปล่อยให้เธอไป")
กรกฎาคม – คณบดีสร้างสถิติการวิ่งมาราธอนด้วยการวิ่ง 110 ไมล์
คณบดีเข้ามหาวิทยาลัยโคโลราโดเพื่อศึกษาอุตุนิยมวิทยา
สิงหาคม - ดีนไปฮอลลีวูดในช่วงวันหยุดฤดูร้อนและเซ็นสัญญากับบริษัทแผ่นเสียง Capital Records (ลอสแองเจลิส)
กุมภาพันธ์ - เพลง “Search” (“Memory”) ร้องโดย Dean Reed ขึ้นอันดับที่ 96 ในรายชื่อ “Hot 100 Charts” ของนิตยสาร Billboard
Dean Reed แสดงทางทีวีในรายการ Bachelor Fater Show พร้อมเพลง "Twirly twirly"
ดีน รีด เข้าเรียนในโรงเรียนการแสดงของบริษัทภาพยนตร์วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ภายใต้การดูแลของพาตัน ไพรซ์
4 ตุลาคม - เพลง Our Summer Romance ของ Dean Reed ขึ้นอันดับ 2 ใน 50 อันดับแรก
Dean Reed อาศัยอยู่ในนิวยอร์ก
มีนาคม - จาก Capital Records Dean Reed ไปทัวร์ครั้งแรก - ไปยังละตินอเมริกา (ชิลี, บราซิล, เปรู, อาร์เจนตินา) ในชิลี เขาได้พบกับประธานาธิบดีในอนาคตของประเทศ ซัลวาดอร์ อัลเลนเด
ธันวาคม - เพลง“ Our Summer Romance” เกิดขึ้นที่ 1 ในขบวนพาเหรดยอดฮิตของละตินอเมริกา
ต้นปี - Dean Reed ออกเดินทาง (หลายเดือน) ไปยังชาวอินเดียนแดงใน Amazon ของบราซิล
พฤษภาคม - ดีน รีด เขียนจดหมายถึงหนังสือพิมพ์ชิลีชื่อดังต่อต้านการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ
Dean Reed แสดงใน Guadalajara ในฤดูร้อน ในงานเทศกาลที่เมืองอะคาปุลโก (เม็กซิโก) ภาพยนตร์เรื่องนี้คว้ารางวัลไป 2 รางวัล
ในเม็กซิโก Dean Reed แต่งงานกับนักแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูด Patricia (Patty) Hobbs
Dean Reed แสดงทางทีวีอาร์เจนตินาในรายการ "Todo es amor"
ภาพยนตร์เรื่อง "First Love" (อาร์เจนตินา) นำแสดงโดย Dean Reed ได้รับการปล่อยตัว
Dean Reed จัดรายการของตัวเองทุกวันเสาร์ทางทีวีอาร์เจนตินา
10-15 กรกฎาคม – ดีน รีด เดินทางไปเฮลซิงกิเพื่อเข้าร่วมการประชุม World Peace Congress โดยเป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้แทนชาวอาร์เจนตินา หลังจากจบการประชุมเขาจะไปเยือนมอสโก
สิงหาคม - Dean Reed เข้าร่วมเป็นแขกในงานฉลองครบรอบ 15 ปีการประกาศเอกราชของอาร์เจนตินา
Dean Reed ลงทะเบียนเรียนแบบไม่อยู่ในฐานะนักศึกษาปีแรกที่มหาวิทยาลัยโคโลราโด (ภาควิชาอุตุนิยมวิทยา)
ภาพยนตร์เรื่อง "New Wave" (อาร์เจนตินา) ที่มีส่วนร่วมของ Dean Reed ได้รับการปล่อยตัว
กุมภาพันธ์ - Dean Reed ในเมืองคารากัส (เวเนซุเอลา) เขียนบทกวี "The Planet Cannot Live Without Wars"
มีนาคม - เช เกวาราพักหนึ่งคืนที่บ้านของ Dean Reed ในบัวโนสไอเรส
ปลายเดือนมิถุนายน - ดีน รีด ออกจากอาร์เจนตินาและย้ายไปสเปน
1 ตุลาคม - 30 พฤศจิกายน - Dean Reed ในสหภาพโซเวียต: 3-5, 7-9 ตุลาคม - คอนเสิร์ตที่ GTE; 8 ตุลาคม – แถลงข่าวที่คณะกรรมการสันติภาพโซเวียต 11-15 ตุลาคม – คอนเสิร์ตในเลนินกราด; 17-21 ตุลาคม – คอนเสิร์ตในเยเรวาน; 24-28 ตุลาคม – คอนเสิร์ตในทบิลิซี; 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน – คอนเสิร์ตในบากู; 5 พฤศจิกายน – การแสดงที่โรงละคร Taganka ในมอสโก 12-13 พฤศจิกายน – คอนเสิร์ตใน Rostov-on-Don, 15-18 พฤศจิกายน – คอนเสิร์ตใน Kislovodsk, 20-23 พฤศจิกายน – คอนเสิร์ตในริกา; 27-29 พฤศจิกายน – คอนเสิร์ตที่ Variety Theatre ในมอสโก
แพทริเซียนอนอยู่ในเครมลินและสูญเสียลูกของเธอที่นั่น
ธันวาคม - ดีน รีด ถูกขึ้นบัญชีดำในสเปน และย้ายไปอิตาลีพร้อมกับแพทริเซีย
ฤดูใบไม้ผลิ - Dean Reed และ Patricia เลิกกัน: Dean ยังคงอาศัยอยู่ในอิตาลีและเธอเดินทางไปสหรัฐอเมริกาซึ่งเธอจะแต่งงานกับนักฟุตบอลจากเท็กซัส แต่ดีนก็พาเธอกลับไปที่โรม
กรกฎาคม-สิงหาคม - คณบดีแสดงใน “สปาเก็ตตี้ตะวันตก” เรื่องแรก “Buccaro” (อิตาลี - สเปน)
สิงหาคม – แพทริเซียตั้งครรภ์
กันยายน - Dean Reed ในกรุงโรมเขียนบทกวี "We Are Revolutionaries" ซึ่งอุทิศให้กับวันครบรอบ 50 ปีของเดือนตุลาคม
มกราคม-มีนาคม - คณบดีแสดงในรายการสปาเก็ตตี้ตะวันตก "พระเจ้าสร้างพวกเขา ฉันจะฆ่าพวกเขา" (อิตาลี - สเปน)
เมษายน-มิถุนายน - คณบดีแสดงในภาพยนตร์เรื่อง "Nephews of Zorro" (อิตาลี - สเปน)
ฤดูร้อน – Dean Reed เยือนประเทศมองโกเลีย
ภาพยนตร์เรื่อง "Nephews of Zorro" (อิตาลี - สเปน) โดยการมีส่วนร่วมของ Dean Reed ได้รับการปล่อยตัว
ฤดูใบไม้ร่วง - Dean Reed เข้าร่วมในการประท้วงต่อต้านสงครามเวียดนามที่หน้าสถานทูตอเมริกัน จับกุมเป็นเวลาหลายชั่วโมง
ภาพยนตร์เรื่อง "Gang of Three Chrysanthemums" (อิตาลี-สเปน), "Death Knocks Twice" (อิตาลี-เยอรมนี) โดยการมีส่วนร่วมของ Dean Reed ได้รับการปล่อยตัว
2-6 เมษายน - คณบดีรีดในกรุงมอสโกที่ห้องประชุมสภาสันติภาพโลกซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่วันครบรอบ 100 ปีการเกิดของ V. I. เลนิน
28 สิงหาคม – ดีน รีด ซักธงชาติอเมริกันที่หน้าสถานทูตสหรัฐฯ ในซานติอาโก มีส่วนร่วมในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของซัลวาดอร์ อัลเลนเด
ภาพยนตร์ที่นำแสดงโดย Dean Reed ได้รับการปล่อยตัว: "Saranda", "Pirates of the Green Island" (อิตาลี - สเปนทั้งหมด)
27 มกราคม – Literaturnaya Gazeta เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกจาก Dean Reed ถึง Alexander Solzhenitsyn
มกราคม-เมษายน - Dean Reed จัดคอนเสิร์ตในชิลีเพื่อสนับสนุน Allende
3-18 กรกฎาคม – ดีน รีด เข้าประเทศอาร์เจนตินาอย่างผิดกฎหมายผ่านอุรุกวัย เขาถูกจับและโยนเข้าคุกวิลา โดโวโต หลังจากถูกคุมขัง 16 วัน คณบดีก็ได้รับการปล่อยตัวและเนรเทศออกจากประเทศ
20 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม – ดีน รีด เข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่กรุงมอสโก พบกับนักแสดงภาพยนตร์ชาวเอสโตเนีย Evi Kivi
10 สิงหาคม - 30 กันยายน - Dean Reed จัดคอนเสิร์ตในแปดเมืองของสหภาพโซเวียต: เลนินกราด (12-16 สิงหาคม), เคียฟ (20-22 สิงหาคม), โอเดสซา (24-26 สิงหาคม), ทบิลิซี (5-11 กันยายน) โนโวซีบีสค์ (13-19 กันยายน), วลาดิวอสต็อก, มอสโก (29-30 กันยายน) เป็นต้น
25-29 พฤศจิกายน – Dean Reed เข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์สารคดีนานาชาติที่เมืองไลพ์ซิก พบกับ Wibke Dornbach ครูวัย 30 ปีและเป็นญาติของประธาน SED Erich Honecker
ภาพยนตร์เรื่อง "Goodbye Sabata" (อิตาลี - สเปน) โดยการมีส่วนร่วมของ Dean Reed ได้รับการปล่อยตัว
12-28 กุมภาพันธ์ – Dean Reed ในมอสโก, คอนเสิร์ตที่ GTE (12-13, 15-16 กุมภาพันธ์), “ ตุลาคม” (18-19 กุมภาพันธ์), State Central Concert Hall “ รัสเซีย” (24, 27-28 กุมภาพันธ์)
มิถุนายน-กรกฎาคม – ดีน รีด กำลังถ่ายทำในสเปนในภาพยนตร์เรื่อง “Clash of the Titans” (อิตาลี-สเปน)
22-26 สิงหาคม – Dean Reed เป็นแขกรับเชิญในเทศกาลเพลงป๊อปนานาชาติที่เมืองโซพอต (โปแลนด์)
กันยายน-ตุลาคม - Dean Reed แสดงใน GDR และโรมาเนียในสตูดิโอภาพยนตร์ DEFA เรื่อง From the Life of a Slacker (The Slacker)
ผู้กำกับเวิร์นฟรีด ฮูเบลกำลังสร้างภาพยนตร์เรื่อง “Dean Reed – Singer of Another America”
พฤศจิกายน - Dean Reed เข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์สารคดีนานาชาติที่เมืองไลพ์ซิกในฐานะแขกผู้มีเกียรติ
24 กุมภาพันธ์ – Dean Reed เข้าร่วมในเทศกาลความสามัคคีชิลี-เวียดนามในประเทศอุรุกวัย แผ่นดิสก์ของ Dean Reed ก็กำลังออกมาที่นั่นเช่นกัน
Dean Reed กำลังถ่ายทำในสเปนในภาพยนตร์เรื่อง “Fist, Beans and... Karate” (อิตาลี-สเปน)
ปลายเดือนพฤษภาคม - Dean Reed เข้าร่วมในการประชุม Asian Congress of Peace Forces ที่กรุงธากา (บังคลาเทศ)
ต้นเดือนมิถุนายน - Dean Reed เยือนปานามา เวเนซุเอลา สหรัฐอเมริกา
มิถุนายน – ภาพยนตร์เรื่อง “From the Life of a Slacker” ออกฉายบนหน้าจอ GDR
28 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม – Dean Reed เข้าร่วมในเทศกาลเยาวชนและนักเรียนในเบอร์ลินตะวันออก
31 กรกฎาคม – ดีน รีด แต่งงานกับวีบเคอ งานแต่งงานเกิดขึ้นที่เมือง Debelne (ประชากร 28,000 คน)
สิงหาคม – Dean Reed อยู่ในเม็กซิโกและชิลี
27 สิงหาคม - Dean Reed เข้าร่วมในเทศกาลศิลปะในมอนเตวิเดโอ (อุรุกวัย) ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์คอมมิวนิสต์อุรุกวัย Popular (ตามคำเชิญของ Rodney Arismendi เลขาธิการคนที่ 1 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งอุรุกวัย)
กุมภาพันธ์ - ดีน รีดแสดงในเชโกสโลวะเกียในสตูดิโอภาพยนตร์ DEFA เรื่อง Keith and Co ที่สร้างจากหนังสือเรื่อง Smoke Bellew ของ Jack London
เมษายน – ถ่ายทำ “Kit and K” ใน GDR ทัวร์ใน GDR และเชโกสโลวะเกีย
กรกฎาคม - Dean Reed แสดงที่เทศกาลเพลงและการเต้นรำในเมืองทูรินเจีย (GDR)
สิงหาคม - ตุลาคม - ดีน รีดแสดงใน GDR และโรมาเนียในภาพยนตร์ของสตูดิโอภาพยนตร์ DEFA เรื่อง "Blood Brothers" ซึ่งเขาปรากฏตัวในสองรูปแบบ: ในฐานะผู้เขียนบทและนักแสดงนำ (ฮาร์โมนิกา)
13 ธันวาคม - Dean Reed แสดงที่ Friedrichstadtpalast ในกรุงเบอร์ลินในคอนเสิร์ตเพื่อเป็นเกียรติแก่วันครบรอบ 25 ปีขององค์กรบุกเบิก Ernst Thälmann
มกราคม - ดีน รีดแสดงใน GDR และโรมาเนียในสตูดิโอภาพยนตร์ของ DEFA เรื่อง "Blood Brothers" (ดีนเป็นผู้เขียนบทและนักแสดงนำ - Harmonica)
มีนาคม-เมษายน - Dean Reed แสดงทัวร์ในสหรัฐอเมริกา, คิวบา, ฮังการี, เชโกสโลวะเกีย (ในช่วงหลังเขาจัดคอนเสิร์ต 13 ครั้งซึ่งมีผู้ชมเข้าร่วม 57.5,000 คน)
พฤษภาคม - ดีน รีด แทรกซึมเข้าไปในชิลีของปิโนเชต์ และจบลงที่บาร์ ตามคำตัดสินของศาล เขาได้รับโทษจำคุก 10 ปีจากการเรียกร้องให้ล้มล้างระบบที่มีอยู่
หลังจากอดอาหารประท้วงเป็นเวลาสามวัน ดีน รีดก็ถูกปล่อยตัวและถูกไล่ออกจากประเทศ
มิถุนายน – ภาพยนตร์เรื่อง “Blood Brothers” เข้าฉายบนหน้าจอ GDR
23 กันยายน – หนังสือพิมพ์ “วัฒนธรรมโซเวียต” ตีพิมพ์บทกวีของ Dean Reed เรื่อง “I Think about You, Miss You, Love You” ซึ่งพูดถึงการที่เขาอยู่ในคุกชิลี (แปลโดย Evgeniy Dolmatovsky)
ตุลาคม - Dean Reed พบกับแม่ของเขาในระหว่างการประชุม World Congress of Women ในเบอร์ลินตะวันออก
พฤศจิกายน - Dean Reed ทัวร์สหภาพโซเวียตเป็นครั้งที่ 4: ในวันที่ 15-16 พฤศจิกายนเขาจะจัดคอนเสิร์ตที่ Variety Theatre ในมอสโก 19-20 พฤศจิกายน – ที่สนามกีฬาในเมืองริกา 22-23 พฤศจิกายน – ที่ Kalev Sports House ในทาลลินน์; 26-27 พฤศจิกายน - ที่ Great Concert Hall "Oktyabrsky" ในเลนินกราด (ในเลนินกราดเขาเข้าร่วมในการประชุมผู้แทนระดับโลกของขบวนการแห่งชาติเพื่อสันติภาพในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน) 29-30 พฤศจิกายน – ที่ Moscow Variety Theatre (คอนเสิร์ตทั้งหมดร่วมกับ Dieter Julick Orchestra)
มกราคม – มีนาคม – Dean Reed บันทึกแผ่นดิสก์ “Dean Reed a jeho svet” ที่สตูดิโอ Suprafon (เชโกสโลวะเกีย)
ฤดูร้อน - ดีน รีด เยือนสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาอาศัยอยู่กับแพทริเซีย อดีตภรรยาของเขา
กุมภาพันธ์ – เริ่มถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “El Cantor” (“The Singer”) ดีน รีด ทำหน้าที่เป็นผู้เขียนบท ผู้กำกับ และนักแสดงนำ (นักร้องชาวชิลี วิกเตอร์ เลเบน)
กรกฎาคม-สิงหาคม – ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “El Cantor” (“The Singer”)
กันยายน - Dean Reed บันทึกแผ่นดิสก์ “My Song for You” ในปราก ที่สตูดิโอ Suprafon
กันยายน-ตุลาคม - ดีน รีด อยู่ในเลบานอนตอนใต้ ที่ฐานทัพกองโจรองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (PLO)
พฤศจิกายน – ดีน รีด และวีบเคอหย่าร้าง
22 ธันวาคม - ในเบอร์ลินตะวันออก ที่โรงภาพยนตร์ Cosmos มีการฉายรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง "El Cantor" ("The Singer")
9 มกราคม – ดีน รีด ในกรุงมอสโก ซึ่งเขาได้รับรางวัลเหรียญตราจากคณะกรรมการสันติภาพโซเวียต “นักสู้เพื่อสันติภาพ”
มกราคม - กุมภาพันธ์ - Dean Reed บันทึกแผ่นดิสก์ "My Song for You" ในปราก
พฤษภาคม – Dean Reed เข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์ Karlovy Vary (เชโกสโลวะเกีย) ด้วยภาพยนตร์เรื่อง “El Cantor” (“The Singer”) ดีนร่วมกับนักแสดงและเพื่อน Vaclav Neckar เข้าร่วมการชุมนุมเยาวชนในเมือง Kralov
มิถุนายน - Dean Reed เข้าร่วมในเทศกาลข่าวเบอร์ลินตะวันออก
28 ตุลาคม – ดีน รีด ในสหรัฐอเมริกา ฉายภาพยนตร์เรื่อง “El Cantor” (“The Singer”) ให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัย Minneapolis (Minnesota)
29 ตุลาคม – ดีน รีด ถูกจับในข้อหาเข้าร่วมการสาธิตของเกษตรกรในเมืองเดลาโน รัฐมินนิโซตา
11 พฤศจิกายน - จดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดี. คาร์เตอร์ ถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์โซเวียต โดยขอให้เขาปล่อยตัวนักร้อง คำร้องนี้มีลายเซ็นของผู้มีชื่อเสียง: Maya Plisetskaya, Maxim Shostakovich, Ilya Oistrakh, Yuri Temirkanov, Evgeny Nesterenko
13 พฤศจิกายน - คณะลูกขุนพิจารณาคดีคณบดีรีดในไรท์เคาน์ตี้ (มินนิโซตา) และไม่พบว่ามีความผิด
ธันวาคม - ทัวร์คอนเสิร์ตของ Dean Reed ใน 20 เมืองใน GDR
8-12 มกราคม – Dean Reed ในมอสโก: เข้าร่วมงานเลี้ยงปีใหม่ในเครมลิน 9 มกราคม – แสดงคอนเสิร์ตที่ Palace of Pioneers บน Lenin Hills 12 มกราคม – แสดงที่โรงภาพยนตร์ EMU
มกราคม - Dean Reed แสดงคอนเสิร์ตในเมือง Hetsstadt (GDR) เขากำลังเขียนบทภาพยนตร์เรื่องต่อไปของเขาเรื่อง “Cowboys” (“Sing, Cowboy, Sing”)
กุมภาพันธ์ - ดีน รีดถ่ายทำรายการ "The Man from Colorado" ทางโทรทัศน์ของเยอรมันตะวันออก โดยมีฟิล เอเวอร์ลี เพื่อนของเขามีส่วนร่วม การถ่ายทำในเมืองคาร์ล-มาร์กซ์-สตัดท์
มีนาคม – Dean Reed พูดที่โรงเรียนมัธยมหมายเลข 15 ในเมือง Schmockwitz (เบอร์ลินตะวันออก)
10-18 มีนาคม – Dean Reed แสดงในชุด “Alex Bummel” ที่ Palace der Repubblik ในเบอร์ลินตะวันออก
เมษายน - ทัวร์คอนเสิร์ตของ Dean Reed ในเชโกสโลวะเกีย
21 พฤษภาคม - Dean Reed แสดงคอนเสิร์ตในการชุมนุมแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชิลีที่ Nepstadion ในบูดาเปสต์ (ฮังการี) ต่อหน้าผู้ชม 70,000 คน
กรกฎาคม - ดีน รีด อยู่บนเกาะประมงแห่งหนึ่งในทะเลเหนือ โดยถ่ายทำบทเรื่อง "Cowboys" ("Sing, Cowboy, Sing")
1-3 สิงหาคม – Dean Reed อยู่ที่มอสโก ซ้อมรายการคอนเสิร์ตกับ VIA “Verasy” เพื่อทัวร์ BAM
8-20 สิงหาคม – ทริปไปตาม BAM. คอนเสิร์ตเกิดขึ้นที่ไทกาบนเวทีชั่วคราว (ครั้งหนึ่งดีนเคยร้องเพลงบนหลังคารถไฟด้วยซ้ำ)
21 สิงหาคม - คณบดี รีด แถลงข่าวที่คณะกรรมการองค์กรเยาวชนในกรุงมอสโก ซึ่งเขาพูดถึงการทัวร์ที่ BAM
2-3 กันยายน - Dean Reed ในกรุงเวียนนาเข้าร่วมในการเฉลิมฉลอง Volksstimme หนังสือพิมพ์คอมมิวนิสต์ของออสเตรีย
7 กันยายน – ดีน รีดเข้าร่วมในการซ้อมรายการโทรทัศน์ “Kessel Buntes” (“The Motley Cauldron”) ใน Friedrichstadpalais ในเบอร์ลินตะวันออก
กันยายน-ตุลาคม - Dean Reed ทัวร์ชม GDR (คอนเสิร์ตใน 26 เมือง)
29 ตุลาคม – การตัดสินใจของคณะกรรมการกลาง Komsomol ที่จะมอบรางวัล Lenin Komsomol Prize ให้กับ Dean Reed สำหรับเพลงที่อุทิศให้กับความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สันติภาพ และมิตรภาพของประชาชนที่ต่อต้านลัทธิจักรวรรดินิยม
15 ธันวาคม – ดีน รีด เข้าร่วมในการชุมนุมเพื่อความสามัคคีกับผู้คนในกัมพูชาที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในย่านมิทเทอ เบอร์ลินตะวันออก
มีนาคม-เมษายน - Dean Reed บันทึกแผ่นดิสก์ "Rock and Roll, Country and Romance" ในปรากที่สตูดิโอ Suprafon
24-26 พฤษภาคม - Dean Reed เข้าร่วมในการชุมนุมมิตรภาพระหว่างเยาวชนของ GDR และสหภาพโซเวียตในเมือง Karl-Marx-Stadt (GDR)
มิถุนายน-กรกฎาคม – ดีน รีดแสดงในโรมาเนียในภาพยนตร์เรื่อง “Sing, Cowboy, Sing”
14 มีนาคม – Dean Reed แสดงในคอนเสิร์ต Motley Cauldron ที่ Palace der Repubblik ในเบอร์ลินตะวันออก
เมษายน - Dean Reed เข้าร่วมในคอนเสิร์ต "Give Peace a Chance" ในห้องแสดงคอนเสิร์ตที่ใหญ่ที่สุดในเบอร์ลินตะวันออกคือ Congresshall
เมษายน-พฤษภาคม - ทัวร์สหภาพโซเวียตของ Dean Reed: มินสค์ (18-20 เมษายน), เคียฟ (23-26 เมษายน, พระราชวังแห่งวัฒนธรรม "ยูเครน"), เลนินกราด (28 เมษายน - 1 พฤษภาคม), มอสโก (7 พฤษภาคม ที่ State Central ห้องคอนเสิร์ต " รัสเซีย").
7-21 กรกฎาคม – Dean Reed และ Renata Blume เข้าร่วมในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติมอสโกด้วยภาพยนตร์เรื่อง “Sing, Cowboy, Sing”
28 สิงหาคม – ดีน รีด เข้าร่วมการชุมนุมของนักข่าวที่ Alexanderplatz ในเบอร์ลินตะวันออก
กันยายน - Dean Reed บันทึกซีดี "Dean Reed Country" ในปราก ที่สตูดิโอ Suprafon
22 กันยายน - ในวันเกิดปีที่ 43 ของเขา Dean Reed แต่งงานกับ Renate Blume (สำนักงานทะเบียนในเขต Kopenick ของเบอร์ลินตะวันออก)
29 พฤศจิกายน – ดีน รีด เข้าร่วมคอนเสิร์ตความสามัคคีที่ Palace der Repubblik ในเบอร์ลินตะวันออก
มีนาคม - Dean Reed ในมอสโก คอนเสิร์ตที่ Variety Theatre วันที่ 3-5, 7-9, 11-12, 14-15 พร้อมด้วยวงดนตรี Evergin Juniors (GDR)
มีนาคม - Dean Reed พบปะที่เบอร์ลินกับ Yasser Arafat ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือน GDR อย่างเป็นทางการ
พฤษภาคม-มิถุนายน - Dean Reed เข้าร่วมทัวร์ GDR
มกราคม – ภาพยนตร์เรื่อง "Sing, Cowboy, Sing" เข้าฉายในสหภาพโซเวียต
ดีน รีดเยือนเลบานอนเป็นครั้งที่สอง
8-9 กรกฎาคม – Dean Reed เข้าร่วมการซ้อมรายการทีวี “The Motley Cauldron” ที่ Palace der Repubblik รูธ แอนนา แม่ของคณบดีปรากฏตัวในการบันทึกในฐานะแขกรับเชิญ
19 สิงหาคม – คณบดี รีดจัดคอนเสิร์ตที่มหาวิทยาลัยซานติเอโกสำหรับนักศึกษา 2,000 คน เช้าวันรุ่งขึ้น คณบดีถูกไล่ออกจากประเทศ
25 สิงหาคม - ดีน รีด ในกรุงมอสโก แถลงข่าวที่คณะกรรมการสันติภาพโซเวียตเกี่ยวกับการเดินทางไปชิลี
3-4 กันยายน - Dean Reed ในกรุงเวียนนาเข้าร่วมในการเฉลิมฉลอง Volksstimme หนังสือพิมพ์คอมมิวนิสต์ของออสเตรีย เมื่อกลับมาที่ GDR เขาได้เขียนบท Wounded Knee (Bleeding Heart or Dangerous Intimacy) เสร็จเรียบร้อยแล้ว
27 พฤศจิกายน – ดีน รีด แสดงคอนเสิร์ตเพลงการเมืองที่ Palace der Repubblik ในเบอร์ลินตะวันออก
กุมภาพันธ์ - Dean Reed เข้าร่วมในเทศกาลเพลงการเมืองประจำปีในเบอร์ลินตะวันออก
18-20 พฤษภาคม – Dean Reed ในมอสโกแสดงในรายการคอนเสิร์ต “Prospect Mira Meets Friends” ที่ศูนย์กีฬา Olimpiysky ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลดนตรีนานาชาติ II
31 สิงหาคม – ดีน รีด พูดในการชุมนุมของนักข่าวที่ Alexanderplatz ในเบอร์ลินตะวันออก ในวันเดียวกันนั้น เขาออกเดินทางไปยังพอทสดัม ซึ่งเขาแสดงที่เวเบอร์พลัทซ์
8 กันยายน - Dean Reed แสดงที่ The Motley Cauldron ที่พระราชวัง Friedrichstadt ในเบอร์ลินตะวันออก
กันยายน - ดีน รีด เดินทางมายังอาร์เจนตินาตามคำเชิญของสภาสันติภาพอาร์เจนตินา เขาไม่ได้อยู่ในประเทศนี้เป็นเวลา 18 ปี
18 พฤศจิกายน – ดีน รีด เข้าร่วมคอนเสิร์ตความสามัคคีที่ Palace der Repubblik ในเบอร์ลินตะวันออก
11 มกราคม – ดีน รีดในการซ้อมรายการโทรทัศน์สำหรับเยาวชนเรื่อง “Around” ในแฟรงก์เฟิร์ต อันเดอร์โอเดอร์ (GDR)
กรกฎาคม - Dean Reed ในสหภาพโซเวียตเลือกสถานที่ในยัลตาสำหรับภาพยนตร์เรื่อง "Bleeding Heart" ("Dangerous Intimacy")
เมื่อวันที่ 22 กันยายน คณบดีฉลองวันเกิดครั้งสุดท้ายของเขาในมอสโกร่วมกับเพื่อนของเขา มีการเจรจาเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ Dean เรื่อง “Dangerous Intimacy” (“Bleeding Heart”) ที่นั่นด้วย
16 ตุลาคม – ดีน รีด ร่วมกับผู้กำกับวิล โรเบิร์ตส์ เดินทางถึงเดนเวอร์ (สหรัฐอเมริกา) ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา พวกเขานำสารคดีเรื่อง American Rebel (เกี่ยวกับ Dean Reed) มาที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ
17 ตุลาคม – ดีน รีด ให้สัมภาษณ์กับพิธีกรรายการวิทยุ ปีเตอร์ บอยล์ ในวันเดียวกันนั้น มีการฉายภาพยนตร์เรื่อง American Rebel ที่ Tivoli Center ในเดนเวอร์
มกราคม - Dean Reed เข้าร่วมในการบันทึกแผ่นดิสก์ "Dean Reed" ในปราก
10 กุมภาพันธ์ – ดีน รีด มาถึงมอสโกเพื่อให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์อเมริกันเรื่อง 60 Minutes ทางช่อง ABC
มีนาคม - Dean Reed อยู่ที่งาน Leipzig Book Fair ซึ่งมีชีวประวัติของเขา (ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 ตั้งแต่ปี 1980) นอกเหนือไปจากหนังสือเล่มอื่นๆ
20 เมษายน – รายการโทรทัศน์ ABC “60 Minutes” ออกอากาศในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการสัมภาษณ์ดีน รีด
6-7 พฤษภาคม – Dean Reed ในเมืองไลพ์ซิกซ้อมตอนต่อไปของรายการโทรทัศน์คันทรี่เรื่อง “The Man from Colorado”
Dean Reed กำลังไปพักผ่อนในเมือง Karlovy Vary (เชโกสโลวะเกีย) ร่วมกับนักดนตรี Neil Jacob (สหรัฐอเมริกา) Dean Reed เดินทางไปปราก
8 มิถุนายน - ดีน รีด ทะเลาะกับเรนาตา บลูม และพยายามฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ เขาใช้มีดพร้าบาดมือ
24 มิถุนายน - ดีน รีด ถูกเผาในโรงเผาศพแห่งหนึ่ง (Baumschulenweg) ในเบอร์ลินตะวันออก
แม่ของ Dean Reed ได้ขนขี้เถ้าของลูกชายไปที่สุสาน Green Montana ในเมือง Boulder (สหรัฐอเมริกา)
เนื้อหาที่นำมาจากหนังสือโดย F. Razzakov
"คณบดีรีด: โศกนาฏกรรมของคาวบอยแดง"
วันนี้ฉันจะแนะนำให้คุณรู้จักกับหนังสือ “Red Elvis” โดย Stefan Ernsling ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Aufbau ในกรุงเบอร์ลิน
“ Red Elvis” - นี่คือวิธีที่ครั้งหนึ่ง Dean Reed เคยถูกเรียกว่า ค่อนข้างจะเปรียบเทียบเขากับ Elvis Presley ดาราร็อกแอนด์โรล ชื่อของเขาอาจไม่มีความหมายอะไรสำหรับหลายๆ คนในปัจจุบัน แต่ในช่วงอายุเจ็ดสิบและต้นทศวรรษที่แปดสิบต้นๆ นักร้องเพลงร็อคชาวอเมริกันที่ "อ่อนหวาน" และนักสู้ที่แข็งขันเพื่อต่อต้านลัทธิจักรวรรดินิยมของอเมริกาได้รับความนิยมอย่างมากในสหภาพโซเวียตและประเทศสังคมนิยมอื่น ๆ ได้รับความนิยมในความเป็นจริงแม้ว่าเขาจะมีบทบาทโฆษณาชวนเชื่อมาโดยตลอดก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วเราไม่รู้จัก "ดวงดาว" ของตะวันตกที่แท้จริงเลย การปรากฏตัวของหนุ่มหล่อตาสีฟ้าในหมวกคาวบอยและรองเท้าบู๊ตคาวบอยพร้อมกีตาร์และแม้แต่การร้องเพลงเป็นภาษาอังกฤษก็ทำให้เวทีสังคมนิยมอนาถเสียหายอย่างแท้จริง
มีการสร้างตำนานมากมายเกี่ยวกับดีน รีด และแม้ว่าบางส่วน (โดยหลักแล้วสร้างขึ้นจากการโฆษณาชวนเชื่อ) ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ชีวิตของเขาตลอดจนการเสียชีวิตของเขา ก็สมควรได้รับความสนใจและสมควรที่จะเขียนหนังสือเกี่ยวกับพวกเขาอย่างเต็มที่
Dean Reed เกิดในปี 1938 ในเมืองเล็กๆ ชานเมืองเดนเวอร์ (โคโลราโด) เขาเติบโตขึ้นมาในขณะที่เขาพูดในภายหลังว่า "ในฟาร์มปศุสัตว์บนภูเขา" ไปเล่นกีฬา (ครั้งหนึ่งเคยสร้างสถิติของโรงเรียนในการแข่งขันวิ่งมาราธอน) และชื่นชอบการขี่ม้า ต่อมาสิ่งนี้มีประโยชน์มากสำหรับเขา: ดีน รีด ซึ่งเล่นอานม้าได้ยอดเยี่ยม แสดงในภาพยนตร์ตะวันตกหลายเรื่อง (แม้ว่าจะไม่ใช่อเมริกัน แต่เป็นอิตาลีและเยอรมันตะวันออก) เมื่อเป็นนักเรียนเขาเริ่มแสดงด้วยเพลงของเขา Dean Reed เล่นกีตาร์ร่วมกับตัวเอง เขารู้เพียงห้าคอร์ดเท่านั้น ไม่มีอีกแล้ว ดังนั้นเพลงจึงเรียบง่าย พวกเขาไม่ได้นำชื่อเสียงหรือเงินมาให้เขามากนัก แต่ในปี 1958 เขาโชคดี: โอกาสที่ได้พบกับโปรดิวเซอร์เพลงจบลงด้วยการเซ็นสัญญากับ Capitol Records ในเดือนมกราคมปี 59 อัลบั้มแรกของรีดได้รับการปล่อยตัว สิ่งแรกและดีที่สุดที่นักร้องบันทึกไว้ในชีวิตของเขานักวิจารณ์เชื่ออย่างเป็นเอกฉันท์ นิตยสารเพลงแห่งหนึ่งได้ประกาศซิงเกิลเปิดตัวของ Dean Reed เป็นเพลงเปิดตัวของสัปดาห์ และอีกหนึ่งเดือนต่อมาก็ขึ้นอันดับที่ 96 ในขบวนพาเหรดเพลงฮิตของอเมริกาทั้งหมด ซึ่งไม่แย่เลยสำหรับผู้มาใหม่ แต่แล้วเขาก็หายไปจากการจัดอันดับนี้ตลอดไป
จริงอยู่ที่ในเวลาต่อมาเมื่อ Dean Reed ตั้งรกรากใน GDR พวกเขาจำอัลบั้มอื่นของเขาที่ชื่อ "Our Summer Romance" (“ Our Summer Romance”) ได้ตลอดเวลาซึ่งถูกกล่าวหาว่าขึ้นอันดับสองในเพลงฮิตของอเมริกาทั้งหมดในปี 1959 พาเหรดและขายได้เกือบล้านเล่มทั่วโลก สิ่งนี้ควรจะเป็นการยืนยันตำนานเกี่ยวกับ American Dean Reed ผู้ซึ่งชอบค่ายสังคมนิยมในฐานะ "ดารา" ที่แท้จริง อนิจจา ข้อเท็จจริงบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่าง อัลบั้มของรีดเกิดขึ้นเป็นอันดับสองไม่ใช่ในขบวนพาเหรดเพลงฮิตของอเมริกา แต่อยู่ในรายการความนิยมของสถานีวิทยุแห่งเดียวในเดนเวอร์ บ้านเกิดของดีน รีด เห็นได้ชัดว่าสถานีเพลงท้องถิ่นเปิดเพลงของเพื่อนร่วมชาติอยู่ตลอดเวลา สำหรับอัลบั้มที่ขายได้หลายแสนอัลบั้มนั้นขายได้ดีไม่ใช่ในสหรัฐอเมริกา แต่ในละตินอเมริกาที่ไม่โอ้อวดทางดนตรีมากกว่ามาก นั่นคือจุดที่รีดถูกมองว่าเป็น "ดารา" ตัวจริงอย่างแท้จริง เขาออกทัวร์บ่อยครั้งและสนับสนุน "หัวก้าวหน้า" อย่างมากนั่นคือฝ่ายซ้ายพรรคมาร์กซิสต์และขบวนการ ตัวอย่างเช่น ในปี 1970 ที่ประตูสถานทูตสหรัฐฯ ในชิลี เขาได้แสดงการกระทำเชิงสัญลักษณ์ในการล้างธงชาติอเมริกันจากเลือดและสิ่งสกปรก ซึ่งดังที่รีดพูดอย่างโอ่อ่า "ความบริสุทธิ์แห่งความรักชาติของมันถูกทำให้เสื่อมเสียโดยลัทธิจักรวรรดินิยมอเมริกัน" ” โดยธรรมชาติแล้ว Dean Reed กลายเป็นเพื่อนที่ดีของสหภาพโซเวียต ที่นี่เขาได้รับการต้อนรับด้วยอาวุธที่เปิดกว้าง ตัวอย่างเช่นเขาเข้าร่วมในการเฉลิมฉลองที่อุทิศให้กับการครบรอบหนึ่งร้อยปีของเลนินในการประชุม Komsomol การประชุมของ World Peace Congress และงานที่คล้ายกัน อย่างไรก็ตาม เพื่อความเป็นธรรม ควรกล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไปชมคอนเสิร์ตของ Dean Reed ในสหภาพโซเวียต และดังที่เราได้กล่าวไปแล้ว เขาก็ได้รับความนิยมทั่วประเทศอย่างแท้จริงในสหภาพโซเวียตเช่นกัน
โปรดทราบว่าด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ที่เขามีต่อสหภาพโซเวียตและการสาปแช่งโลกแห่งเมืองหลวง Dean Reed จึงไม่รีบร้อนที่จะสละสัญชาติอเมริกันและในปี 1972 เขาตัดสินใจที่จะไม่ตั้งถิ่นฐานในสหภาพโซเวียต แต่ใน GDR ที่นี่เขาแต่งงานกับนักแสดงหญิงเรนาตา บลูม ครั้งหนึ่งและครั้งที่สอง (เธอรับบทเจนนี่ในภาพยนตร์เรื่อง "Karl Marx. Young Years" และตัวเธอเองยังเป็นผู้ได้รับรางวัลเลนินไพรซ์) จากที่นี่ จาก GDR คณบดีรีดอย่างอิสระซึ่งแตกต่างจากพลเมืองของ GDR ไม่เพียงทิ้งไว้ให้กับประเทศสังคมนิยมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาร์เจนตินา อุรุกวัย อิตาลี และบ้านเกิดของเขาที่สหรัฐอเมริกาด้วย แน่นอนว่าบุคคลดังกล่าวไม่สามารถถูกมองข้ามโดย Stasi - กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ GDR
ความมั่นคงของรัฐ GDR เริ่มสนใจ Dean Reed ในช่วงกลางทศวรรษที่เจ็ดสิบ ในเดือนเมษายนปี 1976 การติดต่ออย่างเป็นทางการครั้งแรกได้รับการวางแผนและดำเนินการอย่างรอบคอบ รายงานจากสำนักงานใหญ่ Stasi Second (การต่อต้านข่าวกรอง) ระบุว่ารีดประพฤติตน "เป็นมิตรและจริงใจอย่างยิ่ง" ซึ่งแสดงให้เห็นว่า - ฉันอ้าง - "จิตสำนึกของลัทธิมาร์กซิสต์" อย่างไรก็ตามคำถามที่น่าสนใจ: เหตุใด Dean Reed จึงได้รับการพัฒนาโดยเฉพาะจากการต่อต้านข่าวกรองของ GDR พวกสตาซีสงสัยจริงๆ หรือไม่ว่าลัทธิมาร์กซิสต์ออร์โธด็อกซ์ ผู้โฆษณาชวนเชื่อที่กระตือรือร้นในเรื่อง “การพิชิตสังคมนิยม” และนักสู้ที่แข็งขันเพื่อต่อต้านจักรวรรดินิยมอเมริกัน อาจเป็นตัวแทนของ CIA ได้หรือไม่? ไม่แน่นอน เห็นได้ชัดว่า Dean Reed ซึ่งปัจจุบันมีรายชื่ออยู่ในเอกสาร Stasi ภายใต้ชื่อเล่น "Victor" (นักร้องเลือกเอง) มีความสนใจในความมั่นคงของรัฐของ GDR เพราะเขามีคนรู้จักมากมายในหมู่ชาวต่างชาติและในขณะที่ พลเมืองอเมริกันสามารถเข้าสถานทูตสหรัฐฯ ในเบอร์ลินตะวันออกได้ฟรี และตามคำศัพท์เฉพาะของ KGB ของสหภาพโซเวียต และบริการข่าวกรอง "ภราดรภาพ" ของประเทศสังคมนิยมอื่น ๆ แล้ว สหรัฐอเมริกาก็เป็น "ศัตรูหลัก" อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเยอรมันตะวันออกก็ตระหนักว่า Dean Reed ไม่สามารถรับข้อมูลอันมีค่าใดๆ ได้ หรือแย่ที่สุดก็กลายเป็นตัวแทนที่มีอิทธิพลได้ ศักยภาพของเขามีน้อยเพราะตามที่เอกสารของ Stasi กล่าวไว้อย่างระมัดระวัง Dean Reed “ไม่เป็นที่รู้จักในสหรัฐอเมริกา”
มันจะแม่นยำกว่านี้: แทบไม่รู้จักเลย
หลังจากการประชุมลับหลายครั้งในระหว่างที่พวกเขาได้ยินว่าไม่มีอะไรคุ้มค่าจากนักร้องยกเว้นการรับรองความพร้อมที่จะช่วยเหลือทหารในแนวรบที่มองไม่เห็นคณบดีรีดเชิญเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปที่บ้านของเขาให้รายงานเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับการเดินทางไปเลบานอน (เขา อยู่ที่นั่นเพื่อชมคอนเสิร์ต) รายงานนี้ซึ่งเก็บรักษาไว้ในเอกสารสำคัญของ MGB ดูเป็นการเยาะเย้ย: Dean Reed แจ้งให้ Stasi ทราบ เช่น เบรุตซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาระหว่างภูเขาและทะเล ดูเงียบสงบ และพวกเขากินขนมปังและมะเขือเทศจำนวนมากที่นั่น
และสตาซีสนใจตะวันออกกลางมาก กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ GDR ยังคงติดต่ออย่างใกล้ชิดกับผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์ พวกเขาได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ ในอาณาเขตของ GDR ในการใช้วัตถุระเบิด อาวุธและกระสุน... แต่ไม่สามารถควบคุมกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ได้อย่างสมบูรณ์: พวกเขาดำเนินการเป็นระยะ ๆ โดยไม่ประสานงานกับพวกเขา ภัณฑารักษ์จากเบอร์ลินตะวันออกและมอสโกจึงทำให้ผู้สนับสนุนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ตำแหน่งคู่ ท้ายที่สุดแล้ว ประเทศในค่ายสังคมนิยมประณามการก่อการร้าย การผสมผสานการประณามนี้เข้ากับการสนับสนุนสิ่งที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า “การต่อสู้เพื่อปลดปล่อยชาวปาเลสไตน์” ไม่ใช่เรื่องง่าย
ดังนั้น: ที่นี่ Dean Reed อาจกลายเป็นแหล่งข้อมูลที่มีค่าอย่างแท้จริงสำหรับ Stasi เพราะเขาคุ้นเคยอย่างใกล้ชิดกับ Arafat ผู้นำขององค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์และเป็นแฟนตัวยงของผลงานของ "คาวบอยสังคมนิยม" เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ GDR พยายามหลายครั้งเพื่อถาม Dean Reed เกี่ยวกับองค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์ แต่เขาปฏิเสธที่จะหารือในหัวข้อนี้อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าพวกเขาจะพูดอะไรเกี่ยวกับเขา ดีน รีดก็เป็นนักอุดมคติ เขาแยกแยะได้ว่า การช่วยให้สตาซีเปิดเผยลัทธิจักรวรรดินิยมอเมริกันเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำได้ และเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องแย่งชิงพี่น้องชาวปาเลสไตน์ด้วยจิตวิญญาณ ในท้ายที่สุด ในระหว่างการประชุมครั้งหนึ่งกับ Erich Honecker ในฤดูใบไม้ร่วงปี 1978 Dean Reed ได้ร้องเรียนต่อเลขาธิการเกี่ยวกับ Stasi และเขาสั่งให้ปล่อยรีดไว้ตามลำพัง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะปฏิเสธที่จะร่วมมือกับความมั่นคงของรัฐของเยอรมันตะวันออก แต่คณบดี รีดก็ยังคงเป็นผู้สนับสนุนดั้งเดิมของความบริสุทธิ์ของอุดมการณ์ของลัทธิมาร์กซิสต์ และไม่เพียงแต่ไม่สนับสนุนผู้คัดค้านชาวเยอรมันตะวันออกเท่านั้น แต่ยังไม่ยอมยอมรับเปเรสทรอยกาของกอร์บาชอฟด้วยซ้ำ โดยพิจารณาว่าเป็นการกระทำที่ละทิ้งความเชื่อ การเปลี่ยนแปลงในสหภาพโซเวียตยังส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในอาชีพของคณบดีรีดเอง เขาสูญเสียความสดของนักสู้ที่ร้อนแรงและด้วยเหตุนี้คุณค่าทางอุดมการณ์ของเขา นอกจากนี้ประชาชนก็เริ่มไม่สนใจเขามากขึ้น หญิงสาวที่ส่งเสียงดังไม่ได้รวมตัวกันที่ประตูวิลล่าของเขาอีกต่อไป และเขาก็ไม่ได้หยุดอยู่บนถนนเพื่อขอลายเซ็นอีกต่อไป บ่อยครั้งที่ Dean Reed ตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้าและบ่อยครั้งมากขึ้นที่เริ่มพูดถึงการฆ่าตัวตาย
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2529 สามวันก่อนเสียชีวิต Dean Reed ตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์ไม่ดี ในตอนเช้าช่างภาพจากนิตยสาร "glossy" GDR มาถ่ายรูปชุดเพื่อรายงานว่านักร้องและภรรยานักแสดงของเขาอาศัยอยู่ในบ้านของพวกเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์เพียงใด ช่างภาพขอให้รีดโพสท่าพร้อมเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าด้วย เขาไม่รู้ว่าการตัดหญ้าเป็นงานที่คนอเมริกันเกลียดที่สุดงานหนึ่ง ดีนรีดสร้างเรื่องอื้อฉาวอย่างรุนแรงตะโกนใส่ภรรยาของเขาเข้าไปในห้องของเขาและที่นั่นล็อคตัวเองพยายามเปิดเส้นเลือดของเขาด้วยมีดแมเชเต้ที่นำมาจากละตินอเมริกา - มีดคมยาวสำหรับสับอ้อย นักร้องสร้างบาดแผลที่ไม่อันตรายให้กับตัวเองหลายสิบครั้งหลังจากนั้นเขาก็ออกจากห้องพร้อมคำพูด:“ อย่างน้อยพ่อของฉันก็มีพลังที่จะฆ่าตัวตาย และฉันก็ทำแบบนั้นไม่ได้ด้วยซ้ำ”
ในช่วงต้นทศวรรษที่ 80 พ่อของเขาซึ่งรีดแทบไม่ได้ติดต่อด้วยเลยเป็นเวลาหลายปี สูญเสียขาไปจากอุบัติเหตุ และในปี 1984 เขาได้ฆ่าตัวตาย
ความจริงที่ว่าลูกชายของเขาสามารถทำตามแบบอย่างของพ่อได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับภรรยา เพื่อนฝูง และบุคคลระดับสูงของ GDR แพทย์โทรหาดีน รีด ซึ่งพันผ้าพันแผลที่มือของเขาไว้ แล้วรีบรายงานทันทีว่า “จะไปไหน” Eberhard Fensch ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นนักร้องชาวอเมริกันจากกระทรวงวัฒนธรรมซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับรีดก็ไปพบเขาทันทีและพยายามชักชวนเขาไม่ให้ทำอะไรโง่ ๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมงและไม่พยายามฆ่าตัวตายซ้ำอีก ดีน รีดดูเหมือนจะเอาใจใส่คำตักเตือนเหล่านี้ ราวกับว่า…
วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2529 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในชีวิตของ Dean Reed ได้รับการบูรณะอย่างแท้จริงทุกนาทีโดยตำรวจอาชญากรของ GDR และกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ วันนั้นกลายเป็นวันที่ดีสำหรับเขาในตอนแรก ในที่สุดก็บรรลุข้อตกลงในการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่ของโซเวียต-GDR เรื่อง "Bleeding Heart" เกี่ยวกับการต่อสู้ของชาวอเมริกันอินเดียนเพื่อสิทธิของพวกเขา ทั้งคณะกรรมการของรัฐสำหรับการถ่ายภาพยนตร์ของสหภาพโซเวียตหรือสตูดิโอภาพยนตร์ริกาซึ่งภาพยนตร์ส่วนใหญ่ควรจะถ่ายทำหรือเจ้าหน้าที่เยอรมันตะวันออกที่เย็นชามากอยู่แล้ว (เนื่องจากนโยบายเปเรสทรอยกาที่พวกเขาปฏิเสธ) ต่อความร่วมมือกับ “พี่ใหญ่” - ไม่มีใครรีบร้อนกับโครงการนี้ และรีดใช้เวลามากกว่าสองปีในการเจรจาและการโน้มน้าวใจ ดังนั้นเมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะได้ผลนักแสดงหญิง Renata Blume ภรรยาของเขาก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์บทภาพยนตร์เรื่องนี้มีอุดมการณ์และโดยทั่วไปแล้วตรงไปตรงมาที่ล้าสมัย รีดรู้สึกขุ่นเคืองและเรื่องก็จบลงด้วยเรื่องอื้อฉาวอีกครั้งหลังจากนั้นนักร้องก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป เขารู้สึกขุ่นเคืองและดูถูก ความจริงที่ว่าไม่ใช่พรสวรรค์ของนักแสดงหรือนักร้องที่ถ่อมตัวมาก แต่การคำนวณทางการเมืองและสถานะที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวอเมริกันที่เลือก "อีกด้านหนึ่ง" ทำให้เขาสามารถทำอาชีพในค่ายสังคมนิยมได้ แม้แต่ใน GDR ซึ่งล่าช้าในเปเรสทรอยกา ก็มีการพูดออกมาดัง ๆ มานานแล้ว หลังจากที่สหภาพโซเวียตและประเทศสังคมนิยมอื่นๆ เริ่มเปิดกว้างต่อโลกและมีการบันทึก "ดารา" ชาวตะวันตกที่แท้จริงให้กับผู้อยู่อาศัยของพวกเขา ชื่อเสียงของ Dean Reed ก็จางหายไป ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2529 เขามามอสโคว์เพื่อเข้าร่วมคอนเสิร์ตการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ที่ศูนย์กีฬา Olimpiysky แต่ไม่มีใครเชิญเขาขึ้นเวที ใน GDR เขาแสดงในโรงเรียนดนตรีแทนที่จะเป็นห้องโถงที่มีผู้คนพลุกพล่าน แล้วก็มีภรรยาของเขาคนหนึ่งที่เรียกเขาว่า "นักแสดง" อย่างดูหมิ่น คำนี้ทำร้าย Dean Reed มากจนเขากล่าวถึงมันในจดหมายอำลาสิบห้าหน้าของเขาด้วยซ้ำ ซึ่งจนกระทั่งการรวมเยอรมนีถูกซ่อนไว้เป็นอันดับแรกในตู้นิรภัยส่วนตัวของ Erich Honecker และจากนั้นในหอจดหมายเหตุของ Stasi พบจดหมายดังกล่าวบนที่นั่งของ Lada สีขาวของนักร้อง ซึ่งถูกทิ้งไว้ริมฝั่งทะเลสาบ Zeuthenersee พบศพของดีน รีด ที่ด้านล่างของทะเลสาบแห่งนี้ ผลการชันสูตรพลิกศพไม่พบร่องรอยความรุนแรง เห็นได้ชัดว่าดีน รีดกินยานอนหลับและยาระงับประสาท (ยาระงับประสาท) จำนวนมากแล้วจึงลงไปในน้ำ
เจ้าหน้าที่ GDR ตัดสินใจที่จะซ่อนทั้งหมดนี้ซึ่งต่อมาได้ก่อให้เกิดสมมติฐานที่น่าทึ่งที่สุดหลายประการเกี่ยวกับการตายของ Dean Reed - ว่าเขาถูกสังหารโดยนักฆ่า Stasi หรือ CIA และแม้กระทั่งว่าเขายังมีชีวิตอยู่และซ่อนตัวภายใต้ชื่อสมมติที่ไหนสักแห่ง ในละตินอเมริกา จากนั้นในปี 1986 หลังจากตัดสินใจว่าการฆ่าตัวตายของนักร้องชาวอเมริกันที่หนีออกจากสหรัฐอเมริกาเพื่อโลกที่ดีกว่าจะส่งผลกระทบต่อการโฆษณาชวนเชื่อที่ละเอียดอ่อนต่อโลกที่ดีกว่านี้ Erich Honecker ได้ออกคำสั่งเป็นการส่วนตัว: ให้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าการเสียชีวิตของ Dean Reed คือ ผลที่ตามมาของอุบัติเหตุ จริงอยู่ที่แม้ในตอนนั้นจะมีเพียงไม่กี่คนที่เชื่อในเรื่องนี้ และเมื่อชิ้นส่วนจากจดหมายอำลาของ Dean Reed ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1990 แทบไม่เหลือข้อกังขาเลย เกือบ - เพราะแม่ของนักร้องที่ฝังโกศด้วยขี้เถ้าของเขาในสุสาน Green Mountain ในโบลเดอร์ (โคโลราโด) ในช่วงต้นยุค 90 ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึง - ฉันพูด - "สหาย Eberhard Fehnsch "นั่น ถึงภัณฑารักษ์ของเขาจากกระทรวงวัฒนธรรมของ GDR ไม่มีใครอยู่ใกล้เขาจริงๆเหรอ? ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น
นักร้องนักแสดงและผู้กำกับชาวอเมริกันชื่อดัง Dean Reed ซึ่งเป็นที่สนใจของหลาย ๆ คนซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตเป็นที่สนใจของหลาย ๆ คนเกิดในปี 2481 ในเมืองเดนเวอร์รัฐโคโลราโดสหรัฐอเมริกา เมื่อตอนเป็นเด็ก เขาได้รับกีตาร์เป็นของขวัญวันเกิด และเมื่ออายุ 16 ปี เขาเขียนเพลงเกี่ยวกับความรักเรื่องแรก
ชีวประวัติของคณบดีรีด
หลังจากสำเร็จการศึกษา คณบดีไปมหาวิทยาลัย แต่ลาออกเพื่ออุทิศเวลาให้กับดนตรีมากขึ้น เมื่ออายุ 20 ปี ค่ายเพลงรายใหญ่ได้เซ็นสัญญากับเขา ในไม่ช้าอัลบั้มแรกของนักดนตรีจะได้รับการปล่อยตัว แต่เขาไม่ได้รับชื่อเสียงมากนัก แต่เพลงจากอัลบั้มที่ 2 และ 3 ของรีดกลับกลายเป็นเพลงฮิต พวกเขาเล่นโดยสถานีวิทยุหลายแห่งและครองอันดับต้น ๆ ของชาร์ตของประเทศ
หลังจากนั้นไม่นาน Dean ก็เริ่มออกทัวร์ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา จากนั้นในละตินอเมริกา เขาใช้ชีวิตอยู่ในนั้นหลายปีเขียนเพลงใหม่แสดงคอนเสิร์ตแสดงในรายการทีวีและยังเป็นเจ้าภาพรายการหนึ่งด้วย ที่นั่นเขาเริ่มมีบทบาทในชีวิตสาธารณะ รับเอามุมมองทางการเมืองแบบ "ฝ่ายซ้าย" และต่อสู้กับความยากจนและสงคราม กิจกรรมประเภทนี้ไม่ได้รับความนิยมมากนักจากผู้จัดการและผู้อำนวยการของนักดนตรี และแท้จริงแล้วสิ่งนี้ไม่ได้นำไปสู่สิ่งที่ดีเลย ผลก็คือรีดถูกจำคุกและเนรเทศออกจากอาร์เจนตินา
ศิลปินไม่เสียหัวใจและเริ่มออกทัวร์ในยุโรป คอนเสิร์ตของเขาในสหภาพโซเวียตเป็นที่น่าจดจำเป็นพิเศษซึ่งเขากลายเป็นคนโปรดที่ได้รับความนิยมในทันที เขายังคงท่องเที่ยวและเยี่ยมชมเมืองต่างๆของประเทศต่อไป ในปี 1973 Dean ตัดสินใจอาศัยอยู่ใน GDR ที่นั่นเขาเขียนอัลบั้มมากมาย สร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเพื่อนของเขา และยังแสดงในภาพยนตร์หลายเรื่องอีกด้วย ในรัสเซีย พวกเขาชอบภาพยนตร์เรื่องนี้เกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างชาวอเมริกันและชาวอินเดียเป็นพิเศษ โดยที่ Dean Reed รับบทร่วมกับ Gojko Mitic
รีดถูกหลายคนเรียกว่าเป็นคนทรยศเนื่องจากการวิพากษ์วิจารณ์ทางการอเมริกัน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังคงเป็นผู้รักชาติของประเทศนี้อยู่เสมอ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อาศัยอยู่ที่นั่นอีกต่อไปแล้วก็ตาม ตลอดอาชีพการสร้างสรรค์ของเขา รีดได้บันทึกอัลบั้มมากกว่า 30 อัลบั้ม รวมถึงคอลเลกชันมากมาย ในช่วงปีสุดท้ายของชีวิต เขาได้บันทึกผลงานเพลงคัฟเวอร์เพลงอเมริกันและอิตาลีที่มีชื่อเสียง
การแสดงเพลง "Hava Nagila" และ "Bella, ciao" ของเขาเป็นที่น่าจดจำเป็นพิเศษ บันทึกของรีดขายในสหภาพโซเวียตเป็นล้านชุด ผลิตโดยบริษัท Melodiya และในปี 1980 ดีนยังมีส่วนร่วมในช่วงพักละครเพลงของรายการทีวีเรื่อง "อะไรนะ? ที่ไหน? เมื่อไร?".
สำหรับชีวิตส่วนตัวของดีน ภรรยาคนแรกของเขาเป็นนักแสดงฮอลลีวูด ภรรยาคนที่สองคือ Wiebke Reed ซึ่งศิลปินก็หย่าร้างกันในไม่ช้า จากนั้นในการแต่งงานเขาอาศัยอยู่กับนักแสดงหญิงชาวเอสโตเนีย Eva Kivi พวกเขาแยกทางกันเนื่องจากความแตกต่างในมุมมองทางการเมือง
สาเหตุการเสียชีวิตของดีน รีด
เพียงไม่กี่วันก่อนที่เขาจะเสียชีวิต รีดได้มีส่วนร่วมในการบันทึกรายการเพลง "Dean Reed and His Songs" ให้กับบริษัทโทรทัศน์แห่งหนึ่งในเยอรมนี เขาเสียชีวิตในปี 1986 เขาถูกพบเป็นศพในทะเลสาบ Zeuthen ใกล้บ้านของเขาในเบอร์ลินตะวันออก สาเหตุการตายอย่างเป็นทางการคือการจมน้ำ
Zemfira นักร้องชื่อดังชาวรัสเซียอุทิศเพลง Not Vacations ของเธอให้กับ Dean Reed ไอดอลในวัยเด็กของเธอ: “ตอนอายุ 5 ขวบ ฉันรัก Reed มาก ฉันใฝ่ฝันที่จะไปอเมริกาด้วยซ้ำ ฉันกังวลมากเกี่ยวกับการตายของเขา” ถนนสายหนึ่งได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ Dean ในเมือง Tynda ในภูมิภาคอามูร์ นอกจากนี้นักแสดงชาวอเมริกัน Tom Hanks ยังมีความคิดที่จะสร้างภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับชีวิตของ Reed ซึ่งตัวเขาเองจะมีบทบาทหลัก แต่เขาไม่เคยเริ่มถ่ายทำเลย
เข้าชม 997 ครั้งคนโซเวียตรุ่นเก่ารู้จักนักร้อง นักแสดง นักดนตรี ผู้กำกับและนักแต่งเพลง Dean Reed ชีวประวัติและภาพถ่ายของชาวอเมริกันคนนี้ในดินแดนโซเวียตได้รับการทำซ้ำโดยสิ่งพิมพ์ทางการเมืองและภาพยนตร์หลายฉบับ ในยุค 70 นิตยสาร People Magazine ของอเมริกาเขียนเกี่ยวกับนักแสดงว่าชาวรัสเซียถือว่าเขาเป็นบุคลิกภาพอเมริกันที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับสามรองจากประธานาธิบดีและรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นักข่าวไม่จริงใจ: ความนิยมของนักการเมืองที่กล่าวถึงในประเทศของเราไม่ได้เข้าใกล้ชื่อเสียงของ Dean Reed ด้วยซ้ำ
เขาจะมีอายุครบแปดสิบปีในปี 2561 ในช่วงชีวิตของเขาเขาได้ตีพิมพ์อัลบั้มประมาณสามสิบอัลบั้ม อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมของเขากลับกลายเป็นเรื่องแปลก แน่นอนว่าเขาเสียชีวิตด้วยความสามารถสูงสุดของเขา ในขณะที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อกองทัพแฟน ๆ ของเขา คนที่คิดหลายคนรู้สึกว่าเขากลายเป็นชิปต่อรองในเกมที่ใหญ่เกินไป ซึ่งเขาไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้
วัยเด็กและวัยรุ่น
นักร้องในอนาคตเกิดเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2481 ในโคโลราโด (เดนเวอร์) ครอบครัวมีลูกชายสามคน พ่อของเขาทำงานเป็นครูในชนบท ส่วนแม่ของเขาเป็นแม่บ้าน ดีนเติบโตขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวาและกระตือรือร้น พ่อแม่ส่งเด็กชายอายุสิบขวบไปโรงเรียนนายร้อยซึ่งเด็กกระสับกระส่ายเรียนเพียงปีเดียว
เด็กชายสนใจการขี่ม้า กรีฑา และบาสเก็ตบอล เมื่ออายุสิบเอ็ดปีเขาได้รับม้าขี่ม้า พ่อแม่ของเขาไม่กล้าที่จะมอบกีตาร์ให้เขาในวันเกิดปีที่ 12 ของเขา และของขวัญชิ้นนี้ดูเหมือนจะเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของเขา
ดีน รีด ผู้นำของเด็กผู้ชายมาโดยตลอด เติบโตมาในฐานะผู้ชายที่เข้มแข็งและใจร้อน ชีวประวัติของเขาในวัยหนุ่มเป็นพยานถึงนิสัยที่ไม่แน่นอน รักและติดใจของเขา โชคชะตาใจดีต่อเขา โดยให้เครดิตเขาในความสามารถของเขา เมื่ออายุได้ 16 ปี ดีนได้แต่งเพลงรักซึ้งกินใจเพลงแรกของเขา Don't Let Her Go
ในปีพ.ศ. 2499 ตามความปรารถนาของพ่อแม่ เขาได้เข้าเรียนปีแรกของภาควิชาอุตุนิยมวิทยาที่มหาวิทยาลัยโคโลราโด ในระหว่างการศึกษา นักเรียนยังได้รับเงินค่าขนมจากการเล่นกีตาร์และแสดงเพลงในบาร์อีกด้วย
สัญญาฉบับแรก
ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 เพลงของเขา "Memory" ขึ้นสู่ชาร์ตเพลงของอเมริกาเป็นครั้งแรก สองปีต่อมานักแสดงที่มีพรสวรรค์สามารถเซ็นสัญญากับสตูดิโอบันทึกเสียง Capital Records (ลอสแองเจลิส)
คณบดีออกจากมหาวิทยาลัยโดยไม่เสียใจและเข้าโรงเรียนการแสดงของวอร์เนอร์บราเธอร์ส หลังจากแผ่นดิสก์แผ่นแรกของเขา แผ่นที่สอง สาม และสี่ก็ถูกปล่อยออกมาทีละแผ่น ยิ่งไปกว่านั้น แต่ละเพลงที่ตามมาเป็นพยานถึงทักษะที่เพิ่มขึ้นของนักแต่งเพลงและนักแสดง
ในปีพ.ศ. 2504 แผ่นดิสก์ที่สี่ของเขา "Our Summer Romance" ขึ้นอันดับ 2 ในชาร์ตเพลงชาติของสหรัฐอเมริกาและกลายเป็นเพลงฮิตในอเมริกาใต้ ในปี 1961 เดียวกัน Dean Reed วัย 23 ปี "ร้อนแรง" ของความนิยมที่เพิ่งเพิ่มขึ้นได้ออกทัวร์เพื่อพิชิตทวีปที่ใกล้กับบ้านเกิดของเขามากที่สุด
ชีวประวัติของเขาในฐานะศิลปินท่องเที่ยว ร้องเพลงสดให้แฟน ๆ เริ่มต้นด้วยทัวร์เหล่านี้ สง่างามถ่ายรูปด้วยเสียงอันไพเราะมีเสน่ห์ทางศิลปะโดยกำเนิดแทนที่จะได้มาและการเคลื่อนไหวแบบพลาสติกศิลปินจึงกลายเป็นไอดอลของคนหนุ่มสาวในละตินอเมริกาอย่างรวดเร็ว เขาไปเยือนเปรู, อาร์เจนตินา, ชิลี, บราซิล
การเปลี่ยนแปลงมุมมองทางการเมือง
เมื่อสำรวจความตายอันลึกลับของนักร้องควรให้ความสนใจเป็นพิเศษกับช่วงเวลานี้ของชีวิตของเขา ท้ายที่สุดแล้วการพูดภาษาละครจุดเริ่มต้นของโครงเรื่องก็เกิดขึ้นทันที คนที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วก็พบว่าตัวเองอยู่นอกบ้านเกิดของเขาในสังคมที่ไม่เคารพค่านิยมแบบอเมริกันที่คุ้นเคยของเขา ในฐานะศิลปินเขา (และนี่ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้) กำลังพยายามทำความเข้าใจผู้คนที่ชื่นชอบเพลงของเขาให้ดีขึ้น
ในชิลี นักร้องหนุ่มได้พบกับประธานาธิบดีอัลเลนเดในอนาคตเป็นการส่วนตัว นักพูดที่ร้อนแรง คนที่มีสติปัญญาลึกซึ้ง และเป็นหัวหน้าพรรคปฏิวัติสังคมนิยม เพื่อนใหม่ของเขาซึ่งถูกพาตัวไปโดยการต่อสู้ทางการเมืองเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แม้กระทั่งในเวลานี้ ชาวอเมริกันผู้มีความสามารถ ผู้เป็นผู้สนับสนุนที่มีศักยภาพของเขา ก็รู้สึกถึงความยุติธรรมที่เป็นธรรมชาติและเพิ่มมากขึ้น ทนายความที่มีประสบการณ์เล่นเกมนี้และชนะเกมนี้
ลองใช้เวลาสักครู่จากชีวประวัติของชาวอเมริกันเพื่อสรุป ประวัติศาสตร์มีแนวโน้มที่จะซ้ำรอยรูปแบบพื้นฐานบางอย่าง ดังนั้นในการเผชิญหน้ากันในปัจจุบันระหว่างโลกทัศน์ทั้งสองในอาหรับตะวันออกและแอฟริกาเหนือ เสียงสะท้อนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยุค 60-70 ในทวีปอเมริกาใต้จึงเห็นได้ชัดเจน
ในเวลานั้น ชิลีอยู่ในขอบเขตของผลประโยชน์ที่แข่งขันกันของหน่วยข่าวกรองโซเวียตและอเมริกัน บางคนสนับสนุนอัลเลนเด บางคนพยายามถอดเขาออกจากการเมือง เกือบห้าสิบปีต่อมา ข้อมูลนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ ต้องขอบคุณบันทึกความทรงจำของศาสตราจารย์ชาวอังกฤษและผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรอง คริสโตเฟอร์ แอนดรูว์ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับเรา ประเด็นก็คือ Dean Reed ซึ่งอยู่ในละตินอเมริกาและมีการติดต่อกับ Allende ได้รับความสนใจจากหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ
ชีวิตของนักร้องในอาร์เจนตินา
เขาได้รับการยกย่องจากเยาวชนในละตินอเมริกาถึงความสามารถโดยกำเนิด ความจริงใจ และเพลงรักที่ซาบซึ้ง เขาเต็มสนามกีฬาในชิลี อาร์เจนตินา เปรู และบราซิล โดยธรรมชาติแล้วนักธุรกิจที่กล้าได้กล้าเสียเมื่อเห็นโอกาสในการทำกำไรในคณบดีจึงเสนอสัญญาให้เขาทำงานในอาร์เจนตินา และผู้ผลิตก็ไม่เข้าใจผิด ที่นี่เขามีรายการโทรทัศน์ของตัวเองเขาได้รับความนิยมสร้างภาพยนตร์อย่างมีประสิทธิผล (“First Love”, “Guadalajara in the Summer”) และนอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จในการบันทึกแผ่นดิสก์ยอดนิยมอย่างมาก
ในขณะเดียวกันผู้อำนวยการและผู้จัดการทัวร์ของเขาไม่พอใจ ท้ายที่สุดแล้ว Dean Reed นอกเหนือจากความคิดสร้างสรรค์ของเขาแล้วยังหลงใหลในมุมมองของฝ่ายซ้ายอีกด้วย และเหนือสิ่งอื่นใด การต่อสู้เพื่อสันติภาพและความยากจน แนวคิดเรื่องลัทธิมาร์กซิสม์และอุดมการณ์ของฝ่ายตรงข้ามอาวุธนิวเคลียร์เข้ามาใกล้เขา เขามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการต่อสู้ทางการเมือง และอย่างที่เราทราบ เป็นไปไม่ได้ที่จะทำสิ่งนั้นเพียงลำพัง
ในไม่ช้าทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในอาร์เจนตินา หลังจากการละลายก็เกิดปฏิกิริยาขึ้น ระบอบเผด็จการที่ได้รับการสนับสนุนจาก CIA เข้ามามีอำนาจในประเทศในปี พ.ศ. 2509 ความรุนแรงกลายเป็นเรื่องปกติในการต่อสู้กับความขัดแย้ง มาถึงตอนนี้ Dean Reed นอกเหนือจากการประท้วงต่อต้านสงครามเวียดนามแล้ว ยังเริ่มมีส่วนร่วมในการชุมนุมทางการเมืองภายในอาร์เจนตินาเป็นประจำ นักร้องกลายเป็นฝ่ายค้านโดยจัดคอนเสิร์ตการกุศลซึ่งรายได้ตกเป็นของนักโทษ
บ้านของนักร้องที่ไม่น่าเชื่อถือถูกยิงด้วยอาวุธอัตโนมัติหลายครั้งซึ่งทำให้เขาต้องออกจากอาร์เจนตินา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในประเทศที่ชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย
คณบดีในยุโรปตะวันตก
Dean Reed บินจากอาร์เจนตินาไปสเปน ชีวประวัติของการพเนจรของเขาจึงดำเนินต่อไปในยุโรป อย่างไรก็ตาม ในเดือนมิถุนายน ทางการสเปนที่ระมัดระวัง (เพื่อความปลอดภัย) ต้องการให้ตราหน้านักร้องที่กระตือรือร้นทางการเมืองคนนี้ว่าไม่น่าเชื่อถือและไล่เขาออกจากประเทศ
สถานที่ต่อไปของนักแสดงและนักร้องและค่อนข้างประสบความสำเร็จคืออิตาลีที่ร่าเริงและไร้เหตุผล นักร้องดีน รีดค่อนข้างประสบความสำเร็จและได้แสดงในภาพยนตร์ตะวันตกโดยผู้กำกับท้องถิ่น ชีวประวัติของนักแสดงกล่าวว่าช่วงเวลานี้ในชีวิตของเขาสดใสและมีความสำคัญ ผลงานภาพยนตร์ของเขาเต็มไปด้วยบทบาทโรแมนติกในภาพยนตร์เรื่อง "Gang of Three Chrysanthemums" (ภาพยนตร์นักเลงเกี่ยวกับยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่), "อำลาสู่ Sabata" (ตะวันตก) , “Pirates of the Green Island” (ภาพยนตร์ผจญภัย)
การแสดงของ Dean Reed ได้รับการยอมรับในที่สุด ในปีพ.ศ. 2507 กวาดาลาฮาราได้รับรางวัลสองรางวัลในงานเทศกาลในเม็กซิโก (อากาปุลโก)
คณบดีรีดในสหภาพโซเวียต
ในปี 1966 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึง 30 พฤศจิกายน ชาวอเมริกันคนนี้ได้ร่วมทัวร์ "หลังม่านเหล็ก" ไปยังสหภาพโซเวียต เขาทำให้ผู้ฟังของเราตกหลุมรักเขาด้วยการแสดงเพลง “Bella Ciao” และ “Hava Nagila” เจ้าหน้าที่โซเวียตให้ไฟเขียวแก่เขา ภูมิศาสตร์การแสดงของเขาในฐานะนักร้องนั้นน่าประทับใจ: มอสโก, เลนินกราด, ทบิลิซี, บากู, Rostov-on-Don, Kislovodsk และหลังจากที่เขาแสดงเพลง "Elizabeth" ทางทีวีในรายการ "New Year's Light" แผ่นไวนิลของเขาก็เริ่มขายหมดนับแสนชุดในสหภาพโซเวียต
นักแสดงนำแสดงในภาพยนตร์เรื่อง “God Create Them, I Will Kill Them” และ “The Nephews of Zorro” Dean Reed เขียนบทกวี "ถึงคุณ", "บ้านเกิดที่น่าสงสารของฉัน",
และชิลีอาร์เจนตินาอีกครั้ง
เห็นด้วย หากหน่วยข่าวกรองภายนอกทำงานร่วมกับคณบดี ช่วงชีวิตนี้ของเขาคงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในปี 1970 นักร้องมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการรณรงค์เลือกตั้งของ Salvador Allende จากนั้น โดยได้รับแรงบันดาลใจจากชัยชนะของกองกำลังประชาธิปไตย คณบดีจึงเดินทางไปยังอาร์เจนตินา ซึ่งเขาจัดงานแถลงข่าวในกรุงบัวโนสไอเรส ซึ่งเขาเรียกร้องให้โค่นล้มระบอบเผด็จการ เขาถูกจับกุม แต่หลังจากนั้น 16 วันเขาก็ได้รับการปล่อยตัวและเนรเทศออกจากประเทศ
หลังจากที่ประธานาธิบดีซัลวาดอร์ อัลเลนเด เพื่อนของเขา เสียชีวิตในการรัฐประหารในชิลีเมื่อปี 2516 นักร้องสาวก็เดินทางไปเปรูในปี 2518 จากนั้นก็ข้ามพรมแดนเข้าสู่ชิลีอย่างผิดกฎหมาย ที่นี่นักเคลื่อนไหวผู้กล้าหาญถูกจำคุกเป็นเวลานาน แต่ไม่นานก็ถูกปล่อยตัว ความทุกข์ยากกระตุ้นความสามารถของเขาและบังคับให้คณบดีในฐานะคนที่มีความคิดสร้างสรรค์สร้างผลงานชิ้นเอก ในปี 1977 ผู้กำกับ Dean Reed ได้สร้างภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา
ชีวประวัติของนักร้อง Victor Jara และการเสียชีวิตอันน่าสลดใจของเขาระหว่างการรัฐประหารของทหารชิลีเป็นแรงจูงใจหลักสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้
ให้เราสรุปข้างต้น: นักร้องหัวทิ่มกึ่งผิดกฎหมาย (และอย่างน้อยก็ต้องการความช่วยเหลือจากสถานี) ไปประเทศที่ไม่เป็นมิตรต่อมุมมองของเขาเพื่อแสดงกิจกรรมทางการเมือง ยิ่งไปกว่านั้น เขาเดาว่าเขาจะต้อง “ถูกจำคุก” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และสิ่งนี้เกิดขึ้นจริงๆ อย่างไรก็ตาม เขาได้รับการอภัยโทษและปล่อยตัวอยู่เสมอและสม่ำเสมอ ข้อสรุปนี้ชี้ให้เห็นถึงอะไร? อย่างน้อยที่สุดเกี่ยวกับการขอร้องของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศที่มีอิทธิพลและวิชาชีพด้านกฎหมาย
ชีวิตส่วนตัว
เรามาแบ่งลำดับเหตุการณ์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของนักแสดงกันดีกว่า ในปี 1964 นักแสดงวัย 26 ปีแต่งงานกับนักแสดงฮอลลีวูด Patty Hobs พวกเขาเดินทางและออกทัวร์บ่อยมาก มันคือความรัก ชีวประวัติของนักร้อง Dean Reed เป็นพยาน: เขาและภรรยาคนแรกเดินทางไปครึ่งโลก ในปี 1967 เขาหย่าร้างกับ Patty Hobs ในอิตาลี แต่ความรู้สึกไม่ได้ละทิ้งอดีตคู่สมรสและพวกเขายังคงอยู่ด้วยกันและหย่าร้างแล้วราโมนาลูกสาวของพวกเขาเกิด
การทะเลาะวิวาทร้ายแรงเกิดขึ้นในปี 1970 แพตตี้คัดค้านการที่คณบดีไปชิลีเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง เมื่อเขาเพิกเฉยต่อคำขอของเธอ ผู้หญิงคนนั้นก็ทิ้งเขาไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเพื่ออาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเธอ
หลังจากนี้ Dean Reed อาศัยอยู่ระยะหนึ่งในการแต่งงานกับ Eva Kivi นักแสดงหญิงชาวเอสโตเนีย เธอตกหลุมรักเขาในฐานะคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ แต่ก็ไม่ได้แบ่งปันความคิดเห็นทางการเมืองที่เกินจริงของชาวอเมริกันอย่างเด็ดขาดและทั้งคู่ก็แยกทางกันในไม่ช้า
นวนิยายเรื่องต่อไปของเขาควรมีการพูดคุยโดยละเอียดมากขึ้น
ในปี 1971 คณบดี "บังเอิญ" ได้พบกับภรรยาคนที่สองในอนาคตซึ่งเป็นครูวัยสามสิบปีและนางแบบ Wiebke Dornbach หลังจากคบกันสองปีพวกเขาก็แต่งงานกัน ในปี 1976 Wiebke และ Reed มีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ Natasha อย่างไรก็ตามในปีหน้าหลังคลอดลูก (เร็วอย่างไม่คาดคิดใช่ไหม) ดีน รีด หย่ากับภรรยาของเขา
ชีวประวัติและชีวิตส่วนตัวของนักร้องระหว่างการแต่งงานครั้งที่สองทำให้เกิดความคิดบางอย่าง คำถามเชิงตรรกะเกิดขึ้น: "ไม่มีการ "แก้ไข" ชะตากรรมของเขาจากภายนอกล้วนๆ หรอกหรือ?”
ทำไมเราต้องถามมัน? มันอยู่ภายใต้อิทธิพลของ Wiebke (ตามบันทึกความทรงจำของเขาเอง) ที่ American Dean Reed ที่ไม่พอใจได้ตั้งรกรากใน GDR และสิ่งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับผลประโยชน์ของภูมิรัฐศาสตร์ตะวันออกอย่างแปลกประหลาด
ตั้งแต่ปี 1973 ชีวประวัติของ Dean Reed มีความเกี่ยวข้องกับการพำนักถาวรใน GDR นี่คือที่ที่บ้านของเขาปรากฏ เขากลับมาที่นี่จากการเดินทาง ที่นี่เขาบันทึก 13 อัลบั้ม ในบรรดาภาพยนตร์ที่ผลิต ได้แก่ USSR Blood Brothers (1975) ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งเป็นภาพยนตร์ตะวันตกที่ Dean แสดงร่วมกับ Gojko Mitic
อย่างไรก็ตามหลังจากการหย่าร้างจากคณบดี "ครู" Wiebke Reed มีอาชีพที่น่าเวียนหัวในกระทรวงการต่างประเทศ (องค์กรที่นักการทูตหรือสายลับทำงานอยู่) “อุบัติเหตุ” ดังกล่าวค่อนข้างบ่งชี้ได้ ความคิดเห็นอย่างที่พวกเขาพูดนั้นไม่จำเป็น
ในปี 1981 นักร้องที่ตกหลุมรักได้แต่งงานกับนักแสดงหญิง Renata Blume และรับเลี้ยง Alexander ลูกชายของเธอ เมื่ออายุมากขึ้น เขาดูแลผู้หญิงคนหนึ่งมายาวนานและสัมผัสได้ โดยฝันว่าจะได้พบกับอ่าวอันเงียบสงบในชีวิตในที่สุด เรนาต้าก็ตกหลุมรักเขาเช่นกัน
ณ จุดสูงสุดแห่งความรุ่งโรจน์
เจ็ดปีสุดท้ายของชีวิตเป็นช่วงที่นักร้องและนักแสดงได้รับความนิยมสูงสุดในโลก แผ่นดิสก์ของเขาออกมาเป็นล้านชุด ทัวร์ที่วางแผนไว้จะเป็นจริง ในขณะเดียวกันกิจกรรมของเขาก็มีองค์ประกอบของการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นในปี 1978 นักร้องจึงมีส่วนร่วมในการสาธิตฟาร์มในรัฐมินนิโซตา (สหรัฐอเมริกา) เขาถูกจับมีการพิจารณาคดี แต่นักร้องก็พ้นผิด หลังจากนั้นเขาก็กลับไปที่ GDR
ในปี 1979 เขาเดินทางไปสหภาพโซเวียตเพื่อเยี่ยมผู้สร้าง Baikal-Amur Mainline พร้อมชมคอนเสิร์ตโดย Dean Reed ชีวประวัติและเพลงของชาวอเมริกันผู้มีความขัดแย้งคนนี้ดูเหมือนจะชนะใจผู้ชมทั้งผู้ชมและฟังชาวโซเวียต
นักร้องเดินทางไปอเมริกาอีกครั้งซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้
การยั่วยุ
เมื่อถึงวันเกิดปีที่ห้าสิบของเขา (และนี่เป็นเรื่องปกติ) คณบดีเริ่มต้นตามความทรงจำของเรนาตาคนเดียวกันเพื่อโหยหาบ้านเกิดของเขา ในปี 1985 ผู้กำกับชาวอเมริกัน วิล โรเบิร์ตส์ กระตุ้นความสนใจในตัวเขาด้วยสารคดีเรื่อง American Rebel และเมื่อช่อง CBS เชิญเขาไปสัมภาษณ์รายการทีวี "60 Minutes of Red Elvis" เขาก็หวังว่าจะได้รับความนิยมในบ้านเกิดของเขา
อย่างไรก็ตาม เขาตกหลุมเหยื่อ: นักแสดงที่มีส่วนร่วมทางการเมืองไล่ตามเป้าหมายที่ตรงกันข้าม พวกเขาเล่นร่วมกับ CIA ซึ่งมีความแค้นกับนักร้องมายาวนาน
ก่อนการสัมภาษณ์ ทีมงานโทรทัศน์จงใจกระตุ้นผู้ชมที่ต่อต้านโซเวียตด้วยข้อความที่ตัดตอนมาจากเทปที่คณบดีถ่ายทำในเบรุต โดยโพสท่ากับ AKM กำลังประชุมกับยัสเซอร์ อาราฟัต; เดินไปตามจัตุรัสแดง สคริปต์ของรายการตรงกับประกาศ ชาวอเมริกันที่หยิบยกเรื่องโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านโซเวียตขึ้นมา ได้ยินจากคณบดี รีด ตอบคำถามที่คัดเลือกมาอย่างมีแนวโน้ม ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่ารังเกียจต่อพวกเขาอย่างแน่นอน:
- สนับสนุนการก่อสร้างกำแพงเบอร์ลิน
- การอนุมัติการส่งกำลังทหารไปยังอัฟกานิสถาน
- การวิพากษ์วิจารณ์การสมรู้ร่วมคิดของชาวอเมริกันกับปิโนเชต์
เป็นผลให้ผู้ชมหลั่งไหลเข้ามาทั้งสตูดิโอด้วยจดหมายเรียกร้องให้นักร้อง “สีแดง” ถูกไล่ออกจากอเมริกา คณบดี รีด เดินทางกลับ GDR อย่างไร้ศีลธรรม
เวอร์ชัน 1 การฆ่าตัวตาย
มันเหมือนกับว่าเที่ยวบินถูกขัดจังหวะกะทันหัน ศพของนักร้องวัย 47 ปีถูกพบเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2529 ในเขตชานเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเบอร์ลิน ริมฝั่งทะเลสาบ ใกล้บ้านที่เขาอาศัยอยู่ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของ GDR มาถึงบทสรุปของการฆ่าตัวตาย
ในความเห็นของพวกเขา มีหลักฐานเชิงตรรกะที่แสดงว่าคนนอกรีตของอเมริกาจงใจฆ่าตัวตาย แต่นี่ไม่ใช่วิธีที่ชีวประวัติอธิบายถึงบุคคลที่ Dean Reed เป็นเลย สาเหตุการเสียชีวิตน่าจะมาจากความล้มเหลวที่เขาได้รับในการแสดงดังกล่าว นักแสดงถูกเรียกว่าเป็นคนทรยศในสหรัฐอเมริกาแม้ว่าเขาจะรักบ้านเกิดของเขาและวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองก็ตาม ในความเป็นจริงเขาเพียงรู้วิธีแยกความรักชาติที่แท้จริงของเขาและความคิดเห็นทางการเมืองของเขาซึ่งขัดแย้งกับความคิดเห็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปในอเมริกา แน่นอนว่าเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากการขาดความเข้าใจในเรื่องนี้โดยเพื่อนร่วมชาติของเขา
สิ่งที่น่าทึ่งคือความเงียบที่ดื้อรั้นของ Renata Blume หลังจากสามีของเธอเสียชีวิตอย่างกะทันหัน พร้อมด้วยวลีเพียงเล็กน้อย: “ฉันแน่ใจว่านี่ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย” โดยไม่มีความคิดเห็นใด ๆ
ต่อมาข้อเสนอสร้างสรรค์ที่ดึงดูดใจก็หลั่งไหลลงมาสู่นักแสดงหญิงม่ายราวกับมาจากความอุดมสมบูรณ์ (เช่นบทบาทของเจนนี่มาร์กซ์) เธอได้รับรางวัลและตำแหน่ง นี่ไม่ใช่การจ่ายเงินสำหรับความเงียบของเธอใช่ไหม
อย่างไรก็ตาม เราต้องจ่ายส่วย นางเอกไม่ได้โกหก ในการสัมภาษณ์ เธอหวังว่าความจริงจะชัดเจนเมื่อมีการเปิดเผยเอกสารที่จัดเก็บไว้ในเอกสารสำคัญของบริการรักษาความปลอดภัย GDR
อย่างไรก็ตามไม่มีความรู้สึกใดๆ ไม่นานมานี้ Chuck Lozewski ผู้เขียนชีวประวัติของนักร้องได้เข้าถึงเอกสารสำคัญลับได้ตีพิมพ์ข้อมูลเกี่ยวกับบันทึกการฆ่าตัวตายของ Dean ซึ่งมีคำร้องขอให้ครอบครัวของเขาให้อภัยซึ่งเขียนไว้ที่ด้านหลังของกระดาษที่ส่งถึงเขา ในท้องของผู้ตายมียานอนหลับที่ละลายไม่หมด นักข่าวสรุปว่าคณบดีตัดสินใจฆ่าตัวตายจงใจกินยานอนหลับและไปว่ายน้ำ
เวอร์ชัน 2. การฆาตกรรม
ลองพิจารณารุ่นที่สอง เธอยังมีสิทธิ์ที่จะดำรงอยู่ สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือการที่คนเขียนจดหมายลาตายภายใต้การข่มขู่ หน่วยข่าวกรองไม่สามารถปฏิเสธความสามารถในการปกปิดร่องรอยของพวกเขาได้ หรือบางทีดีนอาจนึกถึงเกมที่มีคนไม่เปิดเผยกำลังเล่นกับเขาอยู่?
Renata Blume ในการสัมภาษณ์ครั้งหนึ่งของเธอแสดงความเชื่อว่า Dean Reed ไม่สามารถฆ่าตัวตายในลักษณะดังกล่าวได้ นางเอกไม่เคยเชื่อเลย เธอให้หลักฐานหลักประกันสำหรับเรื่องนี้ ในไม่ช้าเขาก็จะไปทำงานในภาพยนตร์เรื่องใหม่ ตามคำบอกเล่าของเรนาตา เขา "กำลังลุกเป็นไฟไปพร้อมกับเขา" เขาฝันถึงเขามาหลายปีแล้ว ดังนั้นการเสียชีวิตโดยสมัครใจของคนบ้างานอย่าง Dean Reed และแม้กระทั่งก่อนงานโลภก็ดูไม่น่าเชื่อถือมาก
โดยทางญาติผู้เสียชีวิตมีความคิดเห็นแบบเดียวกัน และ (และนี่เป็นสิ่งสำคัญ) ดีนไม่เคยหยุดสื่อสารกับพวกเขา
บทสรุป
โลกทั้งโลกดูเหมือนจะหยุดนิ่งเมื่อรู้ว่าดีน รีด ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของชาวยุโรปตะวันออกและละตินอเมริกา ได้เสียชีวิตอย่างกะทันหันและไม่คาดคิด ชีวประวัติสาเหตุการเสียชีวิตและเพลงของเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของตำนานเกี่ยวกับศิลปิน - นักสู้ชายผู้กล้าหาญและไร้การค้าขายซึ่งเห็นคุณค่าความเชื่อมั่นของเขาและสามารถปกป้องพวกเขาได้ไม่ว่ามันจะดูสิ้นหวังแค่ไหนก็ตาม .
แน่นอนว่าเขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์และความกล้าหาญที่โดดเด่น และการรวมกันดังกล่าวก็คุ้มค่ามาก ดังนั้นหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของมหาอำนาจมากมายจึงต่อสู้เพื่อและต่อต้านเขา คู่ต่อสู้คนใดก็ตามจะยอมรับว่าชายผู้น่าทึ่งคนนี้เป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควร การหลอกลวงหรือทำลายบุคคลเช่นนั้นยังง่ายกว่าการเอาชนะเขา
นักร้องและนักแสดงภาพยนตร์ชาวอเมริกัน Dean Reed เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมโซเวียต ศิลปินชาวอเมริกันมีความร่าเริงและเปิดกว้างต่อการสื่อสารอยู่เสมอเป็นแขกรับเชิญในทุกประเทศสังคมนิยม ดังนั้นเมื่อมีข้อความปรากฏขึ้นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของศิลปินอย่างไม่คาดคิดและลึกลับพอ ๆ กัน สาเหตุของการเสียชีวิตของเขาหลายเวอร์ชันจึงปรากฏขึ้น
เมื่อศพของรีดถูกพบในทะเลสาบ Zeutener See เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2529 ร่างนั้นอยู่ใต้น้ำและมีหินปกคลุม ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชสรุปว่านักร้องเสียชีวิตเมื่อเกือบสี่วันก่อน ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตรายล้อมไปด้วยรายละเอียดที่ขัดแย้งกันต่างๆ ตามรายงานของตำรวจอย่างเป็นทางการ การเสียชีวิตของนักร้องเป็นอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม แม่และภรรยาคนแรกของเขาแพทริเซียแน่ใจว่าคณบดีถูกฆ่าตายเพราะการตัดสินใจกลับไปอเมริกา เรนาตา บลูม ภรรยาคนสุดท้ายของเขาไม่ได้ให้สัมภาษณ์ แต่วันหนึ่งเธอปล่อยให้มันหลุดลอยไปว่าสามีของเธอถูกแทงถึงห้าครั้ง ถึงกระนั้นคนรู้จักส่วนใหญ่ก็มั่นใจว่าหลังจากทะเลาะกับภรรยาของเขานักร้องก็ตัดสินใจปลิดชีวิตของตัวเอง
นายพล Eberhard Fansch เพื่อนบ้านของเขาพูดถึงเรื่องนี้ในภาพยนตร์ - เขาและภรรยาของเขาได้ยิน Dean และ Renata ทะเลาะกันเสียงดังไม่นานก่อนเกิดโศกนาฏกรรม หลังจากนั้นไม่นานก็รู้ว่ามีจดหมายลาตายที่จ่าหน้าถึงนายพลทิ้งไว้บนรถของนักร้องที่เสียชีวิต Fansch เองก็จำได้ว่า Dean มักจะคิดฆ่าตัวตาย แต่เพื่อนบ้านของเขาพยายามบอกเขาให้พ้นจากการกระทำเลวร้ายนั้น ในภาพยนตร์เรื่องนี้ Fansch ยอมรับอย่างขมขื่น: “เขาสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรกับตัวเอง เขาสาบานว่าจะไม่ทำ แต่เขาทำ...”
สงสัยว่าการตายของ Dean Reed เป็นการฆ่าตัวตายนั้น Oleg Smirnov เพื่อนของนักร้องแสดงออกมา เขาแน่ใจว่ามีจุดว่างมากมายในกรณีนี้ และการที่ศพถูกเผาอย่างเร่งรีบพิสูจน์ให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ GDR ต้องการซ่อนบางสิ่ง พยานแบบสุ่มก็หายตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุเช่นกัน เมื่อแพทริเซียซึ่งมาถึงที่เกิดเหตุถามเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งว่าทำไมกระเป๋าเงินของรีดถึงแห้งหากพบในทะเลสาบ เธอได้ยินคำตอบที่ไม่คาดคิด ใครบอกว่าพบศพในทะเลสาบ เมื่อหญิงสาวพยายามตามหาตำรวจคนนี้ในเวลาต่อมา เขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลายคนสับสนกับรายละเอียดอื่น ถ้าเป็นการฆ่าตัวตาย แล้วเหตุใดศพจึงถูกหินกดลงไปที่ก้น? ทีมผู้สร้างพยายามทำความเข้าใจคดีนี้ทุกเวอร์ชัน
หลังจากการชำระบัญชี Stasi (กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ GDR) ผู้อยู่อาศัยในเยอรมนีตะวันออกได้เรียนรู้ว่ามีเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับพวกเขาแต่ละคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอย่าง Dean Reed อดไม่ได้ที่จะอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของบริการนี้ อย่างไรก็ตาม ตามคำกล่าวของเฟลิกซ์ มุลเลอร์ ผู้เชี่ยวชาญของพิพิธภัณฑ์ Stasi ไม่มีเอกสารเกี่ยวกับรีดในเอกสารสำคัญของ Stasi เลย และไม่มีข้อมูลที่แท้จริงว่าศิลปินเสียชีวิตอย่างไร
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งของผู้แต่งภาพยนตร์เรื่องนี้คือการสัมภาษณ์พิเศษครั้งใหญ่กับนักแสดงหญิงชาวเอสโตเนีย Eve Kivi ซึ่ง Dean Reed มีความสัมพันธ์ระยะยาวด้วย แม้ว่านักร้องจะได้รับความรักอย่างมากในสหภาพโซเวียต แต่เขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้ออพาร์ทเมนต์ในมอสโกและถูกห้ามไม่ให้จดทะเบียนการแต่งงานของเขากับผู้หญิงที่เขารักอย่างเป็นทางการ และเป็นเวลาหลายปีที่เอวาและดีนต้องพบกันในโรงแรม...
บทสัมภาษณ์ของ Kiwi ไม่เพียงแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเท่านั้น แต่สารคดียังสร้างขึ้นจากเนื้อหาพิเศษทั้งหมดอีกด้วย ตัวอย่างเช่น แสดงเอกสารที่ผู้ชมโทรทัศน์ไม่เคยเห็นมาก่อน - ผลการชันสูตรพลิกศพ, หักล้างการเสียชีวิตบางเวอร์ชัน, ข้อความในจดหมายลาตายของ Dean Reed
ผู้แต่งภาพยนตร์เรื่องนี้ติดตามเส้นทางความคิดสร้างสรรค์และชีวิตของรีด โดยเริ่มจากช่วงเวลาที่เขาอายุ 12 ปี โดยไม่รู้ความรู้ทางดนตรีเลย เขาเรียนรู้คอร์ดกีตาร์หกคอร์ดและเริ่มเขียนเพลง เขาร้องเพลงให้ใครก็ตามฟัง อยู่มาวันหนึ่งผู้ฟังแบบสุ่มดังกล่าวกลายเป็นโปรดิวเซอร์ของ Columbia Records... เมื่อปีพ. ศ. 2504 นักร้องวัย 23 ปีซึ่งมีอัลบั้มเพลงที่บันทึกไว้ได้ออกทัวร์ที่ละตินอเมริกา เขาพบกับซัลวาดอร์ อัลเลนเด, เช เกวารา, วิคเตอร์ ฮารา มุมมองทางการเมืองของชาวอเมริกันผู้ร่าเริงกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งโลกกำลังคุยกันถึงการกระทำของนักร้องเมื่อรีดสาธิตการซักธงชาติอเมริกัน “จากเลือดของเด็กเวียดนาม”
เนื่องจากความขัดแย้งกับรัฐบาลอเมริกัน นักร้องจึงเดินทางออกนอกประเทศและหาบ้านใหม่ใน GDR โดยไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในสหภาพโซเวียต เหตุใด Dean Reed จึงเคยพูดระหว่างพบปะกับ Ewe Kiwi: “ฉันเกลียดประเทศนี้และผู้คนจาก GDR แค่ไหน” เหตุใดนักร้องจึงถูกขู่ฆ่าในเยอรมนี ตามที่ผู้เข้าร่วมภาพยนตร์ Dean Reed มีบทบาทในเวทีการเมือง และเมื่อถึงจุดเปลี่ยนของยุคสมัย ก็ไม่จำเป็นต้องมีคนเห็นเหตุการณ์ขึ้นหรือลง ผู้ที่เป็นหุ่นเชิดของเขามาตลอดชีวิตและคอยบงการเขาย่อมรู้เรื่องนี้ดี แต่เราจะรู้ชื่อของพวกเขาหรือไม่?
เบอร์นาร์ด บัตตาโลวา
- ชีวประวัติสั้น ๆ ของ Ferdinand Foch
- Isaev I.F., Mishchenko A.I., Shiyanov E.N. การสอน - ไฟล์ n1.doc สลาสเทนิน วี.เอ. วิธีการทำงานด้านการศึกษา - ไฟล์ n1.doc Slastenin ในสถาบันการศึกษา m การสอน
- การบัญชีภาษีของสถาบันของรัฐ ขั้นตอนการคำนวณภาษีและการชำระล่วงหน้า
- การกลับเข้าทำงานตามคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงาน