การวิเคราะห์ความมืดของลอร์ดจอร์จ ไบรอน บทกวีภาษาอังกฤษ
ฉันมีความฝัน ซึ่งไม่ใช่ความฝันทั้งหมด
พระอาทิตย์อันสุกใสก็ดับลง"งและดวงดาวทั้งหลาย
ได้เร่ร่อนไปในอวกาศอันมืดมิดชั่วนิรันดร์
ไร้รัศมี ไร้หนทาง และแผ่นดินน้ำแข็ง
เหวี่ยงคนตาบอดและมืดมนไปในอากาศไร้แสงจันทร์
ตอนเช้ามาแล้วก็ไป และมาแต่ไม่มีเวลามา
และผู้ชายก็ลืมความหลงใหลในความน่าสะพรึงกลัว
จากนี้ความรกร้างของพวกเขา; และหัวใจทั้งหมด
พวกเราทำใจให้สบายในการอธิษฐานอย่างเห็นแก่ตัวเพื่อแสงสว่าง:
และพวกเขามีชีวิตอยู่ด้วยกองไฟและบัลลังก์
พระราชวังของกษัตริย์ที่สวมมงกุฎ - กระท่อม
ที่อยู่อาศัยของสรรพสิ่งทั้งปวงที่อาศัยอยู่
ถูกเผาเพื่อเป็นสัญญาณ เมืองต่างๆ ถูกบริโภค
และผู้ชายก็รวมตัวกันอยู่รอบๆ บ้านที่ไฟลุกโชนของพวกเขา
เพื่อมองหน้ากันอีกครั้ง
ผู้ที่อยู่ในดวงตาก็เป็นสุข
เกี่ยวกับภูเขาไฟและคบไฟบนภูเขา:
โลกทั้งใบมีความหวังอันน่าสะพรึงกลัว"d;
ไฟป่าถูกเผาแต่ชั่วโมงต่อชั่วโมง
พวกมันร่วงหล่นและจางหายไป - และลำต้นที่แตกร้าว
ดับลงด้วยอุบัติเหตุ - และทุกอย่างก็เป็นสีดำ
คิ้วของผู้ชายท่ามกลางแสงแห่งความสิ้นหวัง
สวมลักษณะที่แปลกประหลาดตามความเหมาะสม
แวววาวตกลงมาที่พวกเขา; บางคนนอนลง
และซ่อนตาของพวกเขาและร้องไห้ และบางคนก็พักผ่อน
คางของพวกเขาอยู่บนมือที่กำแน่นแล้วยิ้ม
และอีกพวกก็รีบไปเทียวมากินอาหาร
งานศพของพวกเขาเต็มไปด้วยเชื้อเพลิง และเงยหน้าขึ้นมอง
ด้วยความไม่สงบอย่างบ้าคลั่งบนท้องฟ้าที่มืดมน
โลกแห่งอดีต; แล้วอีกครั้ง
ด้วยคำสาปโยนพวกเขาลงบนผงคลี
และขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและส่งเสียงหอน: นกป่าส่งเสียงร้อง
และสะดุ้งสะเทือนใจสั่นสะท้านกับพื้น
และกระพือปีกอันไร้ประโยชน์ของมัน โหดร้ายที่สุด
มาเชื่องและสั่นสะเทือน และงูพิษคลาน"d
และเกาะกลุ่มกันท่ามกลางฝูงชน
เปล่งเสียงฟู่ แต่ไม่แสบ - พวกเขาถูกฆ่าเพื่อเป็นอาหาร
และสงครามซึ่งชั่วขณะหนึ่งไม่มีอีกต่อไป
เหลือเฟือตัวเองอีกครั้ง; - ซื้ออาหารแล้ว
ด้วยเลือดและแต่ละป้อยอก็แยกจากกันอย่างบูดบึ้ง
กลืนน้ำลายตัวเองด้วยความเศร้าโศก ไม่มีความรักเหลืออยู่
โลกทั้งใบเป็นเพียงความคิดเดียว นั่นคือความตาย
ทันทีทันใดและน่าอับอาย และปัง
ด้วยความอดอยากที่กินเข้าไปถึงเครื่องในทั้งหมด - ผู้ชาย
สิ้นชีวิตและกระดูกของพวกเขาก็ไร้หลุมฝังศพเหมือนเนื้อของพวกเขา
ผู้ขาดแคลนถูกกินจนหมดสิ้น
แม้แต่สุนัขก็ยังทำร้ายเจ้านายของมัน ยกเว้นตัวหนึ่ง
และเขาก็ซื่อสัตย์ต่อคอร์และเก็บไว้
นก สัตว์ร้าย และความอดอยาก มีคนอยู่ในอ่าว
จนกว่าความหิวจะเกาะพวกเขาหรือคนตาย
ล่อขากรรไกรล่างของพวกเขา ตนเองไม่ได้แสวงหาอาหาร
แต่ด้วยความสงสารและคร่ำครวญอยู่เสมอ
และร้องไห้อย่างสิ้นหวังอย่างรวดเร็วพร้อมเลียมือ
ซึ่งไม่ตอบด้วยการกอดรัด - เขาเสียชีวิต
ฝูงชนหิวโหยทีละน้อย แต่สองคน
จากเมืองใหญ่ที่รอดมาได้
และพวกเขาเป็นศัตรูกัน: พวกเขาพบกันข้างๆ
ถ่านที่กำลังจะตายจากแท่นบูชา
ที่ไหนมีมวลสารศักดิ์สิทธิ์กองอยู่บ้าง
สำหรับการใช้งานที่ไม่ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขากวาดล้าง
และตัวสั่นสะท้านด้วยมือที่เย็นชา
ขี้เถ้าที่อ่อนแอและลมหายใจที่อ่อนแอของพวกเขา
เป่าชีวิตเล็ก ๆ น้อย ๆ และทำให้เกิดเปลวไฟ
ซึ่งเป็นการเยาะเย้ย แล้วพวกเขาก็ลุกขึ้น
ดวงตาของพวกเขาเริ่มสว่างขึ้นและมองเห็น
ต่างฝ่ายเห็นก็ร้องกรี๊ดก็ตาย-
แม้จะมีความน่าเกลียดน่าชังร่วมกันพวกเขาก็ตาย
โดยไม่รู้ว่าเขาเป็นใครบนหน้าผากของใคร
ความอดอยากได้เขียนอสูร โลกก็ว่างเปล่า
ผู้โด่งดังและทรงพลัง - เป็นก้อนเนื้อ
ไร้ฤดูกาล ไร้สมุนไพร ไร้ต้นไม้ ไร้มนุษย์ ไร้ชีวิต -
ก้อนเนื้อแห่งความตาย - ความโกลาหลของดินเหนียวแข็ง
แม่น้ำ ทะเลสาบ และมหาสมุทรล้วนหยุดนิ่ง
และไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวภายในส่วนลึกอันเงียบสงบของพวกเขา
เรือไม่มีกะลาสีก็เน่าเปื่อยอยู่ในทะเล
และเสากระโดงของพวกมันก็พังลงทีละน้อยขณะที่พวกมันตกลงไป
พวกเขานอนบนเหวโดยไม่มีคลื่น -
คลื่นก็ตายแล้ว กระแสน้ำอยู่ในหลุมศพของพวกเขา
พระจันทร์ที่นายหญิงของพวกเขาสิ้นพระชนม์เสียก่อน
ลมก็เหี่ยวเฉาไปในอากาศนิ่ง
และเมฆก็พินาศไป"ง ความมืดก็ไม่จำเป็น
ได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขา - เธอคือจักรวาล
จอร์จ โนเอล กอร์ดอน ไบรอน
ความมืด
ฉันมีความฝัน... ไม่ใช่ทุกสิ่งในนั้นที่เป็นความฝัน
พระอาทิตย์อันสุกใสและดวงดาวก็ดับลง
เดินเตร่โดยไม่มีเป้าหมายโดยไม่มีรังสี
ในอวกาศนิรันดร์ ดินแดนน้ำแข็ง
เธอรีบเร่งอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าในอากาศไร้แสงจันทร์
เวลารุ่งเช้าเข้ามาและผ่านไป
แต่เขาไม่ได้พาวันนั้นไปด้วย...
และผู้คนต่างหวาดกลัวต่อความโชคร้ายครั้งใหญ่
ความหลงใหลในอดีตที่ถูกลืม...หัวใจ
ในคำอธิษฐานที่เห็นแก่ตัวครั้งหนึ่ง
พวกเขาย่อตัวลงอย่างเขินอายเมื่อได้รับแสงและแข็งตัว
ผู้คนอาศัยอยู่หน้าไฟ บัลลังก์,
พระราชวังของกษัตริย์ที่สวมมงกุฎ กระท่อม
ที่อยู่อาศัยของบรรดาผู้ที่มีที่อยู่อาศัย -
พวกเขาก่อไฟ...เมืองถูกเผา...
และผู้คนก็รวมตัวกันเป็นฝูง
รอบบ้านที่ถูกไฟไหม้ - จากนั้น
เพื่อสบตากันสักครั้ง
ชาวประเทศเหล่านั้นมีความสุข
ที่ซึ่งคบไฟของภูเขาไฟลุกโชน...
โลกทั้งใบอยู่ด้วยความหวังอันขี้กลัวเพียงหนึ่งเดียว...
ป่าถูกจุดไฟ; แต่แล้วมันก็จางหายไปทุกชั่วโมง
และป่าไม้ก็พังทลายลง ต้นไม้
จู่ๆ พวกเขาก็ล้มลงอย่างน่ากลัว...
และใบหน้า - ด้วยการกระพือไม่สม่ำเสมอ
แสงสุดท้ายที่กำลังจะดับลง
ดูเหมือนแปลกประหลาด... ใครเป็นคนวาง
เขาหลับตาและร้องไห้ ใครกำลังนั่งอยู่
เขาพยุงตัวเองด้วยมือของเขา เขายิ้ม
คนอื่นก็โวยวาย
รอบกองไฟ - และด้วยความสยดสยองอย่างบ้าคลั่ง
เรามองท้องฟ้าที่มืดมนอย่างคลุมเครือ
ดินแดนแห่งผ้าห่อศพที่สาบสูญ...และจากนั้น
พวกเขาโยนตัวเองลงไปในผงคลีด้วยคำสาปแช่งและเสียงหอน
พวกเขากัดฟัน นกกรีดร้อง
พวกเขารีบโบกมือโบกมือต่ำเหนือพื้นดิน
ปีกที่ไม่จำเป็น... แม้แต่สัตว์ต่างๆ
พวกมันวิ่งเข้ามาเป็นฝูงขี้อาย... งู
พวกเขาคลานขดตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชนส่งเสียงฟู่
ไม่เป็นอันตราย...มีคนฆ่าพวกเขา
สำหรับอาหาร... สงครามปะทุขึ้นอีกครั้ง
ดับไปสักพัก...ซื้อมาด้วยเลือด
มีอย่างละชิ้น ทุกคนอยู่ข้างสนาม
เขานั่งเศร้าหมอง หมกมุ่นอยู่กับความมืดมิด
ความรักหายไปแล้ว แผ่นดินโลกก็เต็มไปหมด
มีเพียงความคิดเดียว: ความตาย - ความตาย
น่าเกรงขาม หลีกเลี่ยงไม่ได้... ความอดอยากอันเลวร้าย
เขาทรมานผู้คน...และผู้คนก็ตายอย่างรวดเร็ว...
แต่ไม่มีหลุมศพสำหรับกระดูก
ทั้งร่างกาย... กลืนกินโครงกระดูก...
และแม้กระทั่งสุนัขก็ฉีกเจ้าของออกจากกัน
มีเพียงสุนัขเท่านั้นที่ยังคงซื่อสัตย์ต่อศพ
พระองค์ทรงไล่สัตว์และคนหิวโหยออกไป -
ขณะที่ศพอื่นๆ ถูกดึงดูด
ฟันพวกมันโลภ...แต่อาหารนั่นเอง
ไม่ยอมรับ; ด้วยเสียงครวญครางอันแสนเศร้ายาวนาน
และด้วยการร้องไห้อย่างรวดเร็วและเศร้า เขาก็เลียทุกอย่าง
เขายื่นมือไม่สมหวังต่อความรักใคร่
และตายในที่สุด... ค่อยเป็นค่อยไป
ความหิวโหยทำลายทุกคน พลเมืองเพียงสองคน
เมืองหลวงอันเขียวชอุ่ม - ครั้งหนึ่งเคยเป็นศัตรู -
ผู้รอดชีวิต... พวกเขาได้พบกัน
ณ ซากแท่นบูชาที่กำลังจะสิ้นพระชนม์
ที่รวบรวมสิ่งของมากมาย
นักบุญ. - - - - - - - - - -
ด้วยมือที่เย็นเฉียบ
พวกเขาขุดขี้เถ้าขึ้นมาด้วยความสั่นเทา... โอกอนยอค
ภายใต้ลมหายใจที่อ่อนแอของพวกเขา มันวูบวาบขึ้นอย่างแผ่วเบา
ราวกับจะเยาะเย้ยพวกเขา มันกลายเป็นเมื่อไหร่
ไฟแช็กทั้งคู่เงยหน้าขึ้นมอง
พวกเขามองกรีดร้องแล้วรวมตัวกัน
จากความสยองขวัญซึ่งกันและกันอย่างกะทันหัน
พวกเขาล้มตาย - - - - - - - -
. . . . . . . . . . . . . . . . .
- - - - - - - และโลกก็ว่างเปล่า
โลกที่อัดแน่นนั้น โลกอันยิ่งใหญ่
เป็นมวลที่ตายแล้ว ไร้หญ้า ต้นไม้
ปราศจากชีวิต เวลา ผู้คน ความเคลื่อนไหว...
นั่นคือความวุ่นวายแห่งความตาย ทะเลสาบแม่น้ำ
และทะเล - ทุกอย่างเงียบสงบ ไม่มีอะไร
มันไม่ได้เคลื่อนไหวในเหวอันเงียบงัน
เรือต่างๆ ก็ถูกทิ้งร้าง
และเน่าเปื่อยไปกับความชื้นที่ไม่เคลื่อนไหวและง่วงนอน...
ไร้เสียงรบกวน เสากระโดงก็ตกลงไปทีละชิ้น
แล้วตกลงมาคลื่นก็ไม่รบกวน...
ทะเลไม่ได้เห็นกระแสน้ำมานานแล้ว...
ผู้ปกครองของพวกเขาคือดวงจันทร์ก็พินาศ
ลมพัดหวือหวาท่ามกลางความเงียบงัน...
เมฆหายไป... ไม่ต้องการความมืดอีกต่อไป
ความช่วยเหลือของพวกเขา...มีอยู่ทุกที่...
ส.ล. ซูคาเรฟ. บทกวีของ Byron ความมืดใน ru
เซอร์เกย์ ซูคาเรฟ
ส.ล. สุขาเรฟ
บทกวี "ความมืด" ของไบรอนในการแปลภาษารัสเซีย
บทกวี "ความมืด" ซึ่งเขียนโดยไบรอนในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2359 ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในผลงานโคลงสั้น ๆ ที่โด่งดังที่สุดของกวี สำหรับนักแปลภาษารัสเซียมีความน่าดึงดูดเป็นพิเศษมายาวนาน: การแปลครั้งแรกปรากฏในนิตยสารเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อต้นปี พ.ศ. 2365 และมีการตีพิมพ์การแปลใหม่สองฉบับในปีครบรอบ 200 ปีของกวี ตามข้อมูลของเรา มีการเผยแพร่คำแปลทั้งหมด 25 ฉบับ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับการแปลภาษารัสเซียสำหรับเนื้อเพลงของ Byron
(43) เพื่อสาธิตวิธีแก้ปัญหาการแปลที่เป็นไปได้ (แน่นอน โดยไม่มีการอ้างสิทธิ์ในขั้นสุดท้าย) เราขอเสนอการแปลที่ยังไม่ได้เผยแพร่ก่อนหน้านี้โดยผู้เขียนบทความ (ร่วมกับ Svetlana Shik):
ความมืด
ฉันมีความฝัน - มันไม่ใช่แค่ความฝัน
พระอาทิตย์ดับลง ดวงดาวก็ดับลง
ท่องไปในดินแดนอันกว้างใหญ่ไร้หนทาง
และโลกน้ำแข็งสีดำ
เดินไปอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าในอากาศไร้แสงจันทร์
วันนั้นมาถึงโดยไม่มีรุ่งอรุณ
และความสยองขวัญเข้ามาแทนที่ความหลงใหลของมนุษย์
ก่อนที่โลกจะรกร้าง - พวกเขาเริ่มเย็นชา
หัวใจในการอธิษฐาน การอธิษฐานเพื่อตนเอง
รวมตัวกันรอบกองไฟยาม:
บัลลังก์และพระราชวังของกษัตริย์ที่สวมมงกุฎ
กระท่อมของคนจน - ทุกที่อยู่อาศัย
มันลุกเป็นไฟ เมืองต่างๆ ถูกเผา
และผู้คนต่างดิ้นรนเพื่อเสาที่ลุกเป็นไฟ -
มองหน้ากันอีกครั้ง
ผู้อาศัยอยู่ใกล้ภูเขาไฟมีความสุข -
ด้วยแสงคบเพลิงบนภูเขา ตามลำพัง
โลกดำรงอยู่ด้วยความหวังที่ขี้อาย
พวกเขาจุดไฟในป่า - และทุก ๆ ชั่วโมงด้วยเสียง
ต้นไม้ที่ไหม้เกรียมทรุดตัวลง
และความมืดก็เข้ามาใกล้อีกครั้ง
กะพริบเป็นระยะๆ
ใบหน้ามนุษย์มีแสงสลัวๆ
ทำให้พวกเขามีรูปลักษณ์ภายนอก:
บ้างก็นอนคว่ำหน้ากองไฟ
และพวกเขาก็ร้องไห้ คนอื่น ๆ เอนกาย
บนมือที่ประสานกันยิ้ม
คนอื่นก็สะสมอย่างจุกจิก
ชิ้นส่วนสำหรับเมรุเผาศพของคุณ
จ้องมองด้วยความวิตกกังวลอย่างป่าเถื่อน
บนนภา - ผ้าห่อศพของโลกอดีต;
และพวกเขาก็กระโจนลงไปในผงคลีและขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
และสาปแช่งสาปแช่งสาปแช่ง;
และบนพื้นดินก็มีนกตื่นตระหนก
พวกเขาทุบตีอย่างไร้ผลด้วยปีกที่ไร้พลัง
และพวกนักล่าก็ปรากฏตัวขึ้นด้วยความถ่อมตัว
แสวงหาความคุ้มครอง งูคลาน
ขดตัวอยู่กลางฝูงชน
พวกเขาส่งเสียงฟู่ แต่ไม่ต่อย - เป็นอาหาร
พวกเขาถูกฆ่าตาย และสงครามอีกครั้ง
เธอลืมไปแล้วจึงกลับมาร่วมงานเลี้ยงต่อ:
ชิ้นส่วนเริ่มได้รับมาด้วยเลือด ทั้งหมด,
เขาซ่อนตัวอยู่ในความมืดและอิ่มเอมใจอย่างตะกละตะกลาม
ความรักได้หายไปแล้ว ความคิดหนึ่งครอบงำ
เกี่ยวกับความตาย - ความตายที่รวดเร็วและน่าอับอาย
ความหิวโหยกัดกินในครรภ์ โรคระบาดก็เริ่มขึ้น
แต่คนตายไม่พบหลุมศพ:
สุนัขผอมผอมแทะที่ตัวผอม
พวกเขารีบไปหาเจ้าของ เพียงหนึ่งเดียว
เสียงคำราม ศพเย็นชาได้รับการปกป้อง
จากขากรรไกรที่ละโมบ - และด้วยเสียงหอนยาว
เขาเลียมือที่ไม่ได้รับคำตอบ
ร้องอย่างสิ้นหวังเห่าอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อลืมเรื่องอาหารเขาก็อ่อนแอและเงียบไป
ทุกคนจึงค่อยๆ ตาย... สอง
ผู้อยู่อาศัยที่เหลืออยู่ในเมืองใหญ่:
ศัตรูสาบานที่แท่นบูชา
พวกเขามารวมกันเหนือเครื่องใช้ศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งตอบสนองจุดประสงค์อันชั่วร้าย
ขี้เถ้าอุ่นด้วยมือที่มีกระดูก
พวกเขากวนมัน - และมีการเคลื่อนไหวที่อ่อนแอ
พัดประกายไฟ: ราวกับเป็นการเยาะเย้ย
เปลวไฟกระพริบอยู่ครู่หนึ่ง
พวกเขาสบตากัน - แล้วก็ร้องไห้ออกมา
ทั้งสองล้มลงด้วยความตกใจ
หลงด้วยความอัปลักษณ์ซึ่งกันและกัน
และพวกเขาไม่เคยรู้ว่าใครเป็นใคร
ผู้ซึ่งความอดอยากอันโหดร้ายนำมาซึ่งความอดอยากอันโหดร้าย
ฉายา : ศัตรู... โลกว่างเปล่า : ยิ่งใหญ่
และโลกที่พลุกพล่านก็กลายเป็นทางตัน
ไร้หญ้า ต้นไม้ ไร้แสงแดด ไร้ผู้คน -
ก้อนฝุ่นที่ไร้ชีวิตชีวาและเยือกแข็ง
ทะเลสาบ แม่น้ำ และทะเลกลายเป็นน้ำแข็ง
ความเงียบครอบงำในส่วนลึกของพวกเขา
เรือเน่าเปื่อยที่ถูกทิ้งร้าง
เสากระโดงเอียง - เศษของมันพังทลายลง
พวกเขาไม่ได้รบกวนเหวที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
กระแสน้ำในสุสานสงบลง
ลูน่า ผู้เป็นที่รักของพวกเขาหายตัวไป
ลมก็เหี่ยวเฉาไปในอากาศนิ่ง
ไม่มีเมฆ แต่ก็ไม่ต้องการมัน -
และจักรวาลทั้งหมดก็ถูกความมืดโอบกอดไว้
(44) หากไม่มีพื้นที่เราจะจำกัดตัวเองให้ชี้ให้เห็นคำแปลต่อไปนี้: Darkness: From Beiron // Morning (คอลเลกชันวรรณกรรมและการเมือง จัดพิมพ์โดย M. Pogodin) อ.: 1866. หน้า 240-242. ลายเซ็น: เอสเอ็ม (ตามสมมติฐานของเรา ผู้เขียนการแปลนี้ - เชี่ยวชาญอย่างเห็นได้ชัด - อาจเป็น Stepan Alekseevich Maslov) ความมืด // รวบรวมครบแล้ว ปฏิบัติการ ลอร์ด ไบรอน (ภาคเสริมของนิตยสาร Pictureque Review ประจำเดือน) เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: 2437 ต. 6.ส. 222-223; เหมือนกัน: ลอร์ดไบรอน เต็ม ของสะสม ปฏิบัติการ เคียฟ; เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก; คาร์คอฟ: 2447 Stlb. 535-536 (แปลร้อยแก้วโดย K. Humbert,
A. Bogaevskaya และ Stalka); ความมืด: (ไบรอน) // เอลลิส อมตะ ฉบับที่ 2 ม. 2447 หน้า 154-156 เหมือนกัน: นักอ่าน-นักอ่าน ต.2. เคียฟ: 1905. หน้า 25-28.
— ในหนังสือ The Great Romantic: Byron and World Literature [รวบรวมบทความ]
อ.: Nauka, 1991. หน้า 221-236.
ฉันมีความฝัน... ไม่ใช่ทุกสิ่งในนั้นที่เป็นความฝัน
พระอาทิตย์อันสุกใสและดวงดาวก็ดับลง
เดินเตร่โดยไม่มีเป้าหมายโดยไม่มีรังสี
ในอวกาศนิรันดร์ ดินแดนน้ำแข็ง
เธอรีบเร่งอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าในอากาศไร้แสงจันทร์
เวลารุ่งเช้าเข้ามาและผ่านไป
แต่เขาไม่ได้พาวันนั้นไปด้วย...
และผู้คนต่างหวาดกลัวต่อความโชคร้ายครั้งใหญ่
ความหลงใหลในอดีตที่ถูกลืม...หัวใจ
ในคำอธิษฐานที่เห็นแก่ตัวครั้งหนึ่ง
พวกเขาย่อตัวลงอย่างเขินอายเมื่อได้รับแสงและแข็งตัว
ผู้คนอาศัยอยู่หน้าไฟ บัลลังก์,
พระราชวังของกษัตริย์ที่สวมมงกุฎ กระท่อม
ที่อยู่อาศัยของบรรดาผู้ที่มีที่อยู่อาศัย -
พวกเขาก่อไฟ...เมืองถูกเผา...
และผู้คนก็รวมตัวกันเป็นฝูง
รอบบ้านที่ถูกไฟไหม้ - จากนั้น
เพื่อสบตากันสักครั้ง
ชาวประเทศเหล่านั้นมีความสุข
ที่ซึ่งคบไฟของภูเขาไฟลุกโชน...
โลกทั้งใบอยู่ด้วยความหวังอันขี้กลัวเพียงหนึ่งเดียว...
ป่าถูกจุดไฟ; แต่แล้วมันก็จางหายไปทุกชั่วโมง
และป่าไม้ก็พังทลายลง ต้นไม้
จู่ๆ พวกเขาก็ล้มลงอย่างน่ากลัว...
และใบหน้า - ด้วยการกระพือไม่สม่ำเสมอ
แสงสุดท้ายที่กำลังจะดับลง
ดูเหมือนแปลกประหลาด... ใครเป็นคนวาง
เขาหลับตาและร้องไห้ ใครกำลังนั่งอยู่
เขาพยุงตัวเองด้วยมือของเขา เขายิ้ม
คนอื่นก็โวยวาย
รอบกองไฟ - และด้วยความสยดสยองอย่างบ้าคลั่ง
เรามองท้องฟ้าที่มืดมนอย่างคลุมเครือ
ดินแดนแห่งผ้าห่อศพที่สาบสูญ...และจากนั้น
พวกเขาโยนตัวเองลงไปในผงคลีด้วยคำสาปแช่งและเสียงหอน
พวกเขากัดฟัน นกกรีดร้อง
พวกเขารีบโบกมือโบกมือต่ำเหนือพื้นดิน
ปีกที่ไม่จำเป็น... แม้แต่สัตว์ต่างๆ
พวกมันวิ่งเข้ามาเป็นฝูงขี้อาย... งู
พวกเขาคลานขดตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชนส่งเสียงฟู่
ไม่เป็นอันตราย...มีคนฆ่าพวกเขา
สำหรับอาหาร... สงครามปะทุขึ้นอีกครั้ง
ดับไปสักพัก...ซื้อมาด้วยเลือด
มีอย่างละชิ้น ทุกคนอยู่ข้างสนาม
เขานั่งเศร้าหมอง หมกมุ่นอยู่กับความมืดมิด
ความรักหายไปแล้ว แผ่นดินโลกก็เต็มไปหมด
มีเพียงความคิดเดียว: ความตาย - ความตาย
น่าเกรงขาม หลีกเลี่ยงไม่ได้... ความอดอยากอันเลวร้าย
เขาทรมานผู้คน...และผู้คนก็ตายอย่างรวดเร็ว...
แต่ไม่มีหลุมศพสำหรับกระดูก
ทั้งร่างกาย... กลืนกินโครงกระดูก...
และแม้กระทั่งสุนัขก็ฉีกเจ้าของออกจากกัน
มีเพียงสุนัขเท่านั้นที่ยังคงซื่อสัตย์ต่อศพ
พระองค์ทรงไล่สัตว์และคนหิวโหยออกไป -
ขณะที่ศพอื่นๆ ถูกดึงดูด
ฟันพวกมันโลภ...แต่อาหารนั่นเอง
ไม่ยอมรับ; ด้วยเสียงครวญครางอันแสนเศร้ายาวนาน
และด้วยการร้องไห้อย่างรวดเร็วและเศร้า เขาก็เลียทุกอย่าง
เขายื่นมือไม่สมหวังต่อความรักใคร่
และตายในที่สุด... ค่อยเป็นค่อยไป
ความหิวโหยทำลายทุกคน พลเมืองเพียงสองคน
เมืองหลวงอันเขียวชอุ่ม - ครั้งหนึ่งเคยเป็นศัตรู -
ผู้รอดชีวิต... พวกเขาได้พบกัน
ณ ซากแท่นบูชาที่กำลังจะสิ้นพระชนม์
ที่รวบรวมสิ่งของมากมาย
นักบุญ. - - - - - - - - - -
ด้วยมือที่เย็นเฉียบ
พวกเขาขุดขี้เถ้าขึ้นมาด้วยความสั่นเทา... โอกอนยอค
ภายใต้ลมหายใจที่อ่อนแอของพวกเขา มันวูบวาบขึ้นอย่างแผ่วเบา
ราวกับจะเยาะเย้ยพวกเขา มันกลายเป็นเมื่อไหร่
ไฟแช็กทั้งคู่เงยหน้าขึ้นมอง
พวกเขามองกรีดร้องแล้วรวมตัวกัน
จากความสยองขวัญซึ่งกันและกันอย่างกะทันหัน
พวกเขาล้มตาย - - - - - - - -
. . . . . . . . . . . . . . . . .
- - - - - - - และโลกก็ว่างเปล่า
โลกที่อัดแน่นนั้น โลกอันยิ่งใหญ่
เป็นมวลที่ตายแล้ว ไร้หญ้า ต้นไม้
ปราศจากชีวิต เวลา ผู้คน ความเคลื่อนไหว...
นั่นคือความวุ่นวายแห่งความตาย ทะเลสาบแม่น้ำ
และทะเล - ทุกอย่างเงียบสงบ ไม่มีอะไร
มันไม่ได้เคลื่อนไหวในเหวอันเงียบงัน
เรือต่างๆ ก็ถูกทิ้งร้าง
และเน่าเปื่อยไปกับความชื้นที่ไม่เคลื่อนไหวและง่วงนอน...
ไร้เสียงรบกวน เสากระโดงก็ตกลงไปทีละชิ้น
และเมื่อตกลงมาคลื่นก็ไม่รบกวน...
ทะเลไม่ได้เห็นกระแสน้ำมานานแล้ว...
ดวงจันทร์ผู้เป็นที่รักของพวกเขาก็พินาศ
ลมพัดหายไปในอากาศอันเงียบสงบ...
เมฆหายไป... ไม่ต้องการความมืดอีกต่อไป
ความช่วยเหลือของพวกเขา...มีอยู่ทุกที่...
วิเคราะห์บทกวี "ความมืด" โดยไบรอน
บทกวี "ความมืด" ของ George Byron เป็นหนึ่งในหน้าที่ทรงพลังที่สุดของแนวโรแมนติกในอังกฤษ กวีหันไปหาหัวข้อเรื่อง Apocalypse ณ จุดเปลี่ยนในชีวิตของเขา
บทกวีนี้เขียนขึ้นในปี พ.ศ. 2359 ผู้เขียนมีอายุ 28 ปีซึ่งเป็นปีที่ยากลำบากที่กวีแยกทางกับภรรยาของเขาและตัดสินใจออกจากอังกฤษ เขามุ่งหน้าไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้อ่านรู้จักงานนี้ในการแปลหลายฉบับ ในกรณีนี้การวิเคราะห์จัดทำขึ้นจากการแปลโดย I. Turgenev ซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2388 และตีพิมพ์ในอีกหนึ่งปีต่อมา แนวเพลงเป็นเนื้อเพลงเชิงปรัชญา มิเตอร์คือ iambic pentameter กลอนเปล่า พระเอกโคลงสั้น ๆ เป็นผู้บรรยายที่สังเกตการสิ้นโลกนี้
นอกจากวิวรณ์ของนักบุญยอห์นนักศาสนศาสตร์แล้ว ในข้อเหล่านี้เป็นเรื่องปกติที่จะมองหาอิทธิพลของดันเต อาลีกีเอรี และนวนิยายเรื่อง “The Last Man” ที่ปัจจุบันไม่ค่อยมีใครรู้จัก ตีพิมพ์ในปี 1806 อย่างไรก็ตาม คำอุทธรณ์ของกวีที่มีต่อ Apocalypse เป็นหลักนั้นง่ายต่อการยืนยัน ดังนั้นพระเอกโคลงสั้น ๆ จึงเผชิญกับนิมิตในความฝัน “ ดวงอาทิตย์ดับโลกลอยอยู่ในอากาศไร้แสงจันทร์” - อ้างอิงถึงบรรทัดในพระคัมภีร์: ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์หยุดนิ่ง ... และดวงดาวก็ตกลงสู่พื้นโลก มี "ความมืดที่เห็นได้ชัด" ดังที่เขียนไว้ในหนังสือพระคัมภีร์อีกเล่มหนึ่ง “ ผู้คนอาศัยอยู่หน้าไฟ”, “ ต้นไม้ล้มทับ” - มีความสัมพันธ์กับ: หนึ่งในสามของต้นไม้ถูกไฟไหม้ “สวรรค์ ผ้าห่อศพของโลกที่สูญหาย” เป็นข้อความดัดแปลงจากวิวรณ์ และท้องฟ้าก็หายไป ม้วนตัวขึ้นเหมือนม้วนหนังสือ “สงครามปะทุขึ้นอีกครั้ง”: ... มอบให้เพื่อแย่งชิงความสงบสุขไปจากโลกและเพื่อฆ่ากันเอง “ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวในเหวอันเงียบงัน”: ... ลมไม่ได้พัดทั้งบนบก ในทะเล หรือบนต้นไม้ใด ๆ คำอธิบายเรื่องการกันดารอาหารก็มีความคล้ายคลึงกับพระคัมภีร์เช่นกัน
มีการเปิดตัวสองบรรทัดจากการแปล มีรายงานหนึ่งว่า "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" ถูกรวบรวมโดยคนบ้าคลั่งเพื่อนำไปใช้อย่างไม่เลือกหน้า โดยไม่แสดงความเคารพต่อพระเจ้า ในอีกแง่หนึ่ง “บรรดาผู้ที่เสียชีวิตจากความหวาดกลัวร่วมกัน” มองเห็นระดับการลดทอนความเป็นมนุษย์ที่พวกเขาไปถึง และบนหน้าผากของพวกเขา “ความหิวโหยถูกเขียนว่า: คุณคือศัตรูของฉัน” โครงสร้างที่เชื่อมโยงซ้ำๆ กับ "และ" เองก็ยืมมาจาก Apocalypse เช่นกัน บทกวีควรเข้าใจทั้งตามตัวอักษรและเชิงเปรียบเทียบ ตอนที่มีสุนัขซื่อสัตย์อยู่ในมือของเจ้าของเป็นเกาะแห่งความรู้สึกดีๆ ในความสับสนวุ่นวายของโลกที่กำลังจะตาย ที่น่าสนใจคือ D. Byron บรรยายถึงเฉพาะผู้คนที่พินาศซึ่งปฏิเสธพระเจ้า แต่ใน Apocalypse - ผู้คนของพระเจ้า ผู้ที่จะได้รับความรอด ผู้ที่จะผ่านการทดสอบทั้งหมดและได้รับชัยชนะ
โครงสร้างจังหวะของการแปลบทกวี "ความมืด" ของ D. Byron ในการแปลภาษารัสเซียบางเรื่องเสร็จสิ้นโดยไม่มีคำคล้องจอง I. Turgenev เดินตามเส้นทางเดียวกันซึ่งมีฉบับแปลปรากฏในการพิมพ์เมื่อผู้เขียนอายุเท่ากันกับที่ผู้เขียนเขียนต้นฉบับ
George Byron บรรยายลักษณะสำคัญของภัยพิบัติทางดาราศาสตร์ทั่วโลกในช่วงต้นศตวรรษที่ 19
ฉันมีความฝันที่ไม่ใช่ความฝันจริงๆ
พระอาทิตย์อันสดใสได้ออกไปแล้วและดวงดาว
พวกมืดก็ท่องไปในอวกาศอันไร้ขอบเขต
ไร้หนทาง ไร้รังสี และ โลกน้ำแข็ง
ว่าย ตาบอด และดำ ในอากาศไร้แสงจันทร์.
เช้ามาแล้วก็ไป - และกลับมาอีกแต่ไม่มีเวลา;
ผู้คนลืมความหลงใหลของตนไปแล้ว
ด้วยความกลัวและความสิ้นหวัง และหัวใจทั้งหมด
เย็นชาในการอธิษฐานขอแสงสว่างเพียงครั้งเดียว
ผู้คนดำรงอยู่ด้วยแสงสว่างและบัลลังก์
พระราชวังของกษัตริย์ที่สวมมงกุฎ กระท่อม
บ้านเรือนของบรรดาชาวโลกก็ทรุดโทรมลงแทนที่จะเป็นประภาคาร;
เมืองต่างๆ พังทลายลงเป็นเถ้าถ่าน
และผู้คนก็รุมเร้าอยู่รอบบ้านที่ถูกไฟไหม้
ที่จะมองหน้ากันอีกครั้ง
ผู้ที่สู้รบกับภูเขาไฟก็เป็นสุข
คบเพลิงภูเขาเหล่านี้ ความหวังอันน่าสะพรึงกลัวประการหนึ่ง
รักษาความสงบ; ป่าถูกจุดไฟ -
แต่พวกเขาก็ล้มลงตายทุกชั่วโมง
และตอไม้ก็แตกออกมา - และทุกอย่างก็มืดมน
ผู้คนต่างขมวดคิ้วด้วยแสงอันสิ้นหวัง
ดูเหมือนสิ่งแปลกประหลาด
เมื่อเกิดประกายไฟตกใส่พวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
บ้างก็นอนลงกับพื้นหลับตาและร้องไห้
คนอื่นๆ ไว้เคราบนมือที่พับไว้แล้วยิ้ม
และคนอื่นๆ ก็เบียดเสียดกันที่นี่และที่นั่น
และเผาเมรุเผาศพ
และด้วยความวิตกกังวลอย่างบ้าคลั่ง
จ้องดูท้องฟ้าอันเศร้าโศก
ปกคลุมโลกที่ตายแล้วเหมือนผ้าห่อศพและ
แล้วก็สาปแช่งอีกครั้ง
ทำให้พวกเขากลายเป็นดินที่เต็มไปด้วยฝุ่น
และพวกเขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและร้องครวญคราง
และเหล่านกก็ส่งเสียงร้องอันแหลมคม
และรีบวิ่งไปบนพื้นโลก
และตีด้วยปีกอันไร้สาระ
สัตว์ร้ายที่สุดก็ถูกปราบและหวาดกลัว
และงูก็เลื้อยคลานอยู่ท่ามกลางฝูงชนส่งเสียงขู่
แต่พวกเขาไม่ได้ทำร้ายพวกเขา - พวกเขาถูกฆ่าเพื่อให้คนกิน;
และสงครามซึ่งหลับใหลอยู่ครู่หนึ่งก็กลับมาอีกครั้งด้วยความเข้มแข็งครั้งใหม่
อาหารถูกซื้อด้วยเลือด
และทุกคนก็นั่งเศร้าอยู่คนเดียว
อิ่มหนำในความมืด ไม่มีความรักเหลืออยู่
ทั่วทั้งแผ่นดินมีความคิดเดียวว่า
ความตายนี้ใกล้เข้ามาและน่าอับอายแล้ว
ความหิวโหยเข้าครอบงำมดลูก ผู้คนก็ตาย
และเนื้อและกระดูกของพวกเขาก็ไม่ได้ถูกฝังไว้
คนผอมก็ถูกคนผอมกินเสีย
สุนัขยังทำร้ายเจ้าของอีกด้วย
ทั้งหมดยกเว้นสิ่งเดียว และเขาก็ภักดีต่อศพของเขา
และไล่นก สัตว์ และคนหิวโหยออกไปด้วยเสียงเห่า
จนกว่าความหิวจะหมดไปหรือมีศพใหม่มาดึงดูดความโลภของพวกเขา
ตัวเขาเองไม่ได้มองหาอาหาร แต่ด้วยเสียงคร่ำครวญและเสียงหอนยาวนาน
และเลียมือของเขาด้วยเปลือกไม้แหลมคม
ที่ไม่ตอบรับความรักของพระองค์แล้วสิ้นพระชนม์
ฝูงชนค่อยๆ ลดน้อยลง
เพียงสองคนจากเมืองอันกว้างใหญ่
ยังมีชีวิตอยู่ - และพวกเขาก็เป็นศัตรูกัน
พวกเขาพบกันที่กองขี้เถ้าของแท่นบูชา
ที่ซึ่งเครื่องใช้ของคริสตจักรที่เสื่อมทรามกองอยู่เป็นกอง
พวกเขากวาดต้อนและตัวสั่น
ยกขี้เถ้าอุ่นขึ้นด้วยมือที่เย็นและแห้ง
และลมหายใจอันแผ่วเบาก็ดำเนินต่อไปอีกเล็กน้อย
เหมือนแสงเยาะเย้ยที่แทบจะมองไม่เห็น
จากนั้นพวกเขาก็มองไปยังแสงสว่างมากขึ้น
ต่างก็เห็นกัน เห็นก็ร้องลั่นตายไปแต่ไกล
พวกเขาตายเพราะความอัปลักษณ์ของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ซึ่งความหิวโหยบนใบหน้าเขียนไว้ว่า: ศัตรู
โลกว่างเปล่ามีประชากรหนาแน่นและทรงอำนาจ
กลายเป็นมวลอมตะ
ไม่มีหญ้า, ไม่มีต้นไม้, รกร้าง,
ไร้ชีวิต ฝูงคนตาย
ความโกลาหลก้อนฝุ่น แม่น้ำ ทะเลสาบ มหาสมุทร ล้วนนิ่งสงบ
และไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวในส่วนลึกอันเงียบสงบของพวกเขา
เรือแล่นไปโดยไม่มีนักว่ายน้ำ
เน่าเปื่อยลงทะเล และเสากระโดงก็พังทลายลง
ล้มลงพวกเขาหลับไปบนพื้นผิวเรียบ
คลื่นก็ตาย กระแสน้ำนอนอยู่ในหลุมศพ ดวงจันทร์ ราชินีของมันตายก่อน
ลมพัดสลายไป ในอากาศนิ่ง, และเมฆก็ตายไป ความมืดก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป
ในความช่วยเหลือของพวกเขา - เขาอยู่ทุกหนทุกแห่ง
พ.ศ. 2359 - ความมืด
ภาษาต้นฉบับ: อังกฤษ ชื่อดั้งเดิม: ความมืด. — วันที่สร้าง: 1816, เผยแพร่: 1846 ที่มา: Turgenev I. S. รวบรวมผลงาน ใน 12 เล่ม - อ.: “นิยาย”, พ.ศ. 2519-2522 ต.11
ยาโรสลาฟ โบชารอฟ
อะไรก็ตามที่ยืนยันทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับการลบความทรงจำของมนุษยชาติ!
ฉันยังมีความฝันอีกสองสามอย่างที่ไม่ใช่ความฝันจริงๆ หนึ่งในนั้นฉันกำลังนั่งอยู่หลังรถบรรทุกและถูกพาตัวไปยิง ไอ้สารเลวสตาลินเอื้อมมือออกไป! ฉันได้รับมันสองครั้งแล้ว
ทำไมฉันถึงไม่ได้ข้อสรุปจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ร่ำรวยเช่นนี้ว่าครึ่งหนึ่งของประเทศถูกจำคุกและอีกครึ่งหนึ่งของประเทศที่ต้องเฝ้าระวังนั้นอยู่นอกเหนือฉัน
________________________________________ ______
“ความมืด” ฉันเห็นความฝัน... ไม่ใช่ทุกสิ่งในนั้นที่เป็นความฝัน
พระอาทิตย์อันสุกใสและดวงดาวก็ดับลง
เดินเตร่โดยไม่มีเป้าหมายโดยไม่มีรังสี
ในอวกาศนิรันดร์ ดินแดนน้ำแข็ง
เธอรีบเร่งอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าในอากาศไร้แสงจันทร์
เวลารุ่งเช้าเข้ามาและผ่านไป
แต่เขาไม่ได้พาวันนั้นไปด้วย...
และผู้คนต่างหวาดกลัวต่อความโชคร้ายครั้งใหญ่
ความหลงใหลในอดีตที่ถูกลืม...หัวใจ
ในคำอธิษฐานที่เห็นแก่ตัวครั้งหนึ่ง
พวกเขาย่อตัวลงอย่างเขินอายเมื่อได้รับแสงและแข็งตัว
ผู้คนอาศัยอยู่หน้าไฟ บัลลังก์,
พระราชวังของกษัตริย์ที่สวมมงกุฎ กระท่อม
ที่อยู่อาศัยของบรรดาผู้ที่มีที่อยู่อาศัย -
พวกเขาก่อไฟ...เมืองถูกเผา...
และผู้คนก็รวมตัวกันเป็นฝูง
รอบบ้านที่ถูกไฟไหม้ - จากนั้น
เพื่อสบตากันสักครั้ง
ชาวประเทศเหล่านั้นมีความสุข
ที่ซึ่งคบไฟของภูเขาไฟลุกโชน...
โลกทั้งใบอยู่ด้วยความหวังอันขี้กลัวเพียงหนึ่งเดียว...
ป่าถูกจุดไฟ; แต่แล้วมันก็จางหายไปทุกชั่วโมง
และป่าไม้ก็พังทลายลง ต้นไม้
จู่ๆ พวกเขาก็ล้มลงอย่างน่ากลัว...
และใบหน้า - ด้วยการกระพือไม่สม่ำเสมอ
แสงสุดท้ายที่กำลังจะดับลง
ดูเหมือนแปลกประหลาด... ใครเป็นคนวาง
เขาหลับตาและร้องไห้ ใครกำลังนั่งอยู่
เขาพยุงตัวเองด้วยมือของเขา เขายิ้ม
คนอื่นก็โวยวาย
รอบกองไฟ - และด้วยความสยดสยองอย่างบ้าคลั่ง
เรามองท้องฟ้าที่มืดมนอย่างคลุมเครือ
ดินแดนแห่งผ้าห่อศพที่สาบสูญ...และจากนั้น
พวกเขาโยนตัวเองลงไปในผงคลีด้วยคำสาปแช่งและเสียงหอน
พวกเขากัดฟัน นกกรีดร้อง
พวกเขารีบโบกมือโบกมือต่ำเหนือพื้นดิน
ปีกที่ไม่จำเป็น... แม้แต่สัตว์ต่างๆ
พวกมันวิ่งเข้ามาเป็นฝูงขี้อาย... งู
พวกเขาคลานขดตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชนส่งเสียงฟู่
ไม่เป็นอันตราย...มีคนฆ่าพวกเขา
สำหรับอาหาร... สงครามปะทุขึ้นอีกครั้ง
ดับไปสักพัก...ซื้อมาด้วยเลือด
มีอย่างละชิ้น ทุกคนอยู่ข้างสนาม
เขานั่งเศร้าหมอง หมกมุ่นอยู่กับความมืดมิด
ความรักหายไปแล้ว แผ่นดินโลกก็เต็มไปหมด
มีเพียงความคิดเดียว: ความตาย - ความตาย
น่าเกรงขาม หลีกเลี่ยงไม่ได้... ความอดอยากอันเลวร้าย
คนถูกทรมาน...และคนก็ตายอย่างรวดเร็ว...
แต่ไม่มีหลุมศพสำหรับกระดูก
ทั้งร่างกาย... กลืนกินโครงกระดูก...
และแม้กระทั่งสุนัขก็ฉีกเจ้าของออกจากกัน
มีเพียงสุนัขเท่านั้นที่ยังคงซื่อสัตย์ต่อศพ
พระองค์ทรงไล่สัตว์และคนหิวโหยออกไป -
ขณะที่ศพอื่นๆ ถูกดึงดูด
ฟันพวกมันโลภ...แต่อาหารนั่นเอง
ไม่ยอมรับ; ด้วยเสียงครวญครางอันแสนเศร้ายาวนาน
และด้วยการร้องไห้อย่างรวดเร็วและเศร้า เขาก็เลียทุกอย่าง
เขายื่นมือไม่สมหวังต่อความรักใคร่
และตายในที่สุด... ค่อยเป็นค่อยไป
ความหิวโหยทำลายทุกคน พลเมืองเพียงสองคน
เมืองหลวงอันเขียวชอุ่ม - ครั้งหนึ่งเคยเป็นศัตรู -
ผู้รอดชีวิต... พวกเขาได้พบกัน
ณ ซากแท่นบูชาที่กำลังจะสิ้นพระชนม์
ที่รวบรวมสิ่งของมากมาย
นักบุญ. - - - - - - - - - -
ด้วยมือที่เย็นเฉียบ
พวกเขาขุดขี้เถ้าขึ้นมาด้วยความสั่นเทา... โอกอนยอค
ภายใต้ลมหายใจที่อ่อนแอของพวกเขา มันวูบวาบขึ้นอย่างแผ่วเบา
ราวกับจะเยาะเย้ยพวกเขา มันกลายเป็นเมื่อไหร่
ไฟแช็กทั้งคู่เงยหน้าขึ้นมอง
พวกเขามองกรีดร้องแล้วรวมตัวกัน
จากความสยองขวัญซึ่งกันและกันอย่างกะทันหัน
พวกเขาล้มตาย - - - - - - - -
. . . . . . . . . . . . . . . . .
- - - - - - - และโลกก็ว่างเปล่า
โลกที่อัดแน่นนั้น โลกอันยิ่งใหญ่
เป็นมวลที่ตายแล้ว ไร้หญ้า ต้นไม้
ปราศจากชีวิต เวลา ผู้คน ความเคลื่อนไหว...
นั่นคือความวุ่นวายแห่งความตาย ทะเลสาบแม่น้ำ
และทะเล - ทุกอย่างเงียบสงบ ไม่มีอะไร
มันไม่ได้เคลื่อนไหวในเหวอันเงียบงัน
เรือต่างๆ ก็ถูกทิ้งร้าง
และเน่าเปื่อยไปกับความชื้นที่ไม่เคลื่อนไหวและง่วงนอน...
ไร้เสียงรบกวน เสากระโดงก็ตกลงไปทีละชิ้น
แล้วตกลงมาคลื่นก็ไม่รบกวน...
ทะเลไม่ได้เห็นกระแสน้ำมานานแล้ว...
ดวงจันทร์ผู้เป็นที่รักของพวกเขาก็พินาศ
ลมพัดหวือหวาท่ามกลางความเงียบงัน...
เมฆหายไป... ไม่ต้องการความมืดอีกต่อไป
ความช่วยเหลือของพวกเขา...มีอยู่ทุกที่...
แปลโดย I. Turgenev
ความมืด
ฉันมีความฝัน... ไม่ใช่ทุกสิ่งในนั้นที่เป็นความฝัน
พระอาทิตย์อันสุกใสและดวงดาวก็ดับลง
เดินเตร่โดยไม่มีเป้าหมายโดยไม่มีรังสี
ในอวกาศนิรันดร์ ดินแดนน้ำแข็ง
เธอรีบเร่งอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าในอากาศไร้แสงจันทร์
เวลารุ่งเช้าเข้ามาและผ่านไป
แต่เขาไม่ได้พาวันนั้นไปด้วย...
และผู้คนต่างหวาดกลัวต่อความโชคร้ายครั้งใหญ่
ความหลงใหลในอดีตที่ถูกลืม...หัวใจ
ในคำอธิษฐานที่เห็นแก่ตัวครั้งหนึ่ง
พวกเขาย่อตัวลงอย่างเขินอายเมื่อได้รับแสงและแข็งตัว
ผู้คนอาศัยอยู่หน้าไฟ บัลลังก์,
พระราชวังของกษัตริย์ที่สวมมงกุฎ กระท่อม
ที่อยู่อาศัยของบรรดาผู้ที่มีที่อยู่อาศัย -
พวกเขาก่อไฟ...เมืองถูกเผา...
และผู้คนก็รวมตัวกันเป็นฝูง
รอบบ้านที่ถูกไฟไหม้ - จากนั้น
เพื่อสบตากันสักครั้ง
ชาวประเทศเหล่านั้นมีความสุข
ที่ซึ่งคบไฟของภูเขาไฟลุกโชน...
โลกทั้งใบอยู่ด้วยความหวังอันขี้กลัวเพียงหนึ่งเดียว...
ป่าถูกจุดไฟ; แต่แล้วมันก็จางหายไปทุกชั่วโมง
และป่าไม้ก็พังทลายลง ต้นไม้
จู่ๆ พวกเขาก็ล้มลงอย่างน่ากลัว...
และใบหน้า - ด้วยการกระพือไม่สม่ำเสมอ
แสงสุดท้ายที่กำลังจะดับลง
ดูเหมือนแปลกประหลาด... ใครเป็นคนวาง
เขาหลับตาและร้องไห้ ใครกำลังนั่งอยู่
เขาพยุงตัวเองด้วยมือของเขา เขายิ้ม
คนอื่นก็โวยวาย
รอบกองไฟ - และด้วยความสยดสยองอย่างบ้าคลั่ง
เรามองท้องฟ้าที่มืดมนอย่างคลุมเครือ
ดินแดนแห่งผ้าห่อศพที่สาบสูญ...และจากนั้น
พวกเขาโยนตัวเองลงไปในผงคลีด้วยคำสาปแช่งและเสียงหอน
พวกเขากัดฟัน นกกรีดร้อง
พวกเขารีบโบกมือโบกมือต่ำเหนือพื้นดิน
ปีกที่ไม่จำเป็น... แม้แต่สัตว์ต่างๆ
พวกมันวิ่งเข้ามาเป็นฝูงขี้อาย... งู
พวกเขาคลานขดตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชนส่งเสียงฟู่
ไม่เป็นอันตราย...มีคนฆ่าพวกเขา
สำหรับอาหาร... สงครามปะทุขึ้นอีกครั้ง
ดับไปสักพัก...ซื้อมาด้วยเลือด
มีอย่างละชิ้น ทุกคนอยู่ข้างสนาม
เขานั่งเศร้าหมอง หมกมุ่นอยู่กับความมืดมิด
ความรักหายไปแล้ว แผ่นดินโลกก็เต็มไปหมด
มีเพียงความคิดเดียว: ความตาย - ความตาย
น่าเกรงขาม หลีกเลี่ยงไม่ได้... ความอดอยากอันเลวร้าย
คนถูกทรมาน...และคนก็ตายอย่างรวดเร็ว...
แต่ไม่มีหลุมศพสำหรับกระดูก
ทั้งร่างกาย... กลืนกินโครงกระดูก...
และแม้กระทั่งสุนัขก็ฉีกเจ้าของออกจากกัน
มีเพียงสุนัขเท่านั้นที่ยังคงซื่อสัตย์ต่อศพ
พระองค์ทรงไล่สัตว์และคนหิวโหยออกไป -
ขณะที่ศพอื่นๆ ถูกดึงดูด
ฟันพวกมันโลภ...แต่อาหารนั่นเอง
ไม่ยอมรับ; ด้วยเสียงครวญครางอันแสนเศร้ายาวนาน
และด้วยการร้องไห้อย่างรวดเร็วและเศร้า เขาก็เลียทุกอย่าง
เขายื่นมือไม่สมหวังต่อความรักใคร่
และตายในที่สุด... ค่อยเป็นค่อยไป
ความหิวโหยทำลายทุกคน พลเมืองเพียงสองคน
เมืองหลวงอันเขียวชอุ่ม - ครั้งหนึ่งเคยเป็นศัตรู -
ผู้รอดชีวิต... พวกเขาได้พบกัน
ณ ซากแท่นบูชาที่กำลังจะสิ้นพระชนม์
ที่รวบรวมสิ่งของมากมาย
นักบุญ. - - - - - - - - - -
ด้วยมือที่เย็นเฉียบ
พวกเขาขุดขี้เถ้าขึ้นมาด้วยความสั่นเทา... โอกอนยอค
ภายใต้ลมหายใจที่อ่อนแอของพวกเขา มันวูบวาบขึ้นอย่างแผ่วเบา
ราวกับจะเยาะเย้ยพวกเขา มันกลายเป็นเมื่อไหร่
ไฟแช็กทั้งคู่เงยหน้าขึ้นมอง
พวกเขามองกรีดร้องแล้วรวมตัวกัน
จากความสยองขวัญซึ่งกันและกันอย่างกะทันหัน
พวกเขาล้มตาย - - - - - - - -
. . . . . . . . . . . . . . . . .
- - - - - - - และโลกก็ว่างเปล่า
โลกที่อัดแน่นนั้น โลกอันยิ่งใหญ่
เป็นมวลที่ตายแล้ว ไร้หญ้า ต้นไม้
ปราศจากชีวิต เวลา ผู้คน ความเคลื่อนไหว...
นั่นคือความวุ่นวายแห่งความตาย ทะเลสาบแม่น้ำ
และทะเล - ทุกอย่างเงียบสงบ ไม่มีอะไร
มันไม่ได้เคลื่อนไหวในเหวอันเงียบงัน
เรือต่างๆ ก็ถูกทิ้งร้าง
และเน่าเปื่อยไปกับความชื้นที่ไม่เคลื่อนไหวและง่วงนอน...
ไร้เสียงรบกวน เสากระโดงก็ตกลงไปทีละชิ้น
แล้วตกลงมาคลื่นก็ไม่รบกวน...
ทะเลไม่ได้เห็นกระแสน้ำมานานแล้ว...
ผู้ปกครองของพวกเขาคือดวงจันทร์ก็พินาศ
ลมพัดหวือหวาท่ามกลางความเงียบงัน...
เมฆหายไป... ไม่ต้องการความมืดอีกต่อไป
ความช่วยเหลือของพวกเขา...มีอยู่ทุกที่...