ความมหัศจรรย์ของดวงดาวในชีวิตมนุษย์ ดาวเจ็ดแฉก : ความหมายของสัญลักษณ์
เสน่ห์ดึงดูดทางอารมณ์ระหว่างทั้ง 7 บทบาทอธิบายไว้ในแผนภาพที่เรียกว่า "ดารานักมายากล" สัญลักษณ์ของ “ดาวนักมายากล” เจ็ดแฉกเชื่อมต่อกันด้วยการเชื่อมต่อ 21 ทิศทาง “ลูกศร” แต่ละอัน—การเชื่อมต่อทิศทางใน“ดาวแห่งนักมายากล” (แต่ละสัมผัส)—สอดคล้องกับไพ่ยิปซีหลักแห่งไพ่ยิปซีของไพ่ยิปซี
บทบาทบางอย่างของ “ดารานักมายากล” สร้างคู่รักที่มั่นคงซึ่งเชื่อมโยงกันด้วยอารมณ์ที่ขัดแย้งกัน บทบาทอื่นๆ เชื่อมโยงกันด้วยการดึงดูดใจด้านเดียวเท่านั้น ความสัมพันธ์ในบทบาททวิภาคีสะท้อนให้เห็นโดยแกนของ "ดารานักมายากล" สามารถรับได้โดยการวาดดาวเจ็ดแฉก 7 เส้นโดยไม่ต้องยกมือและวางสัญลักษณ์ของดาวเคราะห์จักระทั้งเจ็ดที่ด้านบน แต่ละบรรทัดสะท้อนถึงความรู้สึกที่แตกต่างกันสองประการ - เสน่ห์สองประการจากบทบาทหนึ่งไปอีกบทบาทหนึ่ง รวม 7 × 2 = 14 ความรู้สึกตอบโต้
ไม่สมหวังความรู้สึกสามารถเกิดขึ้นได้โดยการเชื่อมต่อยอดดาวเจ็ดแฉกกับเส้นอีก 7 เส้นเป็นรูปทรงเจ็ดหน้าตามเส้นรอบวงตามเข็มนาฬิกา ทิศทางของความรู้สึกที่ไม่สมหวังตามแนวเส้นรอบวงของรูปเจ็ดหน้าจะแสดงด้วยลูกศรของสัญลักษณ์ดาวอังคาร มันถูกส่งตรงจากถึง เป็นผลให้ชุดความรู้สึก อารมณ์ และอารมณ์ที่สมบูรณ์ประกอบด้วยอารมณ์โต้ตอบ 14 แบบและอารมณ์ที่ไม่ได้รับคำตอบ 7 แบบระหว่างบทบาทต่างๆ
แต่ละความรู้สึกสามารถเขียนเป็นคู่ของบทบาทโดยมีลูกศรอยู่ระหว่างพวกเขา: สัญลักษณ์แรกของรายการบ่งบอกว่าบทบาทใดที่ดึงดูดใจทางอารมณ์มาจากบทบาทที่สอง - ถึงบทบาทใด เช่น ความรู้สึกภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีสามารถเขียนเป็น - การกำหนดความรู้สึกนี้เรียกว่าการเขียนตามบทบาท ความรู้สึกสามารถระบุได้ด้วยไพ่อาร์คานาหลักของไพ่ทาโรต์ ตัวอย่างเช่น การ์ด "ราชรถ" ระบุความรู้สึกภาคภูมิใจ การบันทึกบทบาทนั้นสะดวกกว่าการบันทึกไพ่ทาโรต์เมื่อศึกษาทฤษฎีความรู้สึก แต่ไพ่ทาโรต์ทำให้สามารถรักษาลัทธิลึกลับได้อย่างน่าเชื่อถือมากขึ้นเนื่องจากพวกมันซ่อนโครงร่าง "ดาวแห่งนักมายากล" ดังนั้นผู้เริ่มต้นจึงมักใช้การบันทึกความรู้สึกแบบสวมบทบาทและผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า - การบันทึกไพ่ทาโรต์
“The Star of Magicians” (หรือซึ่งเป็นสิ่งเดียวกัน คืออาถรรพ์หลักของไพ่ทาโรต์) คือ ABC ของจิตวิทยา ในด้านจิตวิทยา ดารานักมายากลมีบทบาทเช่นเดียวกับตารางสูตรคูณในเลขคณิต ดาววิเศษ เช่นเดียวกับตารางสูตรคูณ จะต้องเรียนรู้เพียงครั้งเดียวแล้วใช้ไปตลอดชีวิต
แผนภูมิบทบาทของความรู้สึก
บทบาท | ความรู้สึก | การบันทึกบทบาทของความรู้สึก |
---|---|---|
ฮีโร่ | แรงบันดาลใจ ความตื่นเต้น ความกล้า การขับเคลื่อน | |
เบื่อบลูส์ | ||
ความอ่อนโยน ความเมตตา การกอดรัด | ||
เห็นแก่ตัว | ความโลภ ความโลภ ตัณหา | |
ความไม่เชื่อใจ ความสงสัย | ||
ความกังวลความวิตกกังวล | ||
ซิมเปิ้ลตัน | ความงุนงง,ความสับสน,ความงงงวย | |
มิตรภาพความภักดี | ||
การปฏิเสธความไม่พอใจ | ||
คนร้าย | ความแน่วแน่ความมั่นใจ | |
ความโกรธ ความอาฆาตพยาบาท ความเกลียดชัง | ||
ความจริงจังความเข้มข้น | ||
ไอดอล | ความเป็นเลิศความภาคภูมิใจ | |
จอย เสียงหัวเราะ | ||
ความเมตตาความสงบ | ||
เจ้าเล่ห์ | ความอึดอัดใจ, ความไม่แน่นอน | |
ความอัปยศ, ความอับอาย, ความอับอาย | ||
รังเกียจรังเกียจ | ||
เสียสละ | ชื่นชม (ความรู้สึกสูงส่ง) | |
สยองขวัญความกลัว | ||
ความโศกเศร้า ความโศกเศร้า ความโศกเศร้า |
เมื่อศึกษาความสัมพันธ์ในทีม จำเป็นต้องแยกแยะระหว่างตัวละครที่โดดเด่นและบทบาทที่ครอบครอง ตัวละครที่โดดเด่นอาจไม่สอดคล้องกับบทบาทที่ทำอยู่ในปัจจุบันในทีมที่กำหนด ตัวละครที่โดดเด่นแสดงออกเฉพาะในความปรารถนาที่จะมีบทบาทที่เหมาะสมและสัมผัสกับความรู้สึกที่เกิดจากบทบาทนี้เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องแยกแยะระหว่างสถานะความสัมพันธ์ที่มั่นคง (คงที่) และไม่เสถียร (ไม่เสถียร) ความสัมพันธ์ระหว่างคนในทีมมุ่งมั่นเพื่อความมั่นคงและมั่นคงอยู่เสมอ
สถานะที่มั่นคง ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนเกิดขึ้นเมื่อตรงตามเงื่อนไข 2 ข้อพร้อมกัน:
-
ผู้คนมีบทบาทที่เชื่อมโยงกันด้วยความรู้สึกตอบโต้แบบสองทาง (จากแต่ละบทบาทไปยังอีกบทบาทหนึ่งมีความรู้สึก)
-
บทบาทสอดคล้องกับตัวละครเด่นของทั้งสองคน
สถานะของความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคงเกิดขึ้นใน 3 กรณี:
-
บทบาทที่ถูกครอบครองไม่ได้ถูกผูกมัดด้วยความรู้สึก
-
บทบาทเชื่อมโยงกันด้วยความรู้สึกด้านเดียว
-
อย่างน้อยหนึ่งบทบาทไม่สอดคล้องกับลักษณะเด่นของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
เมื่อสื่อสาร ผู้คนจะมีความรู้สึกที่แตกต่างกันและกระโดดจากบทบาทหนึ่งไปยังอีกบทบาทหนึ่ง การประสบกับความรู้สึกแต่ละอย่างหมายถึงการครอบครองบทบาทที่ความรู้สึกนั้นเกิดขึ้น
การเปลี่ยนไปสู่บทบาทอื่นนั้นแสดงให้เห็นในการเปลี่ยนไปใช้ความรู้สึกอื่น ไปสู่อารมณ์อื่น ไปสู่อารมณ์อื่นที่เกี่ยวข้องกับบทบาทอื่น อย่างไรก็ตาม ผู้คนจะย้ายจากความรู้สึกหนึ่งไปยังอีกความรู้สึกหนึ่งได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น เมื่อความรู้สึกเหล่านี้เกี่ยวข้องกับบทบาทเดียวกัน กล่าวคือ ผู้คนมักจะไม่เปลี่ยนบทบาท
“ดาวแห่งนักมายากล” เจ็ดแฉก อธิบายถึงอารมณ์ที่ดึงดูดใจไม่ใช่ระหว่างคนในทีม แต่เป็นเพียงระหว่างบทบาทปัจจุบันเท่านั้น
ทัศนคติของผู้คนเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาเข้าสู่บทบาทที่แตกต่างกัน ดังนั้นพวกเขาจึงพูดว่า: "ที่รักดุ - พวกเขาแค่ทำให้ตัวเองสนุก" ซึ่งหมายความว่าในบางบทบาทพวกเขาดูสบถ แต่ในบางบทบาทพวกเขาก็เป็นคนดีอีกครั้ง
เราต้องไม่ลืมว่าโลกถูกมอบให้กับมนุษย์ในรูป แนวคิด และความคิด การปิดจิตทันทีจะทำให้ความรู้สึกและความรู้สึกทั้งหมดหายไป เมื่อบุคคลหมดสติภาพทั้งโลกก็หายไปเพื่อเขา เมื่อฉีดยาชาบุคคลจะสูญเสียความรู้สึกทั้งหมดเขาไม่รู้สึกเจ็บปวดและไม่มีความรู้สึกใด ๆ ความเจ็บปวด รส กลิ่น สีของโลก และอารมณ์จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเหตุผลเปิดขึ้นและจิตสำนึกกลับคืนสู่บุคคลเท่านั้น
ความรู้สึกมักไม่ได้พูดถึงบุคคล แต่ส่งถึงบทบาท รูปภาพ สถานการณ์เฉพาะ ความคิด หรือความทรงจำบางอย่าง
ดังนั้นเมื่อวิเคราะห์กลไกความรู้สึกจึงจำเป็นต้องเปรียบเทียบ "ดารานักมายากล" กับตัวละครแต่ละตัว การกล่าวถึงบุคคลอื่นด้วยความรู้สึกหมายถึงการเชิญชวนให้เขารับบทบาทที่กล่าวถึงความรู้สึกนั้น ตัวอย่างเช่น คนหนึ่งพูดกับอีกคนหนึ่งว่า “เฮ้ เจ้าแพะ ในกรณีนี้ ความรู้สึกที่ทำที่อยู่นั้นเป็นความรู้สึกที่เหนือกว่าของตัวเอง ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นเทวรูปและเชิญชวนให้อีกฝ่ายมารับบทเป็นเหยื่อผู้ชื่นชม
การกล่าวถึงภาพบางภาพด้วยความรู้สึกบางอย่างหมายถึงการเชิญชวนให้บุคคลอื่นสัมผัสกับความรู้สึกแบบเดียวกันกับภาพนี้
ตัวอย่างเช่น เมื่อนักบวชในโบสถ์คุกเข่าลงและด้วยความรู้สึกอ่อนโยนและเคารพกล่าวว่า: "ให้เราอธิษฐานและถวายเกียรติแด่พระเจ้าของเรา ... " โดยหันไปหาพระฉายาของพระเจ้าเขาเองก็รับบทบาทเป็น ผู้ประสบภัย-ผู้สักการะ และเชิญชวนทุกคนให้รับบทบาทเดียวกันกับผู้บูชา กลไกของประสบการณ์ร่วมกันและความเห็นอกเห็นใจมีพื้นฐานมาจากสิ่งนี้ ในกรณีเหล่านี้ บางครั้งพวกเขาพูดว่า: "เอาตัวเองมาแทนที่ฉัน"
การกระทำและอารมณ์มีความเกี่ยวข้องกันแต่สิ่งที่แตกต่างกัน ด้วยท่าทาง น้ำเสียง ท่าทาง การแสดงออกทางสีหน้า และคำพูด ผู้คนจะเน้นเฉพาะความรู้สึกและอารมณ์ของตนเองเท่านั้น
เบื้องหลังทุกการกระทำย่อมมีสภาวะทางอารมณ์
อย่างไรก็ตาม โลกแห่งความรู้สึก อารมณ์ และประสบการณ์ทางอารมณ์เป็นเพียงระบบย่อยหนึ่งของกลไกการขับเคลื่อนที่กระตุ้นให้ผู้คนลงมือทำ ดังนั้นเพื่อให้เข้าใจถึงกลไกนี้จึงจำเป็นต้องแยกแยะ:
-
มีประสบการณ์ความรู้สึกและอารมณ์
-
ภาพ แนวคิด และแนวคิดที่เกี่ยวข้อง
-
การกระทำและการกระทำที่เกิดขึ้น
ผู้คนกระทำตามภาพที่ตนดึงดูด ภายใต้อิทธิพลของความรู้สึกที่พวกเขาสัมผัส อย่างไรก็ตาม เมื่อสัมผัสความรู้สึกเดียวกัน ผู้คนสามารถดึงดูดภาพ แนวคิด และความคิดที่แตกต่างกัน และสัมผัสความรู้สึกที่แตกต่างกันเกี่ยวกับภาพเดียวกัน
ในการสื่อสาร ไม่เพียงแต่สิ่งที่บุคคลทำ ไม่เพียงแต่การกระทำเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวิธีที่เขาทำ ด้วยความรู้สึกและสภาวะทางอารมณ์ใดที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้น คุณสามารถให้เงิน โค้งคำนับด้วยความเคารพ หรือโยนเงินใส่หน้าก็ได้ ทั้งหมดนี้มีความสำคัญโดยตรงต่อความสัมพันธ์
จิตวิทยาศึกษาระบบย่อยเพียงระบบเดียวของกลไกแรงจูงใจในการดำเนินการ - โลกแห่งการกระตุ้นทางอารมณ์ Talleyrand กล่าวว่า: "จงกลัวการเคลื่อนไหวครั้งแรกของดวงวิญญาณ..." ชุดพื้นฐานของความรู้สึกเบื้องต้นคือ "การเคลื่อนไหวครั้งแรกของจิตวิญญาณ" ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นที่จริงใจซึ่งประกอบขึ้นเป็นประสบการณ์ทางอารมณ์
รู้จักตัวเอง
ร่างกายของแต่ละคนถูกควบคุมโดย 7 ระบบ ดังนั้นทุกคนจึงคุ้นเคยกับบทบาททั้ง 7 ประการ ตัวละครทั้ง 7 ตัวอาศัยอยู่ในตัวทุกคน แต่แต่ละคนมีอัตราส่วนของ "ฉัน" ทั้ง 7 ตัวที่แตกต่างกัน ดังนั้นนอกจากตัวละครหลักและตัวละครหลักตัวแรกแล้ว เรายังสามารถแยกแยะตัวละครที่สอง สาม สี่ ฯลฯ ได้ด้วย
สะดวกในการพิจารณาการกระตุ้นทางอารมณ์ให้ดำเนินการโดยใช้ตัวอย่างของคนที่มีตัวละครเดี่ยวเมื่อระบบของร่างกายระบบใดระบบหนึ่งได้รับการพัฒนามากกว่าระบบอื่น ๆ มาก - ระบบนั้นมีอำนาจเหนือกว่าอย่างแน่นอน คนที่มีตัวละครเดี่ยวมักจะอยู่ในบทบาทที่พวกเขาชื่นชอบเป็นเวลานาน และหากพวกเขาละทิ้งบทบาทนั้น พวกเขาก็จะกลับมาเล่นบทบาทนั้นอย่างรวดเร็ว ผู้คนดังกล่าวยังคงรักษาบทบาทของตนไว้อย่างชัดเจนเผยให้เห็นแก่นแท้ของตัวละครและ "ปรัชญาในชีวิตประจำวัน" เนื่องจากตัวละครที่โดดเด่นจะกำหนดทิศทางของการสร้างแผนผังแนวคิดหลักและรูปแบบการกระทำที่ชื่นชอบ
ควรสังเกตว่าตัวละครของผู้คนเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ และตัวละครเดี่ยวสามารถพัฒนาได้เฉพาะในเงื่อนไขของการแยกคนเจ็ดคนออกจากสังคมโดยสิ้นเชิงตั้งแต่แรกเกิด เช่น บนเกาะร้างหรือในป่าลึก เมื่อนั้นสโนว์ไวท์จะพบกับคนแคระทั้ง 7 คน ซึ่งแต่ละคนจะมีตัวละครเป็นของตัวเอง เจ้าหญิงนิทราจะได้เห็นฮีโร่ 7 คน หมาป่าจะได้พบกับเด็ก 7 คน ฯลฯ ฯลฯ ธรรมชาติได้ปลูกฝังความปรารถนาในทีมที่จะกระจายความรับผิดชอบใน 7 บทบาท แต่สิ่งนี้จะบรรลุได้เฉพาะในขีดจำกัดเท่านั้น
อารมณ์และประสบการณ์ทั้งหมดเป็นที่รู้จักและเข้าถึงได้เท่าเทียมกันทั้งชายและหญิง ไม่มีความรู้สึกเฉพาะของชายหรือหญิง แต่มีแนวคิดเรื่องศีลธรรมที่บ่งบอกว่าความรู้สึกใดคู่ควรกับ "ผู้ชายที่แท้จริง" และความรู้สึกใดควรเป็นลักษณะเฉพาะของ "ผู้หญิงที่อ่อนแอ" เท่านั้น ภายใต้แรงกดดันจากความคิดเห็นของประชาชน หลายคนปิดบังประสบการณ์ที่แท้จริงของตน
ไม่เพียงแต่โลกรอบตัวเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมนุษย์ด้วยในภาพ แนวคิด และแนวคิดต่างๆ ทุกคนมีสองตำนาน สองความคิดเกี่ยวกับตัวเอง ตำนานหนึ่งมีไว้เพื่อตนเอง และอีกตำนานหนึ่งมีไว้เพื่อผู้อื่น บางครั้งตำนานเหล่านี้ก็เกิดขึ้นพร้อมกันแต่แทบจะไม่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงเลย
คุณต้องรู้จักตัวเอง โบราณว่า “รู้จักตนเองแล้วจะรู้จักโลก” หากต้องการเข้าใจโลก คุณต้องค้นพบตัวละคร 7 ตัวในตัวคุณเอง 7 ตัวใน “ฉัน” ของคุณและค้นหาความรู้สึกทั้ง 21 ประการ เมื่อนั้นประสบการณ์ ตัวละคร ความคิด และการกระทำของผู้อื่นจึงจะชัดเจน แล้วกลไกความสัมพันธ์และทิศทางการขับเคลื่อนของสังคมก็จะชัดเจนขึ้น
ทุกคนมีชุดความรู้สึกพื้นฐานที่เหมือนกัน เขาคุ้นเคยกับทุกคน บทบาทและตัวละครสามารถจดจำได้ง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ล้อเลียนและแสดงบนเวที ในภาพยนตร์และละครได้ง่ายมาก บรรยายไว้ในนวนิยายและเรื่องราว ร้องเป็นเพลงและบทกลอน การรู้จักบทบาทและตัวละครทั้งเจ็ดอันงดงามหมายถึงการรู้จักโลกของผู้คน โลกแห่งความรู้สึกและประสบการณ์ หมายถึงการเปิดผนึก 7 ดวงและหลุดออกจาก “หนังสือที่เขียนทั้งภายในและภายนอก”
ลูซี่มีดวงตาสีน้ำตาลและผมสีบลอนด์ยาวประบ่า ซึ่งมักจะมัดด้วยริบบิ้นหลากสีเป็นหางม้าเล็ก ๆ ที่ด้านขวาของศีรษะ โดยผมที่เหลือหลวม อย่างไรก็ตาม ใน X791 เธอไว้ผมเปียบ่อยกว่า ในปี X792 ผมของลูซี่ยาวขึ้น และเธอก็เริ่มมัดผมหางม้าที่ด้านข้างศีรษะ ลูซี่มีร่างกายที่โค้งมน พารามิเตอร์โดยประมาณของเธอ: หน้าอก - 91 ซม.; เอว - 59 ซม. สะโพก - 88 ซม. อย่างไรก็ตามการวัดในเวลาต่อมาแตกต่างกันเล็กน้อย: หน้าอกเล็กกว่า 2 ซม. และพารามิเตอร์อื่น ๆ เล็กกว่า 1 ซม.
เครื่องหมายแฟรี่เทลสีชมพูของเธออยู่ที่มือขวาของเธอ นอกจากนี้ลูซี่ไม่ได้สวมเสื้อผ้าแบบเดียวกัน เธอจึงเปลี่ยนชุดอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม เธอมักจะสวมเข็มขัดของเธอซึ่งถือกุญแจวิญญาณและแส้ของเธอ ชุดของเธอเสริมด้วยรองเท้าบูทส้นสูง ลูซี่เองก็คล้ายกับแม่ของเธอมาก
ลูซีภูมิใจในรูปร่างหน้าตาของเธอและมั่นใจในเสน่ห์ทางเพศของเธอ และมักจะแสดงออกถึงความไร้สาระ อย่างไรก็ตาม เธอเป็นคนฉลาด ใจดี และเป็นคนที่เอาใจใส่อย่างแท้จริง ลูซี่มีความหลงใหลในวรรณกรรมและกำลังเขียนนวนิยายของเธอเองเกี่ยวกับการผจญภัยของเธอกับแฟรี่เทล แม้ว่าเธอจะไม่ชอบบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ตาม นอกจากความรักในหนังสือแล้ว ลูซี่ยังสนุกกับการช้อปปิ้งและทำอาหารอีกด้วย สีโปรดของเธอคือสีฟ้าและสีชมพู เธอยังเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลฮาร์ทฟิเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากที่สุดในฟิโอเร อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่กับพ่อของเธอและการตายของแม่ของเธอ ไลลา ฮาร์ทฟิเลีย ลูซี่จึงออกจากบ้านเพื่อเดินตามเส้นทางของเธอเองและเป็นอิสระ
ลูซี่ใจดีต่อวิญญาณสวรรค์ของเธอมากและปฏิเสธที่จะใช้พวกมันเป็นโล่ เธอมักจะต่อสู้เคียงข้างพวกเขาและปฏิบัติต่อพวกเขาในฐานะเพื่อน ไม่เหมือนนักเวทย์มนตร์คนอื่นๆ ที่มองว่าพวกเขาเป็นเพียงเครื่องมือและวัตถุเท่านั้น ลูซีใส่ใจวิญญาณของเธอและจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้พวกมันมีความสุข แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม แม้ว่าในทางเทคนิคแล้วเธอจะเป็นเจ้าของวิญญาณ แต่ลูซี่ก็ชอบให้เรียกว่าเพื่อนของพวกเขามากกว่า แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วลูซีจะขี้ขลาดและขี้อาย แต่เธอก็ไม่มีปัญหาในการต่อสู้ และยินดีที่จะเผชิญกับอันตรายแม้ว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บก็ตาม แม้ว่าพลังของเธอจะไม่มากเท่ากับเพื่อนร่วมทีมของเธอ แต่ลูซี่ก็สามารถต่อสู้ได้ด้วยตัวเอง โดยมักใช้ไหวพริบอันรวดเร็วและการคิดนอกกรอบ เธอสืบทอดความดื้อรั้นและการปฏิเสธที่จะยอมแพ้ของนัตสึ แม้ว่าจะมีอุปสรรคขัดแย้งกับเธอก็ตาม
ลูซี่ใจดีต่อวิญญาณสวรรค์ของเธอมากและปฏิเสธที่จะใช้พวกมันเป็นโล่ เธอมักจะต่อสู้เคียงข้างพวกเขาและปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนเป็นเพื่อน ไม่เหมือนคนอื่นๆ
นักเวทย์มนตร์ที่มองว่าเป็นเพียงเครื่องมือและสิ่งของ ลูซีใส่ใจวิญญาณของเธอและจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้พวกมันมีความสุข แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม แม้ว่าในทางเทคนิคแล้วเธอจะเป็นเจ้าของวิญญาณ แต่ลูซี่ก็ชอบให้เรียกว่าเพื่อนของพวกเขามากกว่า แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วลูซีจะขี้ขลาดและขี้อาย แต่เธอก็ไม่มีปัญหาในการต่อสู้ และยินดีที่จะเผชิญกับอันตรายแม้ว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บก็ตาม แม้ว่าพลังของเธอจะไม่มากเท่ากับเพื่อนร่วมทีมของเธอ แต่ลูซี่ก็สามารถต่อสู้ได้ด้วยตัวเอง โดยมักใช้ไหวพริบอันรวดเร็วและการคิดนอกกรอบ เธอสืบทอดความดื้อรั้นและการปฏิเสธที่จะยอมแพ้ของนัตสึ แม้ว่าจะมีอุปสรรคขัดแย้งกับเธอก็ตาม
ลูซีไม่เหมือนเพื่อนส่วนใหญ่ของเธอ ตรงที่ลูซี่ไม่ชอบการต่อสู้และใช้ความรุนแรงเพื่อแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม เธอพบว่าการได้อยู่กับสมาชิกกิลด์ของเธอสนุกมาก ในฐานะผู้กระซิบแห่งวิญญาณ ลูซี่มักจะรักษาสัญญาของเธอเสมอ เธอพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อกิลด์และเพื่อนๆ ของเธอ
นักเวทย์แห่ง Celestial Spirit มีโอกาสที่จะได้รับกุญแจทองคำที่หายากมาก ซึ่งใช้สำหรับเปิดประตูแห่งจักรราศี และกุญแจเงินที่ซื้อจากร้านค้าทั่วไป มีกุญแจเงินจำนวนมาก แต่มีกุญแจทองคำเพียง 12 ดอกเท่านั้น โดยแต่ละกุญแจมีความเกี่ยวข้องกับสัญลักษณ์ทางโหราศาสตร์เฉพาะ จนถึงตอนนี้ ลูซีได้รับกุญแจทอง 10 ดอกและกุญแจเงิน 5 ดอก ซึ่งหมายถึงจำนวนเงินที่มากพอสำหรับนักเวทย์ 1 คน
ความสามารถของลูซี่ในการเรียกวิญญาณถูกจำกัดด้วยพลังเวทย์มนตร์ เนื่องจากเธอต้องสนับสนุนพวกมัน ยิ่งเธอเรียกวิญญาณมากเท่าไร พลังของเธอก็จะหมดลงมากขึ้นเท่านั้น ลูซี่ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการอัญเชิญดวงวิญญาณแห่งนักษัตรทั้ง 5 ดวงได้ภายในหนึ่งวัน และยังแสดงให้เห็นว่าเธอสามารถอัญเชิญพวกมันได้ด้วยการเรียกชื่อพวกมันแทนการใช้กุญแจ
* การอัญเชิญแบบคืนเงิน: ความสามารถที่ผู้อัญเชิญวิญญาณเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ โดยทำลายกุญแจทองหนึ่งอันเพื่ออัญเชิญ Celestial Spirit King ผู้ทรงพลังที่สุดในบรรดาวิญญาณทั้งหมด เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ลูซี่ต้องสังเวยกุญแจแห่งราศีกุมภ์
* Star Dress: คาถาที่ลูซี่เรียกวิญญาณแห่งสวรรค์และดูดซับพลังของมัน คาถานั้นปรากฏให้เห็นในรูปแบบของเครื่องแต่งกายและรอยสักรูปสัญลักษณ์กลุ่มดาวบนร่างของลูซี่ นอกจากนี้ยังเพิ่มพลังเวทย์มนตร์ของเธอเอง ทำให้เธอสามารถใช้คาถาที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นได้
* แบบฟอร์มราศีกุมภ์: ราชาแห่งวิญญาณสวรรค์มอบแบบฟอร์มนี้ให้กับเธอ และเมื่ออยู่ในนั้น ลูซี่ก็มีลักษณะภายนอกคล้ายกับราศีกุมภ์: เธอสวมบิกินี่และกระโปรงสั้น สัญลักษณ์ของกลุ่มดาวราศีกุมภ์ตั้งอยู่ระหว่างกระดูกไหปลาร้า อย่างไรก็ตาม รอยสักหายไปเมื่อลูซี่แสดง Urano Metria ได้สำเร็จ โดยเอาชนะเดอะลิ่วล้อได้ แต่ปรากฏอีกครั้งในภายหลัง
* เวทมนตร์น้ำ: หลังจากสูญเสียกุญแจราศีกุมภ์เพื่ออัญเชิญราชาวิญญาณแห่งสวรรค์ ลูซี่ก็สามารถใช้เวทมนตร์ราศีกุมภ์ได้ ทำให้เธอสามารถใช้พลังของเพื่อนได้อย่างมีสติและไม่รู้ตัว
* กำแพงกั้นน้ำ: ลูซี่สร้างกำแพงกั้นน้ำที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถสกัดกั้นแม้กระทั่งการระเบิดที่เกิดจากคำสาปอันทรงพลังของลิ่วล้อ
* ร่างลีโอ: หลังจากดูดซับพลังของโลกิเข้าสู่ร่างกายของเธอแล้ว ลูซี่ก็สวมชุดหรูหราที่เข้ากับสไตล์ของเขา สัญลักษณ์กลุ่มดาวโลกิอยู่ที่ด้านขวาของหน้าอกของลูซี่
* เรกูลัส: ด้วยพลังของโลกิ ลูซี่จึงสามารถใช้เรกูลัสเมจิกได้ ด้วยการดูดซับมันเข้าไปในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เธอสามารถโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยพลังที่สูงกว่าได้
* ลูกเตะของเรกูลัส ลูซี่: รูปแบบหนึ่งของการเตะปกติของลูซี มีเพียงความเสียหายที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากแสงที่อยู่รอบขาของเธอ แสงจะเพิ่มระดับการกระแทก
*รูปแบบราศีกันย์: ลูซีดูดซับพลังของราศีกันย์เข้าสู่ร่างกายของเธอ ซึ่งทำให้เครื่องแต่งกายของเธอคล้ายกับสไตล์ของเธอ อย่างไรก็ตาม ชุดดังกล่าวไม่ได้เปิดไหล่และมีริบบิ้นสีดำที่ราศีกันย์สวมบนศีรษะของเธอพันรอบคอของเธอ มีโบว์สีขาวปรากฏที่หน้าอกและมีริบบิ้นสีขาวรอบเอว แขนเสื้อแยกออกจากชุดและเริ่มจากปลายแขน สัญลักษณ์กลุ่มดาวราศีกันย์ปรากฏที่ด้านขวาของหน้าอก
* Earth Magic: ขณะที่อยู่ในร่างราศีกันย์ ลูซี่จะสามารถเข้าถึง Earth Magic ได้
* ดื่มด่ำ: ลูซี่ใช้ความสามารถของราศีกันย์ มีความสามารถในการสร้างอุโมงค์ผ่านพื้นดิน
* แบบฟอร์มราศีพฤษภ: ลูซี่ผสมผสานกับราศีพฤษภ ทำให้เธอแต่งกายด้วยเสื้อชั้นใน แขนเสื้อสีวัว และกางเกงที่ถูกตัดออกที่ขาขวาของเธอ เธอสวมถุงมือแบบไม่มีนิ้วและรองเท้าบูทยาวถึงเข่า รวมถึงเข็มขัดและกระเป๋า
รอบเอว ขณะที่ลูซีสวมชุดนี้ ผมของเธอถูกถักเปียเป็นมวยสองเส้นที่ด้านข้างศีรษะ โดยมีปอยสองเส้นห้อยหลวมๆ ที่ด้านหน้าเพื่อจัดวางใบหน้าของเธอ เธอยังเก็บแส้ของเธอไว้ในรูปแบบปกติ สัญลักษณ์ของกลุ่มดาวราศีพฤษภอยู่ที่หัวเข็มขัดของลูซี่
* Earth Wave: ลูซี่ฟาดพื้นด้วยแส้ของเธอ ทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ โจมตีใครก็ตามที่อยู่ตรงหน้าเธอ
*Lucy Punch: ลูซี่สร้างหมัดแล้วพุ่งไปที่เป้าหมายของเธอ และชกเธออย่างแรง ความแข็งแกร่งอันยิ่งใหญ่: แบบฟอร์มนี้ทำให้ลูซี่มีความแข็งแกร่งอย่างราศีพฤษภ ทำให้เธอสามารถใช้แส้เพื่อโจมตีและทำลายพื้นได้
* ราศีธนู: เมื่อร่วมมือกับชาวราศีธนู ลูซี่จะได้ชุดที่ประกอบด้วยชุดเดรสและแขนเสื้อแยกออกจากกันโดยเปลือยไหล่ ผมของเธอรวบเป็นหางม้าปกติ และชุดของเธอก็สวมรองเท้าบูทสูงคู่หนึ่ง สัญลักษณ์ของกลุ่มดาวราศีธนูอยู่ที่ไหล่ซ้าย
* Archery Master: ขณะอยู่ในร่างราศีธนู ลูซี่มีความแม่นยำ ทำให้เธอสามารถยิงธนูหลายลูกใส่คู่ต่อสู้ในคราวเดียว
* Star Shot: ลูซี่สามารถยิงธนูกลับบ้านที่ระเบิดเมื่อสัมผัส
Unison Strike: ความสามารถที่ทำให้นักเวทย์สองคนสามารถรวมความสามารถทางเวทย์มนตร์ของพวกเขาเป็นคาถาเดียว ทำให้เกิดการโจมตีที่ทรงพลัง ความสามารถนี้ค่อนข้างยาก เนื่องจากนักบวชหลายคนใช้เวลาทั้งชีวิตพยายามที่จะเชี่ยวชาญ แต่ก็ล้มเหลว อย่างไรก็ตาม ลูซี่และจูเวีย ล็อคเซอร์จัดการมันได้ในครั้งแรก โดยผสมผสานคลื่นยักษ์ของราศีกุมภ์กับน้ำของจูเวียเอง เพื่อสร้างวังวนที่ทรงพลังและใหญ่ซึ่งแม้แต่ผมของวิวัลดิอุส ทากะก็ไม่สามารถดูดซับได้ ต่อมา ลูซี่สามารถรวมเวทย์มนตร์ของเธอเข้ากับนักเวทย์อีกคนหนึ่ง เวนดี้ มาร์เวลล์ ได้อีกครั้ง โดยรวม Sand Blaster ของ Scorpion กับ Sky Dragon Roar ของ Wendy ให้เป็นพายุหมุนอันทรงพลังเพียงครั้งเดียว ซึ่งพวกเขาเพิ่มความเร็วของ Natsu ที่โจมตี Hades
Urano Metria: คาถาที่ทรงพลังที่สุดที่เรียกว่า "Complete Star Magic" ลูซี่เชี่ยวชาญมันได้ด้วยความรู้ของฮิบิกิผู้ใช้เวทมนตร์เก็บถาวรของเขา หลังจากเริ่มใช้คาถา ลูซี่ก็ตกอยู่ในภาวะมึนงงและเริ่มพูดคำพูดนั้น พื้นที่ทั้งหมดรอบๆ แองเจิลเริ่มคล้ายกับโลกแห่งจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ และลูกบอลหลากสีก็เริ่มรวมตัวกันรอบๆ ลูซี ซึ่งจากนั้นก็ระเบิดพร้อมกัน ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อแองเจิล หลังจากร่ายมนตร์เสร็จแล้ว ลูซี่ก็ตื่นขึ้นมา โดยไม่รู้ว่าเธอทำอะไรลงไป คาถานั้นใช้พลังงานมากในขณะที่ลูซี่อ้างว่าเธอขาดพลังงานหลังจากนั้น ในระหว่างการแข่งขันแกรนด์เมจิกเกมส์ ลูซี่ใช้คาถานี้อีกครั้ง โดยร่วมมือกับเดอะทวินส์ อย่างไรก็ตาม พวกเขาถูกนักเวทย์คนอื่นขัดขวางไว้ แต่ลูซี่เองก็สามารถสังเกตได้ว่าเธอไม่มีกำลังเพียงพอที่จะใช้มัน หลังจากได้รับ Aquarius Magic แล้ว ลูซี่ก็สามารถใช้คาถานี้ได้ด้วยตัวเธอเอง ซึ่งเธอเอาชนะ Jackal ได้
ความทนทานที่เพิ่มขึ้น: แม้ว่าเธอจะดูอ่อนแอและมีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ แต่ลูซี่ก็แสดงให้เห็นว่าตัวเองแข็งแกร่งมาก เธอสามารถเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของเบรนได้และยังมีสติเพียงพอที่จะลุกขึ้นยืนได้ ทนต่อการโจมตีจาก Cain Hikaru ซึ่งสามารถทำลายต้นไม้และหินด้วยกำลังกายที่แท้จริงรวมถึงความกดดันที่รุนแรงเมื่อ Cain พยายามบดขยี้หัวของเธอ หลังจากนั้น เมื่อนัตสึต่อสู้กับฮาเดส เธอก็รอดชีวิตจากการระเบิดโดยมีเอลซ่าซึ่งอยู่เบื้องหลังพวกเขา
จิตใจที่เฉียบแหลม: ลูซี่ได้แสดงให้เห็นว่าตัวเองเป็นนักเวทย์ที่ฉลาด มีเหตุผล และสัญชาตญาณมาก เธอพบว่าบอร์ใส่ยานอนหลับลงในไวน์โดยไม่ได้ชิมเลย ในฐานะนักอ่านตัวยง เธอยังแสดงให้เห็นว่าเชี่ยวชาญในการไขปริศนาและปริศนาอีกด้วย เธอสามารถมองผ่านมนต์สะกดที่ Zaku Malone ร่ายลงในหนังสือ "The Dawn" และเข้าใจความหมายที่แท้จริงของหนังสือเล่มนี้ นอกจากนี้ ในระหว่างการสอบ Mage ระดับ S เธอสามารถระบุตำแหน่งของหลุมศพของ Mavis ได้อย่างง่ายดายโดยใช้ตรรกะและค้นหาความหมายของคำว่า "Tomb" เอง ซึ่งนำไปสู่ข้อสรุปว่าลูซี่เป็นหนึ่งในนักเวทย์ที่ฉลาดที่สุดในแฟรี่ หาง. เมื่อถึง X792 ด้วยบันทึกและการสังเกต ลูซี่สามารถบอกได้ว่ากิลด์ Scarmiglione กำลังซ่อนพลังที่แท้จริงของพวกเขา และทำนายผลการต่อสู้ของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
ผู้เชี่ยวชาญด้านแส้: แม้ว่าลูซี่จะไม่ค่อยกระตือรือร้นที่จะต่อสู้เป็นพิเศษและต้องการให้วิญญาณต่อสู้เพื่อเธอ แต่เธอก็สามารถใช้แส้เพื่อคว้าคู่ต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งใช้เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพในระยะไกลและระยะใกล้
การต่อสู้ด้วยมือเปล่า: แม้ว่าลูซี่จะมีประสบการณ์น้อยที่สุดในการต่อสู้ด้วยมือเปล่าในหมู่ทีมนัตสึ แต่เธอก็มีทักษะอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ เธอไม่ค่อยได้ต่อสู้ด้วยมือของเธอ เนืองจากความแข็งแกร่งทางร่างกายของเธอมีจำกัด อย่างไรก็ตาม ลูซี่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้โดยใช้ขาของเธอ ตัวอย่างเช่น เมื่อเธอสามารถส่งรีดัสซึ่งมีตัวใหญ่กว่าตัวเธอมากออกไปได้
Ushi no Koku Mairi: Kain Hikaru ใช้เวทมนตร์ที่หายไปซึ่ง Hades สอนเขา ใช้ตุ๊กตา Mister Curse ขอบคุณที่ลูซี่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา คาอินต้องการเพียงเส้นผมของเธอเพื่อควบคุมเธอ ตุ๊กตาควบคุมร่างกายของลูซี่ได้ดี และทันทีที่คุณทำอะไรบางอย่างกับมัน สิ่งเดียวกันนี้ก็เกิดขึ้นกับลูซี่ หลังจากขโมยตุ๊กตาไป นัตสึและแฮปปี้ก็สามารถควบคุมเด็กสาวได้โดยใช้เวทมนตร์นี้ พวกเขาใช้มันอย่างดีเพื่อควบคุมลูซี่และเอาชนะคาอิน
*หมัดเหล็กของมังกรไฟ (เวอร์ชันลูซี่): เมื่อลูซี่อยู่ภายใต้การควบคุมของมิสเตอร์คำสาป นัตสึได้จุดไฟบนมือข้างหนึ่งของเธอโดยไม่ทำร้ายเธอโดยใช้เวทมนตร์สังหารมังกรไฟ ดังนั้นเขาจึงสร้างการโจมตีที่คล้ายกับหมัดเหล็กมังกรไฟของเขา
* Secret Attack: Fire Lucy: นัตสึหยิบตุ๊กตาที่ Kain Hikaru กำลังควบคุม Lucy วางมือลงบนไฟแล้วโยนมันให้ Happy ซึ่งส่งมันไปหา Kain ด้วยความเร็วสูงสุด เมื่อถึงเวลานั้น ลูซี่ก็ถูกไฟปกคลุมจนหมด การโจมตีนี้รุนแรงพอที่จะเอาชนะ Kain แห่ง Seven Bloods of Purgatory ได้
* ปุ่มเทน้ำ: เรียกนักเทน้ำ, ราศีกุมภ์
*กุญแจกระทิงทอง: อัญเชิญกระทิงทองคำ ราศีพฤษภ
* กุญแจปูยักษ์: เรียกปูยักษ์ มะเร็ง
* กุญแจของ Court Lady: เรียก Court Lady, Maiden
* Centaur Archer Key: เรียก Centaur Archer ราศีธนู
* กุญแจแห่งราชาแห่งสัตว์ร้าย: อัญเชิญราชาแห่งสัตว์ร้าย สิงโต
* Heavenly Twin Key: เรียก Heavenly Twin, Near และ Netz
* กุญแจแกะขาว: อัญเชิญแกะขาว ราศีเมษ
* Heavenly Sting Key: เรียก Heavenly Sting, Scorpion
* กุญแจแพะสวรรค์: อัญเชิญแพะสวรรค์ มังกร
สตาร์ริเวอร์: แส้แบบยืดหดได้นี้สร้างขึ้นจากกลุ่มดาว Erigana ซึ่งราศีกันย์มอบให้ลูซี่หลังจากที่เธอสูญเสียแส้เก่าไป เพื่อที่เธอจะได้ต่อสู้กับ Byro เมื่อเธอไปถึงเอโดลาสโดยไม่สูญเสียพลังเวทย์มนตร์ เมื่อไม่ใช้งานแส้จะเป็นทรงกระบอกเรียบๆ ตกแต่งด้วยลวดลาย และยังมีเชือกเส้นเล็กๆ ไว้พันกับเข็มขัดด้วย เมื่อใช้อาวุธ จะมีการสร้างกระแสน้ำจากด้ามจับซึ่งค่อนข้างกะทัดรัดและควบคุมได้ น้ำมีคุณสมบัติทางวัตถุที่ช่วยให้ลูซี่จับศัตรูหรือวัตถุและทำการโจมตีได้ แม่น้ำสตาร์เป็นอาวุธปัจจุบันของลูซี ซึ่งเธอติดไว้กับที่เดียวกับแส้เก่า นั่นก็คือที่ต้นขาซ้ายของเธอ
แว่นอ่านหนังสือลมกรด: ลูซี่เป็นนักอ่านตัวยง มีแว่นอ่านหนังสือลมกรดซึ่งเธอสามารถอ่านหนังสือทั้งเล่มได้ภายในไม่กี่นาที ต้องขอบคุณพวกเขาที่ทำให้ลูซี่อ่านหนังสือ "รุ่งอรุณ" ได้อย่างรวดเร็ว แว่นตาเหล่านี้มีสีแดงและเลนส์มีรูปร่างเป็นวงรียาว ลักษณะเด่นเพียงอย่างเดียวคือปีกเล็กๆ ที่อยู่ทางด้านซ้ายของแว่นตา
ข้อเท็จจริง:
*ปัจจุบัน ลูซี่เป็นเด็กผู้หญิงที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองในอนิเมะ
* เกือบทุกครั้งที่ลูซี่ไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ สมาชิกกิลด์ของเธออย่างน้อยหนึ่งคนจะอยู่ที่นั่น
* วลีเรียกของเธอเมื่อเธอต้องการทำสัญญา: “ฉันเป็นคนสร้างเส้นทางสู่โลกแห่งวิญญาณสวรรค์ โปรดฟังฉันและตอบสนอง จงผ่านประตู!”
* Hiro Mashima ตั้งชื่อให้ลูซี่ขณะฟังเพลงของเดอะบีเทิลส์ "Lucy in the Sky with Diamonds"
*สมมุติว่าเธอเข้าร่วมกิลด์ในวันที่ 3 กรกฎาคม
* ครั้งหนึ่งในส่วนคำถามและคำตอบของมังงะ เมื่อผู้อ่านถามว่าใครเป็นตัวละครหลักในแฟรี่เทล ลูซี่ก็เริ่มคิดว่าตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกันทันที อย่างไรก็ตาม ฮิโระ มาชิมะ กล่าวว่า ผู้คนสามารถมีความคิดเห็นของตนเองได้
* ถ้าลูซีเปรียบเทียบตัวเองกับสัตว์ เธอจะมองว่าตัวเองเป็นกระต่าย
* ผู้หญิงในอุดมคติของเธอคือคนที่กล้าแสดงออก
* ในมังงะ ลูซี่เปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอในช่วง Phantom Lord Arc หลังจากถูกจับ ในอนิเมะ เธอสวมเสื้อผ้าปกติของเธอ
*มิราเจนมีสำเนากุญแจบ้านของลูซี่สำรอง และมักจะให้นัตสึและคนอื่นๆ ยืมเพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าไปในบ้านของเธอ
* Jellal ในบท Siegrain อยู่ในรายชื่อ "Ideal Guy" ของ Lucy
*Limited Edition เล่มที่ 16 รวมบทสัมภาษณ์กับพ่อมด ลูซีกล่าวว่าคุณภาพที่ดีที่สุดของแฟรี่เทลก็คือมีนักมายากลที่ทรงพลังมากมายอยู่ที่นั่น เธอยังเปิดเผยว่าเธออยากเป็นนักเขียนหน้าใหม่ในอนาคต มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนัตสึและลีวายส์ และคิดว่างานทุกอย่างที่เธอทำนั้นยากจึงต้องการงานที่ง่ายขึ้น
* ในเนื้อหาเพิ่มเติมของเล่มที่ 32 Hiro Mashima ได้ระบุโปรไฟล์การต่อสู้ของผู้เข้าร่วม 31 คนจาก 40 คนสำหรับ X791 Grand Magic Games สถิตินี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเฉพาะจากมุมมองของ Mashima เท่านั้น แต่ยังมาจากมุมมองของ Jason นักข่าวของ Wizard Magazine อีกด้วย สิ่งนี้จะอธิบายว่าทำไมคุณลักษณะบางอย่างจึงขาดหายไปและอาจไม่ถูกต้อง
*อาหารโปรดของลูซี่คือโยเกิร์ต
* แนวคิดแรกสุดของลูซีไม่แตกต่างจากแนวคิดดั้งเดิมมากนัก: ลูซีใช้ไพ่แทนกุญแจ และเนื่องจากแนวคิดนี้ถูกใช้หลายครั้งแล้ว ฮิโระ มาชิมะจึงตัดสินใจละทิ้งแนวคิดนี้ ในตอนนั้น ลูซี่มีผมหยิกเป็นหางม้า 2 ข้าง และสวมเสื้อผ้าย้อนยุคที่มีจีบ จีบและลูกไม้ กระโปรงของเธอเคยเต็มมาก ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ถือแส้ตามปกติของเธอ นอกจากนี้ ในการสเก็ตช์ภาพช่วงแรกๆ เธอสวมรองเท้าส้นสูงแบบผูกเชือก ไม่เหมือนรองเท้าบู๊ทสีดำสูงถึงต้นขาที่เธอสวมอยู่ในปัจจุบัน
*ในการแปลภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการ วันเกิดของลูซีคือวันที่ 1 กรกฎาคม เรื่องนี้ดำเนินการโดยบรรณาธิการของผู้แปล ไม่ใช่ฮิโระ มาชิมะ ในเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นดั้งเดิม วันเกิดของลูซีไม่เคยแสดง
ดาวดวงนี้เป็นสัญลักษณ์ที่ทุกคนรู้จักและคุ้นเคย มันถูกใช้โดยนักมายากล, นักเล่นแร่แปรธาตุ, นักเล่นแร่แปรธาตุ, แม่มด และนักโหราศาสตร์ บทบาทของสัญลักษณ์แต่ละอย่างในชีวิตของเรามีความสำคัญมาก พวกมันนำพาพลังงานทั้งด้านบวกและด้านลบ และอาจมีผลกระทบสำคัญต่อชีวิตของบุคคล ดาวเจ็ดแฉกเป็นเซปทาแกรมที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ เราจะพิจารณาความหมายและการนำไปใช้ในบทความนี้
ข้อมูลทั่วไป
สัญลักษณ์นี้เรียกอีกอย่างว่าดาวพรายเวทย์มนตร์หรือนางฟ้า การกล่าวถึงครั้งแรกถูกบันทึกไว้ในสมัยโบราณตะวันออก มันถูกวาดโดยไม่ต้องขยับมือด้วยจังหวะเดียว รังสีทั้งเจ็ดของดาวเป็นสัญลักษณ์ของเจ็ดวันในสัปดาห์ วันจันทร์หมายถึงการทรยศ วันอังคาร - ความวิตกกังวล วันพุธ - การเริ่มต้นใหม่ วันพฤหัสบดี - ความกล้าหาญและความตั้งใจ วันศุกร์ - ทรงกลมของครอบครัว วันเสาร์ - มิตรภาพ วันอาทิตย์ - ความสุขและการผจญภัย ลักษณะเหล่านี้มีประโยชน์มากเมื่อเขียนแผนภูมินาทอลและการทำนายดวงชะตาเกี่ยวกับอนาคต ดาวเจ็ดแฉกเป็นสัญลักษณ์เชิงบวกที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อชีวิตมนุษย์ทุกด้าน
ความหมายลึกลับ
ดังที่คุณสังเกตเห็นแล้ว ดาวเจ็ดแฉกมีรังสีเจ็ดดวง หมายเลขนี้ปกคลุมไปด้วยความลับและความลึกลับมากมาย
ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 ประการของพระเจ้า ได้แก่ ร่างกาย วิญญาณ และจิตใจ ตลอดจนองค์ประกอบทั้ง 4 ได้แก่ ไฟ ดิน น้ำ และลม เลข 7 บ่งบอกถึงสติปัญญา ช่วยดึงความรู้จากอวกาศ คนที่มีเส้นทางชีวิตหมายเลข 7 เป็นคนอิสระและค่อนข้างฉลาด พวกเขามีความรอบรู้และมีเสน่ห์ เซเว่นเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจและเกียรติยศ ในอียิปต์โบราณ ตัวเลขนี้เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตนิรันดร์ ดาวเจ็ดแฉกเป็นสัญลักษณ์ที่มีคุณสมบัติทั้งหมดนี้ มันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบุคคลได้อย่างมาก
ความเข้ากันได้
สัญลักษณ์แต่ละอันที่พบในวรรณกรรมและธรรมชาติต่างๆ สามารถมีผลทั้งด้านบวกและด้านลบต่อบุคคล แม้แต่สิ่งที่ไม่เป็นอันตรายที่สุดก็สามารถนำความสุขและความสำเร็จมาสู่คนคนหนึ่ง และนำความโชคร้ายและความทุกข์ยากมาสู่อีกคนหนึ่งได้ คุณสามารถตรวจสอบความเข้ากันได้ได้หลายวิธี หนึ่งในนั้นคือการใช้ลูกตุ้ม
ต้องวางดาวเจ็ดแฉกไว้ตรงหน้าคุณและต้องใช้วัตถุพิเศษเหนือมัน - ลูกตุ้ม ถ้ามันเริ่มหมุนตามเข็มนาฬิกา แสดงว่าสัญลักษณ์นั้นเข้ากันได้กับคุณ หากทวนเข็มนาฬิกา แสดงว่ามันไม่เหมาะกับคุณ บางครั้งลูกตุ้มดูเหมือนจะหยุดนิ่งและไม่เคลื่อนไหว ซึ่งในกรณีนี้ความเข้ากันได้ของคุณกับดาววิเศษจะเป็นศูนย์ มันไม่ส่งผลกระทบต่อคุณหรือชีวิตของคุณในทางใดทางหนึ่ง - ทั้งทางบวกและทางลบ นักลึกลับมือใหม่สามารถใช้วงแหวนหรือครีบอกเป็นลูกตุ้มได้
เอลฟ์สตาร์เหมาะกับใครบ้าง?
แน่นอนว่าเนื่องจากสัญลักษณ์นี้เกี่ยวข้องกับเลขเจ็ด จึงมีแนวโน้มมากที่สุดสำหรับผู้ที่เกิดในวันที่เจ็ดของเดือนใดๆ หรือมีหมายเลขเส้นทางชีวิตดังกล่าว บางครั้งบางคนดูเหมือนจะถูกดึงดูดด้วยแม่เหล็กด้วยตัวเลขดังกล่าว: เขาอยู่ในอันดับที่เจ็ดในรายชื่อเพื่อนร่วมงานตามลำดับตัวอักษร เนื้อคู่ของเขาเกิดบนหมายเลขนั้น สิ่งที่น่าสนใจมากมายเกิดขึ้นกับเขาอย่างต่อเนื่องในวันที่ 7 ความบังเอิญหลายประการอาจบ่งบอกได้ว่าดาวเจ็ดแฉกนั้นเหมาะสำหรับบุคคล
ความหมายของสัญลักษณ์นี้ในชีวิตของทุกคนแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ในบางกรณี สถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่สุดเกิดขึ้นกับผู้คน และอาจเกิดขึ้นได้ไม่เพียงแต่ในวันที่ 7 เท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของดวงดาววิเศษด้วย สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้หากมีคนเสกคาถาหรือดวงตาปีศาจใส่คุณและใช้สัญลักษณ์นี้โดยเฉพาะ คุณจะพบเขาในร้านค้าและรถบัส หากคุณสังเกตเห็นว่าดาวเจ็ดแฉกของนักมายากลกำลัง "ไล่ตาม" คุณอยู่แสดงว่าไม่ใช่โดยไม่มีเหตุผลอย่างแน่นอน บางทีอาจจำเป็นต้องติดต่อนักลึกลับผู้มีประสบการณ์กับคำถามนี้
แน่นอนว่าสัญลักษณ์นั้นไม่ใช่ทั้งเชิงบวกและเชิงลบ ซึ่งหมายความว่าไม่จำเป็นต้องกลัวมัน ดาววิเศษใช้ที่ไหนอีก?
ใครไม่เหมาะกับดาวเจ็ดแฉก?
มีบุคคลบางประเภทที่ไม่ควรโต้ตอบกับสัญลักษณ์นี้ ก่อนอื่น คุณต้องใส่ใจกับความรู้สึกของคุณเมื่อถือมันไว้ในมือ หากรู้สึกไม่สบายใจก็ควรย้ายดาวออกไปจะดีกว่า
แน่นอนว่าสิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่านั้นคือคุณได้สัญลักษณ์นี้มาจากที่ใด ตัวอย่างเช่น คุณพบจี้เล็กๆ รูปดาวเจ็ดแฉกบนถนน มันสวยงาม แวววาว และทำให้คุณพึงพอใจ การดำเนินการดังกล่าวอาจเป็นอันตรายได้ บ่อยครั้งที่นักมายากลและนักลึกลับจงใจทิ้งสิ่งของดังกล่าว มีสาเหตุหลายประการสำหรับสิ่งนี้:
- ด้วยความช่วยเหลือของดาวเจ็ดแฉก ความเสียหายหรือนัยน์ตาปีศาจก็ถูกลบออก และพลังงานด้านลบทั้งหมดก็ถ่ายโอนไปยังสิ่งนี้ แน่นอนว่ามันจะเป็นเหตุผลมากกว่าที่จะฝังมันไว้ที่ไหนสักแห่งในกรณีนี้ แต่ไม่ใช่นักลึกลับทุกคนที่ทำเช่นนี้และหลายคนก็โยนมันลงบนพื้นหญ้า ด้วยการหยิบเครื่องรางดังกล่าวขึ้นมา คุณสามารถนำพลังงานด้านลบทั้งหมดนี้มาสู่ตัวเองได้
- ตัวเลือกที่สองเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด หมอดูหรือนักมายากลผู้มากประสบการณ์จะทำพิธีกรรมพิเศษ (คาถา) บนดาวเจ็ดแฉกเพื่อทำหน้าที่เป็นเครื่องส่งพลังงาน บัดนี้ผู้ที่พบมันจะมอบพลังชีวิตทั้งหมดให้กับผู้ที่ประกอบพิธีกรรม
ใช้ในการทำนายดวงชะตา
ความหมายของดาวเจ็ดแฉกนั้นยิ่งใหญ่และกว้างขวางจนมักใช้ในการทำนายดวงชะตาต่างๆ ในกรณีส่วนใหญ่ สิ่งนี้ใช้กับเค้าโครงบนการ์ด เช่น ในไพ่ทาโรต์ การทำนายดวงชะตา “ดาวเจ็ดแฉก” ใช้เพื่อค้นหาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า .
การทำนายดวงควรทำในวันอาทิตย์หรือวันจันทร์ และเรียงไพ่ตามลำดับดังภาพ ไพ่ใบสุดท้ายใบที่ 8 แสดงผลของสัปดาห์และเหตุการณ์สำคัญที่อาจเกิดขึ้น
วันและชั่วโมงของดาวเคราะห์
ดาวเจ็ดแฉกเป็นสัญลักษณ์ที่ไม่สามารถมองข้ามความสำคัญได้ แม้ว่าจะมีการใช้ในการทำนายดวงชะตาและพิธีกรรมต่างๆ แต่นักโหราศาสตร์หลายคนยังใช้เพื่อแสดงวงจรเวลาที่เป็นตัวกำหนดจังหวะของชีวิตในระบบสุริยะ หลักการของดาวเคราะห์เกี่ยวข้องโดยตรงหรือโดยอ้อมกับดาวเคราะห์ซึ่งเป็นตัวกำหนดจังหวะพื้นฐาน นอกจากนี้ แต่ละวันในสัปดาห์ยังสอดคล้องกับดาวเคราะห์ดวงใดดวงหนึ่งด้วย วันอาทิตย์ - วันอาทิตย์ วันจันทร์ - ดวงจันทร์ วันอังคาร - ดาวอังคาร วันพุธ - ดาวพุธ วันพฤหัสบดี - ดาวพฤหัสบดี วันศุกร์ - ดาวศุกร์ วันเสาร์ - ดาวเสาร์ ข้างต้นเราได้กล่าวถึงความหมายของแต่ละวันเหล่านี้แล้ว คุณสามารถสร้างแผนภูมิที่หลากหลายสำหรับตัวคุณเองซึ่งจะคำนึงถึงวันของดาวเคราะห์ด้วย วันในสัปดาห์ที่บุคคลเกิดก็มีความสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะในอินเดียโบราณ แนวคิดนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เชื่อกันว่าตัวละครของบุคคลและเส้นทางชีวิตของเขาส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับวันในสัปดาห์ คนเกิดวันอาทิตย์ภายใต้การอุปถัมภ์ของดวงอาทิตย์ถือเป็นคนที่มีความสุขที่สุด และดวงที่โชคร้ายที่สุดคือวันจันทร์ภายใต้การอุปถัมภ์ของดวงจันทร์
จากข้อมูลข้างต้น ดวงจะรวบรวมได้อย่างไร? จริงๆแล้วมันค่อนข้างง่าย ลักษณะของดาวเคราะห์ที่บุคคลเกิดภายใต้การอุปถัมภ์นั้นเหมาะสมมากสำหรับเขา เช่น คนเกิดวันอาทิตย์ (อาทิตย์) จะเป็นคนร่าเริง ร่าเริง และร่าเริงมาก พวกเขาสามารถหุนหันพลันแล่นและอารมณ์ร้อนได้ ผู้ที่เกิดวันศุกร์ภายใต้การอุปถัมภ์ของดาวศุกร์ เป็นคนโรแมนติก ลึกลับ และเป็นกันเอง ตามกฎแล้วคนเหล่านี้ไม่ขาดรสนิยม
การสื่อสารกับโลกแห่งดวงดาว
เราได้ทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่าดาวเจ็ดแฉกหมายถึงอะไรและสามารถใช้ในด้านใดได้บ้าง อย่างไรก็ตามยังมีอีกหน้าที่ที่สำคัญมากอยู่ รังสีทั้งเจ็ดของดาวสอดคล้องกับองค์ประกอบทั้งสี่และการสำแดงสามประการของพระเจ้าทั้งหมดนี้ในดาวดวงเดียวทำให้สามารถเป็นแนวทางสู่โลกแห่งดวงดาวได้
มีพิธีกรรม: วาดดาวเจ็ดแฉกลงบนพื้น วางเทียนไว้ตรงกลาง ประชาชนยืนขอบทั้งเจ็ดเรียกผู้ตาย นี่เป็นพิธีกรรมที่เก่าแก่และเก่าแก่มากซึ่งเหมาะสำหรับนักมายากลที่มีประสบการณ์เท่านั้น ไม่ว่าในกรณีใดคุณไม่ควรออกจากสถานที่ของคุณในระหว่างเซสชั่น เพราะในกรณีนี้ปลายด้านหนึ่งของดวงดาวจะเป็นอิสระ และดวงวิญญาณที่เสียชีวิตจะออกจากขอบเขตของสัญลักษณ์
ดาววิเศษมักถูกใช้เพื่อทำนายอนาคต ช่วยสร้างการเชื่อมต่อกับโลกแห่งดวงดาวและค้นหาข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด นักลึกลับเกือบทุกคนมีรูปสัญลักษณ์นี้และใช้ในพิธีกรรมได้สำเร็จ
พระเครื่องและเครื่องรางของขลัง
หากดาวเจ็ดแฉกดูน่าดึงดูดสำหรับคุณและคุณตัดสินใจว่าคุณเข้ากันได้กับมัน คุณสามารถซื้อจี้ดังกล่าวแล้วพกติดตัวไปด้วย เนื่องจากเมื่อซื้อไม่ทราบแน่ชัดว่าเครื่องรางมีเจ้าของมาก่อนหรือไม่และเขาเป็นใครควรไปโบสถ์ทันทีพร้อมกับพระเครื่องและอุทิศให้ ตอนนี้แม้ว่าทันใดนั้นจะมีพลังงานด้านลบเกิดขึ้น แต่สิ่งเลวร้ายทั้งหมดก็จะหมดไปและเครื่องรางจะรับใช้คุณเป็นเวลาหลายปี
ความแตกต่างที่สำคัญและน่าสนใจมาก: เมื่อจู่ๆดาวเจ็ดแฉกก็แตกออกเป็นหลายส่วนนั่นหมายความว่ามันสามารถปกป้องคุณจากความชั่วร้ายและคาถาได้ เราต้องขอบคุณเธอสำหรับสิ่งนี้ และฝังเธอไว้ใต้ต้นเบิร์ช
ตลอดการดำรงอยู่ของอารยธรรมมนุษย์ ความหมายและความหมายของสัญลักษณ์เวทมนตร์ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นการแสดงถึงแง่มุมที่มีพลังของพลังงานทางจิตวิญญาณของเรา รูปแบบเดียวกันที่สะท้อนถึงธรรมชาติอันศักดิ์สิทธิ์ของเราได้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน สัญลักษณ์วิเศษมีความหมายตามแบบฉบับและมักมีความหมายหลายชั้น ทุกคนสามารถค้นพบผ่านประสบการณ์ของตนเองว่าสัญลักษณ์ใดตามความหมายที่เป็นไปได้ เพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติทางจิตวิญญาณและพิธีกรรม
นักมายากลใช้ตัวเลขหลายตัวที่อธิบายไว้ด้านล่างนี้เป็นสัญลักษณ์ป้องกัน เพื่อไม่ให้ได้รับอันตรายทั้งในโลกทางกายภาพและในโลกแห่งพลังงานอันละเอียดอ่อน เพื่อไม่ให้พลังงานที่ไม่พึงประสงค์สามารถทำร้ายผู้ที่ใช้เวทมนตร์ได้ จำหนึ่งในร่างที่ง่ายที่สุด - วงกลมที่นักมายากลวาดเมื่อทำพิธีกรรม วงกลมเวทมนตร์สร้างช่องว่างระหว่างโลก เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับนักมายากลในการทำงาน เพื่อให้ทุกอย่างสามารถทำได้และไม่มีใครสามารถเข้าไปยุ่งได้ มีสัญลักษณ์อื่นๆ ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน
ความหมายของสัญลักษณ์วิเศษ ความงามและความมหัศจรรย์ของรูปทรงเรขาคณิตอันศักดิ์สิทธิ์ในสมัยโบราณเป็นที่สนใจของปราชญ์แห่งตะวันออกไกล อินเดีย อียิปต์ ตะวันออกกลาง และกรีซ พวกมันถูกใช้โดยนักเล่นแร่แปรธาตุ นักมายากล นักคับบาลิสต์ และตอนนี้คุณกำลังติดตามเส้นทางของพวกเขา ที่นี่คุณสามารถค้นหาความหมายทั่วไปของสัญลักษณ์เวทย์มนตร์ได้แม้ว่าจะควรค่าแก่การจดจำว่าความหมายของคุณสามารถพบได้ตามสัญลักษณ์เหล่านั้น
ดาวห้าแฉก. ความหมาย: สัญลักษณ์แห่งชีวิต สัญลักษณ์แห่งการปกป้อง
ในสมัยโบราณ รูปดาวห้าแฉก (ดาวห้าแฉก) ได้รับการเคารพในฐานะสัญลักษณ์แห่งชีวิต ซึ่งเป็นตัวแทนของธาตุทั้งสี่ ได้แก่ ไฟ ดิน อากาศ และน้ำ รวมเข้ากับวิญญาณเพื่อสร้างชีวิต การสวมรูปดาวห้าแฉกช่วยปกป้องเจ้าของและยังใช้เป็นเครื่องรางแห่งความเจริญรุ่งเรืองและสุขภาพที่ดีอีกด้วย วิธีที่เป็นธรรมชาติที่สุดในการ "วาด" ดาวห้าแฉกคือการตัดแอปเปิ้ล คุณเคยสังเกตไหมว่ามีดาวห้าแฉกปรากฏขึ้นตรงกลางแอปเปิ้ลที่หั่นแล้ว? แอปเปิลถือเป็นสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของความรู้และชีวิตนิรันดร์ในวัฒนธรรมต่างๆ มานานนับพันปี ซึ่งอธิบายว่าทำไมรูปดาวห้าแฉกจึงเป็นสัญลักษณ์สากลของชีวิต
รูปดาวห้าแฉกถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในการป้องกันมานานก่อนคริสเตียนกลุ่มแรกซึ่งแนบความหมายของการปกป้องไว้กับไม้กางเขน คุณสมบัติการป้องกันของรูปดาวห้าแฉกนั้นเกิดจากการที่มันแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด - ท้ายที่สุดคุณสามารถวาดดาวห้าแฉกได้โดยไม่ต้องยกมือออกจากกระดาษ การออกแบบดาวห้าแฉกนั้นเป็นวัฏจักรชนิดหนึ่ง เมื่อวงจรหนึ่งจบลง จุดสิ้นสุดจะกลายเป็นจุดเริ่มต้น และทุกอย่างจะเกิดขึ้นซ้ำ คุณสมบัติเชิงตัวเลขของรูปดาวห้าแฉกยังรวมถึง 13 ด้าน (13 เดือนตามจันทรคติ) และ 8 คะแนนซึ่งเป็นตัวแทนของพิธีกรรมตามฤดูกาลทั้งแปด
ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับรูปดาวห้าแฉกในตำแหน่งตั้งตรงนั่นคือ ชี้ขึ้น รูปดาวห้าแฉกกลับหัวถือเป็นสัญลักษณ์เชิงลบและถูกใช้โดยแม่มด
ดาวห้าแฉกคู่หรือดาวห้าแฉกคู่เกิดขึ้นจากการซ้อนทับและเชื่อมต่อของดาวห้าแฉกสองอัน เส้นของดาวที่เกี่ยวพันกันแสดงถึงการรวมกันของสวรรค์และโลก ร่างนี้เป็นสัญลักษณ์ของเทพธิดาและเกี่ยวข้องกับแนวคิดเรื่องความเป็นผู้หญิงที่แท้จริง ความเป็นคู่ของสัญลักษณ์นั้นแสดงตัวตนด้วยหมายเลข 2 ซึ่งถือเป็นตัวเลขของผู้หญิงในวิชาตัวเลขพีทาโกรัส
ความหมายอีกประการหนึ่งของตัวเลขนี้คือห้าขั้นตอนของชีวิตมนุษย์: วัยทารก วัยเด็ก วัยเยาว์ วุฒิภาวะ วัยชรา
การพันกันของรังสีของดาวห้าแฉกและวงกลมแสดงถึงรูปดาวห้าแฉกที่มีวงแหวนห้าวง ตัวเลขนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวกันอย่างลึกลับของชายและหญิงโดยที่เส้นมีความเกี่ยวข้องกับหลักการของผู้ชายและวงแหวนกับผู้หญิง หลักการของชายและหญิงผสมผสานกันอย่างลงตัวอย่างไร้ขีดจำกัด ทำให้เกิดชีวิตขึ้นมา
สัญลักษณ์รูปดาวห้าแฉกพร้อมแหวนสามารถใช้เป็นเครื่องรางแห่งความรักเพื่อช่วยให้คุณค้นหาเนื้อคู่ที่แท้จริงของคุณ
แฉก
ดาวหกแฉก ตราประทับแห่งโซโลมอน (Sigillum Salomonis) ดวงดาวแห่งไซออน
ความหมาย: การรวมตัวกันของสิ่งที่ตรงกันข้าม ความอุดมสมบูรณ์ สัญลักษณ์แห่งการปกป้อง รูปหกเหลี่ยมประกอบด้วยสามเหลี่ยมสองอันที่ตัดกัน โดยอันหนึ่งมียอดอยู่ด้านบน และอีกอันมีปลายอยู่ด้านล่าง ก่อนที่รูปแฉกจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของศาสนายิว มันถูกเคารพในฐานะสัญลักษณ์ของการรวมตัวกันของสิ่งที่ตรงกันข้าม วิญญาณและสสาร หยินและหยาง สวรรค์และโลก พระศิวะและกาลี ซึ่งดำรงชีวิตผ่านวงจรแห่งการสร้างสรรค์และการทำลายล้าง ตราประทับของโซโลมอนเป็นสัญลักษณ์ป้องกัน มันถูกมองว่าเป็นตราประทับที่เจ็ดที่มองไม่เห็นซึ่งสร้างขึ้นจากธาตุทั้งสี่และเลขศักดิ์สิทธิ์ 3
รูปหกเหลี่ยมถูกใช้ในการเล่นแร่แปรธาตุและเวทมนตร์ ซึ่งแสดงถึงการรวมกันของไฟและน้ำอย่างกลมกลืนอย่างสมบูรณ์แบบ บางทีสัญลักษณ์นี้มีต้นกำเนิดมาจากศาสนาฮินดู - การรวมตัวกันของผู้ชาย (ไฟ - สายฟ้า) และผู้หญิง (น้ำ - มหาสมุทร) การรวมกันของหลักการของชายและหญิงนั้นเป็นสัญลักษณ์ของสามเหลี่ยมที่ตัดกันของสวรรค์และโลก แฉกมีความเกี่ยวข้องกับจักระอนหะตะ เธอยังได้รับการยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์ของแอโฟรไดท์ - เทพีแห่งความรัก เพราะเธอมีความเกี่ยวข้องกับเลข 2 และ 3 ซึ่งเป็นตัวเลขที่เป็นเพศหญิงและเพศชายในวิชาตัวเลขพีทาโกรัสคลาสสิก
รูปหกเหลี่ยมเวอร์ชันนี้ได้รับการพัฒนาโดย Aleister Crowley เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของ Order of the Silver Star (Astrum Argentum) นักมายากลใช้เพื่อการป้องกันในระหว่างพิธีกรรม เชื่อกันว่าทั้งวิญญาณชั่วร้ายและพลังงานที่ไม่พึงประสงค์ไม่สามารถเจาะเข้าไปในที่ที่ไม่มี "ประตู" ได้เนื่องจากรูปหกเหลี่ยมถูกดึงออกมาโดยไม่ทำลายเส้น
ศูนย์กลางของแฉกเป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์ - การหลอมรวมของจิตวิญญาณกับสสารและความสมดุลของพวกมันให้พลังงานเชิงบวกมหาศาลและรังสีหกดวงที่แยกจากศูนย์กลางไปยังขอบหมายถึงความอุดมสมบูรณ์และความสุข หกคือ "จำนวนสมบูรณ์" ผลรวมของ 1 + 2 + 3 = 6 แฉกยังเป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้าผู้ฟื้นคืนพระชนม์ด้วย
ความหมาย: เวทย์มนต์, เวทย์มนตร์, โลกแห่งดวงดาว
ดาวเจ็ดแฉกหรือเซปทาแกรมยังเป็นที่รู้จักกันในนามดาวแห่งนักมายากล ดาวเอลฟ์ และดวงดาวแห่งนางฟ้า สัญลักษณ์นี้เป็นที่รู้จักในตะวันออกโบราณ: ในสุเมเรียน, อัสซีเรีย, เคลเดีย ร่างถูกวาดโดยไม่แยกเส้นด้วยจังหวะเดียว รังสีทั้งเจ็ดของดาวเป็นสัญลักษณ์ของสามองค์ประกอบด้านบนและสามด้านล่าง บวกอีกหนึ่งดวงที่เป็นอิสระซึ่งแสดงถึงนักมายากลและการติดตามเส้นทางเวทย์มนตร์ เซปทาแกรมเป็นเครื่องรางของนักมายากล ช่วยเจ้าของในการฝึกฝนเวทมนตร์ และสร้างการเชื่อมต่อกับโลกแห่งดวงดาว
ความหมายลึกลับของเลข 7 คือหมายเลขศักดิ์สิทธิ์หมายเลข 3 (จิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ) และการปรากฏหมายเลข 4 (ไฟ ดิน ลม และน้ำ) รวมกันเป็นเจ็ด เซเว่นคือ "เลขนำโชค" แบบดั้งเดิม มีจักระเจ็ดดวง ดาวเคราะห์เจ็ดดวง (ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ที่มองเห็นได้ 5 ดวง) เจ็ดวันในสัปดาห์ และเจ็ดขั้นตอนของการขึ้นสู่สวรรค์ของดวงวิญญาณ จึงเห็นได้ง่ายว่าเลข 7 มีอานุภาพวิเศษ นอกจากนี้ยังมีเจ็ดขั้นตอนของการเริ่มต้นเข้าสู่ภราดรภาพ Rosicrucian นอกจากนี้ดาวเจ็ดแฉกยังเกี่ยวข้องกับเทพีแห่งความรัก ดาวศุกร์ และอารมณ์อีกด้วย ชาวกรีกเชื่อมโยงดาวดวงนี้กับ Pallas Athena เทพีแห่งปัญญา
ความหมาย: ความฉลาด ความมั่นคง สัญลักษณ์แห่งการปกป้อง
ดาวแปดแฉกหรือแปดเหลี่ยมแสดงถึงความฉลาด ความมีเหตุมีผล และไหวพริบ และมีความเกี่ยวข้องกับดาวพุธ สอดคล้องกับพิธีกรรมตามฤดูกาลแปดประการ แนวคิดเรื่องความมั่นคงและความสมดุลผ่านการเปลี่ยนแปลงการเกิดใหม่ สามารถใช้เป็นเครื่องรางอันทรงพลังเพื่อดึงดูดเงินทองและความอุดมสมบูรณ์ นักมายากลใช้ดาวแปดแฉกเป็นสัญลักษณ์ป้องกันเมื่อทำพิธีกรรมและเดินทางในโลกดาว
ความหมาย: นิรันดร์, จุดสุดยอด, จักรวาล
ดาวเก้าแฉกหรือโนนาแกรมมีความเกี่ยวข้องกับดวงจันทร์ และในเวทย์มนตร์หมายถึงระนาบดวงดาวซึ่งเป็นที่มาของแรงบันดาลใจและการนำทาง เลขเก้าเป็นเลขหลักสุดท้าย ซึ่งเป็นจุดสุดยอดของตัวเลข จึงเป็นสัญลักษณ์ของความสมบูรณ์และความเป็นนิรันดร์ เลข 9 เป็นตัวแทนในตำนาน: เก้ารำพึง วีรบุรุษเก้าคน ฯลฯ
หากเราพิจารณา 9 เป็น 3 x 3 ความมหัศจรรย์ของทั้งสามจะสอดคล้องกับ: จิตใจ ร่างกาย วิญญาณ อดีต ปัจจุบัน อนาคต การเกิด ชีวิต ความตาย เลขสามแสดงถึงพลังของความเป็นชายในศาสตร์ตัวเลขแบบพีทาโกรัสแบบคลาสสิก ในศาสนาฮินดู 9 x 9 = 81 คือจตุรัสของจักรวาล ในประเทศจีนเป็นสัญลักษณ์ของสวรรค์และเป็นที่โปรดปรานที่สุด
ความหมาย: ความสมบูรณ์แบบความสามัคคี
ดาวสิบสองแฉกเป็นสัญลักษณ์ที่แข็งแกร่งและซับซ้อน เลข 12 เป็นตัวแทนกันอย่างแพร่หลายในเวทมนตร์และเทพนิยาย เช่น 12 สัญลักษณ์ของนักษัตร 12 อัศวินโต๊ะกลม 12 ผลงานของเฮอร์คิวลิส ปฏิทินสมัยใหม่มีสิบสองเดือน จดหมายโต้ตอบอันมหัศจรรย์ของดาวสิบสองแฉก: สัญลักษณ์ของการเสริมสร้างความเข้มแข็งความสมดุลและความกลมกลืน
Celestial Spirit Magic คือ เวทมนตร์ที่ถือครองและเป็นเวทมนตร์เชิงพื้นที่ประเภทหนึ่งที่นักเวทย์แห่ง Celestial Spirit ใช้เพื่อเรียกวิญญาณแห่งสวรรค์
นี่คือเวทมนตร์ สิ่งสำคัญคือการเรียกวิญญาณแห่งสวรรค์ โดยเปิดประตูด้วยความช่วยเหลือจากกุญแจแห่งวิญญาณแห่งสวรรค์ คีย์เหล่านี้แบ่งออกเป็นสองคลาส: เงินและ ทอง- กุญแจเงินเรียกวิญญาณธรรมดา ๆ ออกมา กุญแจดังกล่าวสามารถซื้อได้ในร้าน กุญแจสีทองอัญเชิญดวงวิญญาณของนักษัตรที่มีพลังมหาศาล
เมื่อ Celestial Spirit Caster ได้รับกุญแจและเปิดประตูวิญญาณของเขาเป็นครั้งแรก เขาจะต้องเซ็นสัญญากับวิญญาณที่ถูกอัญเชิญ ผู้ร่ายเรียนรู้ในเวลาที่วิญญาณไม่รังเกียจที่จะถูกอัญเชิญ ข้อตกลงง่ายๆ นี้ส่งผลให้เกิดการเชื่อมโยงที่จริงจังระหว่างพระวิญญาณและผู้แคสเตอร์ อย่างไรก็ตาม ยังมีกรณีที่เมื่อการเรียกของพระวิญญาณครั้งแรก ข้อตกลงกับพระองค์ยังไม่เสร็จสิ้น สิ่งนี้อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ระหว่างการต่อสู้ สัญญาสามารถถูกทำลายได้หากนักมายากลถูกจับกุม หากนักมายากลเองยกเลิกสัญญากับวิญญาณ และหากนักมายากลเสียชีวิต วิญญาณจะถูกอัญเชิญมาติดกับผู้ร่ายโดยตรง นักเวทย์ไม่สามารถอัญเชิญวิญญาณที่อยู่ไกลจากตัวพวกเขาเองได้
วิญญาณจะต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดโดยราชาวิญญาณแห่งสวรรค์ มีกฎที่ทราบอยู่แล้วว่าห้ามมิให้วิญญาณฆ่าผู้ร่ายทั้งทางตรงและทางอ้อม ประตูที่เปิดอยู่สามารถปิดได้ก็ต่อเมื่อทั้งนักมายากลและวิญญาณที่ถูกอัญเชิญมาเห็นด้วยกับสิ่งนี้ อย่างไรก็ตาม นักมายากลที่ทรงพลังที่สุดสามารถปิดประตูแห่งวิญญาณได้ด้วยตนเองโดยไม่ได้รับความยินยอมร่วมกัน
วิญญาณแห่งสวรรค์สามารถผ่านประตูต่างๆ ได้โดยที่เจ้าของกุญแจไม่สามารถเปิดมันได้ ตัวอย่างเช่น โลกิปรากฏตัวเกือบตลอดเวลาโดยไม่ถูกเรียกโดยลูซี่ ฮาร์ทฟิเลีย; ราศีกันย์ยังผ่านประตูตัวเองหลายครั้ง เช่นเดียวกับราศีเมถุน กุมภ์ ราศีพฤษภ พลูอุส ชั่วโมง และมังกร นอกจากนี้ หากความไว้วางใจระหว่าง Celestial Spirit และเจ้าของมีสูง สัญญาสามารถยุติได้ชั่วคราว หากวิญญาณสวรรค์แข็งแกร่งเพียงพอ มันสามารถอยู่ในโลกมนุษย์ได้นาน ไม่ว่าจะทำสัญญากับใครก็ตามหรือไม่ก็ตาม พลังของ Celestial Spirits ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของผู้ใช้
กุญแจทองแห่งวิญญาณสวรรค์
กุญแจเงินแห่งวิญญาณสวรรค์
คาถาของนักเวทย์วิญญาณสวรรค์และความสามารถของวิญญาณสวรรค์
บังคับปิดประตู
โดยปกติแล้ว การปิดประตูจะต้องมีข้อตกลงร่วมกันระหว่างผู้ร่ายและวิญญาณที่ถูกอัญเชิญ นักเวทย์มนตร์ที่ทรงพลังที่สุดสามารถปิดประตูได้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากวิญญาณ
เรียกหลายครั้ง
นักเวทย์มนตร์ที่มีความสามารถมากที่สุดสามารถเรียกวิญญาณได้มากกว่าหนึ่งตัวในแต่ละครั้ง ด้วยการเรียกวิญญาณมากกว่าหนึ่งตัว คุณสามารถรวมการโจมตีของพวกเขาเพื่อให้ได้เปรียบในการต่อสู้มากขึ้น การโจมตีแบบผสมผสานน่าจะเป็น Unison Strike นอกจากนี้ การกระทำแบบผสมผสานยังช่วยเพิ่มพลังโจมตีได้อีกด้วย
ดอกไม้ไฟสวรรค์
ด้วยการหมุนกุญแจอัญเชิญของวิญญาณใด ๆ ผู้ใช้สามารถสร้างดอกไม้ไฟสีทองได้
ค่าชดเชยการโทร
เทคนิคที่ทำให้สามารถอัญเชิญราชาวิญญาณสวรรค์ที่ไม่มีกุญแจทางกายภาพ แต่มีเงื่อนไขหลายประการในการอัญเชิญ อย่างแรกคือความสามารถในการอัญเชิญวิญญาณนักษัตรสามดวงพร้อมกัน ประการที่สองคือการเสียสละกุญแจบางอย่าง เงื่อนไขสุดท้ายคือผู้แคสต์และวิญญาณจะต้องไว้วางใจซึ่งกันและกันอย่างมาก เมื่อเรียกราชาออกมาแล้ว กุญแจที่ใช้ก็เริ่มพังและจะไม่สามารถอัญเชิญได้ วิญญาณแห่งกุญแจจะไม่สามารถเดินทางในโลกแห่งเวทมนตร์ได้อีกต่อไป ดังนั้นการเรียกของกษัตริย์จึงเกิดขึ้นน้อยมาก
กระแสจิต
แสดงให้เห็นว่าวิญญาณสามารถติดต่อผู้ร่ายได้แม้ว่าประตูจะปิดอยู่ก็ตามเรียกตัวเอง
ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน วิญญาณบางตัวสามารถเรียกตัวเองออกมาได้ เช่นเดียวกับโลกิ ชั่วโมง และหญิงสาวชุดดารา
เวทย์มนตร์ Celestial Spirit ที่ผู้ใช้สามารถควบคุมพลังของ Celestial Spirit ที่ถูกอัญเชิญออกมา ทำให้สัญลักษณ์กลุ่มดาวปรากฏบนร่างกายของผู้ใช้ เช่นเดียวกับการแต่งกายที่แตกต่างกัน
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของชุดสตาร์ได้ที่นี่ - ชุดเดรสดาราของลูซี่
อูราโน่ เมเทรีย
อูราโน่ เมเทรีย (สมอ. การ์ดสวรรค์) - คาถาที่ไม่มีหมวดหมู่ที่สามารถเรียกว่า "Complete Star Magic" เมื่อผู้ร่ายพูดคำคาถา มันจะเริ่มต้นขึ้น ทำให้ลูกบอลแสงหลายลูกมารวมตัวกันรอบๆ ตำแหน่งของเป้าหมาย ในเวลาเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายได้รับผลกระทบจากภาพลวงตาบางอย่างของการเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่อื่น คล้ายกับโลกแห่งวิญญาณสวรรค์ ซึ่งทำให้เป้าหมายของคาถาสับสน ทันทีที่ผู้ร่ายพูดจบคาถา แสงก็มาบรรจบกันด้วยพลังอันมหาศาล ปล่อยกระแสพลังเวทย์มนตร์อันทรงพลังไปยังเป้าหมาย
สะกด Urano Metria
ขีดจำกัดสวรรค์เปิดสู่ดวงดาว...
ดวงดาวทุกดวงบนฟ้า...
ให้แสงสว่างแก่ฉัน...
ด้วยความแวววาวที่เปล่งประกายที่สุด...
หนังสือสี่เล่ม...
ฉันคือสตาร์ลอร์ด...
แสดงตัวตนและเปิดใจ...
ประตูแห่งการลงโทษ...
โอ้ดวงดาวทั้งแปดสิบแปดดวง...
ส่องแสง!
อูราโน่ เมเทรีย!
ใช้คาถา อูราโน เมเทรีย
Urano Metria ถูกใช้เป็นครั้งแรกในการต่อสู้กับ Angel ()
ชื่อของคาถาหมายถึงแผนที่ขนาดใหญ่แห่งแรกของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว - Uranometry สร้างขึ้นในปี 1603 โดยนักกฎหมายและนักดาราศาสตร์ชาวเยอรมัน Johann Bayer แปลจากภาษากรีก - ละตินแปลว่า "มิติแห่งสวรรค์" คาถานี้ยังอ้างอิงถึงกลุ่มดาวคลาสสิก 88 ดวงที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า