คนตัดไม้ชาวอเมริกันใช้เลื่อยตัดต้นไม้ชนิดใด? คนตัดไม้และต้นซีคัวญ่ายักษ์
วัดเป็นโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่มีไว้สำหรับพิธีกรรมทางศาสนาและการสักการะ อย่างไรก็ตาม อาจกล่าวได้ว่าความหมายของวัดมักจะกว้างกว่าพิธีกรรมที่พวกเขาประกอบและแนวคิดทางศาสนาที่พวกเขารวบรวมไว้มาก
วัดแห่งแรกของโลกปรากฏขึ้นในสมัยโบราณ และไม่เพียงแต่เป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการค้นหาพระเจ้าโดยธรรมชาติของมนุษย์ ตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษย์ สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของภูมิทัศน์ของเมือง และหลายแห่งมีชื่อเสียงมากจนกลายเป็นสัญลักษณ์
วัดแห่งโลกโบราณ
วัดแห่งแรกในอียิปต์โบราณซึ่งเป็นที่รู้จักในทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ถูกสร้างขึ้นในสหัสวรรษที่สี่ก่อนคริสต์ศักราช พวกมันมีรูปร่างเหมือนกระท่อมกก วัดสุดท้ายที่สร้างเสร็จอยู่ที่ฟิเล มันหยุดถูกใช้ตามจุดประสงค์เฉพาะในศตวรรษที่ 6 เท่านั้น
คาร์นัค
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของอียิปต์คือคาร์นัคที่ถูกทำลายอย่างหนัก ได้รับการยอมรับว่าเป็นวัดโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก โครงสร้างนี้เป็นการสร้างสรรค์ของผู้สร้างชาวอียิปต์หลายชั่วอายุคน
วิหาร Karnak ประกอบด้วยอาคารสามหลัง - อาคารในร่มขนาดเล็กและอาคารภายนอกหลายแห่ง ตั้งอยู่ทางเหนือของลักซอร์ (2.5 กม.) ต้องใช้เวลาหลายพันปีในการสร้างและเสริมความแข็งแกร่งให้กับวิหาร Karnak อันยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตาม งานส่วนใหญ่ที่ Karnak ดำเนินการโดยฟาโรห์แห่งอาณาจักรใหม่ โครงสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดใน Karnak ถือเป็น Hypostyle Hall อย่างถูกต้องซึ่งมีพื้นที่ 50,000 ตารางเมตร ม. มีเสาขนาดใหญ่ 134 คอลัมน์ จัดเรียงเป็น 16 แถว
วิหารแห่งอาบูซิมเบล
วิหารแห่งโลกบางครั้งทำให้ประหลาดใจกับความไม่ธรรมดา ตัวอย่างเช่น วัด (สองแห่ง) ของอาบูซิมเบลถูกแกะสลักไว้บนเนินเขา สิ่งนี้เกิดขึ้นในสมัยของฟาโรห์ราเมเสสมหาราชในศตวรรษที่ 13 ก่อนคริสต์ศักราช จ. วัดเหล่านี้กลายเป็นอนุสรณ์สถานชั่วนิรันดร์ของฟาโรห์ราเมซีสและราชินีเนเฟอร์ทารีของเขา
วัดเอ็ดฟู
วิหารของโลกมักถูกสร้างขึ้นและอุทิศให้กับเทพเจ้า ดังนั้นวิหาร Edfu จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ Falcon God Horus เป็นวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอียิปต์รองจากคาร์นัคและเป็นหนึ่งในวัดที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุด การก่อสร้างเริ่มขึ้นใน 237 ปีก่อนคริสตกาล จ. ในเวลานั้นปโตเลมีที่ 3 อยู่ในอำนาจ งานเสร็จสมบูรณ์ในอีกสองศตวรรษต่อมา (ใน 57 ปีก่อนคริสตกาล) โครงสร้างนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบดั้งเดิมจากวิหารอียิปต์ เช่นเดียวกับองค์ประกอบกรีกหลายอย่าง เช่น Mammisi (บ้านเกิด)
โบสถ์แห่งสุสานศักดิ์สิทธิ์
คริสตจักรออร์โธดอกซ์ทั่วโลกถูกสร้างขึ้นในประเทศต่างๆ โบสถ์แห่งสุสานศักดิ์สิทธิ์สร้างขึ้นบนภูเขากลโกธา ซึ่งเป็นสถานที่แห่งการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ ที่นี่เขาทนทุกข์ทรมานทรมาน
ก่อตั้งโดยพระมารดาของจักรพรรดิคอนสแตนติน เฮเลน ในปี 335 วันหนึ่งเธอพบในบริเวณใต้ดินของวิหารแห่งวีนัสซึ่งก่อนหน้านี้เคยตั้งอยู่ในสถานที่แห่งนี้ มีถ้ำซึ่งมีสุสานศักดิ์สิทธิ์และไม้กางเขนที่พระเยซูถูกตรึงบนไม้กางเขน มีตำนานเล่าว่ามีการค้นพบไม้กางเขนที่เหมือนกันสามอันในคุกใต้ดิน เพื่อที่จะค้นหาว่าอันไหนเป็นของจริง เอเลน่าจึงแตะพวกเขาทีละคนไปที่โลงศพพร้อมกับศพของผู้ตาย เมื่อไม้กางเขนที่แท้จริงแตะต้องเขา ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น - ชายผู้ตายฟื้นคืนชีพแล้ว
มหาวิหารเซนต์ไอแซค
คริสตจักรที่สวยที่สุดในโลกสร้างแรงบันดาลใจให้กับความชื่นชมไม่เพียงแต่ในหมู่นักบวชเท่านั้น นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมยังชื่นชมอาคารที่สวยงามของพวกเขาอีกด้วย มหาวิหารเซนต์ไอแซคอันยิ่งใหญ่เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมทางศาสนาของรัสเซีย ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมั่นใจว่านี่คือหนึ่งในอาคารทรงโดมที่สวยที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในเมืองหลวงทางตอนเหนือของเรา วัดสามารถรองรับผู้คนได้มากถึง 12,000 คนต่อครั้ง เมื่อก่อนมีคนมาสักการะ แต่ตอนนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว วัดแห่งนี้ได้รับสถานะเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และศิลปะในปี พ.ศ. 2480
เส้นผ่านศูนย์กลางของโดมด้านนอกของวัดคือยี่สิบห้าเมตร มีการใช้จ่ายเงินมากกว่าหนึ่งร้อยกิโลกรัมในการครอบคลุมส่วนกลางเช่นเดียวกับโดมบนหอระฆัง เสาสูงหนึ่งร้อยเมตรที่อยู่เหนือโดมให้ทัศนียภาพที่สวยงามของใจกลางเมืองและริมฝั่งแม่น้ำเนวา .
วัดที่ใหญ่ที่สุด
คริสตจักรคริสเตียนทั่วโลกมีความแตกต่างกันในรูปแบบสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน และการมีอยู่ของศาลเจ้าบางแห่ง อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันล้ำค่า
อาคารทางศาสนาที่สง่างามที่สุดในประเทศของเราคืออาสนวิหารพระคริสต์ผู้ช่วยให้รอดซึ่งตั้งอยู่ในมอสโก เบื้องต้นวัดนี้สร้างขึ้นตามแบบของต้น การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2382 น่าเสียดายที่ในปี 1931 วัดก็เหมือนกับอาสนวิหารและโบสถ์หลายแห่งในประเทศของเราที่ถูกทำลาย และได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในปี 1997
ความสูงของวัดอยู่ที่ 105 เมตร โครงสร้างมีรูปร่างเป็นกากบาทด้านเท่ากันหมด (กว้าง - 85 ม.) วัดสามารถรองรับคนได้ 10,000 คนพร้อมกัน การตกแต่งภายในน่าประทับใจด้วยความหรูหราซึ่งยืมมาจากศาสนาไบแซนไทน์ (ออร์โธดอกซ์)
อาสนวิหารเซนต์ปีเตอร์
วัดที่มีชื่อเสียงของโลกเป็นสถานที่แสวงบุญ สิ่งนี้ใช้ได้กับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในวาติกันอย่างสมบูรณ์ เชื่อกันว่านี่คือวัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความยาว 212 เมตร กว้าง 150 ม. พื้นที่ครอบครอง มากกว่า 22,000 ตร.ม. ความสูงรวมไม้กางเขนบนโดมอยู่ที่ 136 เมตร มหาวิหารแห่งนี้สามารถรองรับผู้คนได้ประมาณ 60,000 คนในเวลาเดียวกัน
วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 โดยปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เช่นราฟาเอลและไมเคิลแองเจโล โครงสร้างอันงดงามนี้มีอายุมากกว่าห้าศตวรรษแล้ว ก่อนหน้านี้มีละครสัตว์บนเว็บไซต์นี้ ซึ่งในสมัยของเนโร ชาวคริสเตียนถูกทรมานและเสียชีวิตอย่างสาหัส เขาถูกนำมาที่นี่และขอให้ประหารชีวิตโดยแตกต่างจากพระคริสต์ และเขาถูกตรึงศีรษะที่กางเขน
สามศตวรรษต่อมา จักรพรรดิคอนสแตนตินทรงสั่งให้สร้างมหาวิหารที่นี่เพื่อเป็นเกียรติแก่นักบุญเปโตร และในปี 1452 นิโคลัสที่ 5 (สมเด็จพระสันตะปาปา) ทรงเริ่มก่อสร้างมหาวิหารแห่งนี้ วัดนี้ใช้เวลาสร้างถึง 120 ปี ในปี ค.ศ. 1667 เจ. ได้ออกแบบจัตุรัสหน้าอาสนวิหาร เพื่อรองรับผู้ศรัทธาทุกคนที่ประสงค์จะรับพร
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์เป็นต้นแบบในการสร้างโบสถ์ขนาดใหญ่หลายแห่งในโลก เช่น Dame de la Paix ในเมือง Yamoussoukro มันถูกสร้างขึ้นในปี 1989 พื้นที่ของโครงสร้างคือ 30,000 ตารางเมตร ม. สามารถรองรับคนได้ 20,000 คน นอกจากนี้ อาสนวิหารแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นต้นแบบให้กับโบสถ์เซนต์ปอล (ลอนดอน) ขนาดของอาคารคือ 170 x 90 ม. ผู้เขียนโครงการคือสถาปนิก Christopher Wren
วิหารแห่งโลก: มัสยิดต้องห้าม
นี่คือศาลเจ้าหลักของโลกมุสลิม ในลานบ้านของเธอมีกะอบะห มัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 638 ตามพระราชกฤษฎีกาของกษัตริย์แห่งซาอุดีอาระเบีย การก่อสร้างมัสยิดใหม่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2550
ในระหว่างงานก่อสร้างในภาคเหนือพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 400,000 ตารางเมตร ปัจจุบันมัสยิดแห่งนี้รองรับนักบวชได้ 1.12 ล้านคน แต่หออะซานสองแห่งยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เมื่อคำนึงถึงอาณาเขตแล้ว ผู้คนสองล้านครึ่งจะสามารถเข้าร่วมในพิธีที่จัดขึ้นที่นี่ในเวลาเดียวกัน
วัดที่สวยที่สุด
แน่นอนว่าสำหรับผู้เชื่อที่แท้จริง คริสตจักรที่สวยที่สุดอยู่ในเมืองที่พวกเขาไปสักการะ อย่างไรก็ตาม มีมหาวิหารหลายแห่งในโลกที่สร้างความชื่นชมจากผู้คนบนโลกของเรา เราจะบอกคุณเกี่ยวกับบางส่วนของพวกเขา
มหาวิหารน็อทร์-ดาม
ที่ตั้งของมหาวิหารแห่งนี้ใน (ปารีส) ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ในสมัยโบราณมีวิหารนอกรีตของดาวพฤหัสบดีอยู่ที่นี่ จากนั้นก็เป็นโบสถ์คริสเตียนแห่งแรกในปารีส (มหาวิหารเซนต์สตีเฟน) การก่อสร้างอาสนวิหารเริ่มขึ้นในปี 1163 มีอายุยืนยาวกว่าสองร้อยปี
วัดได้รับการออกแบบในสไตล์กอทิกเป็นหลัก แต่หอคอยมีลักษณะแตกต่างกันอย่างมาก เนื่องจากสถาปนิกหลายคนเข้ามามีส่วนร่วมในงานนี้
มหาวิหารแห่งนี้ได้อนุรักษ์โบราณวัตถุที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งอย่างระมัดระวัง - พระคริสต์ซึ่งถูกส่งมาที่นี่จากกรุงเยรูซาเล็ม ไม่มีภาพวาดฝาผนังแบบดั้งเดิมภายในอาสนวิหาร แต่หน้าต่างกระจกสีบานใหญ่บนหน้าต่างแสดงให้เห็นฉากในพระคัมภีร์ มีตำนานเล่าว่าระฆังเอ็มมานูเอลอันโด่งดังซึ่งมีน้ำหนัก 13 ตันหล่อจากเครื่องประดับของผู้หญิง
วิหารซากราดาฟามิเลีย
มหาวิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ในบาร์เซโลนา (สเปน) การก่อสร้างโครงสร้างอันยิ่งใหญ่นี้กินเวลานานกว่าสี่สิบปีภายใต้การนำและจนถึงปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จ
สิ่งนี้อธิบายได้จากข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ริเริ่มการก่อสร้างกำหนดเงื่อนไข: ควรสร้างวัดด้วยการบริจาคจากนักบวชเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญสมัยใหม่เชื่อว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2569 วัดมีรูปทรงไม้กางเขนแบบละติน ด้านหน้าตกแต่งด้วยคำพูดจากพระคัมภีร์
มหาวิหารเซนต์บาซิล
โบสถ์ออร์โธดอกซ์อันงดงามตั้งอยู่ในกรุงมอสโกบนจัตุรัสแดง ตั้งชื่อตาม Vasily (คนโง่ศักดิ์สิทธิ์) ผู้กล้าแสดงความไม่พอใจต่อการปกครองของซาร์อีวานผู้น่ากลัว
วัดนี้เรียกว่าทรินิตี้จนถึงศตวรรษที่ 17 สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 ตามตำนานเล่าว่า Ivan the Terrible สั่งให้สถาปนิกตาบอดเพื่อที่เขาจะไม่สามารถสร้างสิ่งที่คล้ายกันได้ในอนาคต เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่วัดแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ไม่เพียงแต่ในเมืองหลวงเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ทั่วทั้งรัสเซียอีกด้วย ปัจจุบันรวมอยู่ในรายการมรดกของ UNESCO ปัจจุบันมีสาขาหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์อยู่ที่นี่
ตั้งแต่สมัยโบราณ มนุษยชาติได้สร้างปราสาทและพระราชวังอันยิ่งใหญ่ ราวกับกำลังแข่งขันกันในด้านทักษะทางสถาปัตยกรรม แต่มีอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่พระเจ้าและฤทธิ์เดชของพระองค์ซึ่งช่วยเหลือผู้คนในช่วงเวลาที่ยากลำบาก วัดและมหาวิหารแบบไหนที่ลงมาหาเราตั้งแต่สมัยโบราณและทำให้คนรุ่นเดียวกันของเราประหลาดใจด้วยความงามและความยิ่งใหญ่
อาสนวิหารอุล์ม, อุลม์, เยอรมนี
อาสนวิหารอุล์มเป็นอาสนวิหารที่สูงที่สุดในยุโรป มีความสูง 161.5 เมตร การก่อสร้างงานสถาปัตยกรรมนี้เริ่มเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 1377 โดยชาวบ้านประมาณ 10,000 คนอาศัยอยู่ในเมืองในเวลานั้น ด้วยเหตุผลหลายประการ อาสนวิหารจึงสร้างเสร็จในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2433 เท่านั้น โดยมีการติดตั้งดอกไม้ตระกูลกะหล่ำบนยอดแหลมของอาคาร 513 ปีผ่านไปตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงสิ้นสุดการก่อสร้าง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อเกือบทั้งเมืองถูกระเบิด อาสนวิหารแห่งนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่รอดชีวิต มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในสไตล์โกธิค คุณสามารถชื่นชมความงามได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง ความยาวของอาสนวิหารคือ 123 เมตร และความกว้างคือ 49 เมตรสามารถเข้าร่วมได้มากถึง 20,000 คนในเวลาเดียวกัน เมื่อขึ้นบันไดหิน 768 ขั้นสู่ความสูง 143 เมตร คุณจะพบว่าตัวเองอยู่บนดาดฟ้าชมวิวซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามของเมืองและความงามของเทือกเขาแอลป์
Notre-Dame de la Paix, ยามูซูโกร, ไอวอรี่โคสต์
Notre-Dame de la Paix เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งได้รับการจดทะเบียนใน Guinness Book of Records โบสถ์คาทอลิกสร้างขึ้นตามรูปลักษณ์และรูปลักษณ์ของอาสนวิหารเซนต์ปีเตอร์ อาสนวิหารพระแม่แห่งสันติภาพสร้างขึ้นเป็นเวลา 4 ปีตั้งแต่ปี 1985 ถึง 1989 ความสูงของอาคารถึง 158 เมตรพื้นที่ของมหาวิหารคือ 30,000 ตารางเมตร ต้องขอบคุณห้องโถงที่กว้างขวางทำให้มหาวิหารสามารถรองรับคนได้ 18,000 คน 7,000 ที่นั่งและจุดยืน 11 แห่ง มหาวิหารแห่งนี้ทำจากหินอ่อน มีการใช้หินอ่อน 121,000 ตารางเมตร และกระจกสี 7,000 ตารางเมตรในการก่อสร้าง ต้องขอบคุณหน้าต่างกระจกสีที่แสงแดดส่องเข้ามาภายในอาสนวิหารทำให้เกิดภาพที่สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ทรงอุทิศโบสถ์น็อทร์-ดาม เดอ ลา เปซ์ และวางศิลาบนสถานที่ซึ่งผู้นำของประเทศที่ยากจนในแอฟริกาสัญญาว่าจะสร้างโรงพยาบาล เกือบ 30 ปีผ่านไป หินยังคงอยู่และไม่พบเงินทุนสำหรับการก่อสร้างโรงพยาบาล
การก่อสร้างอาสนวิหารสไตล์โกธิกในโคโลญจน์เริ่มขึ้นในปี 1248 และดำเนินต่อไปจนถึงทุกวันนี้ มีตำนานว่าทันทีที่การปรับปรุงมหาวิหารโคโลญทั้งหมดเสร็จสิ้น วันสิ้นโลกก็จะมาถึง มหาวิหารโคโลญเป็นโบสถ์ที่สูงที่สุดมีหอคอยสองหลัง ความสูงของหอคอยสูงถึง 157.4 เมตร- ความยาวอาคารภายนอกรวม 144.58 เมตร กว้าง 86.25 เมตร พื้นที่ของมหาวิหารคือ 7914 ตารางเมตร ม. หน้าต่างกระจกสีบนหน้าต่างอาสนวิหารได้รับการอนุรักษ์มาตั้งแต่ยุคกลาง เมื่อขึ้นบันได 509 ขั้น คุณจะขึ้นไปบนยอดมหาวิหารและชื่นชมทิวทัศน์จากความสูงของอาคาร 50 ชั้น อาสนวิหารโคโลญจน์อยู่ในรายชื่อมรดกโลกขององค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี 1996
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์เป็นอาคารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคริสเตียน ในรูปแบบที่ทันสมัย มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1626 โดยปรมาจารย์ด้านสถาปัตยกรรมอย่างราฟาเอลและไมเคิลแองเจโลมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ แม้ว่าประวัติศาสตร์ของที่นี่จะย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 4 โดยมีการก่อสร้างมหาวิหารเล็กๆ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่ฝังศพของอัครสาวกเปโตร ปัจจุบันโครงสร้างอันสง่างามนี้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยความสูงถึง 132.5 เมตร ความยาว 187 เมตร หน้ากว้าง 114.5 เมตร พื้นที่ 44,000 ตร.ม. ม- ในเวลาเดียวกัน ผู้คน 60,000 คนสามารถอยู่ในอาคารและอีกประมาณ 400,000 คนในพื้นที่ใกล้เคียง ความยิ่งใหญ่ของโครงสร้างยังเน้นไปที่สถาปัตยกรรมของอาสนวิหารด้วย มีเครื่องหมายแสดงขนาดของโบสถ์คริสต์อื่นๆ ที่ด้อยกว่าทั้งขนาดและความยิ่งใหญ่
มหาวิหารคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสตั้งอยู่ในเมืองรูอ็อง การกล่าวถึงโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองนี้ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 314 หลังจากนั้นโบสถ์ต่างๆ ก็กลายเป็นของเหลวและถูกทำลายในช่วงสงครามต่างๆ มีรูปลักษณ์ทันสมัยในปี 1877 เมื่อการก่อสร้างอาสนวิหารคาทอลิกแล้วเสร็จ โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในสไตล์โกธิก เนื่องจากสร้างมาหลายปี ทำให้มีรสชาติและสีสันมากยิ่งขึ้น ความสูงของอาคาร 151 เมตรเป็นหอคอยเหล็กหล่อที่สูงที่สุดในโลก ความยาว 137 เมตร ความกว้างของอาคาร 61.6 เมตร มหาวิหารรูอ็องเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานมรดกแห่งชาติของฝรั่งเศส
อาสนวิหารสตราสบูร์ก, สตราสบูร์ก, ฝรั่งเศส
เป็นเวลา 250 ปีแล้วที่เป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก อาสนวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1439 นั่นเอง ความสูง 142 เมตร- เนื่องจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ การตกแต่งโบสถ์จึงได้รับอิทธิพลไม่เพียงแต่จากฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมเยอรมันด้วย นอกจากสถาปัตยกรรมอันงดงามแล้ว อาสนวิหารแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านนาฬิกาดาราศาสตร์ ซึ่งไม่เพียงแต่แสดงเวลาอย่างแม่นยำจนถึงวินาทีที่เที่ยงตรงมานานหลายศตวรรษ ต้องขอบคุณการทำงานของผู้มีจิตใจดีที่สุดในฝรั่งเศส นาฬิกาจึงคำนวณวันหยุดของคริสตจักรทุกปี ซึ่งเปลี่ยนแปลงทุกปีและแสดงให้เห็นวงโคจรของดาวเคราะห์ทั้งหมดที่มนุษยชาติรู้จักในปี 1832 ณ เวลาที่ฟังก์ชันนี้ถูกนำมาใช้ ส่วนที่ช้าที่สุดของนาฬิกาแสดงถึงการเคลื่อนตัวของแกนโลก โดยการหมุนรอบตัวเองจะเกิดขึ้นใน 25,800 ปี
อาสนวิหารเซบียา, เซบียา, สเปน
อาสนวิหารเซบียาสร้างขึ้นบนฐานของมัสยิด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะของชาวคริสต์เหนือชาวมุสลิมในการต่อสู้เพื่อคาบสมุทรไอบีเรีย นี่คืออาสนวิหารกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เริ่มก่อสร้างในปี 1401 และแล้วเสร็จในปี 1519 อาคารแห่งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความประหลาดใจให้กับความยิ่งใหญ่และความงามทางสถาปัตยกรรมเท่านั้น ตามตำนานเล่าว่า ซากศพของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสยังคงอยู่ที่นี่และไม้กางเขนนั้น ประดับยอดอาสนวิหารทำด้วยทองคำรุ่นแรกที่นำมาจากอเมริกาใต้ มหาวิหารแห่งนี้ยังตกแต่งด้วยภาพวาดของปรมาจารย์ด้านการวาดภาพเช่น Murillo, Velazquez และ Goya พื้นที่ของวัดคือ 11520 ตร.ม. เมตรยาว 116 เมตร กว้าง 76 เมตร ความสูงของโถงกลาง 42 เมตร มหาวิหารเซบียาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี 1987
กิจวัตรประจำวัน
เมื่อสองร้อยปีก่อน จอร์จ วอชิงตันยกย่องการบริการของคนตัดไม้ชาวอเมริกันอย่างสูงต่อประเทศและประชาชน ประธานาธิบดีเรียกพวกเขาว่า “ผู้พิทักษ์ชาติ” โดยบอกเป็นนัยว่าการก่อสร้างฐานทัพทหาร ไม่ว่าจะเป็นค่ายทหารหรือเรือเชิงยุทธศาสตร์จะเสร็จสมบูรณ์ได้โดยไม่ต้องใช้คนตัดไม้ทำงานหนัก
ในศตวรรษที่ 18 อาชีพคนตัดไม้ถือเป็นหนึ่งในอาชีพที่อันตรายที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ ผู้เก็บเกี่ยว "ต้นสน" ต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด - ต้นไม้สูง 110-120 เมตรที่ใช้สำหรับเสากระโดงเรือ มีหลายกรณีที่ต้นสนสับขนาด 30 ตันล้มไปในทิศทางที่คาดเดาไม่ได้ คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อยหลายสิบคน
ตามกฎแล้ว คนตัดไม้จะเกษียณก่อนอายุ 40 ปี หลายคนพิการไปตลอดชีวิต แม้จะมีการถือกำเนิดของเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูง กิจกรรมของพวกเขาก็ไม่ปลอดภัยขึ้น ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิต "มืออาชีพ" 86 รายต่อผู้เชี่ยวชาญ 100,000 คน
“เราต้องต่อสู้กับธรรมชาติ และธรรมชาติก็แทบจะไม่แพ้มนุษย์เลย” Bob Gutwick จาก Northeastern Loggers Association (NLA) กล่าว “ในแง่ของความปลอดภัย วันทำงานของเราก็ไม่ได้แตกต่างไปจากชีวิตประจำวันของปู่ทวดมากนัก ยกเว้นว่าเลื่อยกลถูกแทนที่ด้วยเลื่อยน้ำมัน”
คนตัดไม้ชาวอเมริกันเชื่อว่าผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงในสาขาของตนควรใช้เพียงสามสิ่งเท่านั้น ได้แก่ เลื่อยไฟฟ้า เชือก และอุปกรณ์ง่ายๆ ในการกำหนดความเร็วลม “เป้าหมายของเราคือการตัดต้นไม้อย่างระมัดระวังโดยไม่ทำลายลำต้นหรือทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ” Chuck Roshing คนตัดไม้กล่าว – ทุกอย่างตั้งแต่การขนส่งไปจนถึงการแปรรูปไม้ ได้รับการจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับตัวแทนวิชาชีพของเรา พวกเขาเสี่ยงน้อยกว่ามาก…”
ดังที่คุณอาจเดาได้ สาเหตุหลักของการเสียชีวิตของคนตัดไม้คือข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเมื่อคำนวณวิถีการล้มของต้นไม้ “เมื่อหนุ่มๆ มาหาเราที่สำเร็จหลักสูตรฝึกอบรมภาคทฤษฎีสำหรับคนตัดไม้แล้ว เราบอกให้พวกเขาลืมทุกสิ่งที่พวกเขาเคยสอนมาก่อน” Roshing กล่าวต่อ “หากพวกเขาได้รับคำแนะนำจากทฤษฎีเดียว พวกเขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงเดือน” คนตัดไม้ที่ดีต้องไม่เพียงแต่มีความรู้ด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่ยังมีปฏิกิริยาโต้ตอบที่น่าทึ่งอีกด้วย”
จากสถิติพบว่า 25% ของคนตัดไม้เสียชีวิตจากการ "กระโดด" ต้นไม้โดยไม่คาดคิด เมื่อส่วนบนของลำต้นถึงพื้นส่วนล่างจะกระโดดได้สูง 1.5 - 3 เมตร หากบุคคลไม่มีเวลาที่จะเคลื่อนตัวออกไป การชกอาจกระทบหน้าอกหรือศีรษะของเขาได้ ในคำสแลงของคนตัดไม้ การบาดเจ็บดังกล่าวเรียกว่า "ตัวพิมพ์ใหญ่"
เมื่อเดือนที่แล้ว คนตัดไม้สองคนได้รับบาดเจ็บจาก "คนตัดไม้" ในรัฐมอนทานา คนหนึ่งรอดมาได้ คนที่สองเสียชีวิตจากอาการเลือดออกในสมอง
สิ่งสำคัญที่ต้องกล่าว ณ ที่นี้ก็คือความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมแก่คนตัดไม้ที่ได้รับบาดเจ็บไม่ได้มาถึงตรงเวลาเสมอไป ประการแรก ไม่มีบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่ป่า ประการที่สอง คนตัดไม้จำนวนมากทำงานใน “พื้นที่ปิด” กล่าวคือ ในพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในป่าลึกซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยเฮลิคอปเตอร์เท่านั้น ต้นไม้ที่โค่นและแปรรูปก็ขนส่งทางอากาศเช่นกัน
“อาชีพของเราไร้ความสะดวกสบายโดยสิ้นเชิง” Curt Perkins จากรัฐเมนกล่าว – ทีมช่างตัดไม้ของฉันต้องอยู่ห่างจากบ้านเป็นเวลา 3-4 เดือน โดยไม่ดูทีวีหรืออ่านหนังสือพิมพ์ฉบับล่าสุด เรายังอุ่นน้ำร้อนบนไฟด้วยซ้ำ ที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเป็นเวลานาน ในระยะทาง 30 - 40 ไมล์จากพื้นที่ที่มีประชากรใกล้เคียงที่สุด นี่คือชะตากรรมของมืออาชีพของเรา...”
อีก 27% ของการบาดเจ็บและเสียชีวิตเกิดขึ้นเนื่องจากอุปกรณ์ขัดข้อง อุปกรณ์ที่คาดเดาไม่ได้ที่สุดคือเลื่อยไฟฟ้า “ฉันเคยเห็นกรณีที่เท้าหล่นลงไปในหลุมกระต่ายโดยไม่ตั้งใจส่งผลให้คนตัดไม้ตัดแขนและขาของตัวเอง” เพอร์กินส์กล่าวต่อ “บุคคลอาจลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สูญเสียการประสานงาน คลายการยึดเกาะ แล้วเลื่อยจะฆ่าเขาในเสี้ยววินาที”
เมื่อปีที่แล้ว บริษัทเลื่อยโซ่ยนต์ Efco ถูกฟ้องร้องกว่าร้อยคดีจากคนตัดไม้ชาวอเมริกัน เหตุผลก็คือโซ่ไม่สามารถทนต่อการทำงานเป็นเวลานานได้ พวกมันหักและทำให้คนงานพิการ ในกรณีหนึ่ง โซ่ที่ขาดทำให้หน้าของคนตัดไม้ขาดจริงๆ หลังจากการผ่าตัดที่ซับซ้อนหลายครั้ง แพทย์ก็สามารถรักษาตาข้างหนึ่งและขากรรไกรล่างของเหยื่อได้
“แม้จะมีความเสี่ยงสูงต่อการบาดเจ็บ แต่มีคนตัดไม้เพียงหนึ่งในสามเท่านั้นที่ใช้หน้ากากเพื่อป้องกันขี้เลื่อยกระเด็นใส่หน้า” ดร. มาร์ตี โคสเตอร์ จากโคโลราโดกล่าว “ การละเลยมาตรการความปลอดภัยนำไปสู่ความจริงที่ว่าในระหว่างการทำงานไม้แหลมคมจะเข้าตาของคนหลังจากนั้นเหยื่อก็ปล่อยเลื่อยทำงานโดยสัญชาตญาณซึ่งหลุดออกมาจากช่องว่างและตัดขาหรือท้องของเขา”
คนตัดไม้กลายเป็นเป้าหมายของนักอนุรักษ์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยความหวังที่จะช่วยต้นไม้จากความตายที่ใกล้เข้ามา “ผักใบเขียว” จึงเริ่มตอกตะปูยาว 20 เซนติเมตรเข้าไปในลำต้น เมื่อเลื่อยชนกับตะปู โซ่ก็ขาด และคนตัดไม้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แนวปฏิบัติ "การปกป้องธรรมชาติ" นี้เป็นเรื่องปกติโดยเฉพาะในมลรัฐนอร์ทดาโคตา ตั้งแต่ต้นปีมีคนตัดไม้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่นั่นมากกว่าร้อยคน แมนนี ฟลาโก วัย 49 ปี หนึ่งในเหยื่อ ให้เหตุผลว่า “ผู้พิทักษ์ป่าใช้วิธีการทางอาญาเพื่อต่อสู้กับคนตัดไม้ พวกเขาไม่เข้าใจว่าเราแต่ละคนทำงานเพื่อหาเงินและเลี้ยงดูครอบครัวของเรา ถ้าเราปฏิเสธที่จะตัดต้นไม้ คนอื่นก็จะเข้ามาแทนที่เรา..."
อีก 10% ของการเสียชีวิตจากการตัดไม้ทั้งหมดเกิดจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่า ตัวอย่างเช่น คนงานในอลาสก้ากลัวการเผชิญหน้ากับหมีและหมาป่ามากที่สุด ซึ่งมักเกิดขึ้นที่นี่บ่อยครั้ง ในปี 2549 Lucas Hamill วัย 60 ปีเสียชีวิตเพราะเขาไม่ได้ยินเพื่อนร่วมงานกรีดร้องว่ามีหมีกำลังเข้ามาใกล้ คนตัดไม้ทำงานโดยสวมหูฟังพิเศษที่ปกป้องหูของเขาจากเสียงที่ไม่พึงประสงค์ของเลื่อยไฟฟ้า เป็นผลให้หมีกริซลี่ตัวหนึ่งแอบเข้ามาข้างหลังเขาและขย้ำเขาจนตาย
โรคลมแดดและภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตที่พบบ่อย คนตัดไม้ถูกบังคับให้ทำงานในทุกสภาพอากาศ ตั้งแต่ความร้อนอบอ้าวไปจนถึงน้ำค้างแข็งรุนแรง
สาเหตุของการเสียชีวิต 38% เกิดจากการโค่นต้นไม้ล้มใส่คน คาดว่าเวลาเฉลี่ยที่เพลาจะพังทลายจะผันผวนประมาณสามวินาที และแรงกระแทกจะมากกว่าห้าตัน ต้นโอ๊กและต้นสนขนาดใหญ่ซึ่งคนตัดไม้มักไม่หลบหนีกดร่างของพวกเขาลงไปที่พื้น 50–70 ซม. สถานการณ์มีความซับซ้อนเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่ามันยากมากที่จะช่วยเหลือผู้ถูกบดขยี้อย่างรวดเร็ว จะใช้เวลาอย่างน้อย 10 - 15 นาทีในการตัดและม้วนชิ้นส่วนของลำต้นที่บดอยู่ออก
The Wall Street Journal จัดอันดับให้คนตัดไม้ติด 5 อันดับแรกของ "งานที่ไม่เห็นค่ามากที่สุดในอเมริกา" แม้ว่าจะมีความเสี่ยงมหาศาล มีอัตราการเสียชีวิตสูง ความเครียดทางจิตใจและร่างกาย แต่โดยเฉลี่ยแล้วพวกเขาจะได้รับเงินเพียง 10 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง นอกจากนี้ ในเมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือ รายได้ของพวกเขาจะต้องไม่เกินค่าแรงขั้นต่ำที่กำหนดโดยรัฐบาลกลางหนึ่งเปอร์เซ็นต์
สำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) มีทัศนคติเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคตของคนตัดไม้ ประการแรก รถตัดไม้จะเป็นที่ต้องการอย่างน้อยจนถึงปี 2559 คาดว่าในเวลานี้จำนวนของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าครึ่ง ประการที่สอง บริษัทเอกชนต้องการคนตัดไม้ที่มีประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ 10 ปีสามารถสร้างรายได้ $17 - $20 ต่อชั่วโมง
พวกเขาโค่นต้นไม้ใหญ่ด้วยมือด้วยขวานและเลื่อย ลำต้นที่ถูกตัดและเคลียร์กิ่งก้านถูกขนย้ายโดยม้าไปยังทางรถไฟหรือลอยไปตามแม่น้ำ ด้วยการประดิษฐ์ยานยนต์ เลื่อยไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่นๆ วิธีการแบบเก่าจึงกลายเป็นประวัติศาสตร์
พ.ศ. 2442 คนตัดไม้โพสท่ากับต้นสนดักลาสในวอชิงตัน
2445 คนตัดไม้โพสท่าถ่ายรูปกับต้นสนในกรุงวอชิงตัน
2444 คนตัดไม้โพสท่ากับต้นสนที่มีลำต้นหนา 3.7 เมตร
พ.ศ. 2461 คนตัดไม้สามคนกับดักลาสเฟอร์ขนาดใหญ่ในรัฐโอเรกอน
2448 คนตัดไม้และผู้หญิงสองคนโพสท่าอยู่หน้าต้นไม้ใกล้ซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน
พ.ศ. 2460 คนตัดไม้ด้วยเลื่อยและต้นซีคัวญ่ายักษ์ในแคลิฟอร์เนีย
2445 คนตัดไม้และต้นซีคัวญ่ายักษ์ในแคลิฟอร์เนีย
พ.ศ. 2460 คนตัดไม้และทีมงานล่อ 10 ตัวเตรียมโค่นต้นซีคัวญ่ายักษ์ในแคลิฟอร์เนีย
พ.ศ. 2435 คนตัดไม้ยืนอยู่บนลำต้นของต้นไม้ที่ถูกโค่นในเขตทูลาเร รัฐแคลิฟอร์เนีย ต้นไม้ดังกล่าวได้รับการลงทะเบียนสำหรับงาน World's Fair ในเมืองชิคาโก
2447 คนตัดไม้โพสท่าบนตอไม้ที่จัดแสดงในงาน St. Louis World's Fair
15 มีนาคม พ.ศ. 2447 ทีมงานตัดไม้กำลังเดินอยู่ท่ามกลางต้นสนที่โค่นในเขตเวอร์นอน รัฐลุยเซียนา
28 เมษายน พ.ศ. 2480 คนตัดไม้เดินบนท่อนไม้ที่เก็บเกี่ยว ลิตเติลฟอร์ก, มินนิโซตา
สิงหาคม 2450 การตัดไม้ในชนบทของรัฐนิวยอร์ก
พ.ศ. 2453 คนตัดไม้กำลังลอยไม้ซุงไปตามแม่น้ำโคลัมเบียในรัฐโอเรกอน
พ.ศ. 2460 ผู้คนมากกว่า 100 คนล้อมรอบท่อนไม้ซีคัวญ่าขนาดยักษ์ในแคลิฟอร์เนีย
...แบบนี้: วิธีที่จะกลายเป็นคนตัดไม้ในสหรัฐอเมริกา- นั่นคือ “การไม่ทำงานกะข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกในฐานะคนตัดไม้ ไม่อพยพไปอเมริกาและทำงานตัดไม้ (ถึงแม้จะเป็นพลเมืองก็สามารถคำนึงถึงคำบรรยายของบทความนี้ได้) แต่ต้องกลายเป็นคนตัดไม้ในขณะที่มี สัญชาติอเมริกัน
บทความนี้เพียงแจ้งให้ผู้อ่านของเราทราบถึงข้อกำหนดเบื้องต้นที่มีอยู่สำหรับพลเมืองของสหรัฐอเมริกาที่ต้องการมีส่วนร่วมในงานป่าไม้ในฐานะคนตัดไม้ วิธีรับการฝึกอบรมเป็นผู้เชี่ยวชาญในอนาคต วิธีการเติบโตทางอาชีพ เงินเดือนที่เพื่อนร่วมงานของเรามี และความต้องการอาชีพนี้ในสหรัฐอเมริกา
ข้อมูลด้านล่างได้รับการแปลโดยฉันจากเว็บไซต์ภาษาอังกฤษ ฉันอนุญาตให้ตัวเองอธิบายและเหตุผลบางอย่างในการแปลนี้...
คนตัดไม้ในอเมริกา
คนตัดไม้ที่อยู่หลังวงล้อม มักถูกเรียกว่า คนตัดไม้- ฟังก์ชั่นจะเหมือนกัน: การโค่น ตัดแต่ง และขนส่งต้นไม้เพื่อการประมวลผล ด้วยเหตุผลที่ชัดเจน การตัดโค่นต้นไม้ไม่เคยถือเป็นงานด้านสิ่งแวดล้อม แต่เป็นสิ่งจำเป็น เช่นเดียวกับเรา คนอเมริกันกระตุ้นความต้องการนี้ด้วยข้อเท็จจริงซ้ำซาก: “...ลองมองไปรอบๆ ดูว่ามีหลายสิ่งที่ทำจากไม้... ต้นไม้จัดหาผลิตภัณฑ์กระดาษและไม้แปรรูปให้เรา สิ่งต่างๆ เช่น ดินสอ เฟอร์นิเจอร์ อาคาร บ้าน เอกสาร หนังสือ และโต๊ะ ล้วนทำจากต้นไม้ (ไม้)”
คนตัดไม้ชาวอเมริกันทำงานลึกในพื้นที่ป่า ในพื้นที่ป่าหนาทึบ เช่น: ออริกอน, วอชิงตัน, มอนแทนา, บริติชโคลัมเบีย,หรือใน แคลิฟอร์เนีย- ที่นั่นพวกเขาตั้งค่ายพักแรมและเริ่มทำงานโดยโค่นต้นไม้ใหญ่ เมื่อมองแวบแรก อาชีพนี้ในหมู่ชาวอเมริกันอาจดูเรียบง่าย แต่ตามสถิติแล้ว อาชีพนี้ถือเป็นอาชีพที่อันตรายที่สุดอาชีพหนึ่งในสหรัฐอเมริกา
การพัฒนาพื้นที่ตัดไม้เป็นงานที่ค่อนข้างยาก ดังนั้นตามกฎแล้วคนตัดไม้จึงมีความแข็งแกร่ง อยู่ในสภาพร่างกายที่ดีและต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว พวกเขาทำงานเป็นทีมในการตัดไม้ทำลายป่ามากขึ้น สะสมต้นไม้ และขนส่งไปยังรถบรรทุก เฮลิคอปเตอร์ หรือเรือบรรทุก อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับเครื่องตัดหญ้า ได้แก่ เลื่อยไฟฟ้า หมวกกันน็อค เสื้อสะท้อนแสง การ์ดหอก ขวาน และรองเท้ามีหนาม
การดำเนินการบันทึกเหมือนกับ "ของเรา" และสอดคล้องกัน ขั้นตอนแรกในการตัดไม้คือการตัดต้นไม้ ต้นไม้ที่มีไว้สำหรับเก็บเกี่ยวมักมีอายุหลายร้อยปี เติบโตได้สูงหลายสิบเมตร หนักหลายตัน และมีราคาหลาย 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต้นไม้ถูกโค่นโดยใช้เลื่อยโซ่ ลิ่มโค่นถูกใช้เป็นคันโยกเสริมสำหรับการตัดโค่นในทิศทางที่กำหนด ตามหลักการแล้ว ต้นไม้หลายตันควรอยู่ในทิศทางที่ต้องการ แต่สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเสมอไป คนตัดไม้มีความเสี่ยงกับต้นไม้ทุกต้นที่พวกเขาตัด
ก่อนที่เขาจะสามารถเลื่อนระดับจนกลายเป็นคนโค่นล้มได้ เขาจะต้องทำงานเป็นโช้คเกอร์สักระยะหนึ่งก่อน เค้นคออเมริกันตกอยู่ในอันตรายมากกว่าโคลง พวกเขาไม่เพียงแต่ต้องหลีกเลี่ยงการล้มต้นไม้ยักษ์เท่านั้น พวกเขายังต้องปีนผ่านทุ่งท่อนไม้ขนาดใหญ่เพื่อปิดกั้นต้นไม้ที่ล้มลงเพื่อขนส่งพวกเขาไปยังท่าบรรทุกสินค้า หากตะขอหัก เชือกเหล็กก็สามารถฟาดคนไปครึ่งหนึ่งได้
“คนขับรถแทรกเตอร์” เนื่องจากต้นไม้มีเส้นผ่านศูนย์กลางสูง จึงไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของพันธมิตรได้เสมอไป เมื่อต้นไม้ถูกรื้อออกแล้ว โดยทั่วไปพวกมันจะถูกบรรทุกขึ้นรถบรรทุกโดยใช้อุปกรณ์หนัก เช่น รถเครน ไม้ที่เก็บเกี่ยวได้จะถูกส่งไปแปรรูปโดยรถบรรทุก เป็นไปไม่ได้ที่จะชะลอการดำเนินการตามลำดับแต่ละรายการ - หากสมาชิกในทีมคนใดคนหนึ่งชะลอวงจรการจัดซื้อจัดจ้าง เขาจะยุติอาชีพของเขาด้วยเหตุนี้
การพัฒนาพื้นที่ตัดไม้ถือเป็นงานที่มีความเสี่ยง คนตัดไม้ไม่เพียงแต่ต้องกังวลอยู่ตลอดเวลาว่าจะถูกหักครึ่ง ถูกต้นไม้ใหญ่ทับ หรือถูกเศษเหล็กหักทับ พวกเขายังต้องกังวลเกี่ยวกับระยะทางอันมหาศาลของสถานที่ทำงานจากพื้นที่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่ คนตัดไม้ทำงานกลางพื้นที่ที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ บางครั้งอาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเดินทางในกรณีเกิดโศกนาฏกรรมที่จุดตัดไม้ไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
การตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลกทำให้โลกดูเหมือนผ้าห่มที่เย็บปะติดปะต่อกัน เพื่อจำกัดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมการตัดไม้ทำงานแบบโครงการต่อโครงการพร้อมสัญญาเช่าเพื่อรักษาป่าไม้ในอนาคต
ที่น่าสนใจคือข้อได้เปรียบของอาชีพคนตัดไม้ชาวอเมริกันคือรางวัลสำหรับงานของเขา การผจญภัย ความเสี่ยง และการใช้ชีวิตในที่โล่ง???!!! การตัดไม้เป็นงานที่ต้องใช้แรงกายแรงใจและไม่มีวันสิ้นสุด ในสหรัฐอเมริกาไม่มีข้อกำหนดอย่างเป็นทางการในการเป็นคนตัดไม้ บริษัทตัดไม้ขนาดใหญ่ทุกแห่งต้องการคนตัดไม้ที่ทำงานหนัก มุ่งมั่น และแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์จะให้ข้อมูลบางอย่าง: ในการที่จะเป็นคนตัดไม้ในบริษัทตัดไม้ คุณต้องมีการศึกษาระดับมัธยมศึกษา แล้วมาฝึกซ้อม(ฝึกงาน)ในที่ทำงาน ควรสังเกตว่างานของคนตัดไม้ชาวอเมริกันต้องมีอย่างน้อย 12 ชั่วโมงต่อวัน
เงินเดือนการตัดไม้แตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแล้ว Arborist ระดับเริ่มต้นจะได้รับรายได้ประมาณ 25 เหรียญต่อชั่วโมง หรือประมาณ 30,000 เหรียญต่อปี หลังจากทำงานมาหลายปี พวกเขาสามารถมีรายได้สูงถึง 80,000 ดอลลาร์ต่อปี ตามกฎแล้ว ประสบการณ์และทักษะได้มาจากประสบการณ์และจาก “คำแนะนำ” จากพี่เลี้ยงอาวุโสและเพื่อนร่วมงาน ดังนั้น ด้วยการได้รับความรู้เชิงปฏิบัติใหม่ๆ และนำไปใช้ในทางปฏิบัติ คุณจะ "เติบโต" และด้วยเหตุนี้ "เงินเดือนของคุณจึงเพิ่มขึ้น" ก่อนที่คุณจะอุทิศชีวิตให้กับการตัดไม้ ติดตามอาชีพทางประวัติศาสตร์ คุณต้องดูและชมสารคดีเพื่อการศึกษาของอเมริกาเรื่อง "Lumberjacks" ทาง Discovery Channel หรือซื้อตั๋วเข้าร่วม World Lumberjack Championship
คนตัดไม้ทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์จากไม้จะเข้าถึงบ้านและชุมชนทุกหลัง มันเป็นงานที่อันตรายแต่ก็ต้องมีคนทำ ทำไมคุณล่ะ?
ข้อมูลโดยย่อเกี่ยวกับการดำเนินการตัดไม้ในสหรัฐอเมริกา
วิชาชีพ: คนตัดไม้
"สำนักงาน": ถิ่นทุรกันดารที่รกร้างว่างเปล่า
ความเชี่ยวชาญ:การโค่นต้นไม้ การตัดแต่งกิ่งไม้ การสำลัก และการขนส่งต้นไม้เพื่อการแปรรูปในภายหลัง
ใบรับรอง/การศึกษา: ไม่ ไม่จำเป็นต้องมีการศึกษาอย่างเป็นทางการ
ทักษะที่จำเป็น: ความอดทนทางร่างกาย การทำงานหนัก ชอบทำงานกลางแจ้ง
นายจ้างที่มีศักยภาพ: บริษัทตัดไม้
เงินเดือน: 25 เหรียญต่อชั่วโมง 30,000 ถึง 80,000 เหรียญต่อปี
อาชีพที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด... และทำไมอาชีพคนตัดไม้จึงไม่เป็นที่นิยม
ความเชี่ยวชาญพิเศษด้านการตัดไม้อยู่ที่ด้านล่างสุดและได้คะแนนสูงสุด 10% ของวิธีการจัดอันดับทั้งหมดที่ใช้ ซึ่งรวมถึง: สภาพแวดล้อม การคาดการณ์การจ้างงาน การออกกำลังกาย และความเครียด โดยไม่รวมรายได้ที่มี 25% ส่วนสำคัญของชีวิตของคนตัดไม้คือการใช้ชีวิตกลางแจ้ง
“อัตราการว่างงานในหมู่คนตัดไม้สูงมาก และความต้องการบริการของพวกเขาคาดว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2559” เว็บไซต์ระบุ “งานทั้งหมดเกิดขึ้นกลางแจ้ง คุณต้องมีความตั้งใจอันแรงกล้าเมื่อทำงานเป็นคนตัดไม้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมอาชีพนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นงานที่แย่ที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นงานที่อันตรายที่สุดในโลกอีกด้วย”
ในบรรดา "ผู้แพ้" ในรายการงาน ได้แก่ ชาวนา (การผลิตนม) เจ้าหน้าที่ทหาร คนงานแท่นขุดเจาะน้ำมัน และนักข่าวหนังสือพิมพ์ “ในขณะที่โลกดิจิทัลยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง... ความต้องการหนังสือพิมพ์และข่าวประชาสัมพันธ์รายวันก็ลดน้อยลง” CareerCast ระบุปัจจัยต่อไปนี้ในวิชาชีพการรายงาน: ความเครียด การว่างงาน และรายได้ต่ำ ซึ่งเป็นรายละเอียดที่มีอิทธิพลต่อการเสื่อมถอยของอาชีพ "คุณสมบัติที่สี่" (วารสารศาสตร์)
ผลลัพธ์
อะไรที่ดีที่สุด? ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรน่าประหลาดใจจากที่กล่าวมาข้างต้น เมื่อพิจารณาถึงการแพร่กระจายของเทคโนโลยีดิจิทัล วิศวกรซอฟต์แวร์จึงได้รับตำแหน่งสูงสุดในการจัดอันดับ CareerCast “เงินเดือนของพวกเขาสูง ความสามารถพิเศษเป็นที่ต้องการ และสภาพการทำงานไม่เคยดีไปกว่านี้อีกแล้ว” ความต้องการในตลาดแรงงานยังเกี่ยวข้องกับนักคณิตศาสตร์ประกันภัย ผู้จัดการทรัพยากรบุคคล นักสุขอนามัย และนักวางแผนทางการเงินอีกด้วย
เมื่อมองแวบแรก วิธีการของ CareerCast ดูเหมือนจะสมเหตุสมผลและยุติธรรม: การวิเคราะห์ดำเนินการโดยใช้ข้อมูลของสำนักสถิติแรงงาน หากเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม มีสถานที่จัดอันดับที่ได้รับการยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ในการจัดอันดับงานที่เครียดที่สุด 10 อันดับแรก CareerCast แสดงรายการผู้ประสานงานกิจกรรมและผู้บริหารประชาสัมพันธ์ที่แข่งขันกับงานอย่างแพทย์
งานที่ดีที่สุด
- ซอฟต์แวร์ (วิศวกร);
- นักคณิตศาสตร์ประกันภัย;
- ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล;
- นักทันตสุขศาสตร์;
- นักวางแผนทางการเงิน
- นักโสตสัมผัสวิทยา;
- นักกิจกรรมบำบัด;
- ผู้จัดการโฆษณาทางอินเทอร์เน็ต
- นักวิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์
- นักคณิตศาสตร์
งานที่แย่ที่สุด
- คนตัดไม้;
- เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม
- พนักงานบริการ;
- คนงานแท่นขุดเจาะน้ำมัน
- นักข่าว (หนังสือพิมพ์);
- พนักงานเสิร์ฟ/พนักงานเสิร์ฟ;
- ผู้อ่าน;
- เครื่องล้างจาน;
- คนขายเนื้อ;
- ผู้ประกาศข่าว
งานที่เครียดที่สุด
- ทหาร;
- นักผจญเพลิง;
- นักบินสายการบิน;
- นายพลทหาร;
- เจ้าหน้าที่ตำรวจ;
- ผู้จัดงาน;
- เป็นทางการ;
- ผู้บริหารองค์กร (ผู้จัดการ);
- ช่างภาพนักข่าว;
- คนขับแท็กซี่.
บางทีข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับอาชีพคนตัดไม้ในเอกสารฉบับนี้ แต่ถ้าคุณคนตัดไม้ที่รักชอบหัวข้อนี้เราจะพิจารณาชีวิตและผลงานของเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติต่อไปในอนาคต แบ่งปันความคิดของคุณ สมัครรับจดหมายข่าว และสำหรับตอนนี้ โพสต์ วิธีที่จะกลายเป็นคนตัดไม้ในสหรัฐอเมริกาฉันกำลังจะจบแล้ว
ไม่มีบทความที่คล้ายกัน
- การส่งรายงานทางอิเล็กทรอนิกส์ไปยังสำนักงานสรรพากรผ่านทางอินเทอร์เน็ต
- การยกเว้นนิติบุคคลจาก Unified State Register สำหรับข้อมูลที่เป็นเท็จ: เหตุ, การอุทธรณ์คำตัดสินของ Federal Tax Service เกี่ยวกับการยกเว้นที่จะเกิดขึ้น
- โรงแรมคืออะไร โดยการติดต่อหน่วยงานที่ได้รับอนุญาต คุณสามารถค้นหาได้
- แอปพลิเคชันสำหรับการถอนการลงทะเบียนของพื้นที่ถอนการลงทะเบียน UTII IP UTII