ยาวตามเส้นทางสัตว์ในป่าที่เต็มไปด้วยหิมะ เส้นทางของสัตว์นำไปสู่ที่ไหน?
เส้นทางของสัตว์นำไปสู่ที่ไหน?
สัตว์ต่างๆ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง และสัตว์มีกระดูกสันหลังที่เคลื่อนไหวเป็นเวลานานในทิศทางเดียวกันก่อตัวเป็นเส้นทาง ด้านล่างนี้เราจะพูดถึงเส้นทางของสัตว์เป็นหลักซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาและสังเกตได้ชัดเจนที่สุด มันอยู่กับพวกเขาที่ตัวติดตามต้องจัดการ
จุดประสงค์ของเส้นทางนั้นแตกต่างกัน โดยปกติแล้วเส้นทางจะเชื่อมโยงกับโภชนาการของสัตว์ที่สร้างและผู้ที่ใช้พวกมันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
หลายคนเคยเห็นเส้นทางที่สะอาดและมองเห็นได้ชัดเจนไปในทิศทางที่แตกต่างจากจอมปลวกรูปกรวยของมดไม้แดง คุณสามารถสังเกตได้ว่ามดวิ่งตามพวกมันอย่างเร่งรีบและกระวนกระวายใจไม่ว่าจะตัวเดียวหรือเป็นกลุ่มหรือเป็นกระแสต่อเนื่องไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งโดยมักมีเหยื่อหรือกิ่งไม้แห้งซึ่งทำหน้าที่เป็นวัสดุก่อสร้างในการซ่อม จอมปลวก. มดดำทำเส้นทางเดียวกัน โครงสร้างใต้ดินของพวกมันมีทางออกออกไปด้านนอกในรูปแบบของรูที่ด้านบนของการดีดตัวของดินรูปทรงกรวย บางครั้งหลุมดังกล่าวก็เกิดขึ้นในยางมะตอยด้วยซ้ำ เส้นทางที่เห็นได้ชัดเจนไปจากนั้น - สะอาดราวกับถูกกวาดริบบิ้นบนพื้นผิวของดินและบางครั้งบนพื้นผิวของยางมะตอย เมื่ออยู่ห่างจากหลุมระยะหนึ่งเส้นทางจะชัดเจนน้อยลงแล้วหายไป
เส้นทางที่พบบ่อยที่สุด จำนวนมาก และมองเห็นได้คือเส้นทางของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เครือข่ายเส้นทางที่หนาแน่นบนพื้นผิวดินตลอดจนในส่วนลึกนั้นถูกสร้างขึ้นโดยสัตว์ฟันแทะที่มีลักษณะคล้ายหนูเช่นหนูนาประเภทต่าง ๆ หนูหนูเลมมิ่ง ฯลฯ ในฤดูหนาวเส้นทางดังกล่าวถูกสร้างขึ้นโดย สัตว์ฟันแทะชนิดเดียวกันบนพื้นผิวดินภายใต้หิมะปกคลุมรวมถึงในหิมะด้วย
รูตุ่นซึ่งบางครั้งเจาะทะลุชั้นผิวโลกอย่างหนาแน่นนั้นเป็นเส้นทางใต้ดินที่เจ้าของใช้เพื่อรวบรวมอาหารเป็นหลัก - ไส้เดือน, ตัวอ่อนของแมลง ฯลฯ ในฤดูหนาว ตัวตุ่นก็ขุดหลุมในหิมะด้วย หนูน้ำหรือท้องนาน้ำก็เคลื่อนที่ผ่านโพรงที่มันสร้างไว้ในดินเช่นกัน รูเหล่านี้ทำหน้าที่ให้เธอค้นหาอาหาร แต่เธอใช้อาหารจากพืชต่างจากตัวตุ่น
ที่ใดมีสัตว์มากมาย ย่อมมีทางหลายทางเสมอ ยิ่งสัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นมีขนาดใหญ่เท่าใด เส้นทางก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น ส่วนใหญ่จะสั้น - 50-100 น้อยกว่า 200 ม. ปลายของมันแยกออกเหมือนกิ่งก้านของต้นไม้ที่แผ่ออกและหายไป
โดยทั่วไปแล้ว เส้นทางจะเกิดขึ้นเมื่อสัตว์เข้าใกล้จากที่พักค้างคืนหรือที่พักไปยังพื้นที่ให้อาหารของพวกมัน ในระหว่างการแทะเล็ม สัตว์จะไม่ยึดติดกับทิศทางใดทิศทางหนึ่งอีกต่อไปและเส้นทางจะหายไป แบดเจอร์, บ่าง, โกเฟอร์, หนูเจอร์บิลและสัตว์อื่น ๆ ที่ขุดที่พักพิงถาวรในพื้นดิน - หลุมยาวไม่มากก็น้อยพร้อมห้องสำหรับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ออกจากหลุมเพื่อค้นหาอาหารตามเส้นทางที่พวกมันค่อยๆเหยียบย่ำ ในระยะหนึ่งจากทางเข้าสู่หลุม เส้นทางจะแตกแขนงออกไปไม่เด่นชัดแล้วหายไป นอกจากเส้นทางเหล่านี้แล้ว สัตว์บางชนิดที่มีที่พักพิงบนพื้น เช่น แบดเจอร์และสุนัขแรคคูน ยังมีเส้นทางที่ทอดจากหลุมไปยัง "ส้วม" ซึ่งพวกมันจะเข้าไปเยี่ยมชมอย่างเป็นระบบและเป็นที่ที่มูลของพวกมันสะสมอยู่
สัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์มีกระดูกสันหลัง มีลักษณะการอพยพตามฤดูกาล แต่โดยธรรมชาติแล้วปลาจะไม่ทิ้งร่องรอยไว้ระหว่างการย้ายถิ่น เช่นเดียวกับนกและปลาวาฬ เห็นได้ชัดว่าสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำและสัตว์เลื้อยคลานไม่ได้อพยพตามฤดูกาลเป็นเวลานาน และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำและสัตว์เลื้อยคลานที่มีลักษณะเฉพาะคือการอพยพ (เช่น เต่าทะเล) ก็ไม่ทิ้งร่องรอยไว้เช่นกัน สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง โดยส่วนใหญ่เป็นแมลงบางชนิด สามารถอพยพเป็นเวลานานและสามารถตรวจจับได้ด้วยสายตาขณะบิน แต่เมื่อพวกเขานั่งกินข้าวก็ทิ้งร่องรอยไว้ (แทะ มูลสัตว์) เช่น ตั๊กแตน หลังจากผีเสื้ออพยพพักผ่อน ปีกของพวกมันมักจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เนื่องจากมีนกและสัตว์อื่นกินเป็นจำนวนมาก
การอพยพของสัตว์ตามฤดูกาลมักเกิดขึ้นตามเส้นทางบางเส้นทางซึ่งมีเส้นทางเกิดขึ้น ในแอฟริกา การอพยพของช้างได้ผ่านสถานที่เดียวกันเป็นเวลาหลายร้อยหรือหลายพันปี ซึ่งสามารถตัดสินได้จากความลึกของเส้นทางและความแข็งของดินที่ช้างวาง โดยวิธีการวางเส้นทางในป่าช้างอำนวยความสะดวกในการเจาะและการเคลื่อนไหวของสัตว์กีบเท้าขนาดเล็กและใหญ่จำนวนมากซึ่งในขณะเดียวกันก็ช่วยสนับสนุนและทำให้เส้นทางลึกขึ้น ช้างมีบทบาทเช่นเดียวกันในทุ่งหญ้าสูงหนาแน่น สัตว์กีบเท้าแอฟริกันก็อพยพเช่นกัน
ในยุโรปเหนือ เอเชีย และอเมริกา กวางเรนเดียร์เป็นที่รู้จักจากการอพยพตามฤดูกาล เส้นทางการอพยพของพวกเขามักจะเหมือนกันทุกปี บางแห่งก็กว้าง บางแห่งก็แคบ แต่ภายในเส้นทางอพยพที่กว้างไม่มากก็จะมีทางเดินในสถานที่ที่มีสิ่งกีดขวางน้อยกว่าและมีดินที่ดีกว่าสำหรับการเดิน
สิ่งเดียวกันอาจกล่าวได้เกี่ยวกับการอพยพครั้งใหญ่ตามฤดูกาลของละมั่งไซกา
ในป่าของเรามีเส้นทางสัตว์ยาวที่มีอยู่และใช้งานมานานนับสิบหรือหลายร้อยปี พวกมันนำไปสู่โป่งเกลือตามธรรมชาติ ในพื้นที่แห้งจะมีการวางเส้นทางดังกล่าวไว้ในรูรดน้ำที่สะดวก
บางครั้ง เมื่อผ่านไปในพื้นที่ภูเขา คนๆ หนึ่งก็พบกับรอยทางของสัตว์ ซึ่งทิศทางในตอนแรกมักสอดคล้องกับทิศทางที่เขาเดินไป การเดินไปตามเส้นทางของสัตว์นั้นง่ายกว่าการเดินบนดินบริสุทธิ์มากและคน ๆ หนึ่งก็รับไป จากนั้นเมื่อถึงจุดหนึ่งเส้นทางก็พลิกผันอย่างกะทันหันและนักเดินทางอาจดูเหมือนไม่ได้ไปในที่ที่เขาต้องการไม่ใช่ทางผ่าน เขาออกจากเส้นทางเพื่อรักษาทิศทางที่เขาต้องการ และในไม่ช้ามักจะไปอยู่ในป่าทึบที่ไม่สามารถผ่านได้ หนองน้ำ หรือเผชิญกับอุปสรรคอื่น ถ้าเขามีความรอบคอบและประสบการณ์มากพอ เขาก็ออกไปสู่เส้นทางของสัตว์อีกครั้งและไปถึงทางนั้นอย่างปลอดภัย การเปลี่ยนแปลงทิศทางของเส้นทางเดินของสัตว์มักเกิดจากการที่มันข้ามสิ่งกีดขวางที่นี่
ครั้งหนึ่งในขณะที่ทำการวิจัยทางตะวันตกเฉียงใต้สุดของดินแดน Primorsky เราต้องย้ายจากแอ่งแม่น้ำ Ananyevka ไปยังแอ่งน้ำ ภูเขา. เมื่อต้องการทำเช่นนี้ จำเป็นต้องข้ามสันปันน้ำที่มีสันเขาหินสูง เมื่อรู้จากนักล่าในท้องถิ่นว่าเป็นไปได้ที่จะข้ามสันปันน้ำได้ในที่เดียวเท่านั้น เราจึงพยายามค้นหาสถานที่แห่งนี้มาเป็นเวลานานและไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ก็เจอหินแนวดิ่งที่แทบจะผ่านไม่ได้อยู่ตลอดเวลา มีเพียงการใช้เส้นทางกวางซิก้าเท่านั้นที่เราจะสามารถค้นหาเส้นทางที่ต้องการได้
ในฤดูใบไม้ร่วง สัตว์ป่าหลายชนิดพยายามสะสมไขมันมากขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฤดูหนาว นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้เวลาช่วงฤดูหนาวในการจำศีล ตัวอย่างเช่น ทางตอนใต้ของตะวันออกไกล หมีสีน้ำตาลหากินในฤดูร้อนบนทุ่งเบอร์รี่บนที่ราบสูงของ Sikhote-Alin จากนั้นพวกเขาก็ลงไปในป่าซีดาร์และต้นโอ๊กซึ่งพวกมันจะขุนขึ้นเป็นเวลา 1.5 - 2 เดือน สัตว์ต่างๆ เดินช้าๆ ไปยังพื้นที่ให้อาหาร โดยใช้เส้นทางสั้นๆ โดยมองหาพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารเป็นพิเศษขณะที่พวกมันเดินไป ผู้ใหญ่ แม่ และลูกๆ สามารถมารวมตัวกันที่นี่ได้ การกระจายตัวของหมีในแต่ละพื้นที่ - อาณาเขตของหมีในช่วงเวลาอื่นของปี - หยุดชะงักในช่วงเวลานี้ สัตว์เหล่านี้ไม่แสดงท่าทีก้าวร้าวต่อกัน แต่ให้ความสำคัญกับสิทธิในการมีแหล่งอาหารมากที่สุด และพยายามหลีกเลี่ยงซึ่งกันและกันในขณะที่อยู่ใกล้ๆ กัน
ในฤดูใบไม้ร่วงหรือต้นฤดูหนาวที่เริ่มมีอากาศหนาวเย็นหรือมีหิมะปกคลุมหนา สัตว์ต่างๆ จะกลับมาที่บริเวณด้านบนของภูเขาอย่างเป็นเอกฉันท์ ไปยังพื้นที่ของถ้ำที่เลือกและเตรียมไว้ล่วงหน้าภายใน ไม่กี่วัน ขณะนี้หมีเดินไปตามเส้นทางที่ใช้เส้นทางที่สั้นที่สุดไปยังบริเวณถ้ำ สัตว์อื่นๆ ก็เคลื่อนตัวไปตามเส้นทางเหล่านี้ตลอดทั้งปี
เส้นทางในชีวิตของนักล่าขนาดใหญ่ที่ไม่จำศีลในช่วงฤดูหนาวมีความสำคัญไม่น้อย ดังนั้นจากการสังเกตของผู้เขียนคนหนึ่ง D. G. Pikunov เสือโดยไม่คำนึงถึงอายุและเพศใน 80 - 90% ของกรณีวางเส้นทางไปตามถนนหรือตามเส้นทางสัตว์เก่าแก่ เมื่อล่าสัตว์เท่านั้นจึงจะสามารถเคลื่อนที่ออกนอกเส้นทางได้ อย่างไรก็ตาม เสือชอบค้นหาเหยื่อขณะเคลื่อนที่ไปตามเส้นทาง บางครั้งบางส่วนของเส้นทางอาจมีสัตว์เพียงตัวเดียวใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นกรณีที่ผู้ล่าผ่านไปหลายครั้งเพื่อนอนราบหรือหาที่กำบัง ตามเส้นทางอื่นๆ เช่น ทอดยาวไปตามหุบเขายาวหรือสันเขาสันปันน้ำ มีตัวผู้และตัวเมียที่มีลูกเสือเดินอยู่ ผู้หญิงคนเดียวเดินตามหลังไปหลายกิโลเมตร บางครั้งชายหนุ่มก็ปรากฏตัวบนเส้นทางเดียวกัน แต่เขาพยายามหลีกเลี่ยงการพบปะกับชายที่เป็นผู้ใหญ่
สำหรับเสือซึ่งมีวิถีชีวิตสันโดษเป็นส่วนใหญ่ จุดประสงค์หลักของเส้นทางนี้คือการสื่อสารทางอ้อมระหว่างบุคคล พวกเขายังต้องมีเส้นทางเพื่อเข้าถึงพื้นที่ให้อาหาร แหล่งรดน้ำ สถานที่พักผ่อน ฯลฯ ได้อย่างสะดวก สำหรับสัตว์ที่ดำเนินชีวิตแบบฝูง จุดประสงค์หลักของเส้นทางคือเพื่อใช้เป็นวิธีที่สะดวกในการตอบสนองความต้องการที่สำคัญของพวกมัน (การเล็มหญ้า รดน้ำในหลุม โป่งเกลือ พื้นที่ที่เป็นร่อง)
เป็นที่รู้กันว่าสัตว์หลายชนิดโดยเฉพาะในฤดูหนาวชอบเดินไปตามถนนและเส้นทางที่มนุษย์สร้างขึ้น อย่างไรก็ตาม เส้นทางของมนุษย์เหล่านี้ขึ้นอยู่กับเส้นทางของสัตว์ ในตอนแรกพวกมันถูกวางโดยสัตว์ในสถานที่ที่สะดวกต่อการเคลื่อนไหวมากที่สุด อุดมไปด้วยอาหาร มีแอ่งน้ำ บ่อโคลน ลมพัดแรง และบริเวณที่มีคนอยู่น้อยกว่า สถานที่เหล่านี้ยังสะดวกสำหรับรัง ที่อยู่อาศัย และรังที่จำเป็นสำหรับการสืบพันธุ์ของลูกหลานอีกด้วย ครั้นมีชายคนหนึ่งมายังสถานที่เหล่านี้ เขาล่าสัตว์ ตกปลา และทำงานฝีมืออื่นๆ เส้นทางกลายเป็นเหมือนไม่ใช่สัตว์อีกต่อไป แต่เป็นมนุษย์ จากนั้นเส้นทางก็กลายเป็นถนนที่คุณสามารถเลื่อนไปบนเลื่อนหรือเกวียนได้
มีหลายเส้นทางที่หมูป่าตัวเมียทำกับลูกหมูตั้งแต่สายโซ่ไปจนถึงแหล่งหาอาหารไปจนถึงลำธารที่พวกมันดื่ม ในถิ่นที่อยู่ของหมูป่ามีต้นไม้ที่พวกเขารักซึ่งพวกมันคัน “หวี” เหล่านี้สามารถใช้ได้โดยหมูป่าเป็นเวลาหลายปีและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก (ดูรูปที่ 99) เส้นทางที่มีเครื่องหมายชัดเจนนำไปสู่พวกเขา
บางครั้งหมีเหยียบย่ำเส้นทางชั่วคราวซึ่งหลังจากฆ่าสัตว์ใหญ่หรือพบซากศพแล้วเดินไปหาเหยื่อจนกว่ามันจะกินหมด (ดูรูปที่ 115)
การอพยพตามฤดูกาลมีความสำคัญต่อสัตว์ทั้งในด้านอาหารและการผสมพันธุ์ หากพวกเขาขาดความสามารถในการอพยพ สิ่งนี้อาจนำไปสู่การสูญพันธุ์ได้ อย่างไรก็ตาม บางครั้งมันก็เกิดขึ้นที่ผู้คนสร้างถนน ท่อส่งน้ำมันและก๊าซ ปิดกั้นเส้นทางการอพยพของสัตว์ สิ่งนี้เกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้างถนนและคลองที่ตัดผ่านเส้นทางอพยพของ Saigas ความต้องการของสัตว์ไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาในระหว่างการก่อสร้าง BAM การแก้ไขข้อผิดพลาดนั้นยากกว่าการป้องกัน แต่ต้องแก้ไขในนามของการอนุรักษ์ธรรมชาติ
เมื่อเดินทางผ่านสถานที่ที่เป็นป่าและมีประชากรเบาบาง (โดยมนุษย์) คุณต้องเรียนรู้วิธีใช้เส้นทางเดินของสัตว์
คุณคิดว่าใครเป็นผู้วางเส้นทางหรือถนนสำหรับคาราวานอูฐในทะเลทราย? โดยทั่วไปแล้วคาราวานเดินทางในทะเลทรายท่ามกลางเนินทรายที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้อย่างไร? ปรากฎว่าทุกอย่างง่ายมาก คาราวานจำเป็นต้องมีไกด์ลาหลายคนซึ่งนำทั้งคาราวานอูฐและคาราวานไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุดบ่อน้ำหรือโอเอซิสตลอดทาง ขั้นแรกลาถูกพาไปตามเส้นทางคาราวานด้วยกำลังจากนั้นลาเองก็เดินไปตามเส้นทางนี้ไปตามเส้นทางที่สั้นที่สุดและสะดวกที่สุด
เมื่อเดินทางผ่านสถานที่ที่เป็นป่าและมีประชากรเบาบาง (โดยมนุษย์) คุณต้องเรียนรู้วิธีใช้เส้นทางเดินของสัตว์ แทนที่จะหักขาฝ่าพุ่มไม้และโชคลาภ การค้นหาเส้นทางที่เหมาะสมตามภูมิประเทศจะง่ายกว่าและไปถึงที่ที่ต้องการโดยไม่มีปัญหาใดๆ และสิ่งนี้ไม่เพียงใช้กับการเคลื่อนไหวในไทกาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพื้นที่ป่าอื่น ๆ ด้วย สัตว์ในท้องถิ่น: กระต่าย กวาง หมูป่า หมีและอื่น ๆ คุ้นเคยกับพื้นที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่เป็นอย่างดี และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้วางเส้นทางของพวกเขาในสถานที่ที่สะดวกที่สุดสำหรับการเคลื่อนย้าย จำเป็นต้องวางเส้นทางสัตว์ตามริมฝั่งแม่น้ำทะเลสาบตามแนวภูเขาและทางผ่านหนองน้ำและป่าทึบที่ผ่านเข้าไปไม่ได้ มักจะมีเส้นทางดังกล่าวหลายเส้นทางและตั้งอยู่ขนานกัน
เส้นทางของสัตว์ที่ข้ามไปอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ (ลำธาร) ไม่ได้บ่งบอกถึงเส้นทางที่สะดวกสำหรับมนุษย์เสมอไป แต่เป็นเส้นทางของบีเว่อร์ นาก แบดเจอร์ กระต่าย ฯลฯ แม้ว่าพวกมันจะกว้างกว่าและเหยียบย่ำกว่าหมีและกวาง แต่ก็ไปได้ไม่ไกลและเพื่อไม่ให้หลงทางในต้นสนสามต้นเรามักจะต้องกำหนดเส้นทางตามรอยเท้าของเจ้าของเส้นทาง ในทางกลับกัน เส้นทางบีเวอร์ที่ปูอย่างดีบ่งบอกถึงความใกล้ชิดของแหล่งน้ำอื่นหรือโอกาสที่จะกระโดดตรงผ่านโค้งในแม่น้ำ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์กับนักเดินทางไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง นากชอบที่จะ "ยืด" แม่น้ำคดเคี้ยวด้วยเส้นทางและหากนักเดินทางเดินไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยวใช้เส้นทางดังกล่าวเขาจะทำให้เส้นทางของเขาสั้นลงอย่างมาก
สัตว์ในท้องถิ่นทุกตัวใช้เส้นทางของสัตว์ และมักจะเป็นการยากที่จะระบุได้ว่าเส้นทางเหล่านี้เป็นของใครและสัตว์ชนิดใดที่ใช้เส้นทางเหล่านี้บ่อยกว่า เราต้องใช้เส้นทางตามตรรกะของตนเองและความต้องการหรือผลประโยชน์เฉพาะของตนเองเนื่องจากเส้นทางนี้ยังสามารถนำนักเดินทางไปสู่โป่งเกลือ บึงกวาง ถ้ำ รูรดน้ำ อาบน้ำที่มีโคลนบำบัดโดยเฉพาะไปยังป้อมปราการ (โพรง ) ของสัตว์บางชนิด ฯลฯ .d.
ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน สามารถใช้โป่งเกลือธรรมชาติเพื่อสกัดเกลือแกงได้ ที่ทะเลสาบกวางเรนเดียร์ กวางตัวเมียและกวางหนุ่ม (แดง) พักผ่อนจากคนกลางในสายลม (ชั่วนิรันดร์) และจากการถูกโจมตีโดยผู้ล่า นักเดินทางบนทะเลสาบกวางสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบได้อย่างชัดเจนและยังสามารถหลบหนีจากฝูงสัตว์ได้อีกด้วย แต่เส้นทางบางเส้นทางจากทะเลสาบกวางอาจไม่สามารถใช้ได้สำหรับมนุษย์ ในถ้ำที่สะดวกสบาย คุณสามารถรอสภาพอากาศเลวร้าย หรือแม้กระทั่งจัดบ้านชั่วคราวที่สะดวกสบาย...
เส้นทางที่สะดวกที่สุดสำหรับการเดินทางบนภูมิประเทศที่ขรุขระคือเส้นทางที่วิ่งไปตามแม่น้ำใกล้ชายฝั่งโดยตรงหรือในที่ราบลุ่มตามแนวสันเขา แต่เส้นทางเหล่านี้มักจะเดินตามโค้งแม่น้ำ (และสันเขา) ดังนั้นจึงเป็นเส้นทางที่ยาวที่สุด เส้นทาง “บน” ที่วิ่งไปตามยอดเขาเตี้ยๆ หรือตลิ่งสูง ริมแม่น้ำสายเดียวกัน แม้จะสั้นที่สุด มีลมมากกว่า และมียุงน้อยกว่า แต่ก็มีขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าในกรณีใด วิธีนี้ดีกว่าการเดินผ่านพุ่มไม้ เศษหิน หรือกระโดดบนก้อนกรวดท่ามกลางหินกรวด
ข้อควรระวังเป็นพิเศษเมื่อข้ามพื้นที่แอ่งน้ำ หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงหนองน้ำที่เป็นอันตรายจะดีกว่า เส้นทางเดินของสัตว์ยังสามารถพาคุณไปยังหนองน้ำได้โดยมีทางเดินผ่านหนองน้ำที่ชัดเจน แต่เราต้องไม่ลืมว่ากวางและกวางเคลื่อนผ่านบริเวณหนองน้ำได้ง่ายอย่างน่าประหลาดใจ และที่ซึ่งสัตว์เหล่านี้ผ่านไป บุคคลยังคงต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเดินผ่านหนองน้ำ คุณจะต้องนำเสาที่แข็งแรงสูงสามถึงสี่เมตรติดตัวไปด้วย พวกเขาใช้เสาเพื่อสัมผัสถึงก้นเส้นทางและพิงเสาเมื่อปีนออกจากหล่ม
คุณต้องระมัดระวังเมื่อข้ามแม่น้ำบนน้ำแข็งตามรอยสัตว์ สำหรับหมีและกวางตัวเดียวกัน การว่ายน้ำในน้ำเย็นจัดเป็นเรื่องปกติ และเมื่อมองด้วยสายตาแล้ว เราไม่สามารถระบุได้จากรางรถไฟเสมอไปว่าสัตว์ตัวหนึ่งผ่านไปหรือว่ายผ่านส่วนนี้หรือส่วนนั้นของอ่างเก็บน้ำ ดังนั้นการใช้เสาเดียวกันจึงต้องตรวจสอบความลึกของอ่างเก็บน้ำที่จุดข้ามเสียก่อน การใช้เส้นทางของสัตว์กึ่งสัตว์น้ำเพื่อข้ามแหล่งน้ำบนน้ำแข็งนั้นไม่ใช่เรื่องฉลาดเลย แต่ก็ชัดเจนว่าทำไม
บนภูเขาที่เดินไปตามเส้นทางของสัตว์ คุณอาจไปพบกับกองหิมะหรือรอยแตกที่เต็มไปด้วยหิมะในธารน้ำแข็ง เห็นได้ชัดว่าสัตว์เหล่านี้รู้สึกถึงช่องว่างของรอยแตกและกระโดดข้ามพวกมันไป หิมะหรือลมเพียงเล็กน้อยสามารถบดบังเส้นทางได้มากจนมองไม่เห็นจุดที่สัตว์กระโดดไป
และสุดท้ายก็มีอารมณ์ขันเล็กน้อย
นากเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างร่าเริงและชอบกลิ้งตัวไปตามเนินดินเหนียวเหมือนสไลด์ลงไปในน้ำ มันเกิดขึ้นที่สไลเดอร์เริ่มต้นค่อนข้างสูงล้อมรอบด้วยพืชพรรณหนาทึบและไม่ได้ลงไปทันที แต่ดูเหมือนเป็นเส้นทางที่ถูกเหยียบย่ำมาก นอกจากนี้ “สไลด์แสนสนุก” นี้เริ่มต้นด้วยเส้นทางจริง เผลอไปปะปนทาง ลื่นไถลบนดินเหนียวเปียก ไม่ใช่ปัญหา แล้ว...
อย่างไรก็ตามในฤดูหนาวนากมักจะย้ายจากแหล่งน้ำหนึ่งไปอีกแหล่งหนึ่ง คุณไม่สามารถสร้างความสับสนให้กับเส้นทางของนากท่ามกลางหิมะลึกได้ นากส่วนใหญ่พยายามไถลไปบนหิมะ ขาของมันแข็งแรงแต่สั้น ดังนั้นตามเส้นทางนาก คุณสามารถไปยังแหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุดได้ด้วยวิธีที่สั้นและสะดวกที่สุด อย่างน้อยก็ไปถึงที่ที่เธอจากมา อย่างน้อยก็ไปยังที่ที่เธอกำลังจะไป
เมื่อเดินผ่านไทกาให้เลือกเส้นทางที่ง่ายและสะดวกที่สุด คุณสามารถกำหนดเส้นทางของคุณไปตามทางลาดชัน ผ่านป่าทึบ และผ่านเศษซากของต้นไม้ที่ผุพังไปครึ่งหนึ่ง แต่ควรมองไปรอบ ๆ และเลือกตัวเลือกที่สะดวกที่สุดจะดีกว่า หากคุณพบรอยเท้าของสัตว์ตรงนั้น แสดงว่าคุณเลือกเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว
ผู้ที่ยึดมั่นในวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีจำนวนมากได้เลือกถนนที่นำไปสู่ AGDS (สถานีจ่ายก๊าซอัตโนมัติ) เกือบจะตั้งแต่วินาทีแรกที่ถูกสร้างขึ้น ซึ่งสมเหตุสมผลมาก: สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจาก Petropavlovsk เพียงไม่กี่กิโลเมตรและในเมืองนั้นไม่มีที่ไหนที่จะขี่จักรยานหรือโรลเลอร์สกีได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกยานพาหนะชน มันเหมือนกับว่าไม่มีที่ไหนให้วิ่งโดยไม่ชดเชยผลประโยชน์ที่คุณได้รับจากพิษจากก๊าซไอเสีย
ถนนแก๊ซพรอมในแง่นี้ไม่ใช่ดินแดนที่สัญญาไว้ด้วย ที่นี่รถก็เยอะเหมือนกัน ท้ายที่สุดแล้ว มีทะเลสาบสองแห่งอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ค่อยสังเกตเห็น ไม่เพียงแต่ในตอนเช้าและระหว่างวัน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ประชาชนในรถมุ่งหน้าไปที่นั่นในความมืดสนิท อย่างไรก็ตาม “นักกีฬา” ในท้องถิ่นที่มีประสบการณ์มากที่สุดจะทราบช่วงที่มีการจราจรหนาแน่นที่สุดบนถนนสายนี้และช่วงเวลาที่พวกเขาสามารถผ่อนคลายได้ สรุป: แม้ว่าเส้นทางนี้จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นกีฬา แต่ก็ยังไม่ได้มีไว้สำหรับกีฬาที่กระตือรือร้น และไม่ทราบว่าเมื่อใดที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาดูแลการก่อสร้างทางลาดยางมะตอยเฉพาะทางยาวหลายกิโลเมตรสำหรับนักปั่นจักรยาน นักวิ่ง นักเดินแข่ง และนักกีฬาสมัครเล่นอื่นๆ อีกทั้งเป็นที่พึงประสงค์ว่าตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองและมีป่าไม้ล้อมรอบ
ในขณะเดียวกันด้วยความพอใจกับสิ่งที่มี นักกีฬาหลายๆ คนก็สังเกตเห็นสิ่งที่น่าสนใจมากมายบนเส้นทางสู่ AGRS มีสุนัขจิ้งจอกวิ่งเล่นอยู่แถวนี้ ซึ่งดูจากพฤติกรรมแล้ว เริ่มคุ้นเคยกับคนแล้ว และกำลังจะพร้อมที่จะรับอาหารจากมือแล้ว มีนกฮูกที่นี่ที่เฝ้าดูนักท่องเที่ยวอย่างอยากรู้อยากเห็นขณะนั่งอยู่บนป้ายถนน ค้างคาวเหินไปในความมืด และกบก็ส่งเสียงร้องอย่างมีพลังและมุ่งหน้าสู่ทะเลสาบ ในที่สุด ไม่นานมานี้ได้ยินเสียงหอนของหมาป่าฝูงใหญ่ที่นี่ ซึ่งยากจะสับสนกับสิ่งอื่นใด แต่เมืองนี้อยู่ใกล้มาก...
สำนักงานป่าไม้และคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งเขตคัมชัตกา แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ค่อนข้างสงบ แท้จริงแล้วหมาป่าพบได้ในละติจูดเหล่านี้ แต่ปรากฏการณ์นี้หายากมากจนผู้เชี่ยวชาญไม่ได้บันทึกร่องรอยของสัตว์ด้วยซ้ำ แต่มีเพียงผู้เห็นเหตุการณ์เท่านั้น สถานที่ที่อยู่อาศัยของหมาป่าใกล้กับ Petropavlovsk มากที่สุดคือทุ่ง Asachinskoye และ Khodutka หมาป่าขั้วโลกอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของคัมชัตกา ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในลักษณะเฉพาะของเสียงหอนของหมาป่าอาจสับสนได้อย่างง่ายดายกับ "การร้องเพลง" ของฝูงสุนัขซึ่งมักถูกทิ้งร้างโดยชาวเมืองในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้เมื่อปรากฎว่าในบริเวณใกล้เคียงมีสถานรับเลี้ยงเด็กของสุนัขลากเลื่อนภาคเหนือทั้งหมด - ประมาณห้าสิบหัวรวมทั้งฮัสกี้ซึ่งมีเลือดหมาป่าไหลอยู่ในเส้นเลือด... ไม่ว่าในกรณีใดนักอนุรักษ์รับรองว่าไม่มีอะไรจะต้องเป็น กลัว: ไม่มีบันทึกกรณีเดียวในการโจมตีหมาป่า Kamchatka ต่อมนุษย์ หมาป่านั้นเข้าสังคมไม่ได้เกินไป ไม่เหมือนหมีด้วยซ้ำ ซึ่งในปีที่ปลาไม่ค่อยออกผลนัก ก็จะไม่ดูหมิ่นสิ่งที่เคลื่อนไหว...
แต่การปรากฏตัวของสุนัขจิ้งจอกก็ไม่น่าแปลกใจ ความจริงก็คือในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาราคาหนังสุนัขจิ้งจอกลดลงอย่างรวดเร็วพวกมันล้าสมัยดังนั้นจำนวนนักล่าสุนัขจิ้งจอกจึงลดลง ปัจจุบัน สัตว์น่ารักตัวนี้ถูกฆ่าเพื่อความสนุกสนานเป็นหลัก ซึ่งไม่ได้หยุดสุนัขจิ้งจอกจากความรู้สึกสงบและขยายถิ่นที่อยู่ของพวกมัน แน่นอนว่าสัตว์เหล่านี้ขี้อาย แต่ความอยากรู้อยากเห็นและความปรารถนาที่จะได้กำไรจากอาหารอร่อยมักจะชนะ ดังนั้น หากคุณพบสุนัขจิ้งจอกบนถนนในป่า คุณอาจสามารถเลี้ยงมันได้เกือบด้วยมือของคุณเอง
ตามที่ผู้เชี่ยวชาญของหน่วยงานระบุ ค้างคาวไม่ควรทำให้เกิดความประหลาดใจมากนัก ในคัมชัตกา มีจำนวนค่อนข้างน้อย แต่กระจายไปทั่วดินแดนเกือบทั้งหมด และพวกเขาชอบสถานที่ที่มีต้นไม้เก่าเน่าหรือไม้ที่ตายแล้วในโพรงที่พวกเขาชอบนอนในเวลากลางวัน หนูมีปีกอาศัยอยู่แม้กระทั่งใน Petropavlovsk และใน Elizovo ก็มีพวกมันจำนวนนับไม่ถ้วน
ต้นกำเนิดของกบในคัมชัตกาทำให้เกิดคำถามบางอย่างในหมู่ผู้เชี่ยวชาญ ใช่ เรามีกบจำนวนมาก แต่ไม่มีใครนับจำนวน เนื่องจากนี่ไม่ใช่งานของเอเจนซี่ และโดยหลักการแล้ว สิ่งเหล่านี้มีประโยชน์สำหรับอะไร ท้ายที่สุดแล้ว เราไม่ได้อยู่ในฝรั่งเศสหรือจีน... แล้วพวกมันมาจากไหน? มีอย่างน้อยสองรุ่น ประการแรก: มีคนพาพวกเขามาที่นี่เพื่อความสนุกสนาน แต่พวกเขาแค่ทวีคูณ เวอร์ชันที่สอง: พวกเขามาที่นี่พร้อมกับคาเวียร์ของปลาคาร์พและปลาคาร์พหญ้าซึ่งตั้งรกรากเป็นพิเศษในทะเลสาบ Khalaktyrskoye เพื่อทำน้ำเสียให้บริสุทธิ์ตามธรรมชาติจาก CHPP-2 และการแพร่กระจายคาเวียร์ไปทั่วส่วนที่เหลือของ Kamchatka ก็เป็นเรื่องง่าย และนี่คือสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข ดังที่คุณทราบ กบเป็นตัวบ่งชี้ความสะอาดของระบบนิเวศในแหล่งน้ำ ซึ่งหมายความว่าในตอนนี้เราสามารถสงบสติอารมณ์เกี่ยวกับวัตถุทางธรรมชาติต่างๆ ของเราได้
กล่าวอีกนัยหนึ่ง การพบปะกับสัตว์เกือบทุกชนิดใน "เส้นทางสุขภาพ" ของ Gazprom ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าพึงพอใจและน่าจดจำ และใครก็ตามที่ฉันไม่อยากเจออย่างยิ่งก็คือหมี นักวิ่งไม่สามารถหนีจากมันได้ นักปั่นจักรยานทำได้เพียงขว้างจักรยานใส่หมีเท่านั้น และไม่มีทางหนีรอดไปได้ ความน่าจะเป็นของการชนกันอันไม่พึงประสงค์คือเท่าไร? นักอนุรักษ์ไม่เคยเบื่อที่จะพูดซ้ำ: Kamchatka ทั้งหมดเป็นดินแดนหมี โดยเฉพาะเมื่อมีป่าอยู่รอบๆ ปีนี้พบรอยตีนหมีในบริเวณใกล้เคียง – ในบริเวณฐานทัพกีฬา Lesnaya มีการเขียนหนังสืออัจฉริยะหลายเล่มและโบรชัวร์และหนังสือเล่มเล็กหลายร้อยเล่มเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตนเมื่อพบกับเจ้าของป่าคัมชัตกา ใครก็ตามที่ความรู้นี้ช่วยได้จะโชคดี
มาเรีย วลาดิมิโรวา
เส้นทางสัตว์
มันเป็นวันที่มีแดดอันอบอุ่น ป่า Ilmen ปกคลุมไปด้วยแมกไม้เขียวขจี กลิ่นใบไม้ที่เน่าเปื่อยและตะไคร่น้ำแห้งจางหายไป ในที่โล่งและที่โล่ง - ที่ซึ่งมีความอบอุ่นและแสงสว่างมากมายพริมโรสก็มีสีสัน
ในช่วงเวลาดังกล่าว คุณคงไม่อยากคิดถึงสงคราม เกี่ยวกับความจริงที่ว่าพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้จะมีการจู่โจมที่อันตรายหลังแนวข้าศึก อย่างไรก็ตาม คุณต้องคิด และไม่เพียงแต่คิดเท่านั้น แต่ยังต้องดึงความสนใจทั้งหมดของคุณ รวมกำลังทั้งหมดของคุณเพื่อค้นหาที่ที่อ่อนแอในแนวป้องกันของศัตรู
Ivan Platonov นั่งอยู่บนเสาสังเกตการณ์ทางด้านขวาของทหารปืนใหญ่ NP ตั้งอยู่บนต้นสนสูงไม่เด่นนักในป่าหนาทึบที่ทอดยาวลงมาตามเนินเขาสูงชันลงสู่ทะเลสาบที่มีหนองน้ำ ผ่านยอดไม้ที่อยู่ข้างหน้า Platonov มองเห็นป่าเล็ก ๆ หนาแน่นที่อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบ และด้านหลังป่าเล็ก ๆ จะเป็นหนองน้ำที่กว้างใหญ่ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงได้ ทางด้านซ้ายของหนองน้ำท่ามกลางพุ่มไม้มีร่องลึกของเยอรมันทอดยาว
ใต้เท้าของอีวานมีทางเดินไม้ที่ผูกไว้กับกิ่งไม้ หลอดสเตอริโอวางอยู่บนหมุดเหล็กที่ยึดเข้ากับลำต้นของต้นสน เช่นเดียวกับจุดชมวิวอื่นๆ หลายร้อยแห่ง ด้วยดวงตาแก้วสองดวง เธอมองออกมาจากด้านหลังลำต้นเหนือยอดไม้
Platonov ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองจากเลนส์ใกล้ตาของขอบเขตสเตอริโอ
ประเด็นที่สามถูกแทนที่ด้วย Platonov ในวันนี้ แต่ยังไม่สามารถหาพื้นที่ที่ไม่มีการป้องกันหรือครอบคลุมน้อยในการป้องกันของนาซี การละลายในฤดูใบไม้ผลิสิ้นสุดลงแล้ว สนามเพลาะและบังเกอร์ของศัตรู รั้วลวดหนาม และทุ่นระเบิดถูกปิดอีกครั้งแบบต่อเนื่องกัน
พวกนาซีปกป้องการป้องกันของพวกเขาอย่างแน่นหนาและภูมิประเทศก็ช่วยพวกเขาในเรื่องนี้ ฝั่งของเรามีหนองน้ำและทะเลสาบเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยต้นกกซึ่งคุณไม่สามารถสร้างบังเกอร์หรือตั้งยามทหารได้ แต่คุณสามารถข้ามแนวหน้าได้โดยไม่ต้องเสี่ยงมากนัก ไม่ใช่เพื่อสิ่งใดที่นายพล Chernyadyev เตือนผู้บังคับบัญชาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการปกป้องสีข้างและการจัดการเฝ้าระวัง
Ivan Platonov พบกันในเช้าวันที่สองบนต้นสนต้นนี้ สัญชาตญาณของหน่วยสอดแนมและนักล่าบอกเขาว่าเขาเข้าใกล้เป้าหมายแล้ว ทะเลสาบเล็ก ๆ ซึ่งทั้งสองด้านของกองทหารปืนไรเฟิลของกองพลของนายพล Chernyadyev อยู่ทั้งสองด้านพุ่มไม้หนาทึบใน "ดินแดนที่ไม่มีมนุษย์" ระหว่างทะเลสาบแห่งนี้และหนองน้ำที่แทรกเข้าไปในแนวป้องกันของนาซีแนะนำว่าเป็นเรื่องยาก เพื่อให้พวกนาซีได้เห็นทุกภูมิประเทศที่นี่ พันตรี Andreev หัวหน้าหน่วยข่าวกรองได้เตือนจ่าสิบเอกเกี่ยวกับเรื่องนี้สองครั้งแล้ว
Platonov มองดูความเขียวขจีของพุ่มไม้ที่ไม่สามารถผ่านพ้นทะเลสาบไปได้ ไม่มีสาขาใดย้ายที่นั่น วันที่สองก็ไม่มีวี่แววว่ามีศัตรูอยู่ระหว่างทะเลสาบกับหนองน้ำ แต่ใครจะรู้ว่าร่องลึกก้นสมุทรซึ่งมองเห็นได้ไกลออกไปอีกหน่อยและอยู่ติดกับหนองน้ำและพุ่มไม้ทางด้านซ้ายของพุ่มไม้นั้นอยู่ใกล้แค่ไหน?
จ่ายกมือขึ้นโดยเอานาฬิกาไปที่ดวงตา: เจ็ดโมงพอดี เหลือเวลาอีกสี่ชั่วโมงจะถึงสิบเอ็ดโมงเมื่อเขาต้องอยู่กับนายพล ในช่วงเวลานี้คุณสามารถทำอะไรได้มากมาย
หลังจากสละตำแหน่งของเขาที่ท่อสเตอริโอให้กับผู้สังเกตการณ์ปืนใหญ่ Platonov จับกิ่งไม้แล้วลงไปที่บันไดสูงที่ติดอยู่ด้านหลังต้นไม้แล้ววิ่งลงไปอย่างรวดเร็ว
Petr Skiba และ Ignat Shevchenko นั่งอยู่ใต้ต้นสน Shevchenko หลับโดยไม่ปล่อยปืนกลและพิงหลังเข้ากับลำต้นของต้นไม้ และ Skiba อ่านบทกวีของ Heine เป็นภาษาเยอรมันหลายเล่ม
Petr Skiba นักเรียนจากสถาบันภาษาต่างประเทศเคียฟก่อนสงครามพบว่ามีการใช้อาชีพพลเรือนในอนาคตในแนวหน้า ความรู้ภาษาเยอรมันทำให้เขาสามารถครอบครองสถานที่พิเศษในหมู่เจ้าหน้าที่ข่าวกรองได้ แม้ว่าเขาจะระมัดระวังมากเกินไปซึ่งบางคนมองว่าเป็นคนขี้ขลาด วันหนึ่ง - ก่อนที่ Platonov จะเข้าร่วมกองทหาร - Skiba ตามคำสั่งของผู้บังคับหมวดคลานออกไปนอกแนวหน้าในตอนเช้า ที่นั่นเขาขุดคูน้ำลึกและในระหว่างวันเขาต้องเฝ้าดูบังเกอร์ที่หน่วยสอดแนมกำลังจะจับ "ลิ้น" เวลาเย็นมาถึงและสคิบาก็ไม่กลับมา เหล่าสหายก็เริ่มกังวล เรารออีกสักหน่อยแล้วจึงออกค้นหา พวกเขาพบ Skiba ที่ด้านล่างของคูน้ำอย่างปลอดภัย ปรากฏว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดไม่ไกลจากคูหาและไม่เกิดระเบิด ด้วยความสงสัยว่าเป็นระเบิดเวลา ปีเตอร์จึงตัดสินใจรออยู่ในคูน้ำจนกว่ามันจะ “ดับลง” แต่ระเบิดไม่เคยระเบิด...
ด้วยเหตุผลบางอย่าง Platonov จึงจำเหตุการณ์นี้ซึ่งเขาได้ยินจากหน่วยสอดแนมได้และเขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง: "คุ้มไหมที่จะรับ Skiba" แต่การคลานเกินแนวหน้าโดยมีเพียงเชฟเชนโกเพียงลำพังก็เป็นอันตราย แล้วจ่าก็รับสั่งสั้นๆว่า
ลูกเสือสามคนลงจากเนินเขาไปยังทะเลสาบเล็กๆ ที่ปกคลุมไปด้วยพุ่มไม้หนาทึบ จากนั้น เมื่อหมอบอยู่ในพุ่มไม้ตื้นๆ เราก็ไปถึงบังเกอร์ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยทางสื่อสารที่แคบและตื้นและมีคูน้ำตื้นพอๆ กัน พื้นที่นี่เป็นแอ่งน้ำ ดังนั้นบังเกอร์จึงลอยอยู่เหนือผิวน้ำ นี่คือบ้านไม้สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้ซุงหนาพรางด้วยความเขียวขจีและในนั้นมีบ้านไม้ซุงหลังเล็กอยู่ มีชั้นดินอยู่ระหว่างผนังของบ้านไม้ซุง และมีการกั้นที่ผนังด้านหน้าและด้านข้างทั้งสอง เชิงเทินของคูน้ำก็ทำจากลำต้นสนหนาเช่นกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทหารในสถานที่หายนะแห่งนี้
ที่ผนังด้านหลังของบ้านไม้ซุงที่ระดับเชิงเทินของทางเดินสื่อสารมีรูสี่เหลี่ยมสีดำ - ทางออกจากบังเกอร์ ทหารคนหนึ่งออกมาจากที่นั่น ก้มลง และถามหน่วยสอดแนมด้วยความประหลาดใจและระมัดระวังว่า
แซปเปอร์อีกแล้วเหรอ?
คุณไม่รู้จักเหรอ? - Shevchenko ตอบคำถามด้วยคำถาม ใบหน้าของทหารมีรอยยิ้ม
อ่า ฉันจำได้ทั้งตาและหู! อาจจะคลุมด้วยแสง? เราสามารถทำได้ เรามีปืนกลพร้อม
คุณเป็นคนโตใช่ไหม? - Platonov ถามทหาร
ไม่ ฉันจะโทรหาคุณตอนนี้ - และทหารก็ตะโกน: - จ่าสหาย!
จ่าสิบเอกที่มีใบหน้าสีเทาและเหนื่อยล้าโผล่ออกมาจากบังเกอร์
เราจะคลานไปหลังแนวหน้า อย่าให้โดนยิง ขอแสงสว่างทางด้านซ้ายของต้นเบิร์ชนั้นหน่อย แค่ไม่ไปทางขวา
หลังจากฟัง Platonov แล้ว จ่าก็พยักหน้าเห็นด้วยและมุ่งหน้าไปยังบังเกอร์โดยไม่พูดอะไรสักคำ
แนวหน้าของการป้องกันถูกทิ้งไว้ข้างหลัง Platonov, Shevchenko และ Skiba ถือปืนกลเตรียมพร้อม เดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ทางด้านขวามือ ทะเลสาบมีต้นอ้อส่งเสียงกรอบแกรบอย่างเงียบ ๆ แต่ตอนนี้ทะเลสาบถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง พุ่มไม้หนาทึบเริ่มปรากฏให้เห็น คุณสามารถผ่านมันไปได้โดยการรวบรวมข้อมูลเท่านั้น
ลูกเสือคลาน พื้นดินใต้พุ่มไม้เปลือยเปล่าและชื้น และกลิ่นเชื้อราก็อบอวนจมูกของฉัน ไม่มีแสงอาทิตย์สักดวงเดียวที่สามารถส่องเข้ามาที่นี่และขจัดความมืดมิดได้ เราคลานประมาณสิบนาทีเพื่อฟัง ไม่มีเสียงใดๆ มีเพียงนกกระจิบเงาอยู่ใกล้ๆ
ในที่สุดพุ่มไม้ก็เริ่มบางลง ในช่องว่างระหว่างกิ่งก้าน พื้นผิวของทะเลสาบขนาดเล็กมากเป็นประกาย Platonov รู้สึกประหลาดใจ: ทะเลสาบแห่งนี้ไม่ได้ถูกทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่
ทันใดนั้นพวกเขาก็คลานออกไปตามเส้นทาง มันนำไปสู่ทะเลสาบในแนวทแยง มองเห็นเส้นทางที่สองอยู่ข้างหน้าเล็กน้อย Platonov เดาว่านี่คือเส้นทางของสัตว์ บุคคลไม่สามารถเดินตามพวกเขาได้อย่างเต็มความสูง - พุ่มไม้ยืนต้นขวางทางกิ่งก้านพันกันต่ำเหนือพื้นดินแส้ที่หน้า นักล่าที่มีประสบการณ์ชัดเจน: เนื่องจากสัตว์เหล่านี้ไปที่ทะเลสาบแห่งนี้เพื่อดื่มมันหมายความว่ามันไม่แห้งในความร้อนและน้ำในนั้นก็ไม่นิ่ง
อีวานจำได้ว่าพ่อของเขาเคยถ่ายทอดประสบการณ์การเป็นนักล่าให้กับเขาอย่างไร หมาป่าไทกาแก่สอนลูกชายให้เดินผ่านป่าในลักษณะที่เขาจะรู้อยู่เสมอว่าเขาอยู่ที่ไหน ในภาษานักล่า สิ่งนี้เรียกว่า "การเดินโดยใช้สายจูง" ถ้านายพรานหลงทาง พวกเขาบอกว่าเขา "หลุดจากสายจูง"
“ป่านี้ไม่คุ้นเคย อย่าเร่งรีบ” พ่อสอน “เดินอีกหน่อย มองย้อนกลับไป สังเกตต้นไม้ล้ม รากถอนโคน หรืออย่างอื่น จำไว้ว่าถนนของคุณเป็นยังไง มันจะมีประโยชน์ ถ้าหลงทางให้มองหามดใต้ต้นไม้เสมอๆ ครับ ดูที่ลำต้นของต้นไม้สิ - ตะไคร่น้ำจะติดอยู่ทางทิศเหนือ ตอนนี้หาถนนได้ไม่ยาก .. อย่าไว้ใจทุกเส้นทาง พรานเฒ่าเตือน - กิ่งไม้ฟาดเข้าที่หน้า, ที่อก - ออกไปจากทางของสัตว์จะไม่นำไปสู่การอยู่อาศัยของมนุษย์ ... "
“ ใช่แล้ว เส้นทางดังกล่าวจะไม่นำบุคคลไปสู่ที่อยู่อาศัย” Platonov คิดขณะสำรวจเส้นทางที่พบ เธอเดินไปตามริมฝั่งทะเลสาบและเดินไปตามพุ่มไม้และต้นไม้ต่อไป
บนเส้นทางนี้ซึ่งยังไม่แห้งเหือดภายใต้ร่มเงาของพืชพรรณที่ต่อเนื่องกันใกล้กับทะเลสาบ Platonov สังเกตเห็นร่องรอยใหม่ของอุ้งเท้าของหมาป่า อีวานไม่ต้องสงสัยเลยว่าร่องรอยนั้นถูกทิ้งไว้เมื่อไม่นานมานี้ เขาเห็นว่าใบหญ้าอ่อนที่ถูกอุ้งเท้าของสัตว์บดขยี้นั้นไม่มีเวลาแม้แต่จะงอกขึ้นมา และใบบนก้านวัชพืชที่หักก็ไม่มีเวลาเหี่ยวเฉาด้วยซ้ำ
ช่างเป็นการค้นพบ! - จ่าสิบเอกกระซิบด้วยความประหลาดใจชี้ Shevchenko และ Skiba ไปที่เส้นทาง - หากเร็วกว่านี้อีกหน่อย พวกเขาคงจะกลัวหมาป่าหนีไป
ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจเลย สงครามที่มาถึงป่ารัสเซียและโนฟโกรอดเก่าทำให้สัตว์กระจัดกระจายบังคับให้พวกมันถอยห่างจากแนวหน้าปีนขึ้นไปในพุ่มไม้ที่ไม่สามารถใช้ได้ซึ่งพวกมันไม่กลัวการระเบิดที่ฉีกอากาศซึ่งพวกมันไม่มีกลิ่นอันตราย ดินปืน การเผาไหม้ และมนุษย์ และที่นี่หมาป่าก็เดินไปเกือบถึงแนวหน้า และไม่มีที่ไหนเลยที่มีรอยเท้ามนุษย์แม้แต่รอยเดียว ซึ่งหมายความว่าพวกนาซีไม่รู้เกี่ยวกับทะเลสาบ ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะแย่งน้ำจากทะเลสาบ สิ่งนี้เหมาะกับ Platonov
ลูกเสือเดินไปตามเส้นทาง Skiba และ Shevchenko มองเข้าไปในพุ่มไม้ ฟังแล้วจ่าสิบเอกก็ไม่ละสายตาจากเส้นทางของหมาป่า
รอยอุ้งเท้าของหมาป่าแทบจะมองไม่เห็น จากระยะห่างระหว่างพวกเขา Platonov เห็นว่าหมาป่ากำลังวิ่งเหยาะ ๆ อย่างเงียบ ๆ ซึ่งหมายความว่าไม่มีอะไรรบกวนสัตว์ร้าย
แต่ไม่นานเส้นทางก็ถี่และชัดเจนมากขึ้น ที่นี่หมาป่าเดินช้าลงและระมัดระวังมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าสัตว์ร้ายรู้สึกถึงอันตราย ลูกเสือก็ระวังเช่นกัน อีกหน่อยอีวานก็เห็นหญ้าที่ถูกเหยียบย่ำและเศษขนแกะเกาะอยู่ ที่นี่หมาป่านอนอยู่
ลูกเสือหยุดแล้ว เสียงขวานกระทบหูพวกเขา เขาบินจากทางซ้าย เราไปนอนแล้ว Platonov ขยับมือออกคำสั่งไม่ให้ Skiba และ Shevchenko ขยับและตัวเขาเองก็คลานไปทางซ้ายอย่างระมัดระวัง ไม่มีกิ่งก้านใดที่เคลื่อนอยู่เหนือหน่วยสอดแนม ไม่มีกิ่งก้านใดแตกอยู่ใต้เขา ในไม่ช้าพุ่มไม้ก็บางลง และ Platonov ก็มองเห็นเนินเขาเล็กๆ ในที่โล่ง “บังเกอร์” เขาเดาและสังเกตเห็นชายนาซีทันทีซึ่งนั่งยองๆ อยู่ด้านหลังบังเกอร์และฟันอะไรบางอย่างด้วยขวาน
Platonov คลานไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย เมื่อมองผ่านช่องว่างในพุ่มไม้ ฉันสังเกตเห็นที่ราบหนองน้ำที่อยู่ห่างไกลทางด้านขวา ด้านซ้ายเป็นป่าที่คุ้นเคย บางแห่งมีจุดสังเกตปืนใหญ่ ป่าล้มลงมาจากเนินเขามุ่งหน้าสู่ขอบหน้าของเรา
ตอนนี้ Platonov เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า: เป็นไปได้ที่จะไปที่หนองน้ำโดยไม่มีใครสังเกตเห็น และถ้าคุณตาบอดบังเกอร์นี้ การหลบหลังแนวหน้าก็ไม่ใช่เรื่องยาก
อีวานดูนาฬิกาของเขา สิบโมงเช้า. ฉันต้องไปหาท่านนายพลในหนึ่งชั่วโมง...
กองบัญชาการกองนั้นคับแคบ ที่นี่นอกเหนือจากนายพล Chernyadyev แล้ว ยังได้รวบรวมเสนาธิการ - ผู้พันผมหงอกหน้าแดงมีขนดกและขมวดคิ้วพันตรี Andreev - หัวหน้าหน่วยข่าวกรองร้อยโท Sukhov และจ่า Platonov
Platonov ไม่เคยต้องรายงานตัวต่อหน้าผู้บังคับบัญชาจำนวนมากเช่นนี้ และเมื่อเขาพูดจบ เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก
ทุกคนเงียบ คิดเกี่ยวกับสิ่งที่จ่าสิบเอกพูด
ในที่สุดนายพล Chernyadyev ก็ทำลายความเงียบ:
น่าสนใจ! เรามั่นใจอีกครั้งว่าการที่ลูกเสืออ่านข้อความที่เขียนบนพื้นนั้นมีประโยชน์เพียงใด “นายพลเอามือไปเหนือศีรษะที่ถูกตัดของเขา และใบหน้าสีเข้มผอมเพรียวของเขาก็สว่างขึ้น เขายืนอยู่ด้านหลังโต๊ะเล็กๆ และที่นี่ ในบริเวณที่คับแคบ ความสูงของเขาเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษ
ดังนั้น” ผู้บัญชาการแผนกกล่าวต่อ “เรามีสองทางเลือกสำหรับหน่วยสอดแนมที่ข้ามแนวหน้า เวอร์ชั่นของร้อยโท Sukhov จะต้องมีการยิงสนับสนุนที่แข็งแกร่งและการพรางไฟ เวอร์ชันของ Platonov - ปืนใหญ่ขนาดเล็กที่ใช้รักษาพื้นที่ทางด้านซ้ายของทะเลสาบที่เขาค้นพบ เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน เราคงจะอนุมัติทั้งสองตัวเลือกแล้ว ตอนนี้คุณต้องเลือกหนึ่งรายการ เนื่องจากมีเพียงกลุ่มของร้อยโท Sukhov เท่านั้นที่จะไปทางด้านหลังของเยอรมันในแนวหน้า
ผู้พัน Andreev เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ นายพล Chernyadyev ยกมือขึ้น ขัดขวางคำถามของหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง
กลุ่มที่สอง - จ่า Platonov - จะถูกทิ้งโดยร่มชูชีพ
ความเงียบดังสนั่นอยู่ครู่หนึ่ง Chernyadyev เหลือบมองคนปัจจุบันอย่างเจ้าเล่ห์และอธิบายว่า:
ผบ.ทบ.ให้โอกาสเราแบบนี้ จ่า Platonov พร้อมผู้ติดตามและสถานีวิทยุจะออกคืนนี้ในพื้นที่หมู่บ้าน Lubkovo ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากฟาร์ม Borok จะมองไปที่ถนนสู่ Zamochye ที่นั่นและค้นหาว่ากองกำลังนาซีใหม่นั้นมีจริงหรือไม่ มุ่งหน้าไปยังแนวหน้า จากนั้นเขาจะทำการเฝ้าระวังฟาร์ม Borok และรอการเข้าใกล้ของหน่วยสอดแนมของร้อยโท Sukhov
“ สหาย Platonov” นายพลหันไปหาจ่า“ ใครนอกจากคุณที่สามารถแสดงข้อความที่คุณสำรวจให้ร้อยโท Sukhov ได้?
Platonov คิดว่า: "โทรหาใครดีกว่า - Shevchenko หรือ Skiba" - และตอบอย่างหนักแน่นทันที:
เชฟเชนโก้ส่วนตัว
ดีแล้ว. เขาจะแนะนำผู้หมวดให้รู้จักกับพุ่มไม้ริมทะเลสาบแห่งนี้ แล้วไปกับกลุ่มของเขา คุณพันตรี Andreev” ผู้บัญชาการแผนกหันหน้าไปทางหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง“ ชี้แจงสถานที่และเวลาของการพบกันระหว่าง Sukhov และ Platonov อย่างเร่งด่วนที่อยู่ด้านหลังแนวหน้าจัดเตรียมเครื่องส่งรับวิทยุรหัสและทุกสิ่งที่จำเป็นให้กับทั้งสองกลุ่ม กลุ่มซุคอฟต้องเตรียมงานคืนพรุ่งนี้ให้เสร็จ...
หน่วยสอดแนมสำรวจตามคำสั่งได้ย้ายไปที่ป่าสนเก่าซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของแผนก ในวันเดียวกันนั้นมีการขุดคูน้ำขนาดใหญ่ในสถานที่ใหม่และปิดด้วยท่อนไม้
เมื่อออกจากกองทหารทหาร Atayev ไม่มีเวลาบอกลาเพื่อนร่วมชาติของเขา Corporal Ukinov มือปืนจากกองทหาร ก่อนที่จะละทิ้งแนวข้าศึก Ataev ต้องการแลกเปลี่ยนคำพูดสองสามคำกับเพื่อนของเขา รายงานจดหมายที่เขาได้รับจากที่บ้าน และแน่นอนว่าต้องโอ้อวดเกี่ยวกับการย้ายไปหน่วยลาดตระเวนของแผนก
ก่อนค่ำ เจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ซึ่งประจำการอยู่กับอุปกรณ์ในหน่วยสืบราชการลับ ออกไปวางสายที่ตกอยู่บนถนน ขอให้ Atayev นั่งคุยโทรศัพท์สักครู่ Ataev รู้สึกยินดีกับคำสั่งนี้ และทันทีที่ฉันถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในดังสนั่นฉันก็เรียกทหารทันที ในไม่ช้าเขาก็เชื่อมต่อกับแบตเตอรี่ที่ Ukinov รับใช้
ฉันทำไม่ได้ ฉันจะไปทางด้านหลัง
เป็นเพื่อน เมื่อวานฉันถ่ายทำบนทางหลวง ดูสิ่งที่เปลือกหอยของฉันทำที่นั่น
ไม่ก่อนหน้านั้น! - Atayev กล่าวที่สำคัญ - มีเรื่องที่ร้ายแรงกว่านี้
น่าสนใจ?
มาก! บางทีเราอาจจะปกปิดนกที่มาหาเราในฟาร์มแห่งหนึ่ง” Atayev พูดโอ้อวดโดยจำได้ว่าจ่า Platonov กำลังศึกษาแผนที่ในบริเวณที่ฟาร์ม Borok ตั้งอยู่เป็นเวลาสองวัน
Atayev ไม่สงสัยเลยว่าในเวลานั้นหน่วยสอดแนมคนหนึ่งของกลุ่มกัปตัน Margera กำลังนั่งอยู่ที่ก้นหุบเขาตื้น ๆ ที่รกไปด้วยพุ่มไม้ และเมื่อเชื่อมต่อกับสายโทรศัพท์แล้ว ก็ได้ยินการสนทนาของเขา...
จากหนังสือสตาลิน เส้นทางสู่อำนาจ ผู้เขียน เอเมลยานอฟ ยูริ วาซิลีวิชบทที่ 5 เส้นทางสู่พาร์นาซัส ไม่น่าเป็นไปได้ที่นักเรียนที่วิทยาลัยทิฟลิสจะจินตนาการได้ว่าเขาจะสามารถกำหนดนโยบายของประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับคริสตจักรออร์โธดอกซ์ได้หลังจากอยู่ข้างนอกเท่านั้น เป็นไปได้มากว่าเขาถือว่าการเรียนที่เซมินารีเป็นก้าวสำคัญในเส้นทางสู่เขา
จากหนังสือ Call Sign – “Cobra” (หมายเหตุลูกเสือเฉพาะกิจ) ผู้เขียน อับดุลเลฟ เออร์เคเบก“เส้นทางแห่งความตาย” เจ้าหน้าที่สองคนหายตัวไปจากที่ตั้งของหน่วยและปรากฏตัวในเช้าวันรุ่งขึ้นเท่านั้น พวกมันมีกลิ่นควัน ผู้บริหารโรงเรียนจะลงโทษพวกเขาอย่างคร่าวๆ คนผิดยืนอยู่ตรงหน้าเราด้วยสายตาเศร้าสร้อย และผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเขากังวลอยู่หลังประตู ฉันรู้สึกดี
จากหนังสือไทก้า แทรมป์ ผู้เขียน เดมิน มิคาอิลWarpath ฉันต้องการจองทันทีว่าในขณะนั้นฉันไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการจับกุมน้องชายของฉัน ทุกสิ่งที่กล่าวข้างต้นเป็นเพียงสมมติฐานเท่านั้น หากจะพูดก็คือเวอร์ชันปฏิบัติการ ไม่มีเวลาคิด จำเป็นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว Dzhakyp อยู่ในซินดานมาโดยตลอด
จากหนังสือ The Investigation is Conducted by a Convict ผู้เขียน โปเมอรันทซ์ กริกอรี โซโลโมโนวิชจากสมุดบันทึกของ KAKASS THE MIRAL TRAIL - ปีศาจรู้... หืม? เคชก้า? เราหลงทางจริงเหรอ? ดูสิ เราเดินไปในสลัมอะไรบางอย่าง... - ไม่มีอะไร ฉันเคยมาที่นี่มาก่อน มีคนสามคนกำลังเดินอยู่ในยามพลบค่ำ - ช่องเขาที่รกและสับสน บล็อกหินเหล็กไฟห้อยอยู่เหนือหัว และต้นวิลโลว์ก็ส่งเสียงดังเอี๊ยดตามสายลม บน
จากหนังสือ Anna Kern: ชีวิตในนามของความรัก ผู้เขียน Sysoev วลาดิมีร์ อิวาโนวิชIII. เส้นทาง Kolyma ในคุกใต้ดิน Olga Grigorievna ได้เรียนรู้เกี่ยวกับชะตากรรมของเธอล่วงหน้า Levon Mirzoyan ซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยกบฏอยู่ที่แผนกต้อนรับของ Malenkov ทันใดนั้นเขาก็ถูกเรียกตัวไปที่สตาลินและเลวอนก็อ่านชื่อที่คุ้นเคยในรายการที่วางอยู่บนโต๊ะ: อากามิรอฟ
จากหนังสือผีเสื้อ โดย อองรี ชาร์ริแยร์Afterword “ เส้นทางของประชาชนจะไม่รก” คำอธิบายชีวิตของหนึ่งในผู้หญิงที่น่าทึ่งแห่งศตวรรษที่ 19 จากแวดวงที่ใกล้ที่สุดของพุชกินซึ่งสร้างขึ้นจากผลงานตีพิมพ์ก่อนหน้านี้และเอกสารที่ผู้เขียนค้นพบใหม่เสร็จสมบูรณ์แล้ว หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เกิดง่าย ๆ
จากหนังสือ Scout Nikolai Kuznetsov ผู้เขียน คุซเนตซอฟ วิคเตอร์โน้ตบุ๊คหนึ่งเครื่อง เส้นทางแห่งการสลายตัวของศาล การโจมตีนั้นรุนแรงมากจนฉันสามารถฟื้นตัวได้หลังจากผ่านไปสิบสามปีเท่านั้น นี่ไม่ใช่การโจมตีธรรมดา และพวกเขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อส่งมอบมันคือวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2474 เมื่อเวลา 8 โมงเช้าฉันถูกนำออกจากห้องขังเพื่อ
จากหนังสือสมุดบันทึก Kolyma ผู้เขียน ชาลามอฟ วาร์แลม จากหนังสือ Against the Tide ผู้เขียน โมโรโซวา นีน่า ปาฟโลเวียทางเดิน ทางเดินแคบหรือเปล่า? ฉันไม่เถียง บิดเบี้ยว? แต่เธอออกทะเลไปบนที่ราบสูงบนภูเขา ดอกไม้แห่งความงามอันน่าพิศวงติดอยู่ในพุ่มไม้เหล็กที่สปริงตัว ชื้นมากเกินไป ตามความเห็นของคน บวมด้วยสำลีเปียกจากน้ำตาหรือฝน ทำไมเสื้อผ้าของเธอถึงล้าสมัย?
จากหนังสือบทกวีของชาวคอเคซัสในการแปลโดย Bella Akhmadulina ผู้เขียน อาบาชิดเซ กริโกลThe Trail เมื่อวันอาทิตย์ที่รอคอยมานานมาถึง ปรากฏว่าฉันยังเตรียมตัวไม่เต็มที่ สัปดาห์ที่ผ่านมาจบลงอย่างไม่คาดคิด จนก่อนที่ฉันจะมีเวลาเสียเวลา ฉันพบว่าตัวเองกำลังเผชิญกับวันอื่น ตัวอย่างเช่น วันศุกร์ เหตุการณ์นี้แม้จะไม่มีนัยสำคัญก็ตาม
จากหนังสืออีกด้านหนึ่งของแนวหน้า ผู้เขียน บรินสกี้ แอนตัน เปโตรวิช“อา หลงทาง หลงทาง...” อ่า หลงทาง หลงทาง เส้นทางของฉันวิ่งลงสู่ก้นบึ้งของทะเล อา ความรักไม่เหลือแล้ว ฉันโทรหาเธอไม่ได้แล้ว ไม่สามารถพาเธอกลับมาได้ ทะเลถูกปกคลุมไปด้วยหมอก ปีกนกมหัศจรรย์ของฉันอยู่ที่ไหนแล้ว? อา กุหลาบของฉัน สวยงามและสีแดงสด ที่ไหน
จากหนังสือรอทสกี้ เล่ม 1 ผู้เขียน โวลโคโกนอฟ มิทรี อันโตโนวิช“ เส้นทางสีดำ” ในช่วงกลางเดือนเมษายน โดยปล่อยให้ Ermakovich ดำรงตำแหน่งรองของฉันที่ “กองบังคับการทหาร” ฉันนำพรรคพวกแปดสิบคนตามการเรียกของ Bati ไปยังฐานที่เรียกว่า Bychachya กองกำลังของเรามักจะก่อตัวขึ้นที่นั่นและจากนั้นพวกเขาก็ถูกส่งไปสำรวจทางไกล ฉันคิดว่าถ้า
จากหนังสือ Vizbor ผู้เขียน คูลาจิน อนาโตลี วาเลนติโนวิชเส้นทางการปฏิวัติที่ Trotsky ชื่นชอบไม่เพียง แต่วรรณกรรมเท่านั้น แต่ยังรักคณิตศาสตร์ด้วย เขาใฝ่ฝันที่จะเรียนต่อหลังจากสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนจริงที่คณะคณิตศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Novorossiysk เขาสามารถเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ น่าจะใหญ่. ฉันคิดว่าเขาคงจะดี
จากหนังสือ Diary Sheets ในสามเล่ม. เล่มที่ 3 ผู้เขียน โรริช นิโคไล คอนสแตนติโนวิช“ เส้นทางที่เรียกว่า "งาน"" ในปี 1970 Vizbor ย้ายจากสำนักงานบรรณาธิการของ Krugozor ไปยังตำแหน่งบรรณาธิการของแผนกสคริปต์ (และในความเป็นจริงคือผู้เขียนบท) ที่ Creative Association "Ekran" ซึ่งเกิดขึ้นที่ State Television และ บริษัทวิทยุกระจายเสียงเมื่อสองปีก่อน พ.ศ. 2511 วัตถุประสงค์ของสมาคมใหม่คือ
จากหนังสือ 10 ผู้นำ จากเลนินถึงปูติน ผู้เขียน มเลชิน เลโอนิด มิคาอิโลวิชเส้นทางการทหาร เราได้รับโทรเลขจาก Inge เกี่ยวกับกลอุบายนักล่าแบบใหม่ของ Horsch เราตอบว่า Picture Corporation ก็ประท้วงได้เช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ บางทีวีดอาจให้คำแนะนำได้ เพราะเห็นได้ชัดว่าแผนคือการย้าย "การกระทำ" ไปยังสถานะอื่น คงจะรู้จักการแบ่งแยก
จากหนังสือของผู้เขียนแทนที่จะเป็นบทนำ: เส้นทางแห่งผู้นำ ปัญหาเรื่องอำนาจเป็นปัญหาหลักของเลนินและทุกคนที่ติดตามเขา N. Berdyaev ใช่แล้วเส้นทางที่แน่นอน เมื่ออารยธรรมของมนุษย์เติบโตขึ้น มนุษยชาติก็เข้าสู่เส้นทางแห่งความก้าวหน้าอันกว้างใหญ่อย่างมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ และมีเพียงระบอบเผด็จการเผด็จการเท่านั้น
สัตว์ต่างๆ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง และสัตว์มีกระดูกสันหลังที่เคลื่อนไหวเป็นเวลานานในทิศทางเดียวกันก่อตัวเป็นเส้นทาง ด้านล่างนี้เราจะพูดถึงเส้นทางของสัตว์เป็นหลักซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาและสังเกตได้ชัดเจนที่สุด มันอยู่กับพวกเขาที่ตัวติดตามต้องจัดการ
จุดประสงค์ของเส้นทางนั้นแตกต่างกัน โดยปกติแล้วเส้นทางจะเชื่อมโยงกับโภชนาการของสัตว์ที่สร้างและผู้ที่ใช้พวกมันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
หลายคนเคยเห็นเส้นทางที่สะอาดและมองเห็นได้ชัดเจนไปในทิศทางที่แตกต่างจากจอมปลวกรูปกรวยของมดไม้แดง คุณสามารถสังเกตได้ว่ามดวิ่งตามพวกมันอย่างเร่งรีบและกระวนกระวายใจไม่ว่าจะตัวเดียวหรือเป็นกลุ่มหรือเป็นกระแสต่อเนื่องไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งโดยมักมีเหยื่อหรือกิ่งไม้แห้งซึ่งทำหน้าที่เป็นวัสดุก่อสร้างในการซ่อม จอมปลวก. มดดำทำเส้นทางเดียวกัน โครงสร้างใต้ดินของพวกมันมีทางออกออกไปด้านนอกในรูปแบบของรูที่ด้านบนของการดีดตัวของดินรูปทรงกรวย บางครั้งหลุมดังกล่าวก็เกิดขึ้นในยางมะตอยด้วยซ้ำ เส้นทางที่เห็นได้ชัดเจนไปจากนั้น - สะอาดราวกับถูกกวาดริบบิ้นบนพื้นผิวของดินและบางครั้งบนพื้นผิวของยางมะตอย เมื่ออยู่ห่างจากหลุมระยะหนึ่งเส้นทางจะชัดเจนน้อยลงแล้วหายไป
เส้นทางที่พบบ่อยที่สุด จำนวนมาก และมองเห็นได้คือเส้นทางของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เครือข่ายเส้นทางที่หนาแน่นบนพื้นผิวดินตลอดจนในส่วนลึกนั้นถูกสร้างขึ้นโดยสัตว์ฟันแทะที่มีลักษณะคล้ายหนูเช่นหนูนาประเภทต่าง ๆ หนูหนูเลมมิ่ง ฯลฯ ในฤดูหนาวเส้นทางดังกล่าวถูกสร้างขึ้นโดย สัตว์ฟันแทะชนิดเดียวกันบนพื้นผิวดินภายใต้หิมะปกคลุมรวมถึงในหิมะด้วย
รูตุ่นซึ่งบางครั้งเจาะทะลุชั้นผิวโลกอย่างหนาแน่นนั้นเป็นเส้นทางใต้ดินที่เจ้าของใช้เพื่อรวบรวมอาหารเป็นหลัก - ไส้เดือน, ตัวอ่อนของแมลง ฯลฯ ในฤดูหนาว ตัวตุ่นก็ขุดหลุมในหิมะด้วย หนูน้ำหรือท้องนาน้ำก็เคลื่อนที่ผ่านโพรงที่มันสร้างไว้ในดินเช่นกัน รูเหล่านี้ทำหน้าที่ให้เธอค้นหาอาหาร แต่เธอใช้อาหารจากพืชต่างจากตัวตุ่น
ที่ใดมีสัตว์มากมาย ย่อมมีทางหลายทางเสมอ ยิ่งสัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นมีขนาดใหญ่เท่าใด เส้นทางก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น ส่วนใหญ่จะสั้น - 50-100 น้อยกว่า 200 ม. ปลายของมันแยกออกเหมือนกิ่งก้านของต้นไม้ที่แผ่ออกและหายไป
โดยทั่วไปแล้ว เส้นทางจะเกิดขึ้นเมื่อสัตว์เข้าใกล้จากที่พักค้างคืนหรือที่พักไปยังพื้นที่ให้อาหารของพวกมัน ในระหว่างการแทะเล็ม สัตว์จะไม่ยึดติดกับทิศทางใดทิศทางหนึ่งอีกต่อไปและเส้นทางจะหายไป แบดเจอร์, บ่าง, โกเฟอร์, หนูเจอร์บิลและสัตว์อื่น ๆ ที่ขุดที่พักพิงถาวรในพื้นดิน - หลุมยาวไม่มากก็น้อยพร้อมห้องสำหรับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ออกจากหลุมเพื่อค้นหาอาหารตามเส้นทางที่พวกมันค่อยๆเหยียบย่ำ ในระยะหนึ่งจากทางเข้าสู่หลุม เส้นทางจะแตกแขนงออกไปไม่เด่นชัดแล้วหายไป นอกจากเส้นทางเหล่านี้แล้ว สัตว์บางชนิดที่มีที่พักพิงบนพื้น เช่น แบดเจอร์และสุนัขแรคคูน ยังมีเส้นทางที่ทอดจากหลุมไปยัง "ส้วม" ซึ่งพวกมันจะเข้าไปเยี่ยมชมอย่างเป็นระบบและเป็นที่ที่มูลของพวกมันสะสมอยู่
สัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์มีกระดูกสันหลัง มีลักษณะการอพยพตามฤดูกาล แต่โดยธรรมชาติแล้วปลาจะไม่ทิ้งร่องรอยไว้ระหว่างการย้ายถิ่น เช่นเดียวกับนกและปลาวาฬ เห็นได้ชัดว่าสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำและสัตว์เลื้อยคลานไม่ได้อพยพตามฤดูกาลเป็นเวลานาน และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำและสัตว์เลื้อยคลานที่มีลักษณะเฉพาะคือการอพยพ (เช่น เต่าทะเล) ก็ไม่ทิ้งร่องรอยไว้เช่นกัน สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง โดยส่วนใหญ่เป็นแมลงบางชนิด สามารถอพยพเป็นเวลานานและสามารถตรวจจับได้ด้วยสายตาขณะบิน แต่เมื่อพวกเขานั่งกินข้าวก็ทิ้งร่องรอยไว้ (แทะ มูลสัตว์) เช่น ตั๊กแตน หลังจากผีเสื้ออพยพพักผ่อน ปีกของพวกมันมักจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เนื่องจากมีนกและสัตว์อื่นกินเป็นจำนวนมาก
การอพยพของสัตว์ตามฤดูกาลมักเกิดขึ้นตามเส้นทางบางเส้นทางซึ่งมีเส้นทางเกิดขึ้น ในแอฟริกา การอพยพของช้างได้ผ่านสถานที่เดียวกันเป็นเวลาหลายร้อยหรือหลายพันปี ซึ่งสามารถตัดสินได้จากความลึกของเส้นทางและความแข็งของดินที่ช้างวาง โดยวิธีการวางเส้นทางในป่าช้างอำนวยความสะดวกในการเจาะและการเคลื่อนไหวของสัตว์กีบเท้าขนาดเล็กและใหญ่จำนวนมากซึ่งในขณะเดียวกันก็ช่วยสนับสนุนและทำให้เส้นทางลึกขึ้น ช้างมีบทบาทเช่นเดียวกันในทุ่งหญ้าสูงหนาแน่น สัตว์กีบเท้าแอฟริกันก็อพยพเช่นกัน
ในยุโรปเหนือ เอเชีย และอเมริกา กวางเรนเดียร์เป็นที่รู้จักจากการอพยพตามฤดูกาล เส้นทางการอพยพของพวกเขามักจะเหมือนกันทุกปี บางแห่งก็กว้าง บางแห่งก็แคบ^ แต่ในเส้นทางอพยพที่กว้างไม่มากก็มีทางเดินในที่ที่มีสิ่งกีดขวางน้อยกว่าและมีดินที่ดีกว่าสำหรับการเดิน
สิ่งเดียวกันอาจกล่าวได้เกี่ยวกับการอพยพครั้งใหญ่ตามฤดูกาลของละมั่งไซกา
ในป่าของเรามีเส้นทางสัตว์ยาวที่มีอยู่และใช้งานมานานนับสิบหรือหลายร้อยปี พวกมันนำไปสู่โป่งเกลือตามธรรมชาติ ในพื้นที่แห้งจะมีการวางเส้นทางดังกล่าวไว้ในรูรดน้ำที่สะดวก
บางครั้ง เมื่อผ่านไปในพื้นที่ภูเขา คนๆ หนึ่งก็พบกับรอยทางของสัตว์ ซึ่งทิศทางในตอนแรกมักสอดคล้องกับทิศทางที่เขาเดินไป การเดินไปตามเส้นทางของสัตว์นั้นง่ายกว่าการเดินบนดินบริสุทธิ์มากและคน ๆ หนึ่งก็รับไป จากนั้นเมื่อถึงจุดหนึ่งเส้นทางก็พลิกผันอย่างกะทันหันและนักเดินทางอาจดูเหมือนไม่ได้ไปในที่ที่เขาต้องการไม่ใช่ทางผ่าน เขาออกจากเส้นทางเพื่อรักษาทิศทางที่เขาต้องการ และในไม่ช้ามักจะไปอยู่ในป่าทึบที่ไม่สามารถผ่านได้ หนองน้ำ หรือเผชิญกับอุปสรรคอื่น ถ้าเขามีความรอบคอบและประสบการณ์มากพอ เขาก็ออกไปสู่เส้นทางของสัตว์อีกครั้งและไปถึงทางนั้นอย่างปลอดภัย การเปลี่ยนแปลงทิศทางของเส้นทางเดินของสัตว์มักเกิดจากการที่มันข้ามสิ่งกีดขวางที่นี่
ครั้งหนึ่งในขณะที่ทำการวิจัยทางตะวันตกเฉียงใต้สุดของดินแดน Primorsky เราต้องย้ายจากแอ่งแม่น้ำ Ananyevka ไปยังแอ่งน้ำ ภูเขา. เมื่อต้องการทำเช่นนี้ จำเป็นต้องข้ามสันปันน้ำที่มีสันเขาหินสูง เมื่อรู้จากนักล่าในท้องถิ่นว่าเป็นไปได้ที่จะข้ามสันปันน้ำได้ในที่เดียวเท่านั้น เราจึงพยายามค้นหาสถานที่แห่งนี้มาเป็นเวลานานและไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ก็เจอหินแนวดิ่งที่แทบจะผ่านไม่ได้อยู่ตลอดเวลา มีเพียงการใช้เส้นทางกวางซิก้าเท่านั้นที่เราจะสามารถค้นหาเส้นทางที่ต้องการได้
ในฤดูใบไม้ร่วง สัตว์ป่าหลายชนิดพยายามสะสมไขมันมากขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฤดูหนาว นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้เวลาช่วงฤดูหนาวในการจำศีล ตัวอย่างเช่น ทางตอนใต้ของตะวันออกไกล หมีสีน้ำตาลหากินในฤดูร้อนบนทุ่งเบอร์รี่บนที่ราบสูงของ Sikhote-Alin จากนั้นพวกเขาก็ลงไปในป่าซีดาร์และต้นโอ๊กซึ่งพวกมันจะอ้วนขึ้นเป็นเวลา 1.5-2 เดือน สัตว์ต่างๆ เดินช้าๆ ไปยังพื้นที่ให้อาหาร โดยใช้เส้นทางสั้นๆ โดยมองหาพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารเป็นพิเศษขณะที่พวกมันเดินไป ผู้ใหญ่ แม่ และลูกๆ สามารถมารวมตัวกันที่นี่ได้ การกระจายตัวของหมีในแต่ละพื้นที่ - อาณาเขตของหมีในช่วงเวลาอื่นของปี - หยุดชะงักในช่วงเวลานี้ สัตว์เหล่านี้ไม่แสดงท่าทีก้าวร้าวต่อกัน แต่ให้ความสำคัญกับสิทธิในการมีแหล่งอาหารมากที่สุด และพยายามหลีกเลี่ยงซึ่งกันและกันในขณะที่อยู่ใกล้ๆ กัน
ในฤดูใบไม้ร่วงหรือต้นฤดูหนาวที่เริ่มมีอากาศหนาวเย็นหรือมีหิมะปกคลุมหนา สัตว์ต่างๆ จะกลับมาที่บริเวณด้านบนของภูเขาอย่างเป็นเอกฉันท์ ไปยังพื้นที่ของถ้ำที่เลือกและเตรียมไว้ล่วงหน้าภายใน ไม่กี่วัน ขณะนี้หมีเดินไปตามเส้นทางที่ใช้เส้นทางที่สั้นที่สุดไปยังบริเวณถ้ำ สัตว์อื่นๆ ก็เคลื่อนตัวไปตามเส้นทางเหล่านี้ตลอดทั้งปี
เส้นทางในชีวิตของนักล่าขนาดใหญ่ที่ไม่จำศีลในช่วงฤดูหนาวมีความสำคัญไม่น้อย ดังนั้นจากการสังเกตของผู้เขียนคนหนึ่ง D. G. Pikunov เสือโดยไม่คำนึงถึงอายุและเพศใน 80-90% ของกรณีวางเส้นทางไปตามถนนหรือตามเส้นทางสัตว์เก่าแก่ เมื่อล่าสัตว์เท่านั้นจึงจะสามารถเคลื่อนที่ออกนอกเส้นทางได้ อย่างไรก็ตาม เสือชอบค้นหาเหยื่อขณะเคลื่อนที่ไปตามเส้นทาง บางครั้งบางส่วนของเส้นทางอาจมีสัตว์เพียงตัวเดียวใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นกรณีที่ผู้ล่าผ่านไปหลายครั้งเพื่อนอนราบหรือหาที่กำบัง ตามเส้นทางอื่นๆ เช่น ทอดยาวไปตามหุบเขายาวหรือสันเขาสันปันน้ำ มีตัวผู้และตัวเมียที่มีลูกเสือเดินอยู่ ผู้หญิงคนเดียวเดินตามหลังไปหลายกิโลเมตร บางครั้งชายหนุ่มก็ปรากฏตัวบนเส้นทางเดียวกัน แต่เขาพยายามหลีกเลี่ยงการพบปะกับชายที่เป็นผู้ใหญ่
สำหรับเสือซึ่งมีวิถีชีวิตสันโดษเป็นส่วนใหญ่ จุดประสงค์หลักของเส้นทางนี้คือการสื่อสารทางอ้อมระหว่างบุคคล พวกเขายังต้องมีเส้นทางเพื่อเข้าถึงพื้นที่ให้อาหาร แหล่งรดน้ำ สถานที่พักผ่อน ฯลฯ ได้อย่างสะดวก สำหรับสัตว์ที่ดำเนินชีวิตแบบฝูง จุดประสงค์หลักของเส้นทางคือเพื่อใช้เป็นวิธีที่สะดวกในการตอบสนองความต้องการที่สำคัญของพวกมัน (การเล็มหญ้า รดน้ำในหลุม โป่งเกลือ พื้นที่ที่เป็นร่อง)
เป็นที่รู้กันว่าสัตว์หลายชนิดโดยเฉพาะในฤดูหนาวชอบเดินไปตามถนนและเส้นทางที่มนุษย์สร้างขึ้น อย่างไรก็ตาม เส้นทางของมนุษย์เหล่านี้ขึ้นอยู่กับเส้นทางของสัตว์ ในตอนแรกพวกมันถูกวางโดยสัตว์ในสถานที่ที่สะดวกต่อการเคลื่อนไหวมากที่สุด อุดมไปด้วยอาหาร มีแอ่งน้ำ บ่อโคลน ลมพัดแรง และบริเวณที่มีคนอยู่น้อยกว่า สถานที่เหล่านี้ยังสะดวกสำหรับรัง ที่อยู่อาศัย และรังที่จำเป็นสำหรับการสืบพันธุ์ของลูกหลานอีกด้วย ครั้นมีชายคนหนึ่งมายังสถานที่เหล่านี้ เขาล่าสัตว์ ตกปลา และทำงานฝีมืออื่นๆ เส้นทางกลายเป็นเหมือนไม่ใช่สัตว์อีกต่อไป แต่เป็นมนุษย์ จากนั้นเส้นทางก็กลายเป็นถนนที่คุณสามารถเลื่อนไปบนเลื่อนหรือเกวียนได้
มีหลายเส้นทางที่หมูป่าตัวเมียทำกับลูกหมูตั้งแต่สายโซ่ไปจนถึงแหล่งหาอาหารไปจนถึงลำธารที่พวกมันดื่ม ในถิ่นที่อยู่ของหมูป่ามีต้นไม้ที่พวกเขารักซึ่งพวกมันคัน “หวี” เหล่านี้สามารถใช้ได้โดยหมูป่าเป็นเวลาหลายปีและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก (ดูรูปที่ 99) เส้นทางที่มีเครื่องหมายชัดเจนนำไปสู่พวกเขา
บางครั้งหมีเหยียบย่ำเส้นทางชั่วคราวซึ่งหลังจากฆ่าสัตว์ใหญ่หรือพบซากศพแล้วเดินไปหาเหยื่อจนกว่ามันจะกินหมด (ดูรูปที่ 115)
การอพยพตามฤดูกาลมีความสำคัญต่อสัตว์ทั้งในด้านอาหารและการผสมพันธุ์ หากพวกเขาขาดความสามารถในการอพยพ สิ่งนี้อาจนำไปสู่การสูญพันธุ์ได้ อย่างไรก็ตาม บางครั้งมันก็เกิดขึ้นที่ผู้คนสร้างถนน ท่อส่งน้ำมันและก๊าซ ปิดกั้นเส้นทางการอพยพของสัตว์ สิ่งนี้เกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้างถนนและคลองที่ตัดผ่านเส้นทางอพยพของ Saigas ความต้องการของสัตว์ไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาในระหว่างการก่อสร้าง BAM การแก้ไขข้อผิดพลาดนั้นยากกว่าการป้องกัน แต่ต้องแก้ไขในนามของการอนุรักษ์ธรรมชาติ