ต้นกำเนิดของคำคืออะไร? องค์ประกอบโครงสร้างในภาษารัสเซีย

โลกทั้งใบของเรามีพื้นฐาน - สิ่งนี้ใช้ได้กับทั้งสิ่งที่เป็นกายภาพและไม่ใช่กายภาพ ปรากฎว่าแม้แต่คำธรรมดาก็มีพื้นฐาน ต้นกำเนิดของคำคืออะไร? เราจะตอบคำถามนี้สั้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากในจังหวะชีวิตเรามักจะลืมกฎของภาษารัสเซีย ต้นกำเนิดของคำในภาษาศาสตร์หมายถึงส่วนหนึ่งของคำที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตัวเอง และถ้าเราเปลี่ยนแปลงก็แสดงว่าละเมิดกฎของภาษารัสเซีย ก้านของคำแสดงให้เราเห็นว่าความหมายของคำศัพท์นี้คืออะไร พูดง่ายๆ ก็คือ ก้านของคำเป็นส่วนที่ไม่มีการลงท้ายและไม่มีส่วนต่อท้ายที่เป็นรูปธรรม (ถ้ามีในคำนั้น) ดังนั้นในคำว่า "แปด" พื้นฐานของคำจะเป็น "แปด" ในคำว่า "ของเรา" - "ของเรา" ในคำว่า "ทะเลทราย" - "ทะเลทราย" ในคำที่ไม่เปลี่ยนแปลง คำทั้งคำจะเป็นพื้นฐาน ตัวอย่างของคำดังกล่าว: "ฝัน", "สูง" (เป็นคำวิเศษณ์)

วิธีเน้นก้านคำให้ถูกต้อง

เพื่อระบุต้นกำเนิดของคำได้อย่างถูกต้อง คุณควรคำนึงถึงไม่เพียงแต่ส่วนของเสียงของคำเท่านั้น แต่ยังรวมถึงส่วนของตัวอักษรด้วย ขั้นแรก ให้ระบุจุดสิ้นสุดของคำ จากนั้นจึงระบุส่วนต่อท้ายแบบรูปธรรม ถ้ามี คำที่เหลือยกเว้นคำเหล่านี้คือพื้นฐาน ลองดูตัวอย่าง ในคำว่า "read" เราเน้นส่วนท้ายของ "i" โดย "l" เป็นคำต่อท้ายที่เป็นรูปธรรมสำหรับคำกริยาในอดีตกาล เราตัดส่วนเหล่านี้ของคำออกและรับฐาน - "chita"

ก้านคำสามารถไม่ใช่อนุพันธ์และเป็นอนุพันธ์ได้ ก้านที่ไม่ใช่อนุพันธ์คือก้านที่ไม่สามารถแบ่งออกเป็นรูปแบบอื่นได้ ประกอบด้วยรากเดียวเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ในคำว่า "ป่า" ก้าน "ป่า" ประกอบด้วยรากเดียว ดังนั้นจึงไม่ใช่อนุพันธ์ และในคำว่า "วิ่งข้าม" ก้าน "กากบาท" ประกอบด้วยคำนำหน้าและรากนั่นคือแบ่งออกเป็นหน่วยคำดังนั้นก้านดังกล่าวจะเป็นอนุพันธ์ การสร้างลำต้นก็มีความโดดเด่นเช่นกัน - สิ่งเหล่านี้คือต้นกำเนิดของคำศัพท์ใหม่ที่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น ก้านที่ไม่ใช่อนุพันธ์ของคำว่า "ป่า" มีประสิทธิผลสำหรับคำว่า "ป่า"

และคำต่อท้ายรูปแบบ: ต้นสน-ก, ทะเลทราย-ฉัน, แปด-อุ๊ย, ของเรา-ก, สนุกสนานไทย, ชิตะ-ล- ในคำที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ก้านจะเท่ากับคำว่า: สูง , ฝัน - ในบางกรณีฐานอาจไม่ต่อเนื่อง:

• รูปแบบกริยาที่มีคำลงท้าย -xia/ -ส การสอน -เลขที่-เซี่ย ;
• ฐานของคำสรรพนามไม่ชี้เฉพาะที่มีคำลงท้าย -ที่/ -หรือ/ -สักวันหนึ่ง ยังไง -อุ๊ย-ที่ ;
• ก้านของคำนามประสมบางคำ ตู้เสื้อผ้า -ก-รถเก๋ง ;
• พื้นฐานของจำนวนเชิงซ้อน เจ็ด -และ-สิบ -และ.

ฐานสามารถได้รับหรือไม่ใช่อนุพันธ์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโครงสร้าง ไม่ใช่อนุพันธ์เป็นลำต้นที่ประกอบด้วยหน่วยคำเดียว - ราก: เมือง , โต๊ะ , สีเหลืองไทย. อนุพันธ์เป็นก้านที่มีการแยกคำลงท้ายตั้งแต่สองคำขึ้นไปออกจากกัน โดยปกติจะเป็นรากที่รวมกับส่วนต่อท้ายตั้งแต่หนึ่งรายการขึ้นไป: ขนมปัง-n -ไทย- ด้วยคำนำหน้าตั้งแต่หนึ่งคำขึ้นไป: เที่ยวบิน - ด้วยคำต่อท้ายและคำนำหน้าพร้อมกัน: ไม่มีบ้าน-n -ไทย- คำใหม่สามารถเกิดขึ้นได้จากทั้งฐานที่ไม่ใช่อนุพันธ์และฐานที่ได้รับ

จำเป็นต้องแยกความแตกต่างจากฐานที่ได้รับและไม่ใช่อนุพันธ์ ฐานการผลิต- ฐานที่สร้างคำศัพท์ใหม่ ตัวอย่างเช่น ก้านคำที่ไม่เป็นอนุพันธ์ของคำ ความแข็งแกร่ง-กเป็นตัวกำเนิดของคำ แข็งแกร่งไทย.

วรรณกรรม

• Ogekyan I. N. , Volchek N. M. , Vysotskaya E. V. et al. “ หนังสืออ้างอิงเล่มใหญ่: ภาษารัสเซียทั้งหมด วรรณคดีรัสเซียทั้งหมด" - Mn.: สำนักพิมพ์ Modern Literator, 2546 - 992 หน้า

มูลนิธิวิกิมีเดีย

• 2010.
• ฮาริฮาระ

เกาะไครเมีย

ดูว่า "ฐานคำ" ในพจนานุกรมอื่นๆ คืออะไร:ก้านของคำ - 3.5 ก้านคำ: ส่วนหนึ่งของคำที่ใช้สร้างคำศัพท์ใหม่ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน แหล่งที่มา …

ดูว่า "ฐานคำ" ในพจนานุกรมอื่นๆ คืออะไร:หนังสืออ้างอิงพจนานุกรมเกี่ยวกับเอกสารเชิงบรรทัดฐานและทางเทคนิค

ดูว่า "ฐานคำ" ในพจนานุกรมอื่นๆ คืออะไร:- พื้นฐานของการผันคำ; พื้นฐานของการสร้างรูปร่าง ฐานการผันคำ) ส่วนทั่วไปของรูปแบบของคำหรือกระบวนทัศน์การผันคำทั้งหมด ตัวอย่างเช่น: กระต่าย กระต่าย กระต่ายน้อย ฯลฯ... - ส่วนหนึ่งของคำที่มีความหมายคำศัพท์และจะคงอยู่หากส่วนท้ายและส่วนต่อท้ายที่เป็นรูปธรรมถูกนำออกไป ก้านอินฟินิตี้ พื้นฐานของกาลปัจจุบัน พื้นฐานไม่ใช่อนุพันธ์ ฐานที่ไม่มีสิ่งมีชีวิต......

ดูว่า "ฐานคำ" ในพจนานุกรมอื่นๆ คืออะไร:พจนานุกรมคำศัพท์ทางภาษา - ส่วนหนึ่งของคำที่ไม่สิ้นสุด คำนามมีก้านเดียว กริยามีสองก้าน: infinitive และกาลปัจจุบัน จากรูปแบบแรก รูปแบบของอดีตกาลจะเกิดขึ้น รวมทั้งผู้มีส่วนร่วมและคำนาม จากรูปที่สอง - รูปส่วนตัวก็เห็นเป็นรูป... ...

สารานุกรมวรรณกรรม ฐานคำในสัณฐานวิทยา

สารานุกรมวรรณกรรมพจนานุกรมศัพท์ภาษาศาสตร์ T.V. ลูก - ส่วนร่วมของคำทุกรูปแบบในคำเดียวกัน ซึ่งยังคงอยู่หลังจากตัดส่วนท้าย คำลงท้าย และคำต่อท้ายแบบรูปออกแล้ว...

สัณฐานวิทยา การสร้างคำ: หนังสืออ้างอิงพจนานุกรม- คำพื้นฐานคลุมเครือ: พื้นฐานของคำทางสัณฐานวิทยา พื้นฐานทางไวยากรณ์ของประโยคในรูปแบบไวยากรณ์ ด้ายยืน (ระบบด้ายผ้า) พื้นฐานของฟิล์มคือเทปเซลลูลอยด์ซึ่งเทอิมัลชันภาพถ่ายลงไป พื้นฐาน ... ... วิกิพีเดีย

ฐาน (ความหมาย)- วาร์ป : คำว่า วาร์ป วาร์ปของผ้าเป็นระบบแนวยาวของเส้นด้ายในผ้า ย่านประวัติศาสตร์ Osnova (Kharkiv) ของ Kharkov พื้นฐาน (จิตรกรรม) ... Wikipedia

ก้านของ infinitive (อดีตกาล)- ก้านของคำที่ไม่มีส่วนต่อท้ายของ infinitive ปิดท้ายด้วย O.i. ถึงสระ... ฐานคำในสัณฐานวิทยา

พื้นฐานของกาลปัจจุบัน (ง่ายในอนาคต)- ก้านของคำที่ได้หลังจากละทิ้งคำลงท้ายในรูปกริยากาลปัจจุบัน... ฐานคำในสัณฐานวิทยา

หนังสือ

• คำ. เล่มที่ 3 การต่อสู้ทางจิตวิญญาณ Paisiy Svyatogorets หนังสือ "การต่อสู้ทางจิตวิญญาณ" - เล่มที่สามของ "คำพูด" ของนักบุญ Paisius the Holy Mountain - คู่มือสู่ทะเลแห่งชีวิตฝ่ายวิญญาณ คนเรามักมีอาการวิตกกังวล นอนไม่หลับ อาการป่วยทางจิต และสาเหตุก็คือ...

พื้นฐานของคำ - ตำราเรียนภาษารัสเซียชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (Kanakina, Goretsky)

คำอธิบายโดยย่อ:

ส่วน "องค์ประกอบของคำ" ในหนังสือเรียนภาษารัสเซียสำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ลงท้ายด้วยหัวข้อ "พื้นฐานของคำ" ตอนนี้คุณได้เรียนรู้ที่จะค้นหาคำนำหน้าและคำต่อท้ายในคำแล้ว ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจว่าต้นกำเนิดคืออะไรและจะค้นหาได้อย่างไรในคำเดียว คุณเพียงแค่ต้องทิ้งตอนจบ ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น? มาทำความเข้าใจสิ่งนี้ด้วยความช่วยเหลือของตัวอย่าง เมื่อเปรียบเทียบคำว่า "บ้าน" และ "บ้านหลังเล็ก" เราเข้าใจว่าคำต่อท้าย -ik- เพิ่มคำจำกัดความ "เล็ก" ให้กับความหมายคำศัพท์หลักของคำ และในคำว่า "ติดกัน" คำนำหน้าระบุตำแหน่งของบางสิ่งบางอย่าง หากมีเพียงตอนจบปรากฏขึ้นเช่น "บ้าน" - "ในบ้าน" ความหมายของคำก็ไม่เปลี่ยนแปลงเลย ปรากฏว่าตอนจบไม่มีผลกับความหมายของคำแต่อย่างใด นี่ไม่ได้หมายความว่าตอนจบไม่สำคัญเท่ากับส่วนหนึ่งของคำเหมือนกับส่วนที่เหลือ หากไม่มีการสิ้นสุด เราก็ไม่สามารถเชื่อมโยงคำต่างๆ เข้าด้วยกันได้ เราจะพูดว่า "ฉันกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้" และการลงท้ายไม่รวมอยู่ในพื้นฐานของคำอย่างแน่นอนเพราะไม่ได้เปลี่ยนความหมายของคำศัพท์ คำที่เชื่อมโยงกันคือ "รากฐาน" ช่วยให้เข้าใจว่ารากฐานคืออะไร นั่นคือฐานเป็นพื้นฐานที่ความหมายของคำทั้งคำที่มีคำนำหน้าและคำต่อท้ายหมายถึง ในกรณีที่ยาก คุณควรดูพจนานุกรมการสร้างคำแบบพิเศษ

ทุกคำในภาษารัสเซียสามารถแบ่งออกเป็นส่วนๆ ได้ คำบางคำประกอบด้วยรากศัพท์และคำลงท้าย บางคำมีคำนำหน้าหรือคำต่อท้าย หรือทั้งสองอย่าง และทุกคำมีต้นกำเนิดซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนหลัก เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่จะเข้าใจว่าพื้นฐานทางไวยากรณ์คืออะไร จะค้นหาได้อย่างไร และมีความสำคัญอย่างไรต่อกระบวนการสร้างคำ และเนื่องจากการระบุส่วนนี้ของคำอาจทำให้เกิดปัญหาได้ จึงควรศึกษาหัวข้อนี้อย่างรอบคอบ

พื้นฐานของคำ: มันคืออะไรและมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?

ดังนั้น ก้านจึงเป็นหน่วยสร้างคำที่รวมคำทั้งหมดยกเว้นส่วนท้าย และเป็นผู้ถือความหมายศัพท์ของคำนี้ มันแตกต่างกันสำหรับคำที่ไม่เปลี่ยนรูปและไม่เปลี่ยนรูป

ดังนั้นในคำเหล่านั้นที่เปลี่ยนแปลง (นั่นคือ ผันหรือผัน) มันเป็นส่วนหนึ่งของคำที่ไม่รวมถึงองค์ประกอบที่เป็นรูปธรรมนั่นคือตอนจบและส่วนต่อท้ายบางส่วน หากต้องการเน้นให้แยกองค์ประกอบดังกล่าวออกก็เพียงพอแล้ว ในคำที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ คุณสามารถใส่เครื่องหมายเท่ากับระหว่างต้นกำเนิดและคำนั้นได้

นักเรียนมักพบว่าเป็นการยากที่จะระบุต้นกำเนิดของคำที่ขึ้นต้นด้วย -y เช่น lisiy ส่วนต่อท้าย i เข้าใจผิดว่าเป็นตอนจบและนำออกนอกก้าน ในการตรวจสอบคำที่น่าสงสัยคุณต้องเปลี่ยนคำนั้น: การสิ้นสุดจะเปลี่ยนไปส่วนต่อท้ายจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของคำ

ฐานอนุพันธ์และฐานไม่อนุพันธ์

คำเหล่านั้นในภาษารัสเซียที่ไม่ได้สร้างจากคำอื่นมีอักขระหลัก สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร? ว่ามีฐานที่ไม่อนุพันธ์ เช่น สีดำ น้ำ ป่าไม้ สีเทา เป็นต้น ไม่สามารถแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ได้ แต่เป็นหน่วยการสร้างคำที่แบ่งแยกไม่ได้

ก้านอนุพันธ์ถูกสร้างขึ้นโดยการเติมคำต่อท้ายและคำนำหน้าต่างๆ ให้กับก้านที่ไม่ใช่อนุพันธ์ ดังนั้นเราจึงสามารถพูดได้ว่าต้นกำเนิดที่ได้รับนั้นไม่ใช่อนุพันธ์บวกกับหน่วยคำที่แนบมาด้วย

ตาราง “ต้นกำเนิดคำ” จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าต้นกำเนิดที่ได้รับคืออะไร

ก้านอนุพันธ์สามารถแบ่งออกเป็นส่วน ๆ คือแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือต่อเนื่องเช่นคำว่าปลาและไม่ต่อเนื่องเช่นคำว่าสำลักโดยที่คำต่อท้ายที่ตามหลังตอนจบก็เป็นส่วนหนึ่งของ ลำต้น

นอกจากนี้ในการสร้างคำยังมีแนวคิดที่สำคัญเช่นต้นกำเนิด ลำต้นที่ได้รับมาทุกอันจะมีหนึ่งอัน - มันคือลำต้นที่มีการเพิ่มคำต่อท้ายและคำนำหน้าเพื่อสร้างลำต้นอื่น สิ่งนี้นำไปสู่การก่อตัวของสายโซ่ของคำที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งเป็นลิงค์แรกซึ่งเป็นต้นกำเนิดของต้นกำเนิด

เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง?

แนวคิดที่เป็นพื้นฐานของคำนั้นไม่ง่ายอย่างที่เชื่อกันทั่วไป ดังนั้นเพื่อที่จะเน้นมัน คุณต้องหาจุดสิ้นสุด - ส่วนหนึ่งของคำที่อยู่ข้างหน้านั้นเป็นพื้นฐาน ในเวลาเดียวกันมีหลายคำที่มีต้นกำเนิดเป็นระยะ ๆ นั่นคือส่วนหนึ่งอยู่ด้านหลังตอนจบไม่ใช่ก่อนหน้านั้น เมื่อเรียนรู้ว่าต้นกำเนิดของคำในภาษารัสเซียคืออะไร นักเรียนจะได้เรียนรู้ด้วยว่าคำนั้นไม่สามารถเป็นอนุพันธ์หรืออนุพันธ์ได้ ในกรณีแรกเรากำลังพูดถึงก้านที่ไม่ได้เกิดจากคำอื่นใดในกรณีที่สอง - เกี่ยวกับก้านที่ไม่ใช่อนุพันธ์ที่มีองค์ประกอบที่สร้างคำ ก้านที่ไม่ใช่อนุพันธ์ในสถานการณ์เช่นนี้เรียกว่าการสร้างและในกรณีส่วนใหญ่จะเริ่มเป็นสายโซ่ของคำที่เชื่อมโยงกัน มีกฎเกณฑ์ที่ทุกฐานที่ได้รับจะมีการสร้างขึ้นมา

สัณฐานวิทยา การสร้างคำ: หนังสืออ้างอิงพจนานุกรม- ส่วนนิวเคลียร์ของคำที่เกี่ยวข้องกับความหมายคำศัพท์ที่แท้จริง นี่คือองค์ประกอบโครงสร้างของคำซึ่งมีความเสถียรและความมั่นคงขององค์ประกอบทางสัณฐานวิทยา พุธ: แข็งแกร่ง คุณ - แข็งแกร่ง- แข็งแกร่งของเธอ - แข็งแกร่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด.

ก้านของคำที่แก้ไขสามารถตรงกับหน่วยคำของรากได้ (ต้นไม้โอ้ สีขาวญ)หรือใส่รากศัพท์และคำลงท้ายด้วย (หาเอ, คำสั่งใช่, การสมรู้ร่วมคิดโอ)ก้านของคำที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จะเท่ากับคำทั้งหมด: เสื้อคลุมขึ้นจากด้านหลัง .

พื้นฐานคือหน่วยปฏิบัติการของการวิเคราะห์คำซึ่งทำให้สามารถแยกความแตกต่างระหว่างรูปแบบไวยากรณ์และหน่วยคำศัพท์และเพื่อระบุฐานการผลิตสำหรับอนุพันธ์

มีความเข้าใจคำว่า "คำต้นกำเนิด" อย่างกว้างและแคบ ความเข้าใจที่แคบพบได้ในการฝึกสอนภาษารัสเซียของโรงเรียนซึ่งโดยทั่วไปแล้วพื้นฐานของคำจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำที่ไม่มีการสิ้นสุด: ปราดเปรื่อง โอ้, สนุกอี บอกใช่

ในทางปฏิบัติของมหาวิทยาลัย ก้านของคำเข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำที่ไม่มีส่วนเสริมที่เป็นโครงสร้าง เช่น การผันคำและส่วนต่อท้ายที่เป็นรูปธรรมจะไม่รวมอยู่ในองค์ประกอบของก้าน: ชิตะ ร่าเริง, คิดฉัน, ปิซาใช่, พูดลฯลฯ

ก้านของคำนั้นต่างกัน พวกเขาแตกต่างกัน:

1) โดยธรรมชาติของความสมบูรณ์ของโครงสร้าง

2) ตามจำนวนรากที่รวมอยู่ในองค์ประกอบ

ขึ้นอยู่กับลักษณะที่แตกต่างต่าง ๆ มูลนิธิประเภทต่อไปนี้มีความโดดเด่น:

1) กะทัดรัด - ไม่ต่อเนื่อง;

2) ง่าย - ซับซ้อน;

3) แบ่งแยกได้ - แบ่งแยกไม่ได้

กะทัดรัดฐานรากมีลักษณะเฉพาะด้วยความสมบูรณ์ของโครงสร้าง: ประโยค ใช่, นิยายเอ, ซินใช่

ไม่ต่อเนื่องฐานรากมีลักษณะการละเมิดความสามัคคีของโครงสร้าง สิ่งเหล่านี้คือรากฐานที่ "แตกสลาย" โดยส่วนเสริมที่เป็นรูปธรรม: ซักผ้า ที เซี่ย, ยังไงอุ๊ย- หรือ, ตรึงอร่อย เซี่ย.

เรียกว่าฐานที่มีหนึ่งรูท เรียบง่าย- รวมหลายราก - ซับซ้อน- พุธ: ป่าไม้ — การบันทึกก.

ฐานที่มีหนึ่ง morph นั่นคือ เรียกว่า morphs ที่แยกไม่ออกอีก แบ่งแยกไม่ได้: โอ๊ค สีเบจ ทันใดนั้นเป็นต้น เรียกว่าฐานที่ประกอบด้วยมอร์ฟหลายตัว หารได้: ซื้อ ก- ก้านของคำประกอบด้วย morphs สามแบบ (pre-fix โดย-,ราก -คุป-และคำต่อท้าย -ถึง-),มันสามารถแบ่งออกเป็นหน่วยคำได้และดังนั้นจึงถูกจดจำว่าแบ่งแยกได้

พื้นฐานใดๆ สามารถกำหนดลักษณะเฉพาะของระดับที่แตกต่างกันทั้งสามระดับได้ ตัวอย่างเช่น: ก้านคำ การต่อไม้บนเรือ - การต่อเรือ — กะทัดรัด ซับซ้อน พูดชัดแจ้ง; จูบ - จูบ - ไม่ต่อเนื่อง, เรียบง่าย, พูดชัดแจ้ง; ช้อน— ช้อน - กะทัดรัด เรียบง่าย แยกไม่ออก

คำที่ได้มา. สัญญาณของคำที่ได้มา

การสร้างคำหรือ อนุพันธ์วิทยา(จากภาษาละติน derivatum “ผลิต, อนุพันธ์”) เป็นสาขาหนึ่งของภาษาศาสตร์ที่ศึกษาโครงสร้างและความหมายของคำที่ได้มา วิธีการสร้างและการรวมกันของคำเหล่านั้น (การจัดกลุ่ม)

ประเด็นหลักที่ต้องพิจารณาในการสร้างคำคือ คำอนุพันธ์ (deri-vat)คำที่ได้มาคือคำที่ความหมายและเสียงถูกกำหนดโดยความหมายและรูปแบบเสียงของคำอื่นที่มีรากเดียวกัน เปรียบเทียบ: นักเรียน นักเรียน อ่านซ้ำ . คำที่ได้มานั้นมาจากความหมายและเป็นทางการจากคำอื่นที่เกี่ยวข้องที่กระตุ้นให้เกิดคำนั้น

สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตัวอย่างเช่น ในบทสนทนาต่อไปนี้:

“[เห็ด] นี้” แม่พูด “เรียกว่าเห็ดชนิดหนึ่ง” เห็นไหมว่ามันเติบโตอยู่ใต้ต้นเบิร์ช นั่นเป็นสาเหตุที่เรียกว่าเห็ดชนิดหนึ่ง แต่นี่คือเนย ดูสิหมวกของพวกเขาแวววาวแค่ไหน

“ใช่” สาวๆ พูด “เหมือนทาเนยเลย” (แอล. ปันเทเลฟ)

คำที่สร้างแรงบันดาลใจและอนุพันธ์เชื่อมโยงกันด้วยความสัมพันธ์ของแรงจูงใจทางการศึกษา

นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างคำสองคำที่มีรากเดียวกันซึ่งความหมายของหนึ่งในนั้นคือ:

1) หรือถูกกำหนดผ่านมูลค่าของสิ่งอื่น: โอนย้าย® นักแปล ("ผู้แปล") ช้าง® ลูกช้าง (“ลูกช้าง”);

2) หรือเหมือนกันกับสิ่งอื่นในองค์ประกอบทางความหมายทั้งหมด ยกเว้นความหมายบางส่วน-ทางวาจา เปรียบเทียบ: อ่อนโยน® เบา ๆ เงียบ ๆ® เงียบ ;

3) หรือเหมือนกันโดยสิ้นเชิงในความหมายอื่นโดยมีความแตกต่างในการระบายสีโวหาร: อัฟกานิสถาน® อัฟกันครับอาจารย์® ครู .

คำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจและแรงบันดาลใจประกอบขึ้นเป็น คู่ที่สร้างคำคำที่เป็นแรงบันดาลใจในคู่นี้คือคำที่เป็นทางการและเชิงความหมายที่ซับซ้อนกว่ารากศัพท์เดียวกัน: กวาง® เนื้อกวางรถแทรกเตอร์® คนขับรถแทรกเตอร์, คนทำขนมปัง® เบเกอรี่ . คำ เบเกอรี่ , ตัวอย่างเช่น อย่างเป็นทางการ “อีกต่อไป” (ตามส่วนต่อท้าย -น-)และความหมายซับซ้อนกว่าคำนั้น คนทำขนมปัง : รวมถึงองค์ประกอบเชิงความหมาย "สถานที่"

ในกรณีที่ทั้งสองคำตรงกันในจำนวนองค์ประกอบที่เป็นทางการ คำที่มีความหมายซับซ้อนมากขึ้นจะถือเป็นแรงจูงใจ เปรียบเทียบ: ประวัติศาสตร์ ® ประวัติศาสตร์ ico (“ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์”) ความเศร้าโศก (i)® ความเศร้าโศก-iko .

เพื่อที่จะกำหนดทิศทางของแรงจูงใจได้อย่างถูกต้องและเน้นคำที่สร้างแรงบันดาลใจจำเป็นต้องใช้เทคนิคการตีความคำอนุพันธ์โดยละเอียด: คนไถนา — “คนไถ” (คำจูงใจ- ไถ), ชามน้ำตาล — "ภาชนะใส่น้ำตาล" (คำสร้างแรงบันดาลใจ - น้ำตาล), แล่นเรือ — “ พองตัวเหมือนใบเรือ” (คำสร้างแรงบันดาลใจ - แล่นเรือ), หลีกเลี่ยงไม่ได้ - “สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” (คำจูงใจ - หลีกเลี่ยง).

เมื่อตีความคำที่ได้รับจะใช้คำจำกัดความมาตรฐานหรือ "ขอบเขตการสร้างคำ" (A.I. Moiseev) ซึ่งประกอบด้วยสองส่วน: ส่วนทั่วไป (ทั่วไป) ซึ่งมักจะแสดงด้วยบล็อกสรรพนาม ( คนที่...; ที่...),และพันธุ์โดยเน้นลักษณะเด่นคือ ครู — "คนที่สอน" “ประโยครอบนอกที่เรียบเรียงอย่างถูกต้องจะทำให้เราสามารถสร้างความต่อเนื่องของคำที่ตีความ คำที่ก่อให้เกิด และทิศทางของความอนุพันธ์ได้” 1 การตีความประเภทอื่นๆ ที่เน้นคำที่สร้างแรงบันดาลใจก็เป็นไปได้เช่นกัน: เกี่ยวกับการเดินเรือ — "เกี่ยวกับทะเล" ไม่มีตั๋ว - "ไม่มีตั๋ว" ความร่าเริง — “ทรัพย์สินตามความหมายของคำคุณศัพท์ ร่าเริง” ล้มละลาย — "กลายเป็นบุคคลล้มละลาย"

ดังนั้นหากในสัณฐานวิทยาของคำที่พูดชัดแจ้งและแบ่งแยกไม่ได้นั้นขัดแย้งกัน ดังนั้นในการสร้างคำ คำจะแยกความแตกต่างระหว่างคำที่ได้มาและไม่อนุพันธ์

คำอนุพันธ์มีลักษณะเฉพาะหลายประการ.

1. อนุพันธ์มีข้อต่อที่เชื่อมต่ออย่างอิสระ: น้ำ® น้ำบาร์เรล® คูเปอร์ . คำที่มีลักษณะการเปล่งเสียงไม่เพียงพอนั้นไม่ใช่คำดัดแปลงในภาษาสมัยใหม่: หมูต้มลูกเกด .

2. คุณลักษณะที่สำคัญที่สุดของคำที่ได้รับคือแรงจูงใจในการสร้างคำ ตามที่ระบุไว้แล้ว ความหมายและรูปแบบของอนุพันธ์จะขึ้นอยู่กับคำอื่น ดังที่ G. O. Vinokur กล่าวไว้ “ความหมายของคำที่มีฐานรากจะถูกกำหนดโดยการอ้างอิงถึงความหมายของฐานหลักที่สอดคล้องกันเสมอ” เกณฑ์สำหรับความเป็นมาของคำ (เกณฑ์ของ G.O. Vinokur) ตระหนักถึงการดำรงอยู่ที่จำเป็นในภาษาของหน่วยที่จูงใจอนุพันธ์ที่กำหนด: “ ... เราสามารถพูดเกี่ยวกับฐานที่ได้รับได้ก็ต่อเมื่อและตราบเท่าที่ยังไม่มี - ฐานอนุพันธ์มีความสัมพันธ์กับมัน”

3. คำที่ได้รับมีโครงสร้างไบนารี (สององค์ประกอบ) ขอ​พิจารณา​คำ​เช่น​นั้น การเล่าเรื่อง . จากมุมมองขององค์ประกอบทางสัณฐานวิทยา มี morphemic อยู่ห้าแบบ จากมุมมองของการสร้างคำ ในโครงสร้างของคำนี้มีองค์ประกอบที่แตกต่างกันสองส่วน: ฐานของคำที่ทำให้เกิดอนุพันธ์นี้ (บอก-ไทย) และวิธีการสร้างมันขึ้นมา (คำต่อท้าย -ก็ไม่เช่นกัน- ). โครงสร้างของอนุพันธ์จึงเป็นเลขฐานสองเสมอ มันแยกแยะฐานการผลิตและรูปแบบการสร้างคำหรืออนุพันธ์

ฐานการผลิต- นี่คือพื้นฐานของคำที่สร้างแรงบันดาลใจหรือคำที่สร้างแรงบันดาลใจโดยรวม เปรียบเทียบ: หว่าน® ผู้หว่าน, หว่าน® หว่าน; ทนต่อ® ความอดทน; โปรด® ชื่นชมยินดี .

ฐานการผลิตสามารถแสดงได้ด้วยฐานของคำหลายคำ: หิมะขาว สีขาว ไทยยังไง หิมะ - หิมะตก หิมะ โอ + เบาะที่; น้ำแข็งสีดำ เป้าหมาย ไทยและ น้ำแข็ง โอ

รูปแบบอนุพันธ์(อนุพันธ์) เป็นวิธีการอย่างเป็นทางการและความหมายที่เล็กที่สุดซึ่งคำที่ได้มานั้นแตกต่างจากคำที่ผลิต นี่คือองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของโครงสร้างของคำที่ได้รับ รูปแบบอนุพันธ์คือ ประการแรก วิธีการแสดงความหมายอนุพันธ์ และประการที่สอง วิธีการเฉพาะของการสร้างอนุพันธ์บนพื้นฐานของฐานกำเนิดอย่างใดอย่างหนึ่ง เปรียบเทียบ: เรียนรู้® ครู; จมูก® สะพานจมูก ผู้เขียน® ผู้เขียนร่วม; หู® หู .

เราเห็นว่าในตัวอย่างทั้งหมดที่พิจารณา รูปแบบคือส่วนเสริมและการรวมกัน อย่างไรก็ตาม ช่วงของรูปแบบในภาษานั้นกว้างกว่ามาก

รูปแบบ (อนุพันธ์) ในภาษารัสเซียสมัยใหม่คือ:

1) ส่วนต่อท้าย (คำนำหน้า, ส่วนต่อท้าย, ส่วนต่อท้ายและการรวมกัน - อ่านซ้ำ; ผู้อ่าน; ศึกษา; วิ่งหนี );

2) การลด (การตัดทอน) ของพื้นฐานการผลิต (ผู้เชี่ยวชาญ® ผู้เชี่ยวชาญ; เครื่องบันทึกเทป® นักมายากล) ;

3) ลำดับส่วนประกอบที่มั่นคงระหว่างการเติมและความเครียดหลักเดี่ยว ( ทันที; รถเสบียง );

4) การเปลี่ยนแปลง (โดยปกติจะแคบลง) ของกระบวนทัศน์ทางสัณฐานวิทยา (เช่นระบบรูปแบบไวยากรณ์) ของคำที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนจากส่วนหนึ่งของคำพูดไปยังอีกส่วนหนึ่ง ( ไอศกรีม นักวิทยาศาสตร์ อยู่รอบตัว — คำนาม ® คำวิเศษณ์ ® คำบุพบท)

รูปแบบทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ตาม: แบบติดและแบบไม่ติด (ปฏิบัติการ)

รูปแบบการลงท้ายประกอบด้วยการลงท้ายคำและการรวมกัน ในขณะที่รูปแบบการลงท้ายรวมถึง:

1) การลด (การตัดทอน) ของพื้นฐานการผลิต (นักมายากลผู้จัดการ);

2) ลำดับส่วนประกอบที่มั่นคงและความเป็นไปได้ของการเน้นเพียงจุดเดียว (ลายเซ็นด้านล่าง, รถเสบียง) ;

3) การออกแบบกระบวนทัศน์ทางสัณฐานวิทยาใหม่ (ห้องครูอนาคต) . นอกจากนี้ยังสามารถรวมรูปแบบประเภทต่างๆ เข้าด้วยกันเป็นอนุพันธ์เดียวได้ เช่น คำต่างๆ วิดีโอการ์ตูน (เมื่อเกิดขึ้นแล้ว การตัดทอนจะรวมกับการต่อท้าย)