วิธีเปลี่ยนคนให้เป็นคาถากบ การเปลี่ยนแปลงมหัศจรรย์ของกบ การพัฒนาระเบียบวิธีในโลกรอบตัวเรา (กลุ่มอาวุโส) ในหัวข้อ
กบและญาติสนิทของพวกเขา คางคก- สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ได้แก่ สัตว์มีกระดูกสันหลังที่ใช้ชีวิตส่วนหนึ่งบนบกและในน้ำ พวกมันประกอบขึ้นเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำส่วนใหญ่จำนวน 3.5 พันตัว
จากมุมมองทางชีวภาพ กบกับคางคกแทบไม่มีความแตกต่างกัน กบมีผิวหนังที่เรียบเนียนกว่า มีขาหลังที่ยาวกว่า และมีเยื่อหุ้มระหว่างนิ้วเท้าที่ได้รับการพัฒนาอย่างดี
คางคกมีลำตัวกลมกว่า แห้ง มักมีผิวหนังกระปมกระเปา และมีขาหลังสั้น เหมาะสำหรับการคลานและกระโดดระยะสั้น เยื่อหุ้มที่ขาหลังยังไม่ได้รับการพัฒนา เนื่องจากน้ำไม่ใช่องค์ประกอบของมัน กบและคางคกจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่ไม่มีหางซึ่งปรากฏบนโลกเมื่อประมาณ 150 ล้านปีก่อน
สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกถือเป็นสัตว์ที่แพร่หลาย เนื่องจากสิ่งมีชีวิตเปลือยเปล่าเหล่านี้ได้รับโอกาสในการอาศัยและสืบพันธุ์ในสภาพแวดล้อมทางน้ำที่หลากหลาย และที่น่าประหลาดใจคือในเกือบทุกส่วนของโลก ยกเว้นในทวีปแอนตาร์กติกา พวกมัน “อยู่ภายใต้” สภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบากอย่างไม่น่าเชื่อ รวมถึงในแหล่งน้ำเค็ม ในฤดูแล้งและน้ำค้างแข็ง
สามารถพบได้ในเทือกเขาหิมาลัยที่ระดับความสูง 4,500 เมตรและใต้ดินในทะเลทรายและในอาร์กติกเซอร์เคิล แน่นอนว่าสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในประเทศเขตร้อน ซึ่งมีอากาศอบอุ่น ชื้น และมีอาหารมากมาย ตัวแทนของสัตว์เพียงไม่กี่สายพันธุ์อาศัยอยู่ในพื้นที่เย็นและแห้งบนบก
แต่พวกเขาคือผู้ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเป็นพิเศษว่าความสามารถอันน่าอัศจรรย์เช่นสัตว์ที่ไม่มีการป้องกันอย่างสมบูรณ์นั้นได้รับการมอบให้เพื่อชีวิตที่ประสบความสำเร็จในสภาพธรรมชาติที่หลากหลาย ในเวลาเดียวกัน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำไม่เพียงแต่ "อยู่รอด" ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากสำหรับสัตว์ส่วนใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีชีวิตที่สมบูรณ์นั้น ซึ่งคุณลักษณะต่างๆ จะถูกบันทึกไว้ในโปรแกรมทางพันธุกรรมของพวกมัน
ตามความเชื่อในตำนานของชาวยุโรปจำนวนมาก กบทำหน้าที่เป็นคนที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งนี้สามารถสืบมาจากเทพนิยายรัสเซียอันโด่งดังเกี่ยวกับเจ้าหญิงกบ และในนิทานพื้นบ้านของชาวเยอรมัน ก็มีรูปเจ้าชายกบเป็นที่รู้จัก ตำนานเกี่ยวกับคนที่กลายเป็นกบยังเป็นที่รู้จักในส่วนอื่นๆ ของโลก เช่น ในประเทศฟิลิปปินส์
หลายชนชาติใช้กบเป็นโทเท็ม และชาวอินเดียนแดงเม็กซิกันถือว่าสัตว์เหล่านี้เป็นบรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์มนุษย์ พวกเขายังคงรักษาตำนานอันน่าสงสัยเกี่ยวกับฝาแฝดศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Xolotl;
วิถีชีวิตที่เป็นความลับของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำในนิทานพื้นบ้าน รวมทั้งกบและคางคก มักเกี่ยวข้องกับยมโลก ดังนั้นชาวพื้นเมืองของ Kamchatka - the Itelmens - จึงถือว่าซาลาแมนเดอร์ไซบีเรียเป็นผู้ส่งสารของวิญญาณใต้ดิน Gaech กบและคางคกถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในคาถา ซึ่งรวมถึงชนเผ่าต่างๆ ในอเมริกาใต้และแอฟริกาด้วย
ในไซบีเรียหมอผีของ Nanai, Orochi, Buryats, Altai, Udege และชนชาติอื่น ๆ ใช้รูปกบในระหว่างพิธีกรรมต่อต้านโรคต่างๆ
ในทางกลับกัน ด้วยความช่วยเหลือของส่วนต่างๆ ของร่างกายกบ (โดยเฉพาะกระดูก) หมอผีจึงมีอิทธิพลต่อผู้อื่น การใช้กระดูกกบในเวทมนตร์ยังคงมีอยู่ในบางแห่งจนถึงทุกวันนี้ พิษของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ (คางคกอาไกในอเมริกาเหนือ กบลูกดอกในอเมริกาใต้ ฯลฯ) ถูกใช้โดยชนเผ่าท้องถิ่นเพื่อวางยาพิษให้กับลูกธนูระหว่างการล่าสัตว์และในสงคราม ประสิทธิผลของสิ่งนี้เห็นได้จากความจริงที่ว่าพิษของกบลูกดอกตัวเล็กตัวหนึ่งนั้นเพียงพอที่จะฆ่าจากัวร์ได้ 50 ตัว! และไม่น่าแปลกใจเลยที่มันมีพิษที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาสัตว์มีกระดูกสันหลัง
ความเชื่อโชคลางแพร่หลายเช่นกันว่าสัตว์เหล่านี้ทำให้เกิดโรคในคนและนำความชั่วร้ายมา: พวกมันเกิดขึ้นเองในร่างกายมนุษย์และทำลายพืชผล ความเชื่อบางประการเหล่านี้เป็นส่วนผสมของชีววิทยาสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจริง ๆ และเวทมนตร์จำลอง เช่น การฆ่ากบทำให้เกิดฝนตก การสัมผัสคางคกอาจทำให้เกิดหูดบนผิวหนังของมนุษย์ได้ (หรือในทางกลับกัน สารคัดหลั่งของคางคกก็สามารถใช้รักษาหูดได้)
บางครั้งสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำก็ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของมนุษย์ พวกมันบอกทางให้ฮีโร่ พาพวกมันข้ามแม่น้ำ และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ในเวลาเดียวกัน กบสามารถเป็นสัญลักษณ์ของภูมิปัญญาเท็จในฐานะผู้ทำลายความรู้
กบและคางคกจัดอยู่ในสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่ไม่มีหาง ซึ่งเป็นกลุ่มสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่มีการจัดระเบียบอย่างสูงที่สุด และมีโครงสร้างที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย หัวที่ค่อนข้างใหญ่ กว้างและแบนโดยไม่มีคอจะกลายเป็นลำตัวที่สั้นและหนาแน่นโดยไม่มีหาง แต่มีแขนขาที่พัฒนามาอย่างดีสองคู่
ขาหน้ามีขนาดเล็กและขาหลังยาวมาก ยาวกว่าขาหน้า 1.5 เท่า และใช้สำหรับการเคลื่อนไหวกระโดดในลักษณะเฉพาะ มีเยื่อหนังยืดอยู่ระหว่างนิ้วเท้าทั้ง 5 ของขาหลัง ซึ่งช่วยในการว่ายน้ำ ผิวหนังเปลือยเปล่า โดยไม่มีการก่อตัวของเขาหรือรอยถลอก ในกบจะมีความเรียบเนียนและชุ่มชื้นอยู่เสมอเนื่องจากมีเมือกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากต่อมผิวหนังจำนวนมาก ในขณะที่คางคกจะแห้งกว่า หยาบกว่า และกระปมกระเปา
ผิวหนังของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่ไม่มีหางเป็นสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์สำหรับจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคทุกชนิด เพื่อกำจัด “ผู้เช่า” ที่ไม่ต้องการ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจะทำความสะอาดผิวของตัวเองด้วยสารพิษที่มีอยู่ในเมือก
สารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย) และมีคุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรีย (ป้องกันการแพร่กระจาย) หากคุณใส่กบลงในกระป๋องนม มันจะไม่เปรี้ยวเป็นเวลานาน เนื่องจากเมือกที่ปล่อยออกมาจากต่อมผิวหนังจะไปยับยั้งการแพร่กระจายของแบคทีเรียกรดแลคติค วิธีถนอมนมนี้ทราบกันมานานแล้วและยังคงใช้อยู่ในบางหมู่บ้าน
คางคกสีเทาของเราก็ไม่เป็นอันตรายเช่นกัน ซึ่งตรงกันข้ามกับความเชื่อโชคลางที่แพร่หลาย ไม่สามารถทำให้เกิดหูดหรือโรคผิวหนังอื่น ๆ ได้ พิษของคางคกและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่ไม่มีหางอีกจำนวนหนึ่งไม่ได้มีไว้สำหรับการรุกราน แต่ทำหน้าที่เป็นอาวุธในการป้องกันตัว
ต้องขอบคุณเขาที่พวกมันกินไม่ได้และนักล่าก็ไม่แตะต้องพวกมัน และเพื่อไม่ให้ศัตรูทำผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ สัตว์มีพิษจึงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีฉูดฉาดที่เตือนถึงอันตราย ถึงกระนั้น กบและคางคกส่วนใหญ่ชอบวิธีหลบหนีแบบอื่น - พวกมันได้รับสีป้องกันซึ่งช่วยให้พวกมันซ่อนตัวได้อย่างชาญฉลาด
ตั้งแต่สมัยโบราณ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำถูกนำมาใช้ในสาขาชีววิทยาและการแพทย์หลากหลายสาขาเป็นสัตว์ทดลอง ด้วยความช่วยเหลือของกบ มนุษยชาติจึงคุ้นเคยกับไฟฟ้า ขาของมันกลายเป็นตัวบ่งชี้ที่มีความไวสูง Luige Galvani เป็นคนแรกที่ทำการทดลองเกี่ยวกับกบ จากนั้นพวกเขาก็กลายเป็นเป้าหมายหลักของการวิจัยทางชีววิทยา ในญี่ปุ่น มีการสร้างอนุสาวรีย์ให้กับกบ
ในโลกที่เจริญรุ่งเรือง นักชีววิทยา แพทย์ นักชิม และเกษตรกรต่างร้องเพลงสรรเสริญสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สามารถสั่งอาหารที่ทำจากขากบได้ในร้านอาหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก กบที่ใช้ประดับโต๊ะนั้นเลี้ยงในฟาร์มพิเศษในยุโรปตะวันตก สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่โตเต็มวัยจะทำลายแมลงจำนวนมากในธรรมชาติ เช่น สัตว์รบกวนในสวน สวนสาธารณะ สวนผัก ป่าไม้ และทุ่งหญ้า พวกเขาไม่กลัวที่จะกินแมลงที่มีกลิ่นและรสชาติอันไม่พึงประสงค์ซึ่งนกกินแมลงรังเกียจ
นอกจากนี้ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำยังออกล่าในเวลากลางคืนในขณะที่นกกำลังหลับอยู่ พวกมันเองเป็นอาหารของสัตว์กินเนื้อหลายชนิด (นาก มิงค์ ปลานักล่า) ลูกอ๊อดยังเป็นส่วนเชื่อมโยงที่สำคัญในสารชีวภาพทางน้ำ การกินไดอะตอมจำนวนมากในสาหร่ายสีเขียวจะช่วยป้องกันการออกดอกของอ่างเก็บน้ำและทำความสะอาดได้ ผู้ชื่นชอบสวนขวดและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำก็ไม่ละเลยสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเช่นกัน แม้แต่นักเลี้ยงมือใหม่ก็สามารถเห็นนิวท์ที่ไม่โอ้อวด กบมีเล็บ และแอมบิสโตมาได้
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ กบเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังชนิดแรกที่ "ยืนด้วยเท้า" เมื่อ 300 ล้านปีก่อน และดูเหมือนว่าตั้งแต่วันที่ 11 พวกเขาไม่ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตเลย ในระหว่างวัน พวกมันจะอาบแดด นั่งบนชายฝั่งหรือบนใบไม้กว้างของพืชน้ำ บนวัตถุบางอย่างที่ลอยหรือยื่นออกมาจากน้ำ
เมื่อได้รับความอบอุ่นจากแสงตะวัน กบจะหลับใหลและอยู่ในท่านี้ได้นานหลายชั่วโมงหากไม่มีใครรบกวน อย่างไรก็ตาม ภาวะนี้ไม่ได้ขัดขวางไม่ให้พวกมันโยนลิ้นเหนียวๆ ของมันใส่แมลงที่เข้ามาใกล้อย่างไม่ระมัดระวังและกลืนเข้าไปอย่างรวดเร็วพอๆ กัน เมื่อได้ยินเสียงเพียงเล็กน้อยหรือเมื่อเห็นอันตรายใดๆ กบก็รีบลงไปในน้ำ ว่ายอย่างรวดเร็ว โดยใช้อุ้งเท้าที่เป็นพังผืดของมัน และฝังตัวเองลงในโคลนนุ่มๆ
เมื่อความมืดเริ่มมาเยือน กบก็ "ร้องเพลง" - อย่างน่าเบื่อหน่ายและเศร้าโศก เสียงของพวกเขาฟังดูเหมือนคอนเสิร์ตของเครื่องดนตรีลมโทนเสียงต่ำ ตำนานเล่าถึงเสียงของพวกเขาที่ได้ยินในหนองน้ำและทะเลสาบ มาจากวิญญาณและวิญญาณชั่วร้ายต่างๆ ในความเป็นจริง สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกที่ไม่มีหางมีระบบการส่งสัญญาณเสียงที่พัฒนาขึ้น และสร้างเสียงเรียกผสมพันธุ์ เสียงแจ้งเหตุ เสียงเตือน เสียงเรียกอาณาเขต เสียงปล่อย ฯลฯ
บุคคลอื่นได้ยินสัญญาณเหล่านี้เป็นอย่างดีและตอบสนองต่อสัญญาณเหล่านั้นตามนั้น ดังนั้นกบจึงสามารถรับรู้และวิเคราะห์สัญญาณเสียงผ่านสามช่องทาง: ในอากาศ - ผ่านเซลล์ของหูชั้นใน, ผ่านแก้วหูและกระดูกหู; เสียงที่แพร่กระจายในดินจะถูกรับรู้โดยกระดูกและกล้ามเนื้อของแขนขาและถูกส่งผ่านกระดูกของกะโหลกศีรษะไปยังหูชั้นใน ในน้ำ คลื่นเสียงจะแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของแต่ละบุคคลได้อย่างง่ายดายและเข้าถึงหูชั้นในได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีช่องสัญญาณพิเศษ
แฟน ๆ ของ "ขากบ" จะต้องแปลกใจเช่นกันว่าในความคิดของเราสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่กินอาหารที่ไม่น่ารับประทานเลยสามารถแยกแยะสารรับรสสี่ประเภท ได้แก่ หวานขมเปรี้ยวและเค็ม สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกเหล่านี้ยังมีประสาทรับกลิ่นที่น่าทึ่งอีกด้วย ซึ่งใช้เพื่อกำหนดทิศทางเชิงพื้นที่ระหว่างการล่าสัตว์
แต่พวกเขาสัมผัสถึงสารเคมีไม่เพียงแต่ผ่านการรับรู้กลิ่นเท่านั้น แต่ยังต้องขอบคุณเครื่องวิเคราะห์ทางเคมีของผิวหนังด้วย ในการทดลองครั้งหนึ่ง แหวนทองคำถูกหย่อนลงในเหยือกน้ำที่มีกบนั่งอยู่
เวลาผ่านไปเล็กน้อย หน้าท้องของกบกลายเป็นสีชมพูต่อหน้าต่อตาผู้ทดลอง เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าในการตอบสนองต่อข้อมูลที่ได้รับจากเครื่องวิเคราะห์ หลอดเลือดของสัตว์จึงขยายตัวและเริ่มปรากฏขึ้นผ่านผิวหนังบางๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือทองคำนั้นแทบไม่ละลายในน้ำ ดังนั้นเครื่องวิเคราะห์ทางเคมีของกบจึงสามารถตรวจจับอะตอมจำนวนเล็กน้อยได้อย่างแท้จริง
กบมีลักษณะเฉพาะและยังมีความไวต่อปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ อย่างอธิบายไม่ได้ ต้องขอบคุณเครื่องวิเคราะห์ที่ทำให้พวกเขาตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้อย่างชัดเจน แม้ว่าสภาพอากาศจะใกล้เข้ามา แต่สีผิวของกบก็เปลี่ยนไป: ก่อนฝนตกจะกลายเป็นสีเทา และในสภาพอากาศแจ่มใสก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้ กบจึงเตรียมตัวล่วงหน้าสำหรับสเปกตรัมแสงในอนาคต และเม็ดเม็ดสีที่จำเป็นจะปรากฏในเซลล์ผิวหนังของพวกมัน
แต่ยังคงเป็นปริศนาว่าสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศภายในไม่กี่ชั่วโมงได้อย่างไร นักวิทยาศาสตร์แนะนำว่าร่างกายของพวกเขามีเครื่องวิเคราะห์อิเล็กโทรเซนซิทีฟที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงประจุไฟฟ้าในชั้นบรรยากาศได้แม้เพียงเล็กน้อย การค้นหายังคงยืนยันว่ากบสามารถรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่กำลังจะเกิดขึ้น ผ่านการมีปฏิสัมพันธ์ของสนามธรรมชาติกับสนามไฟฟ้าของร่างกาย
กบทำให้นักวิทยาศาสตร์ประหลาดใจด้วยกลไกการอพยพที่แม่นยำ ความสามารถในการปรับตัวและนำทาง การทดลองจำนวนมากได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาสามารถนำทางท้องฟ้าได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น กบกำหนดทิศทางที่ถูกต้องของเส้นทาง โดยมองเห็นแต่ดวงอาทิตย์ แม้ว่าพวกมันจะถูกเก็บไว้ในความมืดมาสองวันแล้วก็ตาม
พวกเขาเลือกเส้นทางที่แม่นยำไม่น้อยตามตำแหน่งของดวงจันทร์และดวงดาว คางคกยังสามารถค้นพบสระน้ำเดิมของพวกมันได้อย่างแน่นอน แม้แต่สระน้ำที่หายไปจากพื้นโลกก็ตาม โดยอาศัยสัญญาณที่เหลืออยู่ในความทรงจำของพวกมัน นั่นคือในความคิดของเราธรรมดาสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำมีความจำที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในการนำทางที่ยอดเยี่ยม
ความมีชีวิตชีวาของ “กบ” ก็น่าทึ่งเช่นกัน เมื่อยกขึ้นจากน้ำ พวกมันจะลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว แต่อยู่รอดได้ด้วยการลดน้ำหนักมากกว่า 50% สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยของขวัญอันมหัศจรรย์จากธรรมชาติที่มอบให้กับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่แพร่หลาย - พวกมัน "ดื่ม" น้ำด้วยผิวหนัง ในการทดลองครั้งหนึ่ง กบต้นไม้ที่มีน้ำหนัก 95 กรัม เพิ่มน้ำหนักเป็น 152 กรัม หลังจากถูกห่อด้วยผ้าเปียก
ข้อเท็จจริงบอกว่าคางคกที่ปลูกในที่ชื้นสามารถอยู่รอดได้โดยปราศจากอาหารนานกว่าสองปี นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่าร่างกายของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกได้รับโอกาสมากมายในชีวิตในสถานการณ์วิกฤติเช่นการขาดอาหาร ในช่วงฤดูแล้งหรือเย็นที่ไม่เอื้ออำนวย แมลงมีน้อย แต่สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำไม่ได้ตายจากความหิวโหย แต่จะแค่หยุดเติบโตเท่านั้น
นอกจากนี้ คางคกและกบยังเป็นผู้นำที่ไม่มีใครโต้แย้งในหมู่ผู้เข้าชิงตำแหน่ง "สัตว์นิรันดร์" แม้ว่าสถิติอย่างเป็นทางการว่าคางคกมีอายุยืนยาวเพียง 29 ปีก็ตาม สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเหล่านี้ได้นำเสนอความลึกลับอันน่าอัศจรรย์แก่เรา ความจริงก็คือพวกเขามักจะจบลงในก้อนดินซึ่งเมื่อแข็งตัวแล้วจะกลายเป็นหินจริงหลังจากผ่านไปหลายพันล้านปี
อายุขัยของหินที่มี "เชลย" สามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดายโดยการหาอายุของเรดิโอคาร์บอนหรือวิธีการทางธรณีวิทยาอื่นๆ ตามคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ คางคกยังคงมีชีวิตอยู่ภายในก้อนหินตลอดเวลานี้ นี่คือตัวอย่างบางส่วนจากตัวอย่างที่รู้จักหลายร้อยรายการ
ในปี 1835 ดี. บราตันจากเมืองโคเวนทรี (ประเทศอังกฤษ) เฝ้าดูก้อนหินทรายก้อนหนึ่งกลิ้งออกจากชานชาลาที่สถานีรถไฟ ไม่มีใครรู้ว่าบล็อกนี้มีอายุทางธรณีวิทยาเท่าใด - นับหมื่น, แสน, หรืออาจจะหลายล้านปี แต่จากรอยแตกร้าวตรงหน้าชายผู้ต้องประหลาดใจ... คางคกมีชีวิตก็กระโดดออกมา! สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอาศัยอยู่กับชาวอังกฤษเป็นเวลาสิบวันหลังจากนั้นมันก็ตาย
และในปี พ.ศ. 2453 ผู้อาศัยในเอิร์ลแห่งเลสเตอร์เชียร์ได้แยกถ่านหินออกเป็นชิ้น ๆ ได้ค้นพบคางคกตัวเล็กที่มีชีวิตอยู่ในนั้น ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี แต่แม้แต่เด็กนักเรียนก็รู้ดีว่าอายุของถ่านหินนั้นคำนวณเป็นล้านปี นอกจากนี้ลักษณะเฉพาะของกระบวนการก่อตัวของแร่ธาตุไม่รวมถึงความเป็นไปได้ของการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตในนั้น
นอกจากนี้ยังมีข้อบ่งชี้โบราณอีกมากมาย ดังนั้นในศตวรรษที่ 16 Ambroise Pare ศัลยแพทย์ประจำศาลของพระเจ้าเฮนรีที่ 3 จึงเขียนเกี่ยวกับความพยายามที่จะทำลายก้อนหินขนาดใหญ่และแข็งในที่ดินใกล้เมืองมิวดอนว่า “...ตรงกลางก้อนหินก้อนหนึ่งเราค้นพบคางคกที่มีชีวิตขนาดใหญ่ ไม่มีรอยแตกในหินที่เธอสามารถปีนเข้าไปข้างในได้... คนงานบอกฉันว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพบคางคกและสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกันในก้อนหินขนาดใหญ่” ข้อมูลนี้ถูกวางไว้ในหนังสือประจำปีของ French Academy of Sciences ปี 1761
แต่ปี 1862 ถือเป็นปีที่มีผลอย่างมากสำหรับ "คางคกชั่วนิรันดร์" จากนั้น แม้แต่ในงาน Great London Exhibition ก็มีการแสดงชิ้นส่วนถ่านหินที่มีรอยกบและตัวกบชัดเจน ซึ่งพบในเหมืองถ่านหินนิวพอร์ต (มอนมัทเชียร์) ที่ระดับความลึก 100 เมตร และที่ปราสาท Chillingham ก็มีการค้นพบแบบเดียวกันนี้ในแผ่นหินหินอ่อน... บนที่ดินอีกแห่งหนึ่ง หลังจากการตกลงมาของลูกบอลหินที่ประดับอยู่บนประตูเป็นเวลาหลายร้อยปี คางคกมีชีวิตก็ถูกค้นพบภายใน!
นอกจากนี้ยังพบคางคก "มีกำแพงล้อมรอบ" อยู่ภายในลำต้นของต้นไม้ที่เพิ่งถูกตัดใหม่ ดร. โรเบิร์ต พล็อต ในบันทึกของ French Academy of Sciences ลงวันที่ 1719 ระบุว่าต่อหน้าเขา ณ ส่วนล่างของต้นเอล์มที่ความสูง 1 เมตรจากพื้นดิน “ตรงกลางลำต้นพอดี พบคางคกมีชีวิตขนาดกลางผอมซึ่งเติมเต็มทุกพื้นที่ว่าง ทันทีที่ต้นเอล์มถูกแยกออกเป็นสองส่วน นักโทษก็ควบม้าออกไปทันที…” ไม่กี่ปีต่อมา การค้นพบที่คล้ายกันนี้เกิดขึ้นภายในต้นโอ๊กขนาดใหญ่ ตามที่ Monsieur Sain จากน็องต์กล่าวไว้
สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้นักวิจัยทำการทดลอง นักธรณีวิทยาชาวอังกฤษ William Buckland ทำการทดลองที่โหดร้าย: เขาสร้างคางคกมากกว่ายี่สิบตัวด้วยหินทรายและหินปูนแล้วฝังไว้ในสวนของเขา หนึ่งปีต่อมา นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบคางคกเหล่านั้นที่อยู่ในหินปูนที่ยังมีชีวิตอยู่และไม่เป็นอันตราย สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่วางอยู่ในหินทรายก็ตาย
และในศตวรรษที่ 19 ชาวฝรั่งเศส M. Seguin ได้สร้างกำแพงคางคก 20 ตัวในบล็อกปูนปลาสเตอร์ และหลังจากผ่านไป 12 ปีพบว่ามีพวกมันสี่ตัวยังมีชีวิตอยู่ ตามที่หนังสือพิมพ์ Times บอกกับผู้อ่านเมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2405
จากกรณีเหล่านี้และกรณีที่คล้ายกัน คำถามเกิดขึ้น: สัตว์ที่มีกำแพงล้อมรอบยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร (และบางครั้งก็ได้รับอาหารอย่างดี!) จากหลายล้านปี? สิ่งนี้ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยการบำรุงผ่านผิวหนังโดยที่สารละลายซึมเข้าไปในหิน
ข้อสันนิษฐานของนักชีววิทยาที่ว่าสัตว์เข้าสู่โหมดไฮเบอร์เนตหรือภาพเคลื่อนไหวที่ถูกระงับก็ไม่ได้ผลเช่นกัน ตามคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ส่วนใหญ่ ไม่มีการพบว่ากล้ามเนื้อลีบในผู้ที่ "หลับใหลมานานหลายศตวรรษ": สัตว์เหล่านี้กระโดดออกจากคุกหินราวกับมาจากสถานที่ที่เพิ่งได้รับความร้อน
สัตว์ทุกตัวถูกพบในห้องขังที่ดูเหมือนหล่อเป๊ะๆ หรือในกล่องเรียบรูปไข่ ซึ่งบ่งบอกว่าสัตว์ไม่ได้นั่งนิ่งอยู่ในที่คุมขัง บางทีนักโทษอาจถูกจำคุกด้วยสารอ่อนหรือเช่นเดียวกับชาวอเมริกันอินเดียน (ซึ่งมีความลับบางอย่าง) พวกเขาทำให้หินนิ่มลง? แต่ต่อมาหินปูน หินแกรนิต หรือหินอ่อนใด ๆ ก็ยังคงอยู่ในบาดาลของโลกเป็นเวลาหลายพันปี สิ่งมีชีวิตมีชีวิตรอดมาหลายศตวรรษได้อย่างไร?
และแล้วก็มีการเสนอสมมติฐานที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม มันจะทำให้ทุกอย่างเข้าที่ทันที: ถ้าเราคิดว่าก้อนหินนั้นกลายเป็นโครโนแคปซูล ซึ่งภายในนั้นเวลาจะเดินช้าลง หรือแม้แต่หยุดลง...
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการยับยั้งดังกล่าวในบริเวณใกล้เคียงของสัตว์จะทำให้ชีวิตของแต่ละบุคคลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงการแลกเปลี่ยนความร้อนไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และในบางกรณี การหยุดชะงักของพันธะตามปกติระหว่างอะตอมของซิลิคอน และเป็นผลให้... หินอ่อนตัวลง! อย่างที่พวกเขาพูด สิ่งที่เหลืออยู่คือการหาสาเหตุที่ทำให้เวลาล่าช้า และเป็นไปได้ไหมที่ผู้คนจะได้รับประโยชน์จากทั้งหมดนี้เพื่อตัวเอง?
คาถาดึงดูด รัก
วัตถุดิบ : สีชมพู (สามารถ แทนที่ สีเขียว) เทียน วี เชิงเทียน, แห้ง โรสแมรี่, ไม่มีตัวตน น้ำมัน มหาวิหาร(หรือ แอปริคอท, ขิง).
ตะแกรง เทียน ไม่มีตัวตน น้ำมัน จาก บริเวณ ถึง ไส้ตะเกียง. เท วงกลม จาก โรสแมรี่ รอบๆ เทียน และ สว่างขึ้น ของเธอ. การแสดงภาพ บุคคล, ใคร ถึงคุณ ฉันต้องการ จะ พบปะ, ทั้งหมด ของเขา ภายใน คุณภาพ, พูด กำลังติดตาม:
รัก จะมา, ทำความสะอาด และ แข็งแกร่ง,
พลัง ไฟ จะดูดซับ เธอ,
ความหลงใหล จะลุกเป็นไฟ, ยังไง เปลวไฟ เทียน,
เทพธิดา, รีบหน่อย เดียวกัน รัก สำหรับฉัน ไป!
ที่รัก(- โอ้) จะปรากฏขึ้น ร่วม สำหรับฉัน
และ ทั้งหมด จะ ยังไง วี มหัศจรรย์ ฝัน!
ใช่ จะ ดังนั้น, ยังไง พูดว่า(- ก) ฉัน,
และ ใช่ จะเกิดขึ้น จะ ของฉัน!
ให้ เทียน เหนื่อยหน่าย ถึง จบ.
คาถาคืนดีมิตรภาพ
วัตถุดิบ: มะนาว 1 ลูก, ริบบิ้นสีชมพูประมาณ 30 - 35 ซม., เทียนสีชมพู (คุณสามารถใช้สีน้ำตาลก็ได้), น้ำมันดอกกุหลาบ
ถูน้ำมันดอกกุหลาบลงในเทียนแล้วจุดเทียน ลองนึกภาพคนที่คุณต้องการสร้างสันติภาพด้วย จากนั้นผูกริบบิ้นสีชมพูรอบมะนาวพร้อมข้อความว่า
ปล่อยให้มันถูกปิดผนึก
สิ่งนั้นแตกหัก.
ปล่อยให้สิ่งที่ฉีกขาด
มันจะเย็บ
ขอให้มันกลับมา
สิ่งที่หายไป.
และมิตรภาพของเรา
ให้มันศักดิ์สิทธิ์
ความโกรธ ความขุ่นเคือง และความเจ็บปวด
ฉันกำลังไล่คุณ
ตามเจตจำนงเสรีของคุณเอง
ตอนนี้ฉันกำลังสานต่อมิตรภาพของฉัน
ให้เป็นอย่างนั้น!
ค้างภาพไว้สักสองสามนาที จินตนาการว่าเพื่อนของคุณยิ้มให้คุณและสนุกกับการอยู่กับคุณ โยนมะนาวลงบนเปลวเทียน (ระวังอย่าให้ริบบิ้นติดไฟ!!!) แล้วฝังมันลงดิน
รักษาคาถาหัวใจที่แตกสลาย
วัตถุดิบ: กิ่งไม้จากต้นไม้ ด้ายสีน้ำเงินหนาประมาณ 20 ซม. ไม้รมควัน เทียนสีน้ำเงิน ชามดิน
ในวันขึ้นค่ำ ให้หักกิ่งไม้ออกเป็นสองท่อนแล้วพูดว่า:
กิ่งไม้ที่หักนี้เป็นสัญลักษณ์ของหัวใจที่แตกสลายและความเศร้าของฉัน สิ่งที่เคยปลอดภัยมาก่อน ตอนนี้กำลังประสบกับความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน ฉันนำหัวใจของฉันไปยังสถานที่และเวลานี้เพื่อที่จะได้พบเส้นทางแห่งการเยียวยาและพบรักใหม่
เริ่มผูกด้ายรอบแท่งทั้งสองเป็นรูปแปดเหลี่ยมแล้วพันให้แน่นที่สุด พูดว่า:
ฉันผูกสิ่งที่พังด้วยด้ายนี้
ยาหม่องรักษาจากคำพูดจะไหล
ฉันคือผู้รักษาหัวใจของฉันเอง
และตอนนี้การรักษาของฉันจะเริ่มขึ้น
ตอนนี้ถือแท่งเทียนไว้เหนือเปลวเทียน (ระวังด้ายอาจติดไฟได้ !!!) ด้วยคำว่า:
Spirits of Fire ให้ความอบอุ่นเข้ามาในหัวใจของฉันอีกครั้ง
แล้วถือไว้ในควันธูปด้วยข้อความว่า
วิญญาณแห่งอากาศ ให้ความสุขเข้ามาในชีวิตของฉันอีกครั้ง
ตอนนี้โรยดินบนกิ่งไม้ด้วยคำว่า:
วิญญาณแห่งโลก ให้ความมั่นคงเข้ามาในชีวิตของฉันอีกครั้ง
หลังจากนั้นให้นำไม้ไปที่แม่น้ำหรือทะเลแล้วโยนให้ไกลที่สุดด้วยคำว่า:
วิญญาณแห่งน้ำ ยอมรับสัญลักษณ์แห่งหัวใจของฉัน และชำระแอกของคำพูดและการกระทำที่ไม่เหมาะสมทั้งหมด ขอให้ฉันรู้สึกถึงสัมผัสแห่งเวทย์มนตร์การรักษาของคุณในตัวฉัน ในนามของเทพเจ้าโบราณ ยังไงก็ตาม!
สะกด "ดึงดูดความรัก"
บันทึก: มนต์รักนี้ไม่เหมือนมนต์สะกดอื่นๆ ใช้เฉพาะเมื่อคุณพร้อมที่จะพบกับรักแท้ เพราะ... ไม่สามารถใช้งานได้มากกว่าหนึ่งครั้ง
วัตถุดิบ: เทียนสีชมพู 2 เล่ม ลวดทองแดงสองชิ้น ถุงสีชมพูหรือสีขาวหรือกระเป๋าถือใบเล็ก (ควรทำจากผ้าลูกฟูก) กลีบกุหลาบแห้ง ปอยผมเล็กๆ
ในคืนวันขึ้นค่ำ ให้จุดเทียนบนแท่นบูชาและธูป (ไม่จำเป็น) (อาจเป็นดอกกุหลาบ แพทชูลี่ หรือดอกมะลิ)
นำลวดทองแดงสองเส้น ซึ่งเป็นโลหะศักดิ์สิทธิ์ของดาวศุกร์ เทพีแห่งความรัก มาเริ่มบิดเข้าด้วยกัน
พูดว่า:
ฉันจะไปหาเขา
เขากำลังมาหาฉัน
ผูกติดกัน
ใจของเรา.
ฉันจะไปหาเขา
เขากำลังมาหาฉัน
ชีวิตของเราเกี่ยวพันกัน
ฉันหวังว่าเป็นเช่นนั้น
ข้ามระยะทาง
ผ่านอวกาศ
ฉันจะทราบเร็ว ๆ นี้
ใบหน้าของผู้ที่ฉันเลือก
เสร็จสิ้นการบิดทองแดงโดยสร้างวงแหวนโดยให้ปลายมาบรรจบกัน จากนั้นใส่ลงในถุงแล้ววางผมและกลีบกุหลาบลงไป
ตอนนี้นั่งเงียบๆ และจินตนาการภาพตัวเองกำลังขึ้นไปบนเนินเขา จากด้านบนคุณเห็นทุกสิ่ง ทางด้านขวามือเป็นไม้แห้งชิ้นเล็กๆ ด้วยความเข้มข้นอันเข้มข้น ปล่อยแสงสีทองจากปลายนิ้วของคุณสู่ไม้นี้ ต้นไม้ลุกเป็นไฟทันที ส่งกระแสแสงขึ้นสู่สวรรค์ แตะกระเป๋าของคุณ (ซึ่งคุณนำมาด้วยในภาพ) และเรียกความรักของคุณ:
ฉันอยู่ที่นี่ มาหาฉัน ในนามของพลังแห่งจักรวาลผู้เป็นที่รักทางจิตวิญญาณของฉัน (ผู้เป็นที่รักทางจิตวิญญาณ) ฉันขอเรียกคุณมา!
แสดงภาพนี้ต่อไปจนถึงพระจันทร์เต็มดวงและพกกระเป๋าติดตัวไปด้วยตลอดเวลา
หนังสือเล่มเล็กแห่งคาถาสมัยใหม่ โดย ลูซี ซัมเมอร์ส การแปล: เฮชิเซระ
คาถา “ปลดอาวุธคู่แข่งด้วยความรัก”
วัตถุดิบ: แผ่นกระดาษ ซองจดหมาย กานพลูกระเทียม เทียนสีม่วง
เขียนชื่อคู่ต่อสู้ของคุณลงบนกระดาษ หากคุณไม่ทราบชื่อจริง ให้ตั้งชื่อเวทย์มนตร์ให้กับชื่อนั้น
หั่นกระเทียมหนึ่งกลีบแล้วถูชื่อบนกระดาษ วางกระดาษลงในซองจดหมาย จุดเทียน และปิดผนึกซองจดหมายด้วยขี้ผึ้ง วางซองจดหมายบนหน้าผากของคุณแล้วพูดว่า:
(ชื่อ) ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาให้ท่านเจ็บป่วย ชั่ว ทุกข์
ปลดปล่อยที่รักของฉันจากอิทธิพลของคุณ!
เผาซองบนเปลวเทียน เก็บขี้เถ้าแล้วฝังลงบนพื้นพร้อมส่วนผสมที่เหลือ รวมทั้งเทียนด้วย
หนังสือคาถาของนิโคลา เดอ พูลฟอร์ด การแปล: เฮชิเซระ
คาถาทำลายคาถารัก
หากคุณรู้สึกว่าคนรักของคุณ (หรือคนรัก) ถูกอาคม ให้ใช้คาถานี้ ขอแนะนำให้ค้นหาชื่อจริงของบุคคลที่ทำสิ่งนี้ อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปไม่ได้ ให้ตั้งชื่อที่มีมนต์ขลังให้กับเขาหรือเธอ
วัตถุดิบ: กระดาษ A4 หนึ่งแผ่น, ริบบิ้นสีดำ, พิสตาชิโอหนึ่งกำมือ, ชอล์กสีดำ (คุณสามารถใช้ปากกามาร์กเกอร์ได้), ดอกลิลลี่สด, น้ำมันโรสแมรี่
บนกระดาษที่มีชอล์กสีดำ (ปากกามาร์กเกอร์) ให้เขียนชื่อของบุคคลที่คุณต้องการทำลายมนต์สะกดแห่งความรัก โรยถั่วพิสตาชิโอลงบนใบ นำดอกลิลลี่มาใส่น้ำมันโรสแมรี่ 13 หยด จากนั้นเผาในภาชนะที่ทนไฟแล้วพูดว่า:
ฉันทำลายคาถาชั่วร้าย
ฉันปลดปล่อยคุณจากเวทมนตร์
หัวใจที่ควรเป็นอิสระ
เผาโซ่ที่ยึดสิ่งที่ไม่ใช่ของคุณไว้!
รวบรวมขี้เถ้าแล้ววางลงบนกระดาษที่มีถั่วพิสตาชิโอ ตอนนี้ห่อถั่วพิสตาชิโอด้วยกระดาษพร้อมกับขี้เถ้า ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีชื่ออยู่ในบรรจุภัณฑ์ ผูกด้วยริบบิ้นสีดำแล้วฝังลงดินพร้อมข้อความว่า
มนต์รักก็พังทลาย
ฝังอยู่ในดินตลอดกาล
พวกเขาจะไม่เกิดอีกและจะไม่เกิดขึ้น
ตามที่ข้าสั่งก็เป็นเช่นนั้น!
คาถารัก
วัตถุดิบ: เทียนสีแดง, ริบบิ้นสีขาวยาว 30 ซม., กลีบกุหลาบสีแดง (หรือสีชมพู)
ชามน้ำสีขาว เข็มหรือเข็มหมุด
เขียนชื่อของคุณบนเทียนแล้วเขียนคำว่า "ความรัก" และวาดรูปหัวใจด้วย ผูกเทียนด้วยริบบิ้นสีขาวและโบว์ วางมันลงในชามโดยยึดด้วยขี้ผึ้งละลาย รับรองว่าจะไม่ตก เติมน้ำจนเต็มชามแล้วปล่อยให้กลีบกุหลาบลอยอยู่ จุดฟิวส์ด้วยคำว่า:
ในความเป็นจริงไม่ใช่ในความฝัน
ให้ความรักครั้งใหม่เข้ามาหาฉัน
เยมานจา เทพีแห่งความรัก
ฉันมีความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม
ทั้งบนโลกและในสวรรค์
ฉันจะอาบแสงแห่งความรัก
ฉันจะได้รับความรัก (รัก) จากเขา (เธอ) ตลอดไป
ดังนั้นขอให้ความตั้งใจของฉันเสร็จสิ้น!
ปล่อยให้เทียนจุดต่อไปอีก 7 นาทีในขณะที่คุณนึกภาพคนที่คุณต้องการพบ จุดไฟไว้อีก 6 วันติดต่อกันแล้วสร้างภาพซ้ำ
*ร่ายมนตร์นี้ขึ้นข้างขึ้นหรือพระจันทร์เต็มดวงในเย็นวันศุกร์
คาถามิตรภาพ
ใช้เพื่อคืนดีกับเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ
วัตถุดิบ: เทียนสีชมพู ริบบิ้นสีชมพูยาว 1 เมตร ซองสีขาวหรือสีชมพู ธูปสีชมพู กระดาษสี่เหลี่ยมเล็กๆ ปากกา
จุดเทียนและจุดธูป เขียนชื่อเพื่อนของคุณด้วยปากกาลงบนกระดาษ คุณสามารถใช้ตัวอักษร Thebean วางกระดาษไว้หน้าเทียนแล้วพูดว่า:
อากาศ ไฟ ดิน และน้ำ
ให้มิตรภาพได้รับการต่ออายุ
ความเจ็บปวดและความแค้นหายไปตลอดกาล
ด้วยพลังแห่งเทียน ให้เป็นอย่างนั้น!
ตอนนี้หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งแล้วรมควันด้วยควันธูป จากนั้นค่อยวางไว้ใต้เชิงเทียนอย่างระมัดระวัง เห็นภาพใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเพื่อนของคุณ เห็นเขา/เธอพูดคุยกับคุณและเพลิดเพลินกับการอยู่ร่วมกับคุณ กดการแสดงภาพค้างไว้อย่างน้อย 5 นาที เมื่อเทียนไหม้จนหมด ให้วางต้นขั้วไว้ในซองพร้อมกับกระดาษแผ่นหนึ่ง ปิดผนึกและผูกด้วยริบบิ้นสีชมพู ทำ 3 นอตพอดีแล้วพูดว่า:
ให้ปมทั้งสามผูกมิตรภาพของเราไว้
ขอให้เราอย่าทะเลาะกันอีกเลย
ให้เป็นอย่างนั้น!
วางซองจดหมายไว้ในที่ปลอดภัยและอย่ารบกวน ในไม่ช้าคุณและเพื่อนของคุณจะกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง
คาถาความภักดี
วัตถุดิบ: เทียนสีชมพู 2 เล่ม ชามน้ำแร่ เปลือกหอย
ทางที่ดีควรใช้คาถานี้ในวันศุกร์ เวลา 12.00 น. หรือกลางคืน อาบน้ำหรืออาบน้ำเพื่อผ่อนคลายและเช็ดให้แห้งอย่างทั่วถึง จุดเทียนแล้ววางเปลือกลงในชามน้ำ เคลียร์ความคิดเชิงลบ หยิบชามขึ้นมาแล้วพูดว่า:
โอเชียนา เทพีแห่งท้องทะเลทั้งเจ็ด
ให้ที่รักซื่อสัตย์ต่อฉัน - กับฉันเท่านั้น
วางชามกลับลงบนโต๊ะแล้วทำให้ข้อมือและบริเวณหลังหูเปียกด้วยน้ำมหัศจรรย์ พรมน้ำรอบๆ เตียงที่คุณใช้ร่วมกับคนที่คุณรัก คุณยังสามารถฉีดน้ำบนเสื้อผ้าของเขาได้ด้วย คุณจะต้องฉีดน้ำที่ประตูหน้าและลูกบิดประตูด้วยหากคุณจะออกไปข้างนอก
คาถาที่ไม่อาจต้านทานได้
วัตถุดิบ: ผ้าสีชมพูหรือสีขาว เปลือกหอยเล็กๆ กุญแจใหม่ (หรือล้างด้วยน้ำเกลือ) ปอยผมหรือภาพวาดของเขา เข็มเย็บผ้าสองเล่ม (ผูกด้วยขนสัตว์สีแดง ด้าย) หนึ่งชิ้น ริบบิ้นสีขาว 15 ซม. สเปรย์น้ำหอมที่คุณชื่นชอบ
คาถานี้จะทำให้คุณไม่อาจต้านทานเขาได้ตลอดเวลา ควรเริ่มต้นตอนเที่ยงคืนด้วยพระจันทร์เต็มดวงจะดีกว่า นำส่วนผสมทั้งหมดยกเว้นริบบิ้นมาวางบนผ้า หลับตาลงแล้วจินตนาการถึงแสงสีทองที่อยู่รอบตัวคุณ เติมเต็มความรักและพลังให้กับคุณ ฉีดน้ำหอมลงบนส่วนผสมเล็กน้อย รวบปลายผ้าแล้วมัดด้วยริบบิ้นสีขาวให้ดูเหมือนถุง พกเครื่องรางแห่งความรักนี้ติดตัวไปด้วยทุกครั้งที่คุณรู้สึกต้องการ คุณสามารถเก็บไว้ในที่ปลอดภัยในห้องนอนของคุณหรือของเขาได้
คาถาแปลงร่างเป็นกบ
วัตถุดิบ: ผ้าผืนหนึ่ง (ควรเป็นเสื้อยืดตัวเก่าของเขา) ดินทรายจำนวนหนึ่งกำมือ ภาพถ่ายหรือภาพวาดของแฟนเก่า เข็มเย็บผ้า ด้ายสีดำ สีเขียวหรือปากกามาร์กเกอร์สีเขียว
ถ้าเขาทรยศคุณจริงๆ และหนีไปกับคนอื่น จำไว้ว่าโดยมากแล้ว เขาช่วยเหลือคุณ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม คาถานี้จะช่วยให้คนอื่นพบว่าเขาถูกปฏิเสธเช่นเดียวกับคุณ จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นในเวลาเที่ยงคืนในช่วงพระจันทร์เต็มดวง รวบรวมส่วนผสมของคุณและค้นหาสถานที่เงียบสงบที่คุณจะไม่ถูกรบกวน วางผ้าลงบนพื้นผิวเรียบ วางสิ่งสกปรกไว้ด้านบนและรูปถ่ายของแฟนเก่าของคุณไว้ด้านบน รวบรวมปลายแล้วเย็บด้วยเข็มและด้ายสีดำเพื่อทำเป็นถุง ใช้สีเขียวหรือปากกามาร์กเกอร์แล้ววาดคางคกที่น่าขยะแขยงที่สุดไว้ด้านหนึ่ง ทิ้งไว้ใต้แสงจันทร์ทั้งคืนแล้วทิ้งลงถังขยะในตอนเช้า
Deborah Grey และ Athena Starwoman "วิธีเปลี่ยนแฟนเก่าของคุณให้กลายเป็นกบและคาถาอื่น ๆ " การแปล: เฮชิเซระ
คาถารักหิ่งห้อย
วัตถุดิบ: แผ่นกระดาษหรืออัลบั้ม ชุดดินสอสีหรือปากกามาร์กเกอร์
นั่งในสถานที่เงียบสงบ ควรอยู่ในธรรมชาติ หากคุณทำได้ หรือในห้องของคุณ คุณอาจต้องการจุดธูปที่คุณชื่นชอบและเล่นเพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน ทุกคนมีหิ่งห้อยเป็นของตัวเอง และต่างก็มีความแตกต่างกัน วิธีเดียวที่จะรู้ว่ารูปลักษณ์ของคุณเป็นอย่างไรคือออกแบบด้วยตัวเอง ทดลองใช้ปากกามาร์กเกอร์หรือดินสอเพื่อสร้างหิ่งห้อยของคุณเอง หิ่งห้อยไม่เคยซุกซน พวกมันเป็นคนดีและเต็มไปด้วยความรักเสมอ หากต้องการ คุณสามารถสร้างหิ่งห้อยได้หลายเวอร์ชัน คุณอาจต้องการล้อมรอบมันด้วยสัญลักษณ์เวทย์มนตร์หรืออักษรรูน ตอนนี้เขียนความปรารถนาของคุณลงบนร่างของหิ่งห้อย: ความรัก ความเห็นอกเห็นใจ การเยียวยา ฯลฯ ยื่นมือของคุณเหนือหิ่งห้อยแต่ละตัวแล้วพูดว่า:
หิ่งห้อย หิ่งห้อย
เสียงพึมพำและเรืองแสง
หิ่งห้อย หิ่งห้อย
ให้ (ตั้งชื่อความปรารถนาของคุณ) เติบโต
เมื่อคุณสร้างหิ่งห้อยแล้ว คุณจะสามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ มากมาย รวมถึงการส่งข้อความ ความรัก หรือพลังการรักษาให้กับเพื่อนหรือครอบครัวของคุณที่ต้องการมัน
ซิลเวอร์ เรเวนวูล์ฟ” ทีนแม่มด - การแปล: เฮชิเซระ
*คาถานี้ไม่มีอยู่ในหนังสือฉบับภาษารัสเซีย
มนต์รัก #2
วัตถุดิบ: กระดาษสีชมพู กรรไกร ปากกาสีแดง ด้ายสีชมพูยาว 1 เมตร น้ำมันกุหลาบหรือกระดังงาหรือไธม์แห้ง หม้อต้มหรือชามทนไฟ
ตัดหัวใจจากกระดาษสีชมพู เขียนทุกสิ่งที่คุณต้องการจากคนที่คุณรัก จำไว้ว่าคุณไม่สามารถเห็นภาพหรือตั้งชื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้! แนบด้ายเข้ากับหัวใจอย่างแน่นหนาแล้ววางไว้ในไตรมาสที่เหมาะสม - ตะวันตกสำหรับความรักโรแมนติกที่ลึกซึ้ง ทางเหนือสำหรับคนที่ปฏิบัติได้จริงและให้การสนับสนุน ตะวันออกสำหรับคนที่คุณรักซึ่งจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ ทางใต้เพื่อความหลงใหลอย่างแท้จริง ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก:
มารักมารัก!
ค่อยๆ ดึงหัวใจเข้าหาคุณด้วยด้าย เมื่อหัวใจอยู่ใกล้คุณ ให้ทาน้ำมันหรือโรยด้วยหญ้าแล้วเผาในหม้อต้ม
เทเรซา มูริ "เสก! — หนังสืออ้างอิงสำหรับแม่มดสาว” แปลโดยเฮชิเซอร์ ก
สะกด “สร้อยข้อมือแห่งความรัก”
วัตถุดิบ: เมล็ดแอปเปิ้ลประมาณ 100 เมล็ด เข็ม ด้ายสีแดง เทียนสีแดง
จุดเทียน ร้อยเข็มแล้วเริ่มร้อยเมล็ดแอปเปิ้ลลงไป โดยจินตนาการถึงคุณสมบัติทั้งหมดที่คุณอยากเห็นในตัวคนที่คุณรัก คุณสามารถพูดออกมาดัง ๆ ได้ เมื่อเสร็จแล้วให้ผูกปลายด้ายด้วยปมสามปม สร้อยข้อมือความรักของคุณพร้อมแล้ว ให้เขานอนใกล้เทียน (แต่อย่าใกล้จนเกินไป) จนเทียนไหม้หมด หลังจากนั้น ให้สวมสร้อยข้อมือบนข้อมือทุกวัน และวางไว้ใต้หมอนตอนกลางคืน เมื่อคุณพบรัก ให้ฝังสร้อยข้อมือลงดิน
“กล่องความรัก” กระชับความสัมพันธ์
วัตถุดิบ: กล่องพริงเกิลส์ กระดาษสีแดงและชมพู กลีบกุหลาบ (แดงหรือชมพู) ปอยผม ปอยผมของคนที่คุณรัก ด้ายสีแดง น้ำตาล อบเชย ปากกาสีแดง กระดาษแผ่นเล็ก
คาถานี้ใช้เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่มีอยู่ (เป็นเวลานาน) หากพวกเขาไปทางทิศใต้ อย่างไรก็ตาม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณต้องการบุคคลนี้จริงๆ ก่อนที่จะร่ายมนตร์
เลยเอากล่องมาปิดด้วยกระดาษสีชมพู ตอนนี้ตัดหัวใจออกจากกระดาษสีแดงแล้วติดไว้ที่กล่อง ผสมน้ำตาล กลีบกุหลาบ และอบเชยเข้าด้วยกันในชามขนาดเล็ก ชาร์จพลังของคุณ (ยืดมือออกและสัมผัสถึงพลังที่ไหลจากมือเหล่านั้นลงสู่ในชาม) จินตนาการถึงความรักที่เข้มแข็งขึ้น แล้วพักไว้ หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งแล้วเขียนชื่อของคุณด้วยหมึกสีแดงและชื่อของคนที่คุณรัก หยิบเส้นผมของคุณและผมของคนที่คุณรักแล้วพันด้วยใบไม้ที่มีชื่อของคุณเพื่อให้พวกเขาอยู่ข้างใน มัดด้วยด้ายสีแดงแล้ววางไว้ที่ด้านล่างของกล่อง โรยหน้าด้วยส่วนผสมของกลีบกุหลาบ อบเชย และน้ำตาล ปิดฝาแล้ววางไว้ในที่ปลอดภัย ชาร์จเนื้อหาใหม่ตามความจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงพระจันทร์เต็มดวง
ปมคาถา "ดึงดูดเพื่อน"
ใช้เพื่อดึงดูดเพื่อนใหม่ เวลาที่ดีที่สุดคือข้างขึ้น
วัตถุดิบ: เทียนสีน้ำตาล (หรือชมพู) ผ้าสีน้ำตาล 15x15 ซม. พร้อมเชือกที่เข้ากัน (หรือสีชมพู) ธูปดอกกุหลาบหรือโรสแมรี่ น้ำตาลอย่างละ ½ ช้อนชา ผิวเลมอนแห้งและมาร์ชแมลโลว์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 9 เม็ด สีน้ำตาล (หรือสีชมพู)
จุดเทียนและจุดธูป ผสมน้ำตาล สมุนไพร และถั่วเข้าด้วยกัน โดยจินตนาการว่าคุณมีเพื่อนเหมือนที่คุณต้องการอยู่แล้ว ลองนึกภาพคุณสมบัติทั้งหมดที่คุณต้องการเห็นจากเพื่อนใหม่ของคุณ จินตนาการว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางเพื่อนใหม่ ดูว่าพวกเขายิ้มอย่างไรและสนุกสนานกับการอยู่ร่วมกับคุณ วางส่วนผสมสมุนไพรไว้ตรงกลางผ้าแต่อย่าเพิ่งมัด หยิบเชือกแล้วเริ่มผูกปม (ควรมีทั้งหมด 9 ปม) แล้วพูดว่า:
ด้วยชุดนี้ฉันเป็นคนแรกที่ดึงดูดเพื่อนที่ซื่อสัตย์
เราจะกระชับมิตรภาพของเราด้วยชุดที่สอง
ด้วยชุดที่สาม ฉันจับการสื่อสารในเน็ต
ปมที่สี่จะนำความสุขมาให้
ปมที่ห้าจะพาเพื่อน ๆ มารวมตัวกัน
การทะเลาะวิวาทปมที่หกจะถูกกำจัด
ปมที่เจ็ดจะนำมาซึ่งความไว้วางใจ
ปมที่แปดจะดึงดูดความซื่อสัตย์
ปมที่เก้าจะปกป้องมิตรภาพจากความชั่วร้าย
ฉันมีเพื่อนแล้ว ยังไงก็ได้!
วางเชือกไว้บนส่วนผสมสมุนไพร รวบปลายผ้าแล้วมัด ตอนนี้คุณต้องถือถุงไว้ในควันธูป ลองนึกภาพว่าแสงสีชมพูเข้ามาได้อย่างไร ปล่อยให้เทียนเผาไหม้จนหมด พกกระเป๋าติดตัวไปด้วยจนกว่าคุณจะได้เพื่อนใหม่
มนต์รัก #3
วัตถุดิบ: ผ้าสีชมพูหรือราสเบอร์รี่สี่เหลี่ยมหรือวงกลม (ที่ไม่ซีดจาง) เส้นผ่านศูนย์กลาง 10 ซม. ริบบิ้นที่เหมาะสม 20 ซม. โหระพาแห้งสองถึงสามช้อนชา
วางผ้าบนแท่นบูชาของคุณ หรือเพียงแค่หันหน้าไปทางทิศเหนือแล้ววางผ้าลงบนพื้น/พื้นตรงหน้าคุณ โรยไทม์ลงไปตรงกลางผ้า นั่งเงียบๆ สักสองสามนาที จินตนาการว่าคุณมีความรักที่ต้องการในชีวิตอยู่แล้ว มีความคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับประเภทของบุคคลที่คุณต้องการ ใช้เวลาอธิบายสิ่งเหล่านี้ให้ตัวเอง รูปลักษณ์ ลักษณะนิสัย ไลฟ์สไตล์ รสนิยม - ทุกสิ่งที่สำคัญต่อคุณ ลองนึกภาพสิ่งนี้สักครู่ แต่อย่าคิดถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นพิเศษ เหยียดมือ ฝ่ามือลง เหนือผ้า และส่งพลังแม่มดของคุณไปยังสมุนไพร รู้สึกถึงพลังงานที่ไหลออกมาจากมือของคุณ - พวกมันจะอบอุ่น ใช้ athame และวาดรูปดาวห้าแฉกดินเหนือสมุนไพรหรือใช้นิ้วชี้ของคุณ พูดสามครั้ง:
อะโฟรไดท์ ฉันขอภาวนา
ดึงดูดความรักของฉัน
ค่อยๆ รวบปลายผ้าเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเป็นถุงที่มีสมุนไพรอยู่ข้างใน ผูกคอเสื้อด้วยริบบิ้น รู้ว่าคุณกำลังผูกมัดความปรารถนาของคุณ ตอนนี้มันเป็นของคุณแล้ว ขอบคุณเทพธิดา เก็บกระเป๋าเล็กๆ ไว้ในกระเป๋าเงินหรือกระเป๋าเสื้อของคุณ แล้วเติมพลังเพิ่มเติมในช่วงวันหยุดวงล้อแห่งปีหรือทุกคืนพระจันทร์เต็มดวงจนกว่าความปรารถนาจะเป็นจริง
เทเรซา มูริ "เสก! — หนังสืออ้างอิงสำหรับแม่มดสาว” แปลโดยเฮชิเซระ
มนต์สะกดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับรักครั้งใหม่ “หัวใจดินเหนียว”
วัตถุดิบ: ดินเผา อบเชย ใบโหระพา เมล็ดผักชีลาว กลีบกุหลาบป่น (สำหรับความรักและความหลงใหล) ลูกจันทน์เทศและพริก (สำหรับปริมาณที่ดี) ผ้าสีชมพูชิ้นเล็ก และริบบิ้นสีเขียวจำนวนเล็กน้อย
ผสมสมุนไพรในภาชนะแก้วหรือเซรามิกใบเล็ก โดยเน้นไปที่ความรักครั้งใหม่ที่กำลังเข้ามาในชีวิตของคุณ จินตนาการถึงแสงสีทองที่ห่อหุ้มคุณจากทุกด้าน หยิบดินเหนียวมานวดในมือของคุณ ตอนนี้จงทำใจให้สมุนไพรอยู่ข้างใน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสมุนไพรไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอกหัวใจ ขณะที่คุณกำลังแกะสลัก ลองจินตนาการถึงคู่รักในอุดมคติของคุณ: อธิบายคุณสมบัติทั้งหมดที่เขาควรมี ความสนใจร่วมกันที่คุณควรมี และประเภทของความสัมพันธ์ที่คุณคาดหวังจากเขา เพิ่มสิ่งที่คุณต้องการให้กับรูปลักษณ์นี้ ห่อหัวใจด้วยผ้าสีชมพูแล้วผูกด้วยริบบิ้นสีเขียวพร้อมข้อความ:
รักครั้งใหม่ มาเติมความสดใสให้ชีวิตฉันด้วยความสุข
ย้ำอีก 2 ครั้ง และพกหัวใจติดตัวไปจนกว่าจะพบกับรักใหม่ จากนั้นแก้ริบบิ้น นำหัวใจออกมาฝังไว้ใต้ต้นแอปเปิล ระวังอย่าให้รากเสียหาย!
สะกด "ขวดแห่งความรัก"
วัตถุดิบ: น้ำกุหลาบ (มีจำหน่ายที่ร้านขายยา), ลาเวนเดอร์แห้ง 2 หยิบมือ, 2 ช้อนโต๊ะ กลีบกุหลาบช้อนขวด
ถือกลีบดอกไม้ไว้ระหว่างฝ่ามือ ชาร์จพวกเขาด้วยความรัก (ลองจินตนาการถึงพลังแห่งความรักที่ไหลเข้าสู่พวกเขา) ใส่มันลงในขวด ถือดอกลาเวนเดอร์ไว้ระหว่างฝ่ามือ ชาร์จด้วยความรัก ใส่มันลงในขวด เติมน้ำกุหลาบลงในขวด ปิดฝา. ถือขวดในมือแล้วกดไปที่หน้าอกโดยพูดคำต่อไปนี้:
ดอกไม้ที่เต็มไปด้วยความรัก
เติมเต็มฉันด้วยความรัก
เก็บขวดไว้ในห้องนอนของคุณ นั่นคือทั้งหมดที่
Scott Cunningham, David Harrington "ศิลปะแห่งคาถา: การสร้างวัตถุวิเศษ" แปล เฮชิเซระ
คาถารักตนเอง
วัตถุดิบ: ดาวกระดาษสีทอง
นั่งตัวตรง ถือดาวไว้ในมือ แล้วหายใจลึกๆ ลองนึกภาพว่าแสงสีทองปกคลุมคุณตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไร - คุณจะเปล่งประกายราวกับดวงดาว บอก:
ฉันเป็นคนตลก ฉันมีเสน่ห์ ฉันเป็นดารา
ทำซ้ำสามครั้งยกมือชูดาวขึ้นสู่สวรรค์แล้วพูดว่า:
ฉันเป็นดาว แสงดาว ดาวสุกสว่าง มนต์เสน่ห์แห่งดวงดาวเป็นของฉันแล้ว
คุณสามารถพกดาวติดตัวไปด้วยเพื่อเตือนตัวเองว่าคุณเป็นแม่มดที่วิเศษขนาดไหน ถือมันไว้ในมือของคุณและร่ายมนตร์ซ้ำทุกครั้งที่คุณต้องการความมั่นใจเป็นพิเศษ ตอนนี้ออกไปแสดงให้ทุกคนเห็นว่าคุณเปล่งประกายได้แค่ไหน
คาถาดอกไม้ “คุณชอบฉันไหม?”
วัตถุดิบ: เดซี่ (คาโมมายล์) ชามน้ำ
มุ่งความสนใจไปที่ภาพคนที่คุณชอบให้ชัดเจน
ฉีกกลีบดอกไม้ออกทีละกลีบแล้วโยนลงไปในน้ำทีละกลีบ ทำซ้ำคาถาเก่าว่า "รัก" สำหรับกลีบดอกหนึ่ง "ไม่ชอบ" สำหรับอีกกลีบหนึ่งจนไม่มีกลีบเหลือเลย กลีบดอกไม้ใดจะเป็นกลีบสุดท้าย - นี่คือคำตอบ หากต้องการตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบ ให้ถือชามในมือแล้วมองดูน้ำ ถาม: “ความฝันของคุณเกี่ยวกับเขา/เธอจะลอยหรือจม?” มองเข้าไปในชามและฟังหัวใจของคุณ มองดูกลีบแล้วรู้สึกสุขหรือเศร้า? หากคุณสนุกสนานและกลีบดอกไม้ลอยอยู่บนผิวน้ำ ความรู้สึกที่เขามีต่อคุณก็จะเหมือนกัน หากคุณเศร้าและกลีบดอกกำลังจมน้ำก็ในทางกลับกัน ในกรณีนี้คุณจะมีโชคดีขึ้นในครั้งต่อไป
ฉบับภาษาอังกฤษ “ มิซซ์ ” ลูซี่โรดส์แปลแล้ว เฮชิเซระ
กบ การสร้างเซลล์สืบพันธุ์ การปฏิสนธิ และเหตุการณ์ตามฤดูกาลอื่นๆ ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกหลายประการ ชีวิตของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเกือบทั้งหมดขึ้นอยู่กับจำนวนพืชและแมลงในบ่อ รวมถึงอุณหภูมิของอากาศและน้ำ พัฒนาการของกบมีหลายระยะ รวมถึงระยะตัวอ่อน (ไข่ - เอ็มบริโอ - ลูกอ๊อด - กบ) การเปลี่ยนแปลงของลูกอ๊อดให้โตเต็มวัยถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุดครั้งหนึ่งในชีววิทยา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เตรียมสิ่งมีชีวิตในน้ำให้พร้อมสำหรับการดำรงอยู่บนโลก
พัฒนาการของกบ: ภาพถ่าย
ในสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่ไม่มีหาง เช่น กบและคางคก การเปลี่ยนแปลงการเปลี่ยนแปลงจะเด่นชัดมากที่สุด เกือบทุกอวัยวะจะได้รับการปรับเปลี่ยน รูปร่างของร่างกายเปลี่ยนไปจนจำไม่ได้ หลังจากการปรากฏตัวของแขนขาหลังและส่วนหน้าแล้วหางจะค่อยๆหายไป กะโหลกศีรษะกระดูกอ่อนของลูกอ๊อดจะถูกแทนที่ด้วยกะโหลกศีรษะใบหน้าของลูกกบ ฟันที่มีเขาที่ลูกอ๊อดเคยกินพืชในบ่อหายไป ปากและขากรรไกรมีรูปร่างใหม่ และกล้ามเนื้อของลิ้นพัฒนาแข็งแรงขึ้นเพื่อให้จับแมลงวันและแมลงอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น ลักษณะของลำไส้ใหญ่ที่ยาวขึ้นของสัตว์กินพืชจะสั้นลงเพื่อรองรับอาหารที่กินเนื้อเป็นอาหารของผู้ใหญ่ ในช่วงหนึ่งของการพัฒนากบ เหงือกจะหายไปและปอดจะเพิ่มขึ้น
จะเกิดอะไรขึ้นทันทีหลังจากการปฏิสนธิ?
หลังจากนั้นไม่นาน มันก็เริ่มเคลื่อนจากระยะเซลล์หนึ่งไปยังอีกระยะหนึ่งโดยผ่านกระบวนการแบ่งตัว ความแตกแยกครั้งแรกเริ่มต้นที่ขั้วของสัตว์และดำเนินไปในแนวตั้งจนถึงขั้วพืช โดยแบ่งไข่ออกเป็นสองบลาสโตเมียร์ ความแตกแยกครั้งที่สองเกิดขึ้นที่มุมฉากกับครั้งแรก โดยแบ่งไข่ออกเป็น 4 บลาสโตเมียร์ ร่องที่สามตั้งอยู่ในมุมฉากกับสองร่องแรก ใกล้กับสัตว์มากกว่าขั้วพืช แยกบริเวณเม็ดสีขนาดเล็กด้านบนทั้งสี่ออกจากบริเวณด้านล่างสี่สี ในระยะนี้ เอ็มบริโอมีตัวบลาสโตเมียร์ 8 ตัวแล้ว
การแยกเพิ่มเติมจะน้อยลงสม่ำเสมอ เป็นผลให้ไข่เซลล์เดียวค่อยๆกลายเป็นเอ็มบริโอเซลล์เดียวซึ่งในระยะนี้เรียกว่าบลาสทูลาซึ่งแม้ในระยะ 8-16 เซลล์ก็เริ่มมีโพรงอวกาศที่เต็มไปด้วยของเหลว หลังจากการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง บลาสทูลาชั้นเดียวจะกลายเป็นเอ็มบริโอสองชั้น (gastrula) กระบวนการที่ซับซ้อนนี้เรียกว่าการย่อยอาหาร ระยะกลางของการพัฒนากบในระยะนี้เกี่ยวข้องกับการก่อตัวของชั้นป้องกันสามชั้น: ectoderm, mesoderm และ endoderm ซึ่งเรียกอีกอย่างว่าขั้นปฐมภูมิ ต่อมาตัวอ่อนจะฟักออกมาจากทั้งสามชั้น
ลูกอ๊อด (ระยะดักแด้)
ถัดไปหลังจากเอ็มบริโอคือตัวอ่อนซึ่งจะออกจากเปลือกป้องกันไว้แล้ว 2 สัปดาห์หลังการปฏิสนธิ หลังจากปล่อยสิ่งที่เรียกว่าตัวอ่อนของกบจะเรียกว่าลูกอ๊อดซึ่งมีลักษณะคล้ายปลาตัวเล็ก ๆ ยาวประมาณ 5-7 มม. ร่างกายของตัวอ่อนมีส่วนหัว ลำตัว และหางที่แตกต่างกัน บทบาทของอวัยวะระบบทางเดินหายใจนั้นเล่นโดยเหงือกภายนอกขนาดเล็กสองคู่ ลูกอ๊อดที่มีรูปร่างสมบูรณ์มีอวัยวะที่เหมาะสำหรับการว่ายน้ำและการหายใจ ปอดของกบในอนาคตจะพัฒนาจากคอหอย
การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ซ้ำใคร
ลูกอ๊อดในน้ำต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างจนกลายเป็นกบในที่สุด ในระหว่างการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างตัวอ่อนบางส่วนจะลดลงและบางส่วนมีการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการทำงานของต่อมไทรอยด์สามารถแบ่งออกเป็นสามประเภท
1. การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ แขนขาหลังเติบโต ข้อต่อพัฒนา และนิ้วปรากฏขึ้น ส่วนหน้าซึ่งยังคงซ่อนอยู่ในรอยพับป้องกันพิเศษจะขยายออกไปด้านนอก หางหดตัว โครงสร้างพังทลาย และค่อยๆ ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ดวงตาเคลื่อนจากด้านข้างขึ้นไปด้านบนของศีรษะและนูนขึ้น ระบบอวัยวะด้านข้างหายไป ผิวหนังเก่าหลุดออกไป และเกิดผิวหนังใหม่ที่มีต่อมผิวหนังมากขึ้น ขากรรไกรที่มีเขาจะหลุดออกไปพร้อมกับผิวหนังของตัวอ่อนและถูกแทนที่ด้วยขากรรไกรที่แท้จริง เริ่มจากกระดูกอ่อนแรกและจากนั้นจึงกลายเป็นกระดูก ช่องว่างปากเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้กบสามารถกินแมลงขนาดใหญ่ได้
2. การเปลี่ยนแปลงทางกายวิภาคภายใน เหงือกเริ่มสูญเสียความสำคัญและหายไป ปอดทำงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ การเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกันเกิดขึ้นในระบบหลอดเลือด ตอนนี้เหงือกค่อยๆ ยุติบทบาทในการไหลเวียนของเลือด เลือดเริ่มไหลเข้าสู่ปอดมากขึ้น หัวใจกลายเป็นสามห้อง การเปลี่ยนจากการรับประทานอาหารที่มีพืชเป็นหลักไปเป็นอาหารที่กินเนื้อเป็นอาหารล้วนๆ จะส่งผลต่อความยาวของทางเดินอาหาร มันหดตัวและบิดตัว ปากจะกว้างขึ้น ขากรรไกรจะใหญ่ขึ้น ลิ้นจะใหญ่ขึ้น กระเพาะอาหารและตับจะใหญ่ขึ้นด้วย โพรเนฟรอสจะถูกแทนที่ด้วยตามีโซสเฟียร์
3. การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากตัวอ่อนไปสู่ระยะโตเต็มวัยของการพัฒนาของกบเมื่อเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำก็เปลี่ยนไป มันมักจะลอยขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อสูดอากาศและขยายปอด
Baby Frog - กบตัวเต็มวัยรุ่นจิ๋ว
เมื่ออายุได้ 12 สัปดาห์ ลูกอ๊อดจะมีหางเพียงเล็กน้อยและดูเหมือนว่าจะมีลักษณะคล้ายกับตัวโตเต็มวัย ซึ่งโดยทั่วไปจะเติบโตเต็มที่ภายใน 16 สัปดาห์ การพัฒนาและชนิดของกบมีความสัมพันธ์กัน กบบางชนิดที่อาศัยอยู่บนที่สูงหรือในที่เย็นสามารถอาศัยอยู่ในระยะลูกอ๊อดได้ตลอดฤดูหนาว สัตว์บางชนิดอาจมีระยะพัฒนาการเฉพาะตัวที่แตกต่างจากพันธุ์ดั้งเดิม
วงจรชีวิตของกบ
กบส่วนใหญ่ผสมพันธุ์ในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่บ่อน้ำมีน้ำท่วมขัง ลูกอ๊อดซึ่งมีอาหารแตกต่างจากผู้ใหญ่สามารถใช้ประโยชน์จากสาหร่ายและพืชพรรณที่มีอยู่มากมายในน้ำได้ ตัวเมียวางไข่ในเยลลี่ป้องกันพิเศษใต้น้ำหรือบนต้นไม้ที่อยู่ใกล้เคียง และบางครั้งก็ไม่สนใจลูกหลานด้วยซ้ำ เริ่มแรกตัวอ่อนจะดูดซับไข่แดงสำรอง เมื่อเอ็มบริโอพัฒนาเป็นลูกอ๊อด เยลลี่จะละลายและลูกอ๊อดจะโผล่ออกมาจากเปลือกป้องกัน พัฒนาการของกบจากไข่สู่ตัวเต็มวัยนั้นมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนหลายประการ (ลักษณะของแขนขา การลดหาง การปรับโครงสร้างภายในของอวัยวะ เป็นต้น) เป็นผลให้สัตว์ที่โตเต็มวัยทั้งโครงสร้าง วิถีชีวิต และถิ่นที่อยู่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากระยะการพัฒนาครั้งก่อนๆ
หันไปหากบ
อัปเดตเมื่อวันที่ 01/06/2019
วันนี้เราจะดำดิ่งสู่ป่าแห่งปฏิสัมพันธ์ระหว่างเอฟเฟกต์ระยะยาวที่เรียกว่า "เอฟเฟกต์ความอ่อนน้อมถ่อมตน" และระบบเลเยอร์โดยใช้ตัวอย่างการแปลงร่างเป็นกบ พูดว่า "ควา"!
การ์ดที่มีลักษณะคล้ายการ์ดใดๆ มักจะทำให้เกิดคำถามมากมาย ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับการโต้ตอบของผลกระทบระยะยาว เนื่องจากผีของเลเยอร์จะปรากฏขึ้นทันที ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้เล่นหวาดกลัวเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้ตัดสินไม่มีประสบการณ์มากนักด้วย
จริงๆ แล้วไม่มีอะไรยากลำบากเกิดขึ้นเลย คุณเพียงแค่ต้องจัดเรียงเอฟเฟกต์ทั้งหมดที่ส่งผลต่อออบเจ็กต์เป็นหมวดหมู่ของตัวเองและนำมาพิจารณาตามลำดับ หากแน่นอนว่ายังคงมีอยู่ในขณะที่สมัคร โดยมีข้อยกเว้นเล็กๆ น้อยๆ ประการหนึ่ง: เอฟเฟกต์ที่คุณเริ่มใช้กับเลเยอร์หนึ่งและดำเนินต่อไปในเลเยอร์อื่นจะมีผล แม้ว่าความสามารถที่สร้างเอฟเฟกต์นั้นจะไม่มีอยู่แล้วก็ตาม
ฉันไม่คิดว่าคุณจะจำเลเยอร์ทั้งหมดได้ในครั้งแรก แต่คุณสามารถดูกฎได้ตลอดเวลา และในทัวร์นาเมนต์จะเรียกกรรมการและชี้แจง สำหรับผู้ที่อยากรู้อยากเห็น ฉันขอเสนอบทความดีๆ เกี่ยวกับเลเยอร์: ระบบเลเยอร์ ทีนี้กลับมาที่ของเรากันดีกว่านั่นคือ ถึงกบ.
มาอ่านข้อความการแปลงร่างเป็นกบอย่างละเอียด: "สิ่งมีชีวิตเป้าหมายจะสูญเสียความสามารถทั้งหมดและกลายเป็นกบสีน้ำเงินที่มีพลังพื้นฐานและความแข็งแกร่ง 1/1 จนกระทั่งจบเทิร์น"
มาแบ่งเอฟเฟกต์ออกเป็นส่วนประกอบกัน:
โดยรวมแล้วเราจะเห็นว่าเอฟเฟกต์ของแผนที่นี้ถูกนำไปใช้กับ 4 เลเยอร์ที่แตกต่างกัน เริ่มจากจุดเริ่มต้นกันก่อน
ประเภทและสี
เราได้พูดคุยเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนประเภทเมื่อดู Gideon Jura และ Blood Moon และคุณควรจำไว้อยู่แล้วว่าเอฟเฟกต์ที่ตั้งค่าประเภทย่อยจะเขียนทับประเภทย่อยทั้งหมดที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ เว้นแต่ข้อความของเอฟเฟกต์จะระบุว่ามีการตั้งค่าประเภทย่อยเพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิม การแปลงร่างเป็นกบไม่มีข้อบ่งชี้เช่นนั้น ซึ่งหมายความว่า เช่นเดียวกับในกรณีของ Blood Moon เราจะต้องติดอาวุธให้ตัวเองด้วยยางลบและดินสอ
เอฟเฟ็กต์ที่ตั้งค่าสีจะทำงานเหมือนกับเอฟเฟ็กต์ที่เปลี่ยนประเภททุกประการ นั่นเป็นเหตุผลที่เราพูดถึงเอฟเฟกต์ทั้งสองพร้อมกัน
โปรดทราบว่าการให้สิ่งมีชีวิตประเภทย่อยกบ (ซึ่งเป็นประเภทสิ่งมีชีวิต) จะไม่ส่งผลกระทบต่อประเภทการ์ดหรือประเภทพิเศษ และแน่นอนว่าจะไม่เปลี่ยนชื่อถาวร
เห็นได้ชัดว่าการทาเป็นสีน้ำเงินจะไม่เปลี่ยนค่ามานาของการ์ด
Nexus ที่ "มีชีวิต" ของ Blackmole จะยังคงอยู่ทั้ง Earth และ Artifact จะได้รับประเภทย่อย Frog จะถูกทาใหม่เป็นสีน้ำเงิน และจะสูญเสียความสามารถทั้งหมด
หากผู้รับใช้ของจิตรกรปรากฏตัวในสนามรบหลังจากใช้เอฟเฟกต์การแปลงร่างเป็นกบ มันจะเพิ่มสีที่เลือกให้กับสิ่งมีชีวิตกบ
การลิดรอนความสามารถ
“ เพื่อที่จะขายของที่ไม่จำเป็นคุณต้องซื้อของที่ไม่จำเป็นก่อน” ลุงฟีโอดอร์กล่าวและเขาพูดถูกอย่างไม่ต้องสงสัย คุณสามารถกีดกันความสามารถได้ก็ต่อเมื่อสิ่งมีชีวิตนั้นมีอยู่เท่านั้น สิ่งมีชีวิตอาจมีความสามารถเหล่านี้ในตอนแรก หรืออาจได้รับเอฟเฟกต์จากมัน
ทฤษฎีเล็กน้อย:
เอฟเฟกต์จะทำให้สิ่งมีชีวิตมีความสามารถหากข้อความมีคำว่า "ได้รับ" หรือ "มี"
นอกจากความสามารถแล้ว สิ่งมีชีวิตยังสามารถมีลักษณะเฉพาะ (เช่น สี) และคุณลักษณะที่เปลี่ยนแปลงเกมได้ (เช่น ไม่สามารถบล็อกได้หรือเป็นสัตว์ประหลาด) ผลกระทบในการกำหนดความสามารถจะแสดงออกมาอีกนัยหนึ่ง: "[ถาวร] คือ [ค่าสถิติ]" ในภาษาอังกฤษใช้กริยา "is"
และตอนนี้สิ่งสำคัญ:
หากวัตถุ "ได้รับ" หรือ "มี" ความสามารถ ความสามารถนั้นก็สามารถถูกลบออกได้ด้วยเอฟเฟกต์อื่น หากเอฟเฟกต์กำหนดคุณลักษณะของวัตถุ มันจะไม่ได้ให้ความสามารถแก่วัตถุ ดังนั้นไม่สามารถลบออกได้ด้วยเอฟเฟกต์การลบความสามารถ
กระดาษแข็งแผ่นถัดไปนำมาซึ่งความประหลาดใจ ผลลัพธ์ของการแปลงร่างเป็นกบสำหรับ Infernal Thundercracker จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่า Infernal Thundercracker เข้าสู่สนามรบเนื่องจาก Unearth หรือไม่
ปฏิสัมพันธ์ของเอฟเฟกต์ที่ให้และดึงความสามารถออกไป
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อวัตถุเดียวกันได้รับผลกระทบจากทั้งเอฟเฟกต์การให้ความสามารถและการลบความสามารถ? ในกรณีนี้ สิ่งที่สำคัญก็คือว่าเอฟเฟกต์หนึ่งจะขึ้นอยู่กับอีกเอฟเฟกต์หนึ่งหรือไม่
ทฤษฎีเล็กน้อย:
613.7a เอฟเฟกต์หนึ่งกล่าวกันว่าขึ้นอยู่กับอีกเอฟเฟกต์หนึ่ง ถ้า (a) ถูกใช้บนชั้นเดียวกัน (หรือชั้นย่อย) กับเอฟเฟกต์อื่น (ดูกฎข้อ 613.1 และ 613.3) (b) การใช้เอฟเฟกต์อื่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง:
- ข้อความของข้อความแรกหรือ
- การมีอยู่ของสิ่งแรกหรือ
- มันใช้กับอะไรหรือ
- เมื่อใช้ทำอะไร;
และ (c) ถ้าทั้งสองอย่างไม่ได้รับผลกระทบจากความสามารถในการกำหนดสถิติหรือทั้งสองอย่างเป็นผลจาก HC
มิฉะนั้นจะถือว่าเอฟเฟกต์เป็นอิสระจากกัน
การประทับเวลา
ในการแข่งขันเอฟเฟกต์อิสระที่อยู่ในเลเยอร์เดียวกัน เอฟเฟกต์ที่มีการประทับเวลาล่าสุดจะเป็นผู้ชนะ
ทฤษฎีเล็กน้อย:
- สำหรับเอฟเฟกต์จากความสามารถคงที่ การประทับเวลาจะตรงกับการประทับเวลาของออบเจ็กต์ที่ความสามารถนั้นเปิดอยู่ หรือการประทับเวลาของเอฟเฟกต์ที่สร้างความสามารถ แล้วแต่ว่าเหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นในภายหลัง
- สำหรับถาวร การประทับเวลาคือเวลาที่เข้าสู่สนามรบ (โดยการพลิกหน้าขึ้น/ลงหรือการแปลงร่าง ถาวรจะได้รับการประทับเวลาใหม่)
- สำหรับออร่า อุปกรณ์ และป้อมปราการ การประทับเวลาจะได้รับการอัปเดตทันทีที่แนบไปกับวัตถุ
- สำหรับเอฟเฟกต์ที่สร้างขึ้นเมื่อคาถาและความสามารถได้รับการแก้ไข การประทับเวลาคือช่วงเวลาที่ถูกสร้างขึ้น
ตัวอย่างเช่น,
- การประทับเวลาของเอฟเฟกต์ของ Akroma Memorial จะเท่ากับการประทับเวลาของ Akroma Memorial นั่นเอง กล่าวคือ ทันทีที่เขาเข้าสู่สนามรบ
- สำหรับการอุปถัมภ์ความเป็นเลิศนั้นการประทับเวลาจะถูกตั้งค่าในเวลาที่แนบกับวัตถุ
- และสำหรับเอฟเฟกต์ของ Unclean Strike นี่คือเวลาการแก้ไขของ Unclean Strike
หากคู่ต่อสู้เจ้าเล่ห์เปลี่ยนสิ่งมีชีวิตที่คุณชื่นชอบให้กลายเป็นกบ แล้วคุณนำ Akroma Memorial เข้าสู่สนามรบ กบผู้เป็นที่รักไม่แพ้กันก็จะเรียนรู้ที่จะบินและรับความสามารถอื่น ๆ ทั้งหมดที่ Akroma Memorial มอบให้
ด้วยการเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตที่ได้รับมนต์เสน่ห์จากการอุปถัมภ์ของความเป็นอยู่มากเกินไปให้กลายเป็นกบ เราจะสูญเสียความสามารถทั้งหมดของมัน ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตนั้นจะเป็นสีน้ำเงินหรือไม่ก็ตาม ออร่ามีการประทับเวลาที่เก่ากว่า ซึ่งหมายความว่าเอฟเฟกต์จะมีผลก่อน จากนั้นความสามารถทั้งหมดจะถูกลบ
หากคุณทำให้สิ่งมีชีวิตของคุณติดเชื้อโดยใช้ Unclean Strike และคู่ต่อสู้เจ้าเล่ห์เปลี่ยนสิ่งมีชีวิตนั้นให้กลายเป็นกบ กบตัวนั้นก็จะไม่มีการติดเชื้อ เอฟเฟกต์ Polymorph ที่มีการประทับเวลาล่าสุดกว่าจะชนะ
เราจะไม่เจาะลึกเข้าไปในป่าของเอฟเฟกต์ที่ต้องพึ่งพา แต่ฉันจะยังคงยกตัวอย่างหนึ่งตัวอย่าง
โปรดทราบว่าการแปลงร่างเป็นกบไม่ได้ยกเลิกความสามารถที่ถูกกระตุ้นหรือเปิดใช้งานแล้ว: