สัตว์ศักดิ์สิทธิ์สี่ชนิดของจีน เสือจีนตอนใต้
คุณผู้อ่านของฉันเป็นคนจริงใจที่ต้องการเรียนรู้มาก และฉันอยากช่วยคุณจริงๆ ดังนั้นลองใช้หนังสือของฉันอย่างชาญฉลาดเพื่อไม่ให้ทำร้ายตัวเองและผู้อื่น สุภาษิตที่มีชื่อเสียงเป็นจริง: ถนนสู่นรกปูด้วยเจตนาดี ฉันหวังว่าคุณจะพบเส้นทางที่ถูกต้อง
และฉันสัญญาว่าจะแนะนำคุณตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ
ฮวงจุ้ยคลาสสิก
มรดกของจีนโบราณ
เราเดาได้แค่ว่าคนโบราณมีความรู้อะไรบ้าง แทบไม่มีอนุสรณ์สถานที่เป็นลายลักษณ์อักษรในสมัยนั้น มีเพียงตำนานที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้น สิ่งที่เรารู้ในปัจจุบันว่าฮวงจุ้ยนั้นมีอยู่ในประเพณีปากเปล่าเท่านั้น แต่ถามคำถาม: ความรู้ที่ไม่ถูกต้องจะคงอยู่ได้หรือไม่? มันจะส่งต่อไปยังลูกหลานอย่างระมัดระวังหรือไม่? ถ้าคำสอนใดไม่ได้ผลหรือผลงานไม่ดีก็จะตายอย่างปลอดภัย ฮวงจุ้ยไม่เพียงแต่ไม่ตายเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นความรู้เดียวเกี่ยวกับการประสานกันของสภาพแวดล้อมภายนอกและโลกภายในของบุคคลที่ใช้ในประเทศจีนมานานนับพันปี
จีนเป็นประเทศขนาดใหญ่ที่มีสภาพภูมิอากาศที่หลากหลายมาก ในภาคเหนือผู้อยู่อาศัยต้องทนทุกข์ทรมานจากลมแรงอย่างต่อเนื่องในภาคใต้ - จากน้ำท่วมร้ายแรงและดินหลักประกอบด้วยดินเหลือง (นี่คือหินปูนสีเหลืองเนื้อละเอียด) - จากพายุฝุ่นที่หายใจไม่ออกอย่างต่อเนื่อง ต่างจากรัสเซียซึ่งผู้คนส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนที่ราบ จีนไม่สามารถจินตนาการได้หากไม่มีภูเขา ดูทิวทัศน์ของจีนที่ขายในร้านขายงานศิลปะ - เหล่านี้คือทิวทัศน์ภูเขา ภูเขาในประเทศจีนปกป้องผู้คนจากลม แม่น้ำที่เชี่ยวกราก และจากทรายที่น่ารำคาญ นอกจากนี้และเด็กนักเรียนทุกคนรู้เรื่องนี้หากมีภูเขาโครงสร้างของเปลือกโลกในบริเวณนั้นก็มีความแตกต่างกันมาก ดังนั้น ผู้คนจึงถูกบังคับให้เรียนรู้ที่จะเข้าใจว่าพวกเขาจะสามารถสร้างบ้านได้อย่างปลอดภัยที่ไหน และที่ไหนจะดีกว่าที่จะไม่สร้างบ้าน น้ำและแม่น้ำนำมาซึ่งชีวิต ทำให้ผู้คนมีโอกาสปลูกพืช แต่ในขณะเดียวกันแม่น้ำของจีนก็เป็นอันตราย บางครั้งน้ำท่วมพื้นที่ขนาดใหญ่ บ้านเรือนถูกพัดพาไปอย่างเร่งรีบ และผู้คนเสียชีวิตในลำธารที่ปั่นป่วน ดังนั้นชาวจีนจึงคุ้นเคยกับการบำบัดน้ำด้วยความเคารพ จากองค์ประกอบทั้งสองนี้ - ลักษณะของชีวิตในพื้นที่ภูเขาและความสามารถในการควบคุมองค์ประกอบของน้ำ - ทำให้เกิดการสอนฮวงจุ้ย
ชีวิตของชาวจีนนั้นอันตรายและโหดร้าย และเขาต้องตั้งบ้านของเขาในลักษณะที่ไม่สั่นสะท้านด้วยลมหนาวในฤดูหนาว และไม่พินาศไปกับธารน้ำในฤดูใบไม้ผลิ ตัวอย่างเช่น ในเมืองลั่วหยาง ซึ่งดินประกอบด้วยดินเหลืองและภูมิประเทศค่อนข้างราบเรียบ จึงมีการสร้างเครือข่ายบ้านอุโมงค์ทั้งหมดเพื่อหลบเลี่ยงพายุฝุ่น ในภาคใต้พวกเขาพยายามอาศัยอยู่บนเนินเขาเพราะไม่เช่นนั้นบ้านเรือนจะถูกทำลายหรือถูกน้ำท่วมโดยแม่น้ำที่เชี่ยวกราก แต่ละพื้นที่มีปัญหาของตัวเอง ธรรมชาติของจีนมีความสวยงามมาก แต่ก็ยากที่จะอยู่รอดในความงามนี้หากคุณไม่เรียนรู้ที่จะแสวงหาความสามัคคีกับโลกรอบตัวคุณ และชาวจีนก็ค้นพบตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับอาคารใดๆ โดยสัญชาตญาณ พวกเขาเริ่มสร้างบ้านโดยให้ยืนอยู่ครึ่งทางจากด้านบน: ต่ำพอที่จะป้องกันตัวเองจากลม และสูงพอที่จะหนีจากน้ำได้ แปลจากภาษาจีนว่า "ฮวงจุ้ย" แปลว่า "ลมและน้ำ" บุคคลต้องการอะไรอีกสำหรับความเป็นอยู่ที่ดี ความเจริญรุ่งเรือง และชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข? ถ้ามีเพียงน้ำไว้รดน้ำพืชผลและเก็บเกี่ยวผลไม้ ก็จะมีภูเขาไว้คอยปกป้องพวกเขาจากความหนาวเย็นในฤดูหนาว... ผู้คนเห็นว่าบ้านบางหลังให้ความคุ้มครองแก่เจ้าของ ในขณะที่บางหลังนำไปสู่ความตายอย่างรวดเร็ว ทำไม พวกเขาสังเกตว่าบ้านที่ไม่ดีหน้าตาเป็นอย่างไร และบ้านที่ดีหน้าตาเป็นอย่างไร โดยใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น ประตูและหน้าต่างไปทางไหน ผนังอยู่อย่างไร มุมแบบไหน มีต้นไม้อยู่ใกล้บ้านหรือไม่ มีน้ำเพียงพอ น้ำแบบไหน ยืนหรือวิ่ง , - ทุกสิ่งมีความสำคัญสำหรับพวกเขา หากเห็นว่าบ้านของตนไม่นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองก็พยายามเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ไม่รบกวนความสามัคคีของโลก และมีลักษณะคล้ายกับภาพลักษณ์ของบ้านในอุดมคติที่ให้บริการเจ้าของอย่างซื่อสัตย์ แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะไม่ได้มีประชากรหนาแน่นมากนัก แต่ก็สามารถเลือกสถานที่ตั้งบ้านที่จะให้ข้อได้เปรียบแก่บุคคลได้ แต่จำนวนประชากรก็เพิ่มขึ้น ปัจจุบันจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีผู้คนมากมายอาศัยอยู่ที่นั่นแม้ในสมัยโบราณ และค่อยๆ มีความจำเป็นไม่เพียงแต่จะต้องสามารถเลือกสถานที่ที่ดีสำหรับการพัฒนาเท่านั้น แต่ยังต้องปรับปรุงสถานที่ที่ไม่เหมาะอีกด้วย และมันก็ปรากฏขึ้นมา ศาสตร์พิเศษในการสร้างบ้านในอุดมคติในสภาวะสุดขั้ว - ฮวงจุ้ย.
ดังนั้น ฮวงจุ้ยจึงไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ที่เป็นนามธรรมของจิตใจที่เกียจคร้าน ไม่ใช่หลักคำสอนทางศาสนา นี่เป็นความรู้ง่ายๆ ของคนธรรมดา จากประสบการณ์นับพันปี เมื่อรวบรวมเข้าด้วยกันความรู้นี้จึงกลายเป็นเรื่องระหว่างวิทยาศาสตร์และศิลปะ วิทยาศาสตร์ - เนื่องจากมีพื้นฐานมาจากการสังเกตปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างเป็นระบบ ศิลปะ - เพราะไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเชี่ยวชาญฮวงจุ้ยได้ คงเป็นเรื่องโง่ถ้าคิดว่าใครๆ ก็สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาความรู้นี้ได้ ตัดสินด้วยตัวคุณเอง: คนหนึ่งสามารถวาดได้อย่างสวยงาม ในขณะที่อีกคนไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถวาดเส้นตรงได้ เช่นเดียวกับฮวงจุ้ย: มีคนเข้าใจเทคนิคของศิลปะนี้ได้ทันทีเขาเห็นข้อบกพร่องและข้อดีของพื้นที่เขาไม่ต้องการเครื่องมือพิเศษเพื่อทำความเข้าใจว่ามีปัญหาอะไรอยู่ในบ้าน และอีกฝ่ายพยายามแต่ไม่เห็นอะไรเลยจนกว่าจะอธิบายให้เขาฟัง ความจริงก็คือเทคนิคฮวงจุ้ยนั้นไม่ใช่เรื่องยากที่จะฝึกฝนด้วยการฝึกฝนที่เพียงพอ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะลืมตา ความสามารถในการมองเห็นและประเมินสถานการณ์ได้อย่างถูกต้องนั้นมอบให้ในระดับที่เป็นธรรมชาติ บางคนสามารถทำสิ่งนี้ได้ แต่บางคนก็ไม่สามารถทำได้ นั่นคือเหตุผลที่หลายๆ คนรู้เทคนิคฮวงจุ้ย แต่มีน้อยคนที่รู้วิธีเปลี่ยนสภาพความเป็นอยู่ ทำให้พวกเขาปลอดภัยขึ้น สบายขึ้น และเปลี่ยนข้อบกพร่องของบ้านให้เป็นข้อดี
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่
จีนเป็นประเทศที่มีตำนานอันยาวนานและมีการพัฒนาอย่างมาก เปิดหนังสือภาษาจีนเล่มใดก็ได้แล้วคุณจะเห็นว่าเรื่องราวในตำนานมีความเกี่ยวพันกับชีวิตจริงอย่างใกล้ชิดไม่มีที่ใดในโลก บุคคลในตำนานสี่คนเกี่ยวข้องกับฮวงจุ้ย: เสือ มังกร ฟีนิกซ์ และเต่า (รูปที่ 1)
ข้าว. 1. สัตว์ในตำนานสี่ชนิด ได้แก่ เสือ มังกร ฟีนิกซ์ เต่า
แต่ละคนมีคุณสมบัติของตัวเอง มังกรมีพละกำลังมหาศาล กระหายเลือด ไร้การควบคุม ภาพนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังทำลายล้างของโลก: มังกรเคลื่อนไหว - แผ่นดินไหวเริ่มขึ้น สูดความร้อนจากปากของมัน - มันเผาชุมชน ประเทศจีนบนภูเขาเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งเหล่านี้ ภูเขาหลายแห่งมีลักษณะคล้ายโครงร่างของมังกร และผู้คนรู้ว่าส่วนใดของ "ตัวมังกร" เหมาะสำหรับสร้างบ้าน และส่วนใดที่จะนำโชคร้ายมาให้ รูปมังกรเป็นภาพที่โดดเด่นและแพร่หลายที่สุดในวิจิตรศิลป์และวรรณคดีของจีน แม้แต่คนจีนยังเรียกความแห้งแล้งว่ามังกรหลับ และเรียกมังกรขี้โมโหให้ท่วม มีพิธีกรรมให้อาหารมังกรแม่น้ำ: เพื่อที่แม่น้ำที่ล้นฝั่งจะได้ละเว้นการตั้งถิ่นฐาน สาวสวยจึงถูกนำมาเป็นของขวัญให้กับมังกร และจนถึงปลายศตวรรษที่ 16 ชาวนาพูดคุยเกี่ยวกับการเผชิญหน้าที่แท้จริงของพวกเขากับสิ่งมีชีวิตในจินตนาการนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่บุคคลสำคัญในฮวงจุ้ยคือมังกร ความกลัวแผ่นดินไหวสะท้อนให้เห็นในคำแนะนำที่จะไม่สร้างบ้านบนหางของมังกร: มังกรสามารถขยับหางและทำลายบุคคลได้ หัวของมังกรก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน การอยู่เคียงข้างสมองนั้นดีมาก แต่ก็มีปากอยู่ที่นี่ด้วย การเคลื่อนไหวที่ไม่ระมัดระวังหนึ่งครั้งและคุณจะตายในปากนี้ และไม่มีอะไรต้องคิดถึงชีวิตในปากของสัตว์ประหลาด - เขาจะกลืนกินและไม่สังเกตเห็น ฮวงจุ้ยมังกร - สีเขียวเพราะมันเป็นความเขียวขจีของป่าที่ปกคลุมภูเขามังกร
ในตำนานจีน ในบรรดาสัตว์ที่อาศัยอยู่บนบก เสือได้รับการเคารพนับถือเป็นสัตว์หลัก พระองค์ทรงแสดงความปรารถนาในอำนาจ ความรุนแรง ความกล้าหาญ และความดุร้าย เสือยังเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญทางทหารอีกด้วย หัวเสือถูกวาดบนโล่ของนักรบ และแกะสลักไว้บนประตูไม้ของป้อมทหารเพื่อข่มขู่ศัตรู รูปเสือซึ่งปักบนเสื้อผ้าของเจ้าหน้าที่ทหารใช้เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์
นักรบในตำนานของจีนในสมัยโบราณแต่งกายด้วยหนังเสือและเดินทัพเข้าหาศัตรูด้วยเสียงร้องอันดุร้ายที่คล้ายกับเสียงคำรามของเสือเพื่อข่มขู่ศัตรู ผู้คนเชื่อว่าเสือทำให้วิญญาณชั่วร้ายหวาดกลัว ดังนั้นหัวของนักล่านี้จึงถูกวาดบนผนังอาคารที่พักอาศัยและอารามและปักบนเสื้อผ้าเด็ก พบรูปเสือบนเครื่องกระเบื้องโบราณ ทางเข้าอาราม อาคารราชการ ร้านค้าอันมั่งคั่ง และอาคารที่พักอาศัยของขุนนางศักดินาตกแต่งด้วยรูปปั้นหินรูปเสือ
ในตำนานจีน นกที่สวยที่สุดและได้รับความเคารพนับถือที่สุดคือนกฟีนิกซ์ในตำนานที่แปลกประหลาด ตามคำอธิบาย เธอมีจะงอยปากของไก่ หัวเป็ด คองู หน้าผากของนกกระเรียน หางของปลา และหลังเต่า ขนของฟีนิกซ์มีห้าสี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคุณธรรมพื้นฐานห้าประการของมนุษย์ ได้แก่ ความใจบุญสุนทาน หน้าที่ ความเหมาะสม ความรู้ในพิธีกรรม และความภักดี
ตามตำนานนกฟีนิกซ์ที่มีมนต์ขลังนั้นใจดีและมีเมตตาไม่จิกแมลงไม่กินสิ่งมีชีวิตและสมุนไพร อาหารของเธอคือเมล็ดไผ่ และเธอดับกระหายจากน้ำพุที่สะอาดเท่านั้น ต้นกำเนิดของนกฟีนิกซ์มีความเกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์และไฟ ดังนั้นจึงเป็นสัญลักษณ์ของความอบอุ่น ฤดูร้อน และส่งเสริมการเก็บเกี่ยวที่ดี
ตำนานจีนยังถือว่าเต่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เธอเป็นตัวแทนของความยืนยาว ความแข็งแกร่ง และความอดทน เปลือกของมันถูกเปรียบเสมือนห้องนิรภัยแห่งสวรรค์ และท้องของมันเปรียบเสมือนพื้นโลก อายุยืนยาวของเธอกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นนิรันดร์ เชื่อกันว่าเต่ามีอายุถึงสามพันปี เต่าศักดิ์สิทธิ์มีหัวเป็นงูและคอเป็นมังกร ประติมากรรมเต่าทำหน้าที่เป็นของตกแต่งสำหรับพระราชวังหลวงและเป็นฐานสำหรับอนุสาวรีย์บนหลุมศพของขุนนาง
ในตำนานของจีนโบราณ สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ก็ได้รับการบูชาเช่นกัน มีลัทธิงู สุนัขจิ้งจอก ลิง และสัตว์อื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง งูนั้นมีคุณสมบัติเป็นเทพแห่งน้ำหรือมังกร พวกเขาเชื่อว่าหลังจากหลายร้อยปีงูสามารถกลายเป็นมังกรได้ และครั้งหนึ่งมังกรเองก็สืบเชื้อสายมาจากงูทะเลตัวใหญ่หรืองูเหลือมยักษ์ที่ว่ายจากทะเลลงสู่น่านน้ำของแม่น้ำแยงซี สิ่งนี้อธิบายถึงการให้เกียรติพิธีกรรมที่มอบให้กับงูในช่วงที่เกิดภัยแล้งหรือน้ำท่วม งูหนีจากน้ำท่วมออกจากที่พักอาศัยและเคลื่อนตัวไปยังที่สูง ดังนั้น ในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 ผู้ว่าการเมืองเทียนจิน หลี่ ฮวงจั่น ในช่วงน้ำท่วมได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิให้ไปที่ริมฝั่งแม่น้ำเหลือง ซึ่งพวกเขาค้นพบงูที่มี หนีน้ำท่วม งูตัวนี้ถูกนำตัวไปที่วัดและเจ้าเมืองก็สวดมนต์ต่อหน้ามันขอให้เขาสงบธาตุ
ในประเทศจีนมีการสร้างวัดพิเศษเพื่ออุทิศให้กับลัทธิงูซึ่งพระภิกษุดูแลงูศักดิ์สิทธิ์ ขบวนแห่อันเคร่งขรึมจัดขึ้นในเมืองต่างๆ โดยมีเจ้าแม่งูถูกอุ้มไว้ในกรง และหลังเสร็จสิ้นพิธีพวกเขาก็ได้รับการปล่อยตัว งูถือเป็นผู้อุปถัมภ์คลองแกรนด์ซึ่งเป็นโครงสร้างอันยิ่งใหญ่ของยุคกลาง ระยะทาง 1,800 กม. เริ่มต้นจากปักกิ่งและสิ้นสุดที่หางโจว ทุกปีก่อนที่ขยะขนข้าวรัฐบาลจะผ่านคลอง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะทำการบูชายัญงูอุปถัมภ์และจัดพิธีต่างๆ
ตำนานและตำนานของจีนอ้างว่าสุนัขจิ้งจอกมีคุณสมบัติเหนือธรรมชาติ เธอสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ เช่น ก่อไฟ อาหารเป็นพิษ และทำสิ่งที่น่ารังเกียจอื่นๆ ให้กับบุคคล แต่บางครั้งเธอก็สามารถทำความดีได้เช่นกัน เพื่อเอาใจสุนัขจิ้งจอก จึงได้มีการสร้างวัดพิเศษขึ้นเพื่อมัน โดยมีพระสงฆ์ผู้ชื่นชมลัทธิสุนัขจิ้งจอกอาศัยอยู่ เพื่อปกป้องตนเองจากความโกรธของสุนัขจิ้งจอก ชาวนาจึงทาสีวงกลมสีขาวขนาดใหญ่บนผนังบ้านและรั้ว แม้แต่ต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อเดินผ่านทุ่งจีนก็เจอโต๊ะขนาดใหญ่หน้าเนินดินซึ่งมีภาชนะหน้าตาโบราณ ป้าย ตราสัญลักษณ์และสิ่งอื่น ๆ ที่เป็นลักษณะของวัดตั้งตระหง่านอยู่นี้” husanye” - นางฟ้าจิ้งจอก เธอถูกกล่าวหาว่าอาศัยอยู่ที่ไหนสักแห่งใกล้ ๆ ในหลุม และขอร้องว่าอย่าทำร้ายคนยากจน แต่ในทางกลับกัน ให้ทำดีต่อพวกเขา เช่นเดียวกับวิญญาณอื่นๆ
การฆ่าสุนัขจิ้งจอกถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงและผู้กระทำผิดต้องเผชิญกับการลงโทษ อย่างไรก็ตาม ร่างกายและเลือดของสุนัขจิ้งจอกถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาของจีนโบราณ
ตำนานและความเชื่อบอกว่าสุนัขจิ้งจอกสามารถแปลงร่างเป็นใครก็ได้ แต่ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในรูปของคน เมื่ออายุ 50 ปี สุนัขจิ้งจอกสามารถแปลงร่างเป็นหญิงชราได้ เมื่ออายุ 100 ปี เธอสามารถเป็นหญิงสาวสวยหรือนักเวทย์มนตร์ที่มีทักษะได้ เมื่ออายุได้หนึ่งพันปี เธอสามารถเข้ารับการขึ้นสวรรค์และกลายเป็น "จิ้งจอกสวรรค์" ได้ สุนัขจิ้งจอกฟ้ามีเก้าหางและมีขนสีทอง เธอสามารถเจาะลึกเข้าไปในความลับของจักรวาลโดยอาศัยหลักการสลับระหว่างชายและหญิง
บ่อยครั้งที่สุนัขจิ้งจอกในรูปของหญิงสาวสวยพยายามแต่งงานกับใครสักคน สำหรับสามีที่ไม่เปิดเผยความลับของภรรยา เธอสามารถนำความสุขมาให้ได้ ความปรารถนาที่จะค้นหาอดีตของเธออาจนำไปสู่ปัญหาได้ บ่อยครั้งที่ภรรยาสุนัขจิ้งจอกได้รับความช่วยเหลือจากเวทมนตร์ ดึงพลังชีวิตของเขาไปจากสามีของเธอ และเขาก็เสียชีวิต และสุนัขจิ้งจอกเองก็หายตัวไป ตามตำนานแล้ว สุนัขจิ้งจอกขาวเก้าหางจากภูเขาตู่ปรากฏตัวต่อจักรพรรดิหยู (ศตวรรษที่ 23 ก่อนคริสต์ศักราช) และเขาแต่งงานกับเธอราวกับฮีโร่แต่งงานกับนางฟ้า
ตามตำนานสุนัขจิ้งจอกที่นำความสุขมาสู่บุคคลและพาเขาไปสู่ความตายก็สามารถรักษาเขาได้ เธอเก็บยาแห่งชีวิตนิรันดร์ที่สามารถฟื้นคืนชีพได้แม้กระทั่งศพ หากต้องการจดจำสุนัขจิ้งจอกในผู้หญิง คุณต้องมองเงาของเธอท่ามกลางแสงจันทร์ เงาของผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนโครงร่างของสุนัขจิ้งจอกที่มีปากกระบอกปืนยาวและหูแหลม
ลิซ่าไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้น เธอสามารถปรากฏต่อบุคคลในรูปของผู้ชายได้ โดยปกติแล้วจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีการศึกษาดี เป็นสหายและเพื่อนที่ซื่อสัตย์ แต่ไม่ยอมให้มีการทรยศหักหลังและลงโทษอย่างรุนแรง
สุนัขจิ้งจอกจากตำนานนั้นระมัดระวังและไม่ไว้วางใจ แต่เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากบุคคลเธอจึงหลงระเริงในกลอุบายที่ฉลาดแกมโกงที่สุด สำหรับคนที่ทุจริตทางศีลธรรมและมีแนวโน้มที่จะมึนเมา สุนัขจิ้งจอกสามารถสร้างปัญหามากมายได้ หากบุคคลมีความซื่อสัตย์ สุนัขจิ้งจอกจะกลัวความตรงไปตรงมาของเขาและหลีกเลี่ยงเขา เนื่องจากเธอดึงพลังของเธอมาจากหลักการหยินอันมืดมนและเย็นชา และคนที่ซื่อสัตย์จะได้รับความรู้และคุณธรรมจากหลักการอันสดใสของหยาง เคล็ดลับหลายอย่างของสุนัขจิ้งจอกได้รับการอธิบายโดยนักเขียนชาวจีน Pu Songling ในศตวรรษที่ 18 ในหนังสือ "เรื่องราวของปาฏิหาริย์ของ Liao Zhai" หัวข้อ "Fox Charms" ซึ่งตีพิมพ์เป็นภาษารัสเซียในปี 1973 แปลโดยนักวิชาการ V.M.
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์อีกชนิดหนึ่งคือลิง ราชาลิง ซุนหวู่กุง หรือ ซุนโหวจื่อ เป็นที่รักของชาวจีนเป็นพิเศษ ตำนานและเรื่องราวของจีนมากมายอุทิศให้กับเขาซึ่งเล่าถึงการหาประโยชน์ของเขาบนโลกและในสวรรค์ เขาเป็นหัวข้อของนวนิยายยอดนิยมในศตวรรษที่ 14 เรื่อง Journey to the West ซึ่งบรรยายว่าราชาวานรร่วมกับพระถังไปอินเดียเพื่อรับคำสอนทางพุทธศาสนาได้อย่างไร เป็นเวลาหลายศตวรรษที่หนังสือเล่มนี้เป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาของเด็กชาวจีนหลายรุ่น เนื่องจากเป็นการรวบรวมหลักศีลธรรมและรากฐานของแนวคิดเกี่ยวกับจักรวาล
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่
จีนเป็นประเทศที่มีตำนานอันยาวนานและมีการพัฒนาอย่างมาก เปิดหนังสือภาษาจีนเล่มใดก็ได้แล้วคุณจะเห็นว่าเรื่องราวในตำนานมีความเกี่ยวพันกับชีวิตจริงอย่างใกล้ชิดไม่มีที่ใดในโลก บุคคลในตำนานสี่คนเกี่ยวข้องกับฮวงจุ้ย: เสือ มังกร ฟีนิกซ์ และเต่า (รูปที่ 1)
ข้าว. 1. สัตว์ในตำนานสี่ชนิด ได้แก่ เสือ มังกร ฟีนิกซ์ เต่า
แต่ละคนมีคุณสมบัติของตัวเอง มังกรมีพละกำลังมหาศาล กระหายเลือด ไร้การควบคุม ภาพนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังทำลายล้างของโลก: มังกรเคลื่อนไหว - แผ่นดินไหวเริ่มขึ้น สูดความร้อนจากปากของมัน - มันเผาชุมชน ประเทศจีนบนภูเขาเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งเหล่านี้ ภูเขาหลายแห่งมีลักษณะคล้ายโครงร่างของมังกร และผู้คนรู้ว่าส่วนใดของ "ตัวมังกร" เหมาะสำหรับสร้างบ้าน และส่วนใดที่จะนำโชคร้ายมาให้ รูปมังกรเป็นภาพที่โดดเด่นและแพร่หลายที่สุดในวิจิตรศิลป์และวรรณคดีของจีน แม้แต่คนจีนยังเรียกความแห้งแล้งว่ามังกรหลับ และเรียกมังกรขี้โมโหให้ท่วม มีพิธีกรรมให้อาหารมังกรแม่น้ำ: เพื่อที่แม่น้ำที่ล้นฝั่งจะได้ละเว้นการตั้งถิ่นฐาน สาวสวยจึงถูกนำมาเป็นของขวัญให้กับมังกร และจนถึงปลายศตวรรษที่ 16 ชาวนาพูดคุยเกี่ยวกับการเผชิญหน้าที่แท้จริงของพวกเขากับสิ่งมีชีวิตในจินตนาการนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่บุคคลสำคัญในฮวงจุ้ยคือมังกร ความกลัวแผ่นดินไหวสะท้อนให้เห็นในคำแนะนำที่จะไม่สร้างบ้านบนหางของมังกร: มังกรสามารถขยับหางและทำลายบุคคลได้ หัวของมังกรก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน การอยู่เคียงข้างสมองนั้นดีมาก แต่ก็มีปากอยู่ที่นี่ด้วย การเคลื่อนไหวที่ไม่ระมัดระวังหนึ่งครั้งและคุณจะตายในปากนี้ และไม่มีอะไรต้องคิดถึงชีวิตในปากของสัตว์ประหลาด - เขาจะกลืนกินและไม่สังเกตเห็น ฮวงจุ้ยมังกร - สีเขียวเพราะมันเป็นความเขียวขจีของป่าที่ปกคลุมภูเขามังกร
สัตว์ร้ายอีกตัวจากวิหารแพนธีออนนี้ - เสือขาว- เสือมีความดุร้ายและแข็งแกร่ง และเนินเขาหลายแห่งก็มีโครงร่างคล้ายกับเสือมากเช่นกัน เพื่อให้ชีวิตดำเนินไปได้ เสือตัวนี้จะต้องมีขนาดเล็กกว่ามังกร ไม่เช่นนั้นมังกรจะไม่สามารถเอาชนะอารมณ์อันดุร้ายของมันได้
ข้าว. 2. จัตุรัสเวทย์มนตร์
และเธอก็อยู่ที่นั่นด้วย เต่าดำ- ตามความเชื่อของชาวจีนเต่าได้เปิดเผยความหมายอันมหัศจรรย์ของตัวเลขแก่คนเหล่านี้ซึ่งเรียกว่าสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 9 (รูปที่ 2) เมื่อบวกตามลำดับที่กำหนด ตัวเลขเหล่านี้ก็จะได้เลข 15 การทำนายดวงแบบพิเศษถูกสร้างขึ้นตามช่องสี่เหลี่ยมนี้ ตำนานเล่าว่าครั้งหนึ่งปราชญ์หวู่ทำงานด้านชลประทานในแม่น้ำฮวงโห เย็นวันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังพักผ่อนอยู่ริมแม่น้ำ ก็มีเต่าดำยักษ์ตัวหนึ่งคลานขึ้นมาจากน้ำ เมื่อปราชญ์มองดูใกล้ๆ เขาก็สังเกตเห็นว่ากระดองเต่าถูกแบ่งออกเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส จัตุรัสเวทมนตร์ก็ปรากฏขึ้น ปราชญ์ของจีนทั้งหมดศึกษามันมาเป็นเวลานานและในกระบวนการหารือเกี่ยวกับของขวัญเต่าพวกเขาได้สร้างโหราศาสตร์และตัวเลขศาสตร์และในตอนนั้นเองที่หนังสือที่มีมนต์ขลังที่สุดของจีนโบราณก็ปรากฏขึ้น - I Ching หรือหนังสือของ การเปลี่ยนแปลง
ก นกฟีนิกซ์- สัญลักษณ์แห่งความโชคดี ตามหลักฮวงจุ้ย วัดนี้ควรจะตั้งอยู่ตรงข้ามกับบุคคลในตำนานทั้งหมด ได้แก่ เสือ เต่า และมังกร และร่างดังกล่าวเมื่อตัวละครทั้งสี่เข้าที่แล้วถูกเรียกว่าเก้าอี้ (รูปที่ 3) บ้านที่ดีหลังหนึ่งตั้งอยู่ครึ่งทางของยอดเขาเต่า โดยที่เสือขาวนั่งอยู่ทางขวามือ มังกรเขียวตัวสูงกว่าทางซ้าย และนกฟีนิกซ์แดงที่พักผ่อนอยู่ตรงข้ามทางเข้า เพื่อไม่ให้บดบัง วิวสวย
ข้าว. 3. เก้าอี้
อย่างที่คุณเห็น สถานที่ที่เลือกสำหรับบ้านในอุดมคตินั้นได้รับการปกป้องมากที่สุดอย่างแท้จริง มันถูกซ่อนไว้จากลมโดยทางลาดของมังกร เต่า และเสือ และดวงอาทิตย์ก็ส่องเข้ามาในบ้านอย่างอิสระเพราะไม่ถูกบดบัง เนินเขาต่ำของนกฟีนิกซ์
จากหนังสือแก้ไขอดีตและรักษาอนาคตผ่านการฝึกฟื้นฟูจิตวิญญาณ ผู้เขียน วิลลาลโด้ อัลเบอร์โตวิญญาณสัตว์สี่ประการในการฝึกชามานิก เช่นเดียวกับชาวอินเดียจำนวนมาก หมอผีมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับโลกของสัตว์มากจนพวกเขามักเรียกตัวเองตามชื่อของพวกเขา ด้วยวิธีนี้พวกเขามุ่งมั่นที่จะได้รับความแข็งแกร่งและพลังงานของสัตว์ที่ถูกเลือก สำหรับหมอผี สี่ประการมีความสำคัญเป็นพิเศษ
จากหนังสือภราดรภาพแห่งศาสนา โดย เบสันต์ แอนนี่อย่าตัดสินจากพระคัมภีร์คริสเตียน เกรงว่าท่านจะถูกพิพากษา เพราะว่าท่านตัดสินด้วยวิจารณญาณแบบเดียวกัน ท่านจะถูกพิพากษา และด้วยตวงที่ท่านใช้ก็จะตวงให้ท่าน มัทธิว 7:1-2 เหตุฉะนั้นในทุกสิ่งซึ่งท่านอยากให้คนอื่นทำแก่ท่าน จงทำแก่เขาเถิด เพราะนี่เป็นธรรมบัญญัติและ
จากหนังสือการสอนแห่งชีวิต ผู้เขียน โรริช เอเลนา อิวานอฟนาจากคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอัลลอฮ์จะไม่ทรงเพิกเฉยต่อการกระทำของคุณ บรรดาผู้ที่ซื้อความโปรดปรานของโลกนี้ด้วยราคาปรโลกจะไม่ได้รับการบรรเทาจากการลงโทษที่รอคอยพวกเขาอยู่ และพวกเขาจะไม่ได้รับการบรรเทาทุกข์จากการลงโทษที่รอคอยพวกเขาอยู่ ได้รับการช่วยเหลือ อัลกุรอาน 2:79-80 พระเจ้าจะไม่ทรงรังเกียจใครแม้แต่น้ำหนักเท่าอะตอมตลอดไป
จากหนังสือการสอนแห่งชีวิต ผู้เขียน โรริช เอเลนา อิวานอฟนาจากพระคัมภีร์ซิกข์ คุณจะเก็บเกี่ยวผลการกระทำของคุณในอนาคตอันใกล้หรือไกล Janji Guru ฉันสิ่งที่คุณหว่าน คุณก็จะได้รับผล การเก็บเกี่ยวประกอบด้วยกรรม บารามากามาจฮากูรู
จากหนังสือ เทคนิคการสมหวัง ผู้เขียน แสงตะวัน เอลินายาจากคัมภีร์ฮินดู แท้จริงแล้วปัจจุบันมีโลกอยู่สามโลก คือ โลกของมนุษย์ โลกของบรรพบุรุษ และโลกของพระโพธิสัตว์ บริหดารารัณยากะอุปนิชัด, I, V, 16 โอ ปาร์ธา ในโลกทั้งสาม ไม่มีสิ่งใดที่เราควรทำหรือทำไม่ได้ ภควัทคีตา, ที่สาม, 22 โอ โอรส
จากหนังสือโยคะและการปฏิบัติทางเพศ โดยดักลาส นิคจากคัมภีร์ปาร์ซี เราถวายเครื่องบูชาแด่ท้องฟ้าอันสดใส เราถวายสังฆทานแด่อารามอันศักดิ์สิทธิ์ที่สดใสมีความสุขทุกประการ Sorozah II, Asman, 27 Garo-Nmana สำหรับดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ และไม่มีผู้ชั่วร้ายคนใดสามารถเข้าไปใน Garo-Nmana และเส้นทางอันศักดิ์สิทธิ์ที่สว่างและกว้างไกลของมันได้
จากหนังสือ Signs of Fate และ Art of Living ผู้เขียน เชเรเมเทวา กาลินา บอริซอฟน่าจากพระไตรปิฎก พระองค์เองทรงเข้าใจทุกสิ่ง และทรงเห็นจักรวาลนี้ โลกเบื้องล่าง พร้อมด้วยวิญญาณทั้งหมด และโลกเบื้องบนเหมือนเป็นอยู่ เทวิชาสูตร ลูกศิษย์จะชนะโลก ความตาย และโลกของผู้เปล่งประกาย Dhammapada, IV, 45 โดยการสลายกายหลังความตายอันชั่วร้าย
จากหนังสือแม่ การศึกษาบุคลิกภาพ เล่มหนึ่ง โดย ออโรบินโด ศรีจากพระคัมภีร์ภาษาฮีบรู เมื่อคุณเก็บเกี่ยวพืชผลในที่ดินของคุณ คุณจะไม่ได้เก็บเกี่ยวจนสุดทุ่งนา และคุณจะไม่เก็บตกสิ่งที่เหลืออยู่ และคุณจะไม่เก็บองุ่นในสวนองุ่นของคุณ และคุณจะไม่เก็บตก องุ่นที่ร่วงหล่นจากสวนองุ่น ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของคนยากจนและคนแปลกหน้า ฉัน
จากหนังสือของผู้เขียน จากหนังสือของผู้เขียน จากหนังสือของผู้เขียน[ลัทธิสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศโบราณ] สำหรับคำถามเกี่ยวกับลัทธิแมวและนกบางชนิดในอียิปต์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการยกย่องสัตว์ในสายตาของมวลชนนั้นมีจุดประสงค์เฉพาะ บ่อยครั้งที่สิ่งนี้มีความสำคัญในทางปฏิบัติและการป้องกันอย่างแท้จริง ดังนั้น
จากหนังสือของผู้เขียน[On Sacred Pains] ระวังความเจ็บปวดหลายๆ อย่าง และอย่าถือว่าความเจ็บปวดทั้งหมดเกิดจากความเจ็บปวดอันศักดิ์สิทธิ์ คุณยังเด็กและความเจ็บปวดอันศักดิ์สิทธิ์มากมายยังเกิดขึ้นก่อนกำหนด และบรรยากาศของเมืองก็ไม่เอื้อต่อปรากฏการณ์ดังกล่าว ดังนั้นฉันขอให้คุณติดตามคุณ
จากหนังสือของผู้เขียนเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ “สัตว์ต่างๆ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเพื่อนของคุณ เพื่อครอบครองสถานที่หนึ่งในอวกาศ เพื่อสอนคุณ เพื่อบอกทางแก่คุณ และแบ่งปันเส้นทางกับคุณ สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตทางชีวภาพซึ่งมีพื้นฐานมาจากสิ่งมีชีวิตหลายชนิด
จากหนังสือของผู้เขียน จากหนังสือของผู้เขียนเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ สัตว์ในบ้านบอกถึงทัศนคติของเจ้าของต่อโลกและผู้คนซึ่งบุคคลนั้นเก็บไว้ในตัวเขาเอง ความสัมพันธ์กับโลกภายนอกปรากฏผ่านสัตว์เลี้ยง เชื่อกันว่าสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับบุคคลที่มีมารยาทไม่ดีถือเป็นเรื่องอภัยโทษ
จากหนังสือของผู้เขียนการบำเพ็ญตบะ 4 ประเภท และการหลุดพ้น 4 ประเภท 1 การบำเพ็ญตบะและการพัฒนาบุคคลอย่างรอบด้าน โดยให้บุคคลเป็นผู้มีส่วนในการสืบเชื้อสายและเป็นรูปลักษณ์แห่งจิตสำนึกขั้นสูง รวมไปถึงการบำเพ็ญตบะ 4 ประเภทด้วยเหตุนี้จึงหมายถึงการได้มาจากบุคคล
ประเทศจีนได้เปลี่ยนจากประเทศที่ครั้งหนึ่งเคยลึกลับและลึกลับในศตวรรษที่ 20 มาเป็นซัพพลายเออร์สินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูกระดับโลกสำหรับพวกเราส่วนใหญ่ เราเริ่มลืมไปนิดหน่อยว่านี่คืออารยธรรมโบราณที่เต็มไปด้วยเทพนิยายและตำนาน ขณะนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนแห่กันไปที่เมืองใหญ่ๆ ของโลกและภาพยนตร์ราคาประหยัดกำลังฉายบนจอภาพยนตร์ ทำให้เกิดความสนใจในวัฒนธรรมจีนทั่วโลกอีกครั้ง และสัญลักษณ์จีนก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
ศักดิ์สิทธิ์สี่
ในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา ชาวจีนมีนิทานมากมาย วีรบุรุษซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตและวีรบุรุษลึกลับ ในตำนานโบราณ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ของจีนมักครอบครองสถานที่พิเศษเสมอ ได้แก่ มังกร เต่า ฟีนิกซ์ และเสือ ในยุคแห่งการกำเนิดของตำนาน ผู้คนทั่วโลกเชื่อมโยงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเข้ากับอิทธิพลของวิญญาณและสิ่งมีชีวิตลึกลับ สำหรับผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น มีการอธิบายฟ้าร้อง ลมกระโชกแรง ฝน น้ำขึ้น และภัยพิบัติทางภูมิอากาศอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ของจีน แน่นอนว่าวิหารของสัตว์ในตำนานนั้นใหญ่กว่ามากและสัตว์อื่น ๆ เช่นเดียวกับพืชผลไม้และดอกไม้ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของปรากฏการณ์ต่างๆ
พื้นที่รับผิดชอบ
ตามเนื้อผ้า มังกรเป็นสัญลักษณ์ของทิศตะวันออกและฤดูใบไม้ผลิ ฟีนิกซ์คือทิศใต้และฤดูร้อน เสือคือทิศตะวันตกและฤดูใบไม้ร่วง เต่าหมายถึงทิศเหนือและฤดูหนาว
สัญลักษณ์จีนที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดคือมังกร ซึ่งเป็นตัวแทนของธาตุน้ำและมีได้เกือบทุกประเภทและทุกสี
เสือมีหน้าที่รับผิดชอบต่อยมโลกและทิศตะวันตก เพราะนั่นคือที่พระอาทิตย์ตกดิน และเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญทางทหาร ในประเทศจีนโบราณ เสือถือเป็นหลักการของผู้หญิง ตรงกันข้ามกับหลักการของผู้ชาย นั่นคือ มังกรเขียว
นกฟีนิกซ์มีความเกี่ยวข้องกับไฟและดวงอาทิตย์และนกยังเป็นตัวแทนของความอบอุ่นที่ให้ผลผลิตที่ดี
เต่าซึ่งอาศัยอยู่มาเป็นเวลานานตามความเชื่อของชาวจีนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นนิรันดร์และความสามารถในการทำนายอนาคตก็เกี่ยวข้องกับสิ่งนี้เช่นกัน บางครั้งเธอก็ถูกเรียกว่านักรบผิวดำแห่งแดนเหนือ
ตำนานหลัก
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่จีนชื่นชอบคือมังกร ในหมู่ประชาชนมีสี่ประเภทหลัก:
- สวรรค์คอยเฝ้าที่ประทับของเหล่าทวยเทพ
- พระเจ้าผู้ทรงควบคุมลมและฝน
- มังกรดินที่ควบคุมแม่น้ำและลำธาร รวมทั้งตัดสินใจว่าจะไหลไปที่ใดและจะลึกแค่ไหน
- มังกรเฝ้าสมบัติ
มังกรในจีนโบราณมีส่วนรับผิดชอบต่อปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเกือบทั้งหมด ตัวอย่างเช่น พายุฝนฟ้าคะนองเป็นเสียงการต่อสู้ระหว่างมังกรขาวและมังกรดำ ลมปรากฏขึ้นจากการกระพือปีกของมังกรศักดิ์สิทธิ์ และมังกรจูหลงนำแสงเหนือมาซึ่งถือเทียนอยู่ในนั้น ปากให้แสงสว่างแก่คนเป็นคราวๆไป แต่เหตุผลหลักที่ทำให้ความเคารพนับถือก็คือ มังกรเป็นสัตว์น้ำศักดิ์สิทธิ์ของจีน และครองทะเล แม่น้ำ และทะเลสาบ เชื่อกันว่ามังกรก่อตัวเป็นเมฆ และการมีอยู่ของฝนก็ขึ้นอยู่กับพวกมัน ดังนั้นความอุดมสมบูรณ์ของการเก็บเกี่ยวหรือความแห้งแล้งซึ่งอาจนำไปสู่ความอดอยาก
รูปมังกรหลากหลายชนิดสามารถพบได้ทุกที่ในประเทศจีน ตั้งแต่วัดและพระราชวังไปจนถึงบ้านชาวนา ตามหลักฮวงจุ้ย รูปมังกรเขียวเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องบ้าน
ตะวันออกและตะวันตก
ในตำนานและนิทานของผู้คนมากมายในโลก มังกรอาศัยอยู่ โดยถูกล่าโดยอัศวินชาวยุโรปและวีรบุรุษชาวรัสเซีย ในโลกตะวันตก สิ่งมีชีวิตในตำนานนี้โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นสัญลักษณ์ของความโหดร้ายและการหลอกลวง ในทางตะวันออก มังกรมีความเกี่ยวข้องกับสติปัญญาและความเจริญรุ่งเรือง
งู Gorynych ชาวรัสเซียอาศัยอยู่บนภูเขา มีสามหัวและพ่นไฟ และบางครั้งก็บินได้ ภาพนี้ยังพบเห็นได้ทั่วไปในวัฒนธรรมตะวันตก ตั้งแต่ตำนานกรีกโบราณไปจนถึงข้อความของชาวยิวและคริสเตียน วีรบุรุษในหนังสือโบราณตั้งแต่ Apollo ไปจนถึง St. George มีชื่อเสียงในเรื่องชัยชนะเหนือมังกรไม่นับตัวละครในนวนิยายอัศวินหลายเรื่อง
สัตว์ในตำนานนี้มักจะมีร่างกายเหมือนกิ้งก่าและเดินด้วยสองหรือสี่ขา ประเทศจีนมีภาพที่แปลกประหลาดที่สุดประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนของสัตว์ต่างๆ เช่น ดวงตาเหมือนกระต่าย ตัวงู อุ้งเท้าเสือกับกรงเล็บนกอินทรี มีตัวเลือกอื่น ๆ บางครั้งมังกรก็แสดงเป็นงูตัวใหญ่ที่มีหัวคล้ายกับหัวเสือหรือม้า ไม่ว่าในกรณีใด มันก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังและมีเกียรติเสมอ
สัญลักษณ์ประจำชาติ
ในหลายประเทศ มังกรถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ อันที่จริง สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของจีนตัวนี้แสดงถึงอำนาจของจักรวรรดิ ในวัฒนธรรมจีนสมัยใหม่ มังกรถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของพลัง ความแข็งแกร่ง และความโชคดี ผู้ก่อตั้งในตำนานของประเทศมีความเกี่ยวข้องกับมังกร Huangdi ผู้ซึ่งเป็นอมตะในพงศาวดาร และ Yandi บุตรชายของมังกรและหญิงสาวบนโลก ชาวจีนจำนวนมากถือว่าพวกเขาเป็นบรรพบุรุษของชาติ "ลูกหลานของมังกร" ตั้งแต่สมัยโบราณคือตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสต์ศักราช มังกรสีเหลืองทองถือเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของจีนนี้ปรากฏบนชุดพระราชพิธีของจักรพรรดิ บนสิ่งของภายในหลายอย่าง (ฉาก ผนัง บัลลังก์) และรายละเอียดของพระราชวัง (ขั้นบันได แท่น หลังคา) ธงของจักรวรรดิจีนในรัชสมัย (ค.ศ. 1644-1911) มีรูปมังกรด้วย
ราชาแห่งนก
ฟีนิกซ์นั้นเกือบจะมีความสำคัญเท่ากับสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกับมังกรและมีสถานที่พิเศษในวิหารแพนธีออนของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของจีน ราชาแห่งนกถูกประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนของนกและสัตว์ต่างๆ มากมาย แม้แต่หางก็ประกอบด้วยขนห้าสี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคุณธรรม 5 ประการ ได้แก่ หน้าที่ ความภักดี ความใจบุญ ความยับยั้งชั่งใจ และความรู้ในพิธีกรรม
นกศักดิ์สิทธิ์เป็นมังสวิรัติ กินแต่เมล็ดไผ่ และดื่มน้ำแร่บริสุทธิ์ นกฟีนิกซ์มีความเกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์และไฟซึ่งเป็นธาตุไฟ นกศักดิ์สิทธิ์ให้ความอบอุ่นซึ่งแยกออกจากฤดูร้อนและการเก็บเกี่ยวที่ดี ฟีนิกซ์โดดเด่นด้วยความงามอันน่าทึ่งและนิสัยอันสูงส่งด้วยการมาถึงของชาวจีนที่เกี่ยวข้องกับการเริ่มต้นของความสงบและความเงียบสงบและการเข้ามาสู่อำนาจของผู้ปกครองที่มีคุณธรรมสูงและยุติธรรมในจักรวรรดิ
ในประเทศจีนโบราณ นกฟีนิกซ์ร่วมกับมังกรเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจของจักรพรรดิ ในยุคต่อมา มันกลายเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดินีเท่านั้น ในศิลปะจีนสมัยใหม่ รูปนกในตำนานถูกนำมาใช้ในการตกแต่งกางเกงเจ้าสาวและเสื้อผ้าสตรี เชื่อกันว่ารูปปั้นนกฟีนิกซ์สีแดงจะนำความเจริญรุ่งเรืองและความเป็นอยู่ที่ดีมาสู่บ้าน ช่วยให้ประสบความสำเร็จในทุกเรื่องและความพยายาม และเป็นแรงจูงใจในการสร้างแรงบันดาลใจ
ราชาแห่งสัตว์ร้าย
แม้ว่าคนจีนจะนับถือสิงโต แต่ก็ถือว่าเสือเช่นกัน สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของจีนนี้เป็นศูนย์รวมของความแข็งแกร่งตามธรรมชาติ ความเป็นชาย และความกล้าหาญทางการทหารที่สามารถชื่นชมและเลียนแบบได้ ในตำนานโบราณ เสืออยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขกับมนุษย์ และเทพเจ้าและวีรบุรุษมากมายก็มาพร้อมกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ชาวจีนนับถือเสือในฐานะผู้ปราบปีศาจ กรงเล็บและเขี้ยวกรอบเงินทำหน้าที่เป็นเครื่องรางอันล้ำค่าที่ปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายและรักษาสุขภาพ ทางเข้าวัด พระราชวัง และบ้านที่ร่ำรวยหลายแห่งได้รับการปกป้องด้วยภาพคู่ของนักล่าที่ทรงพลังเหล่านี้
เนื่องจากเสือเป็นสัญลักษณ์ของความสู้รบและความกล้าหาญ ภาพลักษณ์ของมันก็จึงเป็นที่ชื่นชอบของทหารจีนมาก รูปสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของจีนซึ่งปักบนเสื้อผ้าเป็นสัญลักษณ์ของความแตกต่าง วาดบนโล่และป้อมปราการทางทหาร และควรจะทำให้ศัตรูหวาดกลัว และในสมัยโบราณ นักรบจีนในชุดหนังเสือโจมตีศัตรูด้วยเสียงร้องเลียนแบบเสียงคำรามของเสือ จีนเป็นเสือขาว ดุร้าย และแข็งแกร่ง ถือเป็นเครื่องรางปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้ดีที่สุด
เต่า
ชาวจีนสามารถแยกแยะคุณสมบัติเชิงบวกหลายประการในสัตว์ที่เชื่องช้าตัวนี้ได้ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของจีนนี้เป็นสัญลักษณ์ของความยืนยาว ความแข็งแกร่ง และความอดทน โครงสร้างของโลกมีความเกี่ยวข้องกับมันโดยที่ส่วนบนของเปลือกหอยแสดงถึงห้องนิรภัยแห่งสวรรค์และท้อง - โลก เต่าศักดิ์สิทธิ์ได้รับหัวเป็นงูและคอของมังกร คนจีนโบราณเชื่อว่าเต่ามีอายุสามพันปี และการมีอายุยืนยาวดังกล่าวถือเป็นนิรันดร์
สัตว์ที่ฉลาดที่สุดเปิดเผยให้ผู้คนเห็นถึงความหมายอันมหัศจรรย์ของตัวเลข ตามตำนานเมื่อกว่าสองพันปีที่แล้วเต่าที่มีกระดองแบ่งออกเป็นเก้าช่องซึ่งอยู่ตรงกลางซึ่งมีภาพตัวเลขคลานออกไปหาปราชญ์ Fu Xi ผู้ซึ่งพักอยู่บนฝั่งแม่น้ำเหลือง นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนศึกษามาเป็นเวลานานซึ่งนำไปสู่การสร้างตัวเลขและโหราศาสตร์
รูปเต่าที่ประดับพระราชวังอิมพีเรียล รูปแกะสลักของมันยังคงใช้เป็นสัญลักษณ์ของการเติบโตในอาชีพและนำความโชคดีมาสู่ธุรกิจ เต่าดำเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง ความแข็งแกร่งของบ้าน และอายุยืนยาว
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีตำนานที่ร่ำรวยและพัฒนาอย่างมาก และตามแนวคิดของปราชญ์จีนโบราณ บ้านล้อมรอบด้วยวิญญาณของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์สี่ชนิด: เต่าดำ ฟีนิกซ์แดง มังกรเขียว และเสือขาว. ตัวเลขเหล่านี้แต่ละตัวทำหน้าที่ของมัน.
ในบรรดาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในโลกและในตำนาน สัตว์เหล่านี้ไม่ได้ถูกเลือกโดยบังเอิญ แต่ละคนมีความเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบของตัวเอง:
เต่าดำ - พร้อมน้ำ
มังกรเขียว - มีต้นไม้;
เสือขาว - พร้อมโลหะ
Red Phoenix - ด้วยไฟ.
คุณคงมีคำถามว่า โลกไปไหน?นี่คือตัวบ้านที่ตั้งอยู่ตรงกลาง
คำสอนของฮวงจุ้ยมีเหตุผลมาก- นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องมีทั้งสี่คนที่บ้านอย่างเต็มกำลังและเป็นไปตามธรรมชาติ เต่าสามารถพบได้ในร้านขายสัตว์เลี้ยง แต่จะทำอย่างไรกับเสือและมังกรเป็นคำถามใหญ่
มีทางเดียวเท่านั้น: อย่าใช้ตัวอักษรจีนตามตัวอักษร- ท้ายที่สุดแล้ว เสือ มังกร เต่า และนกฟีนิกซ์ไม่ใช่วัตถุที่เฉพาะเจาะจงมากนัก เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงคุณภาพพลังงานที่มีอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด
เอาล่ะ มาดูสัตว์แต่ละตัวทีละตัวกันดีกว่ามันอยู่ที่ไหนในบ้านของคุณและมีคุณสมบัติอะไรบ้าง:
สัตว์ฮวงจุ้ยอื่นๆ