ฤดูหนาวทางดาราศาสตร์เริ่มต้นขึ้น อากาศหนาว
คุณคิดว่าเป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิวันใด วันแรกของฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวเป็นอย่างไรสำหรับคุณ?
ฤดูกาลคือสี่ช่วงซึ่งรอบปีจะถูกแบ่งตามอัตภาพ การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลถูกกำหนดโดยระยะเวลารายปีของการปฏิวัติของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ และความเอียงของแกนการหมุนของโลกที่สัมพันธ์กับระนาบการโคจร และขอบเขตเล็กน้อยของวงโคจร
มี:
ฤดูกาลของปฏิทิน- ในประเทศส่วนใหญ่ของโลก เป็นเรื่องปกติที่จะแบ่งปีออกเป็นสี่ฤดูกาล โดยแต่ละฤดูกาลมีสามเดือนตามปฏิทิน
ฤดูกาลทางดาราศาสตร์ซึ่งนับจากจุดครีษมายัน (ฤดูร้อน ฤดูหนาว) และวิษุวัต (ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง)
ฤดูกาลทางฟีโนโลยีปรากฏการณ์วิทยาเป็นตัวกำหนดระยะเวลาและช่วงเวลาของการเริ่มต้นฤดูกาลภูมิอากาศแต่ละฤดูกาลตามปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ (โดยใช้แนวคิดเรื่องฤดูกาล) แต่ละฤดูกาลมีสภาพอากาศและอุณหภูมิที่มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง
ในละติจูดกลาง มักใช้การแบ่งปฏิทินอย่างเป็นทางการของปีออกเป็นสี่ช่วงเท่าๆ กัน
ตัวอย่างเช่น ในประเทศส่วนใหญ่ในซีกโลกเหนือ วันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดของฤดูกาลต่อไปนี้เป็นที่ยอมรับ:
ในซีกโลกใต้ ยอมรับวันที่ต่อไปนี้:
Govrie เป็นนักเหตุผลนิยมโดยธรรมชาติ มีแนวโน้มที่จะไว้วางใจในวิทยาศาสตร์ที่แน่นอนมากขึ้นและในกรอบของปัญหานี้ - โดยเฉพาะดาราศาสตร์ ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรยากที่นี่แบ่งปฏิทินออกเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กัน - ที่นี่คุณมีวันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดฤดูกาลที่แน่นอน!.. แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น!
จากมุมมองของวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการ ในทางดาราศาสตร์ ฤดูกาลต่างๆ จะถูกแยกจากกันด้วยช่วงเวลาของครีษมายัน วันศารทวิษุวัต วันศารทวิษุวัต ครีษมายัน และวิษุวัตฤดูใบไม้ผลิ
จุดเริ่มต้นของฤดูกาลทางดาราศาสตร์ถือเป็นช่วงเวลาที่จุดศูนย์กลางของดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านศารทวิษุวัตและอายัน กล่าวคือ จากมุมมองทางดาราศาสตร์ ฤดูใบไม้ผลิไม่ได้เริ่มในวันที่ 1 มีนาคม
ฤดูใบไม้ผลิทางดาราศาสตร์– นี่คือช่วงเวลาตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ (21 มีนาคม) ถึงครีษมายัน (21 มิถุนายน) ระยะเวลาประมาณ 92 วัน 20 ชั่วโมง 12 นาที
ฤดูร้อนทางดาราศาสตร์– นี่คือช่วงเวลาตั้งแต่ครีษมายัน (21 มิถุนายน) ถึงวสันตวิษุวัต (23 กันยายน) ระยะเวลาประมาณ 93 วัน 14 ชั่วโมง 24 นาที
ฤดูใบไม้ร่วงทางดาราศาสตร์เริ่มตั้งแต่วสันตวิษุวัต (23 กันยายน) ไปจนถึงครีษมายัน (22 ธันวาคม) เป็นเวลา 89 วัน 18 ชั่วโมง 42 นาที
ฤดูหนาวทางดาราศาสตร์ใช้เวลาประมาณ 89 วัน 30 นาที - ตั้งแต่ครีษมายัน (22 ธันวาคม) จนถึงวสันตวิษุวัต (21 มีนาคม)
“แล้วจับอะไรล่ะ?” - คุณถาม
ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง นักดาราศาสตร์ตัดสินใจได้อย่างน่าเชื่อถือและสง่างามมาก ไม่มีการโต้แย้งที่นี่มันเป็นเรื่องจริง - ฤดูใบไม้ผลิเริ่มจากวันที่ระยะเวลากลางวันเริ่มเพิ่มขึ้นและฤดูใบไม้ร่วง - ตรงกันข้ามจากวันที่ระยะเวลากลางวันเริ่มลดลง
สิ่งที่จับได้ก็คือ ฤดูหนาว แม้แต่ในยุโรปยุโรปและเอเชียส่วนใหญ่ ไม่สามารถเริ่มได้ในวันที่ 22 ธันวาคม และฤดูร้อนไม่สามารถเริ่มได้ในวันที่ 21 มิถุนายน วันที่ 1 ธันวาคมเป็นจุดเริ่มต้นตามเงื่อนไขของฤดูหนาว และวันที่ 1 มิถุนายนเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูร้อน ก็ไม่เป็นไร แต่วันที่ 21 มิถุนายน และ 22 ธันวาคม ตามข้อมูลของ Govrie ไม่สามารถถือเป็นวันแรกของฤดูกาลเหล่านี้ได้
แล้วอะไรล่ะ - ตามทฤษฎีทางฟีโนโลยี ทุกปีวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวควรถือเป็นวันที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิอากาศเฉลี่ยรายวันที่ได้รับ อย่างใดไม่ใช่มนุษย์
และประเพณีและประเพณีพื้นบ้านก็มีประโยชน์ที่นี่
ในวัฒนธรรมออร์โธดอกซ์ของรัสเซีย ถือเป็นวันแรกของฤดูร้อน วันนิโคลิน 22 พฤษภาคม และถือเป็นวันแรกของฤดูหนาว วันโปครอฟ, 14 ตุลาคม.
ที่จริงแล้ว ทั้งสองวันนี้เป็นวันหยุดออร์โธดอกซ์ วันแรกเกี่ยวข้องกับการเคารพของนักบุญนิโคลัสผู้อัศจรรย์ ซึ่งต่อมาได้รับความนิยมในวัฒนธรรมตะวันตกในรูปของคริสต์มาส ซานตาคลอส และวันที่สองเป็นการเคารพแม่ของ พระเจ้าพระมารดาของพระเจ้า
วันที่ 22 พฤษภาคม เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายว่าเป็นวันเซนต์นิโคลัส และถือเป็นวันเกษตรกรรมที่สำคัญ บน Nikola Veshny หญ้าจะเขียวชอุ่มและสูง ม้าและวัวถูกขับออกไปที่ทุ่งหญ้าเขียวขจี “ขอให้ม้าอ้วนขึ้น” จาก Nikola เริ่มต้นการปลูกอาหารหลักจำนวนมากในบ้านชาวนา - มันฝรั่ง บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ป่า ดอกฟอร์เก็ตมีน็อต และนักว่ายน้ำกำลังเบ่งบาน ยุงปรากฏขึ้นจากนิโคลาและฤดูร้อนก็เริ่มต้นขึ้น
ในมาตุภูมิวันหยุดของการขอร้องมีความเกี่ยวข้องมานานแล้วกับการเริ่มต้นของฤดูหนาวและมีคำพูดที่อุทิศให้กับมัน: "ในการขอร้องโลกถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็ง", "ในการขอร้องมันเป็นฤดูใบไม้ร่วงก่อนอาหารกลางวัน และหลังอาหารกลางวันก็เป็นฤดูหนาว-ฤดูหนาว”
Govrie ตัดสินใจด้วยตัวเองดังนี้ ฤดูใบไม้ผลิจะเริ่มในวันที่ 21 มีนาคม ฤดูร้อนในวันที่ 22 พฤษภาคม ฤดูใบไม้ร่วงในวันที่ 21 กันยายน และฤดูหนาวในวันที่ 14 ตุลาคม
และสำหรับคุณ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว เริ่มต้นวันไหน?
นักอุตุนิยมวิทยาเชื่อว่าฤดูหนาวเริ่มต้นเมื่ออุณหภูมิอากาศเฉลี่ยในแต่ละวันเคลื่อนผ่านศูนย์องศาเซลเซียสและลดลง ในรัสเซียเวลานี้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับภูมิภาค: ฤดูหนาวเร็วที่สุดคือปลายเดือนกันยายน (ยาคุเตีย) อย่างช้าที่สุด - ต้นเดือนมกราคม (ดินแดนครัสโนดาร์) ในโซนกลาง การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเฉลี่ยรายวันเป็นศูนย์มักจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤศจิกายน
โดยปกติเดือนที่หนาวที่สุดคือเดือนมกราคม (ตามชายฝั่งทะเล เนื่องจากทะเลมีความเฉื่อยของอุณหภูมิที่สูง เดือนกุมภาพันธ์จึงมักเป็นเดือนที่หนาวที่สุด) ตามมาตรฐานใหม่ปี 1981-2010 เดือนที่หนาวที่สุดก็คือเดือนกุมภาพันธ์เช่นกัน ไม่ใช่มกราคมเหมือนเมื่อก่อน แม้ว่าเดือนที่อบอุ่นที่สุดคือเดือนธันวาคม แต่ชั้นบรรยากาศของโลกกลับเฉื่อย และความเย็นยังคงดำเนินต่อไปในเดือนมกราคม
ฤดูหนาวมาถึงรัสเซียจากทางตะวันออกเฉียงเหนือ ใน Yakutia, Chukotka และทางเหนือของดินแดน Krasnoyarsk สภาพอากาศจะเปลี่ยนเป็นฤดูหนาวในช่วงปลายเดือนกันยายน - ต้นเดือนตุลาคม ดังนั้นในออยเมียกอน ในช่วงวันที่ 31 สิงหาคม และในวันใดก็ได้ในเดือนกันยายน อุณหภูมิเฉลี่ยรายวันอาจเป็นลบได้ ในปี 2544 ในวันที่ 13 กันยายน อุณหภูมิเฉลี่ยรายวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 0 °C ในปี 2505 และ 2527 ซึ่งเป็นการละลายครั้งสุดท้าย ปีนี้ตรงกับวันที่ 22 กันยายน ภายในต้นเดือนพฤศจิกายน ฤดูหนาวจะปกคลุมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย (ยกเว้นหมู่เกาะคูริล พรีมอรี และทางใต้ของดินแดนคาบารอฟสค์ ซึ่งมีสภาพอากาศค่อนข้างอบอุ่นเนื่องจากอยู่ใกล้มหาสมุทร รวมถึง ชายฝั่งทางใต้ของทะเลสาบไบคาล ไซบีเรียตอนใต้ และดินแดนอัลไต)
ในภาคกลางของรัสเซีย อากาศเริ่มเย็นลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วง (14 ตุลาคมเป็นวันฉลองการวิงวอนของพระนางมารีย์พรหมจารี เชื่อกันว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สภาพอากาศจะเข้าสู่ฤดูหนาวในที่สุด) น้ำค้างแข็งรุนแรงครั้งแรก (ลดลงถึง -5..−7 °C ในตอนกลางคืน) ในภาคกลางของรัสเซีย มักจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนตุลาคม อุณหภูมิในเวลากลางวันในเวลานี้ยังคงค่อนข้างสูง (สูงถึง +15 °C) ประมาณปลายเดือนตุลาคม หิมะเริ่มตก - เปียกครั้งแรก (พร้อมกับฝน) และในรูปของธัญพืช จากนั้น (เมื่ออุณหภูมิลดลง) ในรูปแบบของแข็งเท่านั้น ในช่วงเวลาเดียวกัน (วันสุดท้ายของเดือนตุลาคม - วันแรกของเดือนพฤศจิกายน) หิมะปกคลุมครั้งแรก ริมฝั่งก่อตัวบนอ่างเก็บน้ำ (แผ่นน้ำแข็งบาง ๆ ใกล้ชายฝั่ง) และในที่สุดสัตว์ป่าก็ตกอยู่ในภาวะ anabiosis ในฤดูหนาว ในเวลาเดียวกัน ความหนาวเย็นยังคงอ่อนกำลัง ไม่คงที่ และสลับกับการละลายตามปกติ เนื่องจากช่วงครึ่งแรกของเดือนพฤศจิกายนถือเป็นช่วงสูงสุดของพายุไซโคลนในมหาสมุทรแอตแลนติก ช่วงนี้เรียกว่าก่อนฤดูหนาว ยาวนานจนถึงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน เมื่อฤดูหนาวเริ่มมีภูมิอากาศ อุณหภูมิติดลบอย่างต่อเนื่อง และเกิดเส้นทางเลื่อน (หิมะปกคลุมถาวร) บางครั้งการเบี่ยงเบนไปจากกำหนดเวลาเหล่านี้ก็เกิดขึ้น บางปีฤดูหนาวมาเร็วผิดปกติ (ปลายเดือนตุลาคม 2536, 2559) หรือกลับกันมาช้าผิดปกติ (ปลายเดือนธันวาคม 2558 กลางเดือนมกราคม 2550, 2555, 2557, 2561) หรือหิมะปกคลุมถาวรไม่ได้เกิดขึ้นเลย (พ.ศ. 2551)
ปฏิทินพื้นบ้านที่ใช้ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเป็นพื้นฐานกำหนดจุดเริ่มต้นของฤดูหนาวด้วยการปรากฏตัวของน้ำค้างแข็งและจุดสิ้นสุด - ด้วยจุดเริ่มต้นของหิมะละลาย ตามฤดูกาลทางฟีโนโลยีของปี ฤดูหนาวประกอบด้วยประมาณ 111 วัน (ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน ถึง 17 มีนาคม) และแบ่งออกเป็นสามฤดูย่อย:
- ฤดูหนาวแรก (“ ก่อนฤดูหนาว”) - 25 วัน (ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน - 22 ธันวาคม)
- ฤดูหนาวพื้นเมือง (“ ฤดูหนาวที่ตายแล้ว”) - 55 วัน (ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคมถึง 15 กุมภาพันธ์)
- จุดเปลี่ยนของฤดูหนาว (“ ก่อนฤดูใบไม้ผลิ”) - 31 วัน (ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ถึง 17 มีนาคม)
นักอุตุนิยมวิทยามักจะแบ่งฤดูหนาวออกเป็นสองประเภท: อากาศอบอุ่น (อบอุ่นแต่มีหิมะตก) และฤดูหนาว
สัญญาณพื้นบ้าน
ละลายอย่างรวดเร็ว - น้ำค้างแข็งยาวนาน ในฤดูหนาวอากาศจะแห้งและเย็น - ในฤดูร้อนจะแห้งและร้อน หากมีพายุหิมะในฤดูหนาวก็จะมีสภาพอากาศเลวร้ายในฤดูร้อน น้ำค้างแข็งขนาดใหญ่ตลอดฤดูหนาวหมายความว่าฤดูร้อนเป็นเรื่องยากต่อสุขภาพ ฤดูหนาวที่มีหิมะตกแสดงถึงการเจริญเติบโตของหญ้าที่ดี วงแหวนรอบดวงอาทิตย์หมายถึงสภาพอากาศเลวร้าย
ถ้าอากาศอบอุ่นในฤดูหนาว ฤดูร้อนก็จะเย็นสบาย ฤดูหนาวอากาศหนาว - ฤดูร้อนก็ร้อน ฤดูหนาวมีหิมะตก - ฤดูร้อนมีฝนตก ฤดูหนาวมีอากาศหนาวจัด - ฤดูร้อนก็ร้อน หิมะในฤดูหนาวอยู่ลึก - ในฤดูร้อนขนมปังจะสูง ฤดูหนาวไม่มีหิมะ ฤดูร้อนไม่มีขนมปัง หิมะเยอะมาก - ขนมปังเยอะมาก หิมะหนามาก - ขนมปังก็อร่อยดี เมฆทวนลม - จะมีหิมะ ดวงดาวส่องแสงแรงกล้าในฤดูหนาว - แปลว่าน้ำค้างแข็ง หากหน้าต่างเริ่มมีเหงื่อออกโดยมีกรอบสองชั้น แสดงว่าน้ำค้างแข็งเพิ่มขึ้น หากป่ามีเสียงดังในฤดูหนาว คาดว่าจะละลาย แมวบนเตา - ถึงความเย็น; แมวบนพื้นหมายถึงความอบอุ่น นกบูลฟินช์ร้องเจี๊ยก ๆ ใต้หน้าต่างในฤดูหนาว - สัญญาณของการละลาย
ในวันที่ 21 ธันวาคม 2017 เวลา 19:28 น. ตามเวลามอสโก ครีษมายันจะเกิดขึ้น ดวงอาทิตย์ซึ่งเคลื่อนที่ไปตามสุริยุปราคา ในขณะนี้จะไปถึงตำแหน่งที่ไกลที่สุดจากเส้นศูนย์สูตรท้องฟ้าไปทางขั้วโลกใต้ของโลก ฤดูหนาวทางดาราศาสตร์จะเริ่มในซีกโลกเหนือของโลก และฤดูร้อนจะเริ่มต้นในซีกโลกใต้ ในเวลาเดียวกัน ซีกโลกเหนือมีช่วงเวลากลางวันสั้นที่สุดและกลางคืนยาวนานที่สุด
วิทยาศาสตร์กับชีวิต // ภาพประกอบ
วิทยาศาสตร์กับชีวิต // ภาพประกอบ
วิทยาศาสตร์กับชีวิต // ภาพประกอบ
วิทยาศาสตร์กับชีวิต // ภาพประกอบ
ในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเหมายัน ในช่วงเที่ยง คุณสามารถสังเกตตำแหน่งต่ำสุดของดวงอาทิตย์เหนือขอบฟ้าในซีกโลกเหนือได้ เป็นเวลาหลายวันก่อนและหลังครีษมายัน ดวงอาทิตย์จะ "คงระดับความสูงไว้เท่านี้" ราวกับว่าจะหยุดลงในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมสมัยนี้จึงถูกเรียกว่าสถานีพลังงานแสงอาทิตย์
ในวันครีษมายัน ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางตะวันออกเฉียงใต้และตกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ถือเป็นส่วนโค้งที่สั้นที่สุดในท้องฟ้า ในมอสโก ในวันครีษมายัน วันที่ 21 ธันวาคม 2017 ดวงอาทิตย์จะขึ้นเหนือขอบฟ้าเวลา 8:57 น. และตกในเวลา 15:58 น. ระยะเวลากลางวันคือ 7 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม หลังจากวันนี้ เวลากลางวันจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น
ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ กลางคืนขั้วโลกจะเริ่มขึ้นเหนืออาร์กติกเซอร์เคิล ลักษณะสำคัญคือดวงอาทิตย์ไม่ได้ขึ้นเหนือขอบฟ้า ตัวอย่างเช่น คืนขั้วโลกที่ละติจูดมูร์มันสค์กินเวลา 40 วัน - ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคมถึง 10 มกราคม จุดสูงสุดจะตกในวันที่ 21-22 ธันวาคม ที่ขั้วโลกเหนือของโลก ไม่เพียงแต่มองไม่เห็นดวงอาทิตย์เท่านั้น แต่ยังไม่มีพลบค่ำอีกด้วย และตำแหน่งของดาวฤกษ์สามารถกำหนดได้โดยกลุ่มดาวเท่านั้น ภาพแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในพื้นที่ขั้วโลกใต้ของโลก - ในทวีปแอนตาร์กติกาในเวลานี้วันนั้นตลอดทั้งวัน
เป็นเวลาหลายพันปีที่ครีษมายันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้คนทุกคนในโลกของเราที่ใช้ชีวิตอย่างสอดคล้องกับวัฏจักรของธรรมชาติและจัดระเบียบชีวิตของพวกเขาให้สอดคล้องกับวัฏจักรเหล่านั้น อาคารวัดส่วนใหญ่จะเน้นไปที่พระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกในช่วงครีษมายันโดยเฉพาะ ในรัสเซียมีพิธีกรรมพิเศษที่เกี่ยวข้องกับครีษมายัน คนกริ่งเครมลินซึ่งรับผิดชอบในการตีระฆังก็มาโค้งคำนับซาร์ พระองค์ทรงประกาศว่าต่อจากนี้ดวงอาทิตย์เข้าสู่ฤดูร้อน กลางวันกำลังเพิ่มขึ้น และกลางคืนกำลังลดลง ดังสุภาษิตยอดนิยมที่ว่า “ดวงอาทิตย์มีไว้สำหรับฤดูร้อน ฤดูหนาวมีไว้สำหรับน้ำค้างแข็ง” ในวันที่อากาศหนาวจัดเหล่านี้ บรรพบุรุษของเรามอบของขวัญให้กัน ไปร้องเพลง กระโดดข้ามไฟ เต้นรำเป็นวงกลม และแข่งขันกันอย่างเข้มแข็ง จากวันที่ครีษมายันเป็นวันใด พวกเขาตัดสินใจว่าการเก็บเกี่ยวในปีหน้าจะเป็นอย่างไร ถ้ามีน้ำค้างแข็งบนต้นไม้ นั่นหมายความว่าจะมีการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์
ท้องฟ้าจำลองมอสโก
ถนน Sadovaya-Kudrinskaya, 5С1
จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของสี่ฤดูกาลในประเทศต่างๆ ของยุโรปและอเมริกานั้นนับได้สองวิธี - ทางดาราศาสตร์และปฏิทิน นอกจากนี้ยังมีหลักการอุตุนิยมวิทยา ปรากฏการณ์ และวัฒนธรรมในการกำหนดการเริ่มต้นฤดูกาลของปี
ในรัสเซียเป็นธรรมเนียมที่จะต้องนับตามหลักการปฏิทิน ดังนั้นวันที่ 1 มีนาคมจึงถือเป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ และวันที่ 8 มีนาคมถือเป็นวันหยุดฤดูใบไม้ผลิ แต่ถ้าคุณอ่านหนังสือของนักเขียนชาวอเมริกัน คุณจะสังเกตเห็นวลีเช่น “วันที่ 10 มีนาคม มันเป็นช่วงปลายฤดูหนาว” ความจริงก็คือว่าในสหรัฐอเมริกา ในแคนาดาและหลายประเทศในยุโรป เป็นเรื่องปกติที่จะนับการเริ่มต้นฤดูกาลตามหลักดาราศาสตร์
ตามหลักการทางดาราศาสตร์ การเริ่มต้นฤดูกาลจะเกิดขึ้นในวันที่ครีษมายัน:
- ฤดูใบไม้ผลิ(20 หรือ 21 มีนาคม);
- ฤดูร้อน(20 หรือ 21 มิถุนายน);
- ฤดูใบไม้ร่วง(22 หรือ 23 กันยายน);
- ฤดูหนาว(21 - 22 ธันวาคม)
แต่ครีษมายันตกวันต่างกันในแต่ละปี (ต่างกัน 1 - 2 วัน) ดังนั้น เพื่อความสะดวก ในประเทศที่ใช้วิธีการทางดาราศาสตร์ ฤดูกาลใหม่มักจะเริ่มในวันที่ 21 ของเดือนที่เกี่ยวข้อง ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อกันว่าคริสต์มาสคาทอลิกเป็นวันหยุดที่ตรงกับต้นฤดูหนาว อย่างไรก็ตาม ในชีวิตประจำวัน ชาวยุโรปจำนวนมากใช้หลักปฏิทินที่เรียบง่ายกว่า
แนวทางที่แตกต่างนี้มักทำให้ชาวต่างชาติและนักเดินทางประหลาดใจ จะต้องนำมาพิจารณาเมื่ออ่านวรรณกรรมระดับชาติ (อย่างไรก็ตาม ผู้แปลมักจะให้คำอธิบายในเชิงอรรถในกรณีเช่นนี้)
วิธีทางดาราศาสตร์ยังอธิบายสาเหตุของการเริ่มต้นวันหยุดฤดูร้อนอย่างกว้างขวางในยุโรปในเวลาต่อมามากกว่าในรัสเซีย วันหยุดในประเทศแถบยุโรปมักจะตกในช่วงกลางเดือนกันยายน ซึ่งสอดคล้องกับการสิ้นสุดเทศกาลวันหยุดหลักด้วย
จากมุมมองด้านอุตุนิยมวิทยา หลักการทางดาราศาสตร์สำหรับประเทศในยุโรปส่วนใหญ่นั้นใกล้เคียงกับการเริ่มต้นฤดูกาลจริงมากกว่าในปฏิทิน เดือนธันวาคม แม้ว่าจะเป็นเดือนที่มืดมนที่สุดของปี แต่มักจะหนาวน้อยกว่าเดือนมีนาคม (ซึ่งอธิบายได้จากความเฉื่อยของสภาพอากาศ - โลกซึ่งมีความร้อนสะสมจะปล่อยออกมาช้ากว่าที่อุ่นขึ้น) โดยปกติต้นเดือนมิถุนายนจะเย็นกว่าต้นเดือนกันยายน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเล)
แต่จากมุมมองของนักอุตุนิยมวิทยาและนักอุตุนิยมวิทยา ไม่มีวันเริ่มต้นฤดูกาลที่แน่นอน! ฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่อุณหภูมิอากาศเฉลี่ยรายวันเกิน 0 C มีแนวโน้มลดลง ดังนั้นใน Yakutia ฤดูหนาวจึงเริ่มในปลายเดือนกันยายนและใน Krasnodar - ต้นเดือนมกราคม และฤดูร้อนซึ่งเริ่มต้นเมื่ออุณหภูมิอากาศเฉลี่ยรายวันเพิ่มขึ้นจาก +15 C จะไม่เกิดขึ้นเลยในบางภูมิภาคของรัสเซีย ตัวอย่างเช่นใน Murmansk เกิดขึ้นเฉพาะในปีที่อากาศอบอุ่นเท่านั้น
ในยุคต่างๆ ในประเทศต่างๆ การเริ่มต้นของฤดูกาลหนึ่งๆ จะถูกกำหนดตามประเพณีทางวัฒนธรรมและศาสนา ตัวอย่างเช่น ในไอร์แลนด์ สิงหาคมหมายถึงเดือนแห่งฤดูใบไม้ร่วง ตามประเพณีของชาวเซลติก และในมาตุภูมิจนถึงศตวรรษที่ 18 ฤดูกาลถูกนับตามวันหยุดสำคัญ: ฤดูใบไม้ผลิมาถึงที่การประกาศ (25 มีนาคม) และคงอยู่จนถึงการประสูติของยอห์นผู้ให้บัพติศมา (24 มิถุนายน)
ในที่สุด ยังมีหลักการทางฟีโนโลยีในการกำหนดการเริ่มต้นของฤดูกาลใหม่ - ตามพฤติกรรมของธรรมชาติ ตามหลักการนี้ สปริงจะเกิดขึ้นเมื่อมีแผ่นน้ำแข็งละลายปรากฏขึ้นในสนาม และจะจบลงเมื่อดอกกุหลาบบาน
- การส่งรายงานทางอิเล็กทรอนิกส์ไปยังสำนักงานสรรพากรผ่านทางอินเทอร์เน็ต
- การยกเว้นนิติบุคคลจาก Unified State Register สำหรับข้อมูลที่เป็นเท็จ: เหตุ, การอุทธรณ์คำตัดสินของ Federal Tax Service เกี่ยวกับการยกเว้นที่จะเกิดขึ้น
- โรงแรมคืออะไร โดยการติดต่อหน่วยงานที่ได้รับอนุญาต คุณสามารถค้นหาได้
- แอปพลิเคชันสำหรับการถอนการลงทะเบียนของพื้นที่ถอนการลงทะเบียน UTII IP UTII